Ideo Q Phahol-Saphan Khwai

  

ไอดีโอ คิว พหลฯ-สะพานควาย


การคำนึงถึงการอยู่อาศัยที่ดีของผู้พักอาศัย หรือการสร้างความยั่งยืนคืนธรรมชาติให้กับสังคมรอบข้าง เป็นหนึ่งในมาตรฐานที่หลายคนรู้จักในนาม Well Building Standard มาตรฐานที่มีแนวคิด การนำเอาธรรมชาติมาใส่ไว้ในโครงการ รูปแบบของโครงการจำเป็นต้องมีการวางผัง รวมไปถึงการเลือกใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มีสุขภาวะที่ดี ประหยัดพลังงาน สามารถหมุนเวียนทรัพยากรมาใช้ให้เป็นประโยชน์มากที่สุด ซึ่งในปัจจุบันก็มีหลายโครงการที่พยายามจะออกแบบให้ผ่านมาตรฐาน Well Building Standard คือได้รับการรับรองในระดับสากลนั่นเอง

เกริก บุณยโยธิน เมื่อ 11 June, 2019 เวลา 00.24 am

Prop score™: 4.0

คะแนนรีวิว: 0.0

1 รีวิว


ประกาศที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา



    ข้อมูลโครงการ

ชื่อโครงการ

Ideo Q Phahol-Saphan Khwai

บริษัทผู้สร้าง

Ananda Development PLC

สถานที่

ถนนพหลโยธิน

สถานีรถไฟ BTS

BTS สะพานควาย Distance 0 m.

สถานีรถไฟใต้ดิน

-

Airport Rail Link

-

สถานี BRT

-

พื้นที่

5-3-69.5 ไร่

ชั้น

39 ชั้น 3 อาคาร

ยูนิต

1,119 ยูนิต

ที่จอดรถ

546 คัน คิดเป็น 49%

ลิฟท์

9 ตัว

สิ่งอำนวยความสดวก

Lobby, Mail Room, Meeting room, Juristic Person Office, Bathroom, Car Park, Garden, Shop, Garden, Swimming Pool, Kids Pool, Hydrotherapy Pool, Hot Spring Bath, Cold Bath, Social House, Laundry, Climbing Wall, Fitness room, Changing room, WC., Steam and Sauna Room, Social House, Air House, Play House, Sky Lounge, Bathroom, Sunset Sky, Startarium


    ประเภทยูนิต

ประเภท

คอนโด High Rise/CONDO

studio

26.5-29.5 Sq.m

1 bedroom

31-35 Sq.m.

2 bedroom

57.5 - 72 Sq.m.

3 bedroom

-

Duplex

-

Penthouse

-

ประเภทอื่นๆ

-

ความสูงจากพื้นถึงเพดาน

2.7 เมตร

ราคาเริ่มต้น / ตรม.

220,000 บาท/ตร.ม.

ราคาเริ่มต้น / ยูนิต

5.5 ล้านบาท

ค่าส่วนกลาง