The Ritz-Carlton Residences, Bangkok

  

เดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน เรสซิเดนเซส บางกอก


โดยห้องตัวอย่าง The Ritz-Carlton Residences, Bangkok ได้รับการตกแต่งขึ้นภายในห้องจริงบนอาคารมหานคร เพื่อเป็นทางเลือกให้ลูกค้าได้สัมผัสกับการจัดสรรพื้นที่และการตกแต่งที่สะท้อนรสนิยมความเป็นอยู่ทั้งหมด 4 รูปแบบ (แต่เราได้ดูแค่ 3 ห้อง) บนขนาดพื้นที่ห้องที่แตกต่างกัน ซึ่งลูกค้าจะได้สัมผัสกับทัศนียภาพที่สวยงามของกรุงเทพมหานคร ณ ระดับความสูงจริงที่หลากหลาย โดยมีไฮไลต์คือห้องตัวอย่าง สกาย เรสซิเดนซ์ ชั้น 58 ซึ่งตั้งอยู่ที่ระดับความสูงมากกว่า 216 เมตร เหนือพื้นดิน นับเป็นห้องตัวอย่างที่สูงที่สุดที่เคยมีมาในประเทศไทย

เกริก บุณยโยธิน เมื่อ 21 September, 2017 เวลา 17.07 pm

Prop score™: 4.0

คะแนนรีวิว: 0.0

0 รีวิว


ประกาศที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา



    ข้อมูลโครงการ

ชื่อโครงการ

The Ritz-Carlton Residences, Bangkok

บริษัทผู้สร้าง

บริษัท เพซ ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)

สถานที่

ภายในโครงการมหานคร ถนนนราธิวาสราชนครินทร์

สถานีรถไฟ BTS

BTS ช่องนนทรี Distance 0 m.

สถานีรถไฟใต้ดิน

-

Airport Rail Link

-

สถานี BRT

-

พื้นที่

ประมาณ 9-1-49.67 ไร่

ชั้น

77 ชั้น

ยูนิต

209

ที่จอดรถ

566 คัน (อาคารมหานคร 180 คัน / อาคารจอดรถอัตโนมัติ 386 คัน)

ลิฟท์

n/a

สิ่งอำนวยความสดวก

คลับ เลาจน์พร้อมวิวพาโนรามา, ห้องประชุมผู้บริหาร, สระว่ายน้ำกลางแจ้ง, จากุซซี่, ห้องซาวน่า, ห้องอบไอน้ำ, ล็อคเกอร์, ห้องอาบน้ำและห้องแต่งตัว, ฟิตเนสเซ็นเตอร์, ห้องเล่นสำหรับเด็กเล็ก, ห้องฉายภาพยนตร์


    ประเภทยูนิต

ประเภท

คอนโดมิเนียมระดับซูเปอร์ลักชัวรี่/CONDO/คอนโด High Rise

studio

-

1 bedroom

-

2 bedroom

140.99 ตารางเมตร

3 bedroom

221.71-235.53 ตารางเมตร

Duplex

-

Penthouse

-

ประเภทอื่นๆ

สกาย เรสซิเดนซ์ 4 ห้องนอน ขนาด 343.57 ตารางเมตร

ความสูงจากพื้นถึงเพดาน

โซน Residence 3.1 เมตร, โซน Sky Residence 3.4 เมตร

ราคาเริ่มต้น / ตรม.

494,000 บาท/ตร.ม.

ราคาเริ่มต้น / ยูนิต

65 ล้านบาท

ค่าส่วนกลาง

n/a

Sinking Fund fee

n/a

สร้างเสร็จ

มิถุนายน 2016

เว็บไซต์

www.rcr-bangkok.com

02-234-1414


เพื่อนบ้าน Street View


พาชมห้องพักอาศัยที่สูงที่สุดในประเทศไทยที่ The Ritz-Carlton Residences, Bangkok

 

เป็นเวลากว่า 8 ปีแล้ว ที่ชื่อและภาพของอภิมหาโปรเจค Mixed Use อย่าง Mahanakhon ได้ปรากฎสู่สายตาคนทั่วโลก จนภาพ Render ของตัวอาคารถูกดีเวลลอปเปอร์หลายๆรายหยิบยืมนำไปใช้ประดับ A/W โฆษณา เพื่อไปเป็นหนึ่งในจุดขายของโครงการตัวเอง ในฐานะที่เป็นคอนโดที่สามารถมองเห็นสิ่งก่อสร้างที่เป็น New Landmark ซึ่งจะเปลี่ยนมุมมองของเส้นขอบฟ้าในมหานครกรุงเทพฯไปตลอดกาล

คลิกเพื่ออ่าน :  มีอะไรรอพวกเราอยู่ บนยอดตึก MAHANAKHON

 

ด้วยพื้นที่ใช้สอยทั้งโครงการเกือบ 150,000 ตรม. กับความสูงของอาคารถึง 314 เมตร มีความโดดเด่นด้วยฟีเจอร์ที่เป็นเอกลักษณ์อย่าง ‘พิกเซล’ ล้อมรอบตลอดความสูงของตัวอาคาร ก่อให้เกิดรูปลักษณ์พิเศษ เป็นยูนิตพิเศษซึ่งล้อมรอบไปด้วยกระจกราวกับลอยอยู่บนฟ้า ในจำนวนนี้มีพื้นที่ของโครงการ Hi-end Branded Residence แห่งแรกของเมืองไทย และตัว Top ของเชน Marriott อย่าง The Ritz-Carlton Residences, Bangkok (เดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน เรสซิเดนเซส บางกอก) อยู่ประมาณ 60% และอีก 25% เป็นส่วนของโรงแรมภายใต้เชน Edition หนึ่งใน Modern Luxury Hotels Collection ของเครือ Marriott เช่นกัน พร้อมด้วยพื้นที่ที้เหลือเป็นของส่วน Retail “Cube” และ Sky Observation Deck 4 ชั้นบนสุด ผสมกับทำเลที่ตั้งบนถนนนราธิวาสราชนครินทร์ ระหว่างถนนสีลมและสาทร ติด BTS ช่องนนทรี เป็นศูนย์กลางระหว่าง 2 CBD… นี่คือโครงการที่พักอาศัยที่เปี่ยมไปด้วย Element ของคำว่า Luxury Rare Item อย่างสมบูรณ์แบบ ชนิดที่นานๆทีจะมีโครงการแบบนี้เกิดขึ้นมาได้สักครั้ง

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาโครงการ Mahanakhon ผ่านร้อนผ่านหนาวมามากมาย และน่าจะเป็นคอนโดระดับ Super Luxury เพียงแค่โครงการเดียวในประเทศไทยที่เปิดขายครั้งแรกในแบบ Leasehold ด้วยราคาเฉลี่ยที่แพงระยับมากในตอนนี้คือราวๆตรม.ละ 230,000 บาท แต่สุดท้ายมาจบด้วยการแปลงร่างเป็นคอนโด Freehold หลังจากประสบความสำเร็จในการเจรจากับทางมิสซัง คาทอลิก จนราคาขายเฉลี่ย ณ ปัจจุบัน (กย.2017) อยู่ที่ตรม.ละ 494,000 บาท

เราลองมาย้อนรอยดู Timeline กันคร่าวๆว่ากว่าที่โครงการนี้จะแล้วเสร็จ พร้อมส่งมอบให้กับผู้อยู่อาศัย หลังจากที่ล่าช้าไปกว่ากำหนดการเดิมราวๆ 4 ปีนั้นมีประเด็นสำคัญอะไรเกิดขึ้นมาบ้าง (เอาเฉพาะที่เกี่ยวกับโครงการ Mahanakhon แล้วกันนะครับ)

 

กลางปี 2009 – ผลงานการออกแบบได้รับการเปิดเผยสู่สาธารณชน โดยมีที่ปรึกษาในการออกแบบคือ Office for Metropolitan Architecture (OMA) และงาน Interior โดย  David Collins Studio พร้อมการเปิดตัวเป็น Partner กับยักษ์ใหญ่จากอิสราเอล Industrial Buildings Corporation (IBC) ในเครือ Fishman ท่ามกลางสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศไทยที่คุกรุ่น วุ่นวาย ไร้เสถียรภาพเป็นอย่างยิ่ง

ปลายปี 2009 – ถูกตรวจสอบโดยสภาสถาปนิก ว่าอาจมีการว่าจ้างสถาปนิกต่างชาติเข้ามาเป็นผู้ออกแบบโครงการ ซึ่งหากเป็นอย่างนั้นจริงจะมีความผิดเข้าข่ายฝ่าฝืนพระราชบัญญัติสภาสถาปนิก พ.ศ. 2543 (พ.ร.บ.สภาสถาปนิก) ตามมาตรา 45, 47 และ 74

2010 – เปิดตัว Mahanakhon Pavilion สำนักงานขายโครงการที่มาพร้อมกับพื้นที่จัดกิจกรรมสุด Exclusive และร้าน Dean & Deluca

2011 – เริ่มการก่อสร้าง

กลางปี 2011 – เป็นโครงการคอนโด Branded Residences โครงการแรกที่ประสบความสำเร็จในการไป Roadshow ที่ฮ่องกง และสิงค์โปร์

2013 – PACE เสนอขาย IPO

2014 – เปิดตัวพื้นที Retail Mahanakhon “CUBE” พร้อมประกาศข่าวสุดเซอร์ไพร์สหลังประสบความสำเร็จในการเจรจาซื้อที่ดิน ด้วยมูลค่า 1,450 ล้านบาท และอัพราคาขายเพิ่มขึ้น 12-15% สร้างแต้มต่อในการขาย Foreign Quota เป็นอย่างมาก เนื่องจากโรงแรม Edition จำนวน 155 ยูนิตนั้นเป็นกรรมสิทธิ์ของ Pace

ปลายปี 2014 – เข้าซื้อกิจการ Dean & Deluca Inc. มูลค่า 140 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

2015 – เข้าถือหุ้นในโครงการทั้งหมดเต็ม 100% จากการซื้อหุ้นคืนจาก IBC และการก่อสร้างโครงสร้างหลักของอาคารถึงจุดสูงสุดที่ชั้น 77

2016 – ฉลองการก่อสร้างงานสถาปัตย์ของอาคารหลักเสร็จสมบูรณ์ พร้อมโอนล๊อตแรก และจัดงาน MAHANAKHON: BANGKOK RISING, THE NIGHT OF LIGHTS’

ต้นปี 2017 – ประกาศร่วมทุนกับบ.ใหญ่ 2 ราย คือ Apollo Asia Sprint Holding Company Limited และ Goldman Sachs Investments Holdings (Asia) Limited ผ่านการเพิ่มทุนในบริษัทลูก PP1 และ PP3 ซึ่งดำเนินธุรกิจหลัก คือ Retail CUBE, Rooftop Bar, Sky Observation Deck, และโรงแรม The Bangkok Edition

กค. 2017 – ประกาศความร่วมมือกับ Citic Construction ยักษ์ใหญ่ด้านการก่อสร้างจากจีน ในด้านการเงิน และการก่อสร้าง รวมถึงการทำโครงการไปทำ Roadshow ที่เซี่ยงไฮ้ และปักกิ่ง

กย. 2017 – เปิดห้องตัวอย่าง Fully Furnished บนอาคารจริง ให้สื่อมวลชนได้ชมพร้อมกันเป็นครั้งแรก และปรับราคาขายเฉลี่ยเป็นตรม.ละ 494,000 บาท

ผลจากการก่อสร้างโครงการที่ยาวนานถึง 8 ปี ทำให้จนถึงวันนี้โครงการ The Ritz-Carlton Residences, Bangkok ไม่ได้เป็นเพียงแค่ Branded Residence ระดับ Worldwide Magnet โครงการเดียวในตลาด (จากเดิมที่ในกทม.มีอยู่แค่ St.Regis, The Sukhothai Residences และ Banyan Tree Residences) แต่ตลาดคอนโด Super Luxury ในเมืองไทยกลับเต็มไปด้วย Branded Residence มากมาย ทั้ง KHUN by YOO, The Residences at Mandarin Oriental Bangkok, Waldorf Astoria Bangkok, Four Seasons Private Residences และโครงการระดับ Super Luxury อืนๆที่กระจายตัวอยู่ในย่าน Super Prime ทั่วกรุงเทพ ทั้ง ลุมพินี วิทยุ ทองหล่อ และริมแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งแบรนด์เหล่านี้ส่วนเป็นตัว Benchmark ชั้นดีให้กับโครงการ The Ritz-Carlton Residences, Bangkok เนื่องจากทุกโครงการล้วนผ่าน Criteria ของการเป็น Super Luxury condo ทั้งสิ้น และดีเวลลอปเปอร์รายใหญ่ก็มุ่งหน้าหันหัวเรือเข้าสู่สมรภูมินี้อย่างจริงจัง จนอาจกล่าวได้ว่า Pace Development ที่ถึงแม้จะออกตัวได้เร็วกว่า แต่กว่าตึกจะเสร็จก็ถูกคู่แข่งรายอื่นๆทยอยยึดหัวหาดของตลาดคอนโดในเซกเมนท์นี้ไปแล้ว แถมมาพร้อมกับ Urban Technology ต่างๆที่ก้าวไกลกว่าเมื่อ 8 ปีที่แล้วเยอะมาก…นี่คือความท้าทายระลอกต่อไปของ Pace ซึ่งมุ่งมั่นเต็มที่ที่จะปั้นโครงการ Mahanakhon ให้เป็น The World’s Next Destination ที่พร้อมจะดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมหาศาล ยั่วน้ำลายมหาเศรษฐีนักสะสมคอนโดหายาก รวมถึงเชื้อเชิญนักลงทุนกระเป๋าหนักทั่วโลก ให้มาร่วมเป็นเจ้าของ The Ritz-Carlton Residences, Bangkok และร่วมลงทุนในโครงการ Mahanakhon

 

สำหรับกลุ่มตลาดคอนโด Super Luxury นั้น Consumption Trigger ที่สำคัญและมีผลต่อการตัดสินใจซื้อโครงการคงจะไม่ใช่ราคา แต่ความพึงพอใจที่จะซื้อ (Pleasure) และซื้อเพื่อแสดงซึ่งอำนาจ บารมี และสถานะทางสังคมที่โดดเด่นเหนือใคร (Accomplishment) กล่าวคือคุณค่าที่เกิดขึ้นจากการเป็นเจ้าของนั้นมีมากกว่าแค่การพักอาศัย นั่นคือสาเหตุที่ทำไมคอนโดระดับ Super Luxury ทั่วโลกจึงขายได้อยู่เสมอ แม้ในยามที่เศรษฐกิจสั่นคลอน แม้กระนั้นก็ตาม การพัฒนาคอนโดระดับ Super Luxury ก็ยังคงต้องมีองค์ประกอบที่สำคัญที่สุดอีกอย่างที่นอกเหนือจาก design & function และแบรนด์ คือ ทำเลที่เป็น Super Prime มองเห็นวิวโล่งอันเป็นทัศนียภาพที่ดีให้กับผู้พักอาศัย ไม่ว่าจะเป็นวิวแม่น้ำ หรือวิวสวนสาธารณะขนาดใหญ่ และหากเป็นในกรุงเทพฯ ปัจจัยสำคัญอีกหนึ่งอย่างที่ช่วยดันราคาขายของคอนโด ก็คือความใกล้สถานีรถไฟฟ้า

 

สำหรับผมแล้ว จุดเด่นของโครงการ The Ritz-Carlton Residences, Bangkok ถ้าให้เรียงตามลำดับความสำคัญในหมู่คนซื้อประเภท Condo Collector ก็น่าจะเป็น Brand – Design & Function – View – ความเป็น Mixed Use Project – และทำเลครับ

อย่างที่บอกไปในตอนต้นว่านี่คือโครงการ Branded Residences ที่เป็นแบรนด์ Hospitality ระดับสูงสุดของ Marriott แห่งแรกของประเทศไทย ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่โครงการนี้จะค่อนข้างได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในหมู่ผู้ซื้อชาวต่างชาติ ที่รู้จักมักคุ้นกับชื่อเสียงของ The Ritz-Carlton เป็นอย่างดี จนส่งผลให้ยอดขาย 75% ของทั้งโครงการ มาจากชาวต่างชาติในสัดส่วนถึง 65%

 

แล้วแบรนด์ The Ritz-Carlton ดีอย่างไร?

จากประสบการณ์อันยาวนานด้านการบริหารโรงแรมระดับไฮเอนด์ ถูกผ่องถ่ายมาสู่แบรนด์ที่พักอาศัยที่ยังคงความเป็นเลิศในการบริการ ได้รับการกล่าวขานถึงความใส่ใจทุกความต้องการของผู้พักอาศัย ครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ และคงความเป็นส่วนตัวของลูกค้าไว้ได้อย่างดีที่สุด

ความสมบูรณ์แบบในสไตล์ The Ritz-Carlton เกิดขึ้นจากความตั้งใจและทุ่มเทในการปฏิบัติตาม กฎปฏิบัติที่ใช้เป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วโลก เพื่อตอกย้ำ “ความสมบูรณ์แบบระดับห้าดาว” อาทิ ข้อปฏิบัติเกี่ยวกับโครงสร้างเพื่อเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ฉุกเฉิน เช่น เมื่อเกิดสถานการณ์ไฟไหม้ ข้อกำหนดเกี่ยวกับความเร็วของลิฟต์โดยสาร หรือแม้กระทั่งข้อกำหนดเรื่องเวลาในการรอลิฟต์สำหรับแขกที่เข้าพัก จนถึงคุณภาพของสุดยอดการบริการและการใส่ใจในทุกรายละเอียด เมื่อความสมบูรณ์แบบของเดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน ผสานรวมเข้ากับสุดยอดสถาปัตยกรรมอย่างมหานคร ที่มีความโดดเด่นด้วยฟีเจอร์พิเศษที่เป็นเอกลักษณ์อย่าง ‘พิกเซล’ และระดับความสูงที่ไม่อาจหาใครเทียบเท่าได้ในน่านฟ้ากรุงเทพฯ จึงไม่อาจปฏิเสธได้ว่า The Ritz-Carlton Residences, Bangkok ได้กลายเป็นตำนานความสมบูรณ์แบบของที่พักอาศัยซูเปอร์ลักชัวรี่ในกรุงเทพฯ ที่ตอบโจทย์ทั้งด้านบริการ ความสะดวกสบาย ดีไซน์ และทิวทัศน์ที่เป็นที่สุดในทุกๆ ด้าน

โครงการประกอบด้วยห้องพักสุดหรู จำนวน 209 ห้อง ขนาดตั้งแต่ 125 – 844 ตร.ม. พร้อมพื้นที่ใช้สอยอันกว้างขวางและเพดานอันสูงโปร่ง โดยแบ่งออกเป็น 2 โซน ได้แก่ เรสซิเดนซ์ ตั้งแต่ชั้น 23 – 53 และ สกาย เรสซิเดนซ์ ตั้งแต่ชั้น 57 – 73 

โซนสกาย เรสซิเดนซ์ นับได้ว่าเป็นห้องชุดพักอาศัยที่มีความสูงเหนือพื้นดินเริ่มต้นที่ 216 – 300 เมตร ซึ่งเป็นระดับความสูงพิเศษที่สูงกว่าคอนโดมิเนียมที่เคยมีมา  และมุมมองที่ได้จากห้องพักสกาย เรสซิเดนซ์จึงมีความพิเศษที่หาไม่ได้จากที่พักอาศัยใดๆ ในกรุงเทพฯ

 

นอกจากนี้โครงการยังมีความโดดเด่นในด้านอื่นๆ อาทิ สิ่งอำนวยความสะดวกและบริการระดับ 5 ดาว ด้วยมาตรฐาน Gold Standard ของเดอะ ริทซ์ คาร์ลตันจึงมั่นใจได้ว่าลูกบ้านจะได้รับการบริการที่อบอุ่นเป็นกันเองอย่างมืออาชีพ ประกอบกับข้อกำหนดมาตรฐานด้านการออกแบบ ตลอดจนถึงวัสดุคุณภาพตามมาตรฐานและผ่านการตรวจสอบจากทีมงานเดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน / ความสะดวกสบาย ตั้งอยู่ ณ ทำเลที่ตั้งใจกลางเมืองย่านสีลม-สาทร สามารถเข้าออกได้ 3 เส้นทาง ได้แก่ สีลมซอย 9 สาทรซอย 10 และถนนนราธิวาสราชนครินทร์ ติดกับสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสช่องนนทรี และยังสะดวกสบายด้วยทางเลือกร้านอาหารและบริการภายในโครงการมหานคร/ วิวเหนือระดับ ด้วยทำเลที่ตั้ง ณ ใจกลางกรุงเทพฯ และไม่ไกลจากแม่น้ำเจ้าพระยา จึงได้มุมมองของกรุงเทพฯ  ที่สวยงามครบทุกองค์ประกอบ ทั้งวิวเมืองและแม่น้ำ จนถึงบางกระเจ้า เมื่อผนวกกับความสูงพิเศษของตัวอาคารแล้ว จึงได้มุมมองที่กว้างไกลถึงอ่าวไทยและปริมณฑล/และการออกแบบระดับโลก นอกจากรูปทรงอาคารที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใครแล้ว ภายในเรสซิเดนซ์และส่วนกลางยังได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบโดยสตูดิโอระดับโลก เดวิด คอลลินส์ สตูดิโอ นอกจากนี้ การออกแบบพิเศษของตัวอาคารและวัสดุที่เลือกใช้ ยังช่วยเพิ่มระดับการรับชมวิวที่สวยงามยิ่งขึ้น ด้วยบานกระจกที่สูงจากพื้นจรดฝ้าเพดาน และฟีเจอร์พิเศษ ‘พิกเซล’ ที่ใช้การเล่นระดับความล้ำและเหลื่อมของพื้นที่และการจัดวางเลย์เอ้าท์ที่ไม่ซ้ำกันในแต่ละชั้น จึงได้ออกมาเป็น สกาย บ็อกซ์ (Sky box) ที่ล้อมรอบด้วยกระจก 3 ด้าน และเทอร์เรซที่สามารถเปิดออกเพื่อรับชมวิว 270 องศาได้อย่างไม่มีอะไรบดบังเสมือนลอยอยู่บนฟ้า

โดยห้องตัวอย่าง The Ritz-Carlton Residences, Bangkok ได้รับการตกแต่งขึ้นภายในห้องจริงบนอาคารมหานคร เพื่อเป็นทางเลือกให้ลูกค้าได้สัมผัสกับการจัดสรรพื้นที่และการตกแต่งที่สะท้อนรสนิยมความเป็นอยู่ทั้งหมด 4 รูปแบบ (แต่เราได้ดูแค่ 3 ห้อง) บนขนาดพื้นที่ห้องที่แตกต่างกัน ซึ่งลูกค้าจะได้สัมผัสกับทัศนียภาพที่สวยงามของกรุงเทพมหานคร ณ ระดับความสูงจริงที่หลากหลาย โดยมีไฮไลต์คือห้องตัวอย่าง สกาย เรสซิเดนซ์ ชั้น 58 ซึ่งตั้งอยู่ที่ระดับความสูงมากกว่า 216 เมตร เหนือพื้นดิน นับเป็นห้องตัวอย่างที่สูงที่สุดที่เคยมีมาในประเทศไทย

รายละเอียดการตกแต่งแบบ Fully Fitted ของที่นี่มีความแตกต่างกันนิดหน่อยระหว่าง โซน Residence และ Sky Residence ดังนี้ครับ แต่หลักๆจะอยู่ที่ระยะความสูงของห้อง และแบรนด์ของอ่างอาบน้ำ ให้จำง่ายๆว่าโซน Residence อยู่ที่ชั้น 23-53 มีความสูงของเพดานที่ 3.1 เมตร และโซน Sky Residence อยู่ที่ชั้น ชั้น 57 – 73 มีความสูงของเพดานที่ 3.4 เมตร

 

ข้อมูลเบื้องต้นของห้องตัวอย่าง

  1. สกาย เรสซิเดนซ์ 4 ห้องนอน – Contemporary Classic ชั้น 58 ขนาด 343.57 ตารางเมตร
  2. เรสซิเดนซ์ 3 ห้องนอน (พิกเซล) – Modern Lux ชั้น 44 ขนาด 235.53 ตารางเมตร
  3. เรสซิเดนซ์ 3 ห้องนอน – Contemporary Classic ชั้น 44 ขนาด 221.71 ตารางเมตร
  4. เรสซิเดนซ์ 2 ห้องนอน – City Essential ชั้น 24 ขนาด 140.99 ตารางเมตร (ไม่ได้ดู)

 

เราไปเริ่มจากห้องที่เป็นไฮไลท์อย่าง Sky Residence 4 ห้องนอน บนชั้น 58 ขนาด 343.57 ตรม.กันครับ

 

ห้องสกาย เรสซิเดนซ์ประกอบด้วยเพดานที่สูงถึง 3.4 เมตร และรายล้อมด้วยกระจกความสูงจากพื้นจรดฝ้าเพดาน มอบความรู้สึกโปร่งโล่งสบายท่ามกลางทัศนียภาพของกรุงเทพฯ บนความสูงมากกว่า 216 เมตร ภายในห้องตัวอย่างบนพื้นที่มากกว่า 340 ตารางเมตร จึงได้รับการตกแต่งที่สะท้อนถึงรสนิยมและความเลิศหรู ผสานความประณีตและละเอียดอ่อนในสไตล์ Contemporary Classic ด้วยเฟอร์นิเจอร์ ฌอง หลุยส์ เดอนัวร์ คอลเลกชั่น (Jean-Louise Denoit) จากเบเกอร์ เฟอร์นิเจอร์ (Baker Furniture) ซึ่งจะทำให้ผู้พักอาศัยรู้สึกเหมือนอยู่บนวิมานลอยฟ้า

ความประทับใจของห้องนี้นอกจากวิวที่มีความเป็น unparalleled แล้ว ก็คือพื้นที่ส่วนโถงต้อนรับที่หรูหรา โอ่อ่า พื้นที่ส่วน Living ที่ดูจากสายตาก้น่าจะจุคนได้มากกว่า 30 คนในห้องเดียว และห้อง Master Bedroom ที่มีฟังก์ชั่นและพื้นที่ที่ใหญ่กว่าบ้านเดี่ยวบางหลังซะอีก เพราะมีห้องแต่งตัวแยกชาย/หญิง อีกทั้งมีห้องน้ำขนาดใหญ่มาก วิวพาโนรามา ปูด้วยหินอ่อนกัลกัตตา พร้อมอ่างอาบน้ำวงกลมแบรนด์ Agape

เฟอร์ฯนำเข้าของ Chanintr Living มีไฮไลท์ที่โคมไฟแชนเดอเลียร์แบรนด์ Saint Louis สั่ง Custom Made มูลค่าหลายล้านบาท

 

ชุดครัว Built-in แบรนด์ Poggen Pohl ท็อปหินอ่อนนำเข้าจากอิตาลี

พื้นที่ Living สามารถจัดสรรเป็นมุมทำงานส่วนตัวได้ในอีกด้านของห้อง

ห้อง Master Bedroom

ห้องแต่งตัวคุณผู้ชาย

มุมโปรดของคุณผู้หญิง

มีไฮไลท์ที่ห้องน้ำห้องนี้

เสียดายที่ไม่ใช่อ่างจากุซซี่

 

ลงไปดูโซน Residence ที่ชั้น 44 กันบ้าง มีอยู่ 2 ห้อง ห้องแรกจะเป็น เรสซิเดนซ์ 3 ห้องนอน (พิกเซล) – แต่งแบบ Modern Lux ขนาดประมาณ 235.53 ตารางเมตร

 

ด้วยแรงบันดาลใจจากแสงสีของเมือง และพิกเซลของตึกมหานคร สู่รูปแบบการใช้ชีวิตที่มีพลัง สง่างาม ล้ำสมัย เรสซิเดนซ์ 3 ห้องนอนที่มีฟีเจอร์พิเศษอย่าง ‘พิกเซล’ แห่งนี้จึงได้รับการออกแบบภายใต้คอนเซ็ปต์ Modern Lux ที่คลุมโทนสีน้ำเงิน ขาว ดำ ตกแต่งด้วยแบรนด์เฟอร์นิเจอร์หรูอย่างมินอตติ (Minotti) เพื่อมอบบรรยากาศที่พักอาศัยที่เรียบ หรู สไตล์โมเดิร์นเหนือกาลเวลา

จุดเด่นที่เป็นของหายากในตึกนี้คือห้อง Pixel และมีระเบียง ซึ่งห้องนี้มีระเบียงจากห้องนอนด้วยครับ

ออกไปยืนก็ประมาณนี้

ห้องน้ำก็ยังคงมีความหรูหราจากลวดลายของหินอ่อน เหมือนกันทุกห้อง

ห้องสุดท้ายอยู่ติดกันกับห้องข้างบน แปลนคล้ายกันแต่ไม่มี Pixel เป็นแบบ 3 ห้องนอน สไตล์ Contemporary Classic ชั้น 44 ขนาด 221.71 ตารางเมตร

ออกแบบภายใต้คอนเซ็ปต์คลาสสิคร่วมสมัย และแรงบันดาลใจในการออกแบบโดยเดวิด คอลลินส์ สตูดิโอ เรสซิเดนซ์ 3 ห้องนอนแห่งนี้ได้รับการตกแต่งเพื่อมอบประสบการณ์การพักอาศัยที่ดีที่สุด ด้วยเฟอร์นิเจอร์สั่งทำพิเศษทั้งชุด ในสไตล์ Contemporary Classic ที่สอดแทรกมุมมองในแบบยุโรปผสานเข้ากับความเป็นไทยผ่านการเลือกใช้โทนสีธรรมชาติ อาทิ สีเขียวอ่อน (pale sage green) สีทอง สีเหลือง และ สีม่วงไลแลค พร้อมวัสดุและเส้นใยที่ผสมผสานระหว่างผ้าพื้นเมืองของไทยอย่าง ผ้าทอ ผ้าไหม ไม้ไผ่สาน และวัสดุสไตล์ยุโรปอย่าง เส้นใยราฟเฟีย ขนแกะ หนังฟอก หิน แลคเกอร์ และทองเหลืองเก่า

ชุดครัว Built-in แบรนด์ Poggen Pohl เช่นกัน

Master Bedroom มองได้สองทิศ

ห้องนอนที่ 2 และ 3

 

สำหรับพื้นที่ส่วนกลางจะอยู่ที่ชั้น 7 และชั้น 54 ซึ่งจะแยกจากพื้นที่ส่วนกลางของโรงแรม Edition ซึ่งจะอยู่ที่ชั้น 6 ครับ

 

ที่ชั้น 7 คุณจะได้พบกับ สระว่ายน้ำกลางแจ้งพร้อมพื้นที่สำหรับอาบแดดริมสระว่ายน้ำ จากุซซี่ ห้องซาวน่า ห้องอบไอน้ำ ล็อคเกอร์ ห้องอาบน้ำและห้องแต่งตัว

ฟิตเนสเซ็นเตอร์ เพียบพร้อมด้วยเครื่องเล่นแบรนด์นำเข้าชั้นนำ และสตูดิโอโยคะ

ห้องเล่นสำหรับเด็กเล็ก เกมส์รูมพร้อมอุปกรณ์ อาทิ โต๊ะบิลเลียด โต๊ะปิงปอง ซอคเกอร์เทเบิ้ล

ห้องฉายภาพยนตร์ส่วนตัว 12 ที่นั่ง

กดลิฟท์ขึ้นมาชั้น 54 ก็จะพบกับ คลับ เลาจน์พร้อมวิวพาโนรามา ที่เพียบพร้อมด้วยพื้นที่สำหรับการสังสรรค์และทานอาหาร พร้อมบริการจัดเลี้ยงพิเศษ

ห้องประชุมผู้บริหาร ที่มาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันสำหรับทุกการประชุม

นอกจากนี้ The Ritz-Carlton Residences, Bangkok ยังได้นำเสนอการบริการสุดเอ็กซ์คลูซีฟในหลายรูปแบบ อาทิ รูมเซอร์วิส บริการจัดเลี้ยง และแม่บ้านทำความสะอาด มาตรฐานโรงแรม 5 ดาว พนักงานต้อนรับ 24 ชั่วโมง พร้อมบริการจอดรถและพนักงานอำนวยความสะดวกเปิดประตูและยกกระเป๋ารวมถึงกิจกรรมพิเศษที่จัดเป็นประจำทุกเดือนสำหรับลูกบ้าน อาทิ อาหารเช้ามื้อพิเศษ จิบไวน์ยามเย็น คลาสออกกำลังกายและโยคะ ดูหนังมาราธอน ทำบุญเลี้ยงพระ

 

ในส่วนของยูนิตเหลือขาย ตอนนี้ห้องที่แพงที่สุดอยู่ที่ชั้น 66 เป็นห้องแบบ Pixel พื้นที่ 511 ตรม.ราคา 296.5 ล้านบาท หรือเฉลี่ยตรม.ละ 580,000 บาท ซึ่งหากเป็นห้องแบบ Pixel (มีระเบียง) จะมีราคาสูงกว่าห้องแบบปกติประมาณตรม.ละ 50,000 บาท โดยห้องที่ราคาถูกที่สุดในตอนนี้มีราคาเริ่มต้น 65 ล้านบาทสำหรับห้อง 2 นอน 140 ตรม.

 

ในด้านความคุ้มค่าต่อการลงทุน ส่วนใหญ่แล้วกลุ่มลูกค้าในเซกเมนท์นี้ไม่ได้มองในเรื่องของความคุ้มค่าสักเท่าไหร่นัก เนื่องจากคนเหล่านี้มักซื้อคอนโดหรูไว้เป็นบ้านหลังที่สอง โดยเฉพาะกลุ่มชาวต่างชาติที่นานๆครั้งจะแวะมาพักผ่อนที่เมืองไทย แต่ถ้ามองในระยะยาว ด้วยการที่ The Ritz-Carlton Residences, Bangkok ได้กลายเป็นคอนโด Super Luxury ในแบบ Freehold ไปเรียบร้อย จึงทำให้โครงการนี้น่าจะเป็นสมบัติล้ำค่าที่สามารถส่งต่อเป็นมรดกจากรุ่นสู่รุ่นได้ ไม่แพ้คอนโดอื่นๆในย่าน Super Prime อื่นๆแต่อย่างใด ซึ่งส่วนตัวแล้วผมคิดว่าโครงการนี้ก็พอจะมีจุดอ่อนในเชิง Function อยู่บ้าง ไม่ว่าจะเป็นการที่ไม่สามารถเปิดหน้าต่างเพื่อระบายอากาศได้ (มีแต่ห้อง Pixel ที่มีระเบียง เอ๊ะ หรือว่าจะมีวิธีให้เปิดได้ผมก็ไม่รู้) การจัดวางผังห้องที่ห้องแม่บ้านต้องเดินผ่านประตูทางเข้าหลัก ซึ่งส่วนใหญ่แล้วคอนโด Super Luxury ในสมัยนี้มักจะทำทางเข้าออกแยกจากกันให้ รวมไปถึงสระว่ายน้ำซึ่งผมมองว่าน่าจะมีการออกแบบ Landscape ที่สวยงามได้มากกว่านี้อีก

แต่ด้วยวิวที่สวยงาม และการที่ได้อยู่อาศัยบนอาคารซึ่งเป็น Landmark แห่งใหม่ของกรุงเทพฯ เดินขึ้นไปดู หรือทานข้าวบนชั้น Observation Deck ได้ทุกวัน พร้อมได้รับการบริการเหนือระดับจาก The Ritz – Carlton เพียงเท่านี้ก็น่าจะตอบโจทย์เหล่าเศรษฐีกระเป๋าหนักจากทั่วทุกมุมโลกแล้วครับ



เกริก บุณยโยธิน

เกริก บุณยโยธิน

ผู้ก่อตั้งเวปไซต์แบ่งปันความรู้ด้านการตลาด และการสร้างแบรนด์ในวงการอสังหาฯ พร็อพฮอลิค ดอทคอม..หลังจากที่ใช้เวลามากกว่า 10 ปี ในการวนเวียน เข้าๆออกๆ ในสายงานด้านการตลาด และวางแผนกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ ของบริษัทอสังหาฯ และเอเยนซีโฆษณาชั้นนำหลายแห่ง (โดยที่ไม่รู้ว่าทำไมต้องจับสลากเจอลูกค้าสายอสังหาฯทุกที)...จนถูกครอบงำโดยจิตใต้สำนึก ให้ถีบตัวเองออกจากกรอบการทำงานแบบเดิมๆ เพื่อออกมาจุดประกายความคิดที่ถูกต้อง และนำเสนอมุมมองใหม่ๆ ให้กับกลุ่มคนที่สนใจในธุรกิจอสังหาฯ

เว็บไซต์


PropScore™ 4.0

SCORE:
0.0
From : 0 รีวิว


ยังไม่มีการให้คะแนนและ Comment โครงการนี้


ข้อเท็จจริง และความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน ระหว่างอสังหาฯรูปแบบ Freehold และ Leasehold

ในปีนี้เราจะมีโอกาสได้เห็นโครงการ Leasehold ที่กำลังจะสร้างเสร็จพร้อมอยู่หลายที่ครับ และก็ในหลายระดับราคาด้วย ไม่ว่าจะเป็น ONE Bangkok Residence (Tentative Name), AMAN Nai Lert Bangkok, Thirty Thre... อ่านต่อ

17 April, 2024



คัดสรรให้! งบ 7 ลบ. ก็หาซื้อคอนโดหรูพร้อมอยู่ในย่านพร้อมพงษ์ – ทองหล่อ – เอกมัย ได้

หลังจาก ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมท... อ่านต่อ
12 April, 2024

เคาะแล้ว! แพคเกจกระตุ้นตลาดอสังหาฯ โดยกระทรวงการคลัง

สืบเนื่องมาจากข้อมูลของกระทรวงการคลังที่รายงานครม.ไปว่าในช่วงไตรมาสสี่ของปีที่ผ่านมา ภา... อ่านต่อ
10 April, 2024

มาร่วมออกแบบโครงการให้โลกจำเป็นตำนาน ด้วยสูตรลับที่ตกผลึกมาจากประสบการณ์หลากหลายมุมมอง กับหลักสูตรสำหรับคนฝันใหญ่ “Iconic Xperience 2”

ในการพัฒนาโครงการอะไรก็แล้วแต่ แน่นอนว่าเป้าหมายหลักของผู้พัฒนาโครงการก็น่าจะเป็นในเรื่... อ่านต่อ
1 April, 2024

สอบถามโครงการ

ได้รับข้อมูลเรียบร้อยแล้ว
ขอบคุณอย่างยิ่งที่สนใจครับ
จะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับไปนะครับ

ขออภัย
ไม่สามารถส่งข้อมูลได้
กรุณาลองใหม่อีกครั้ง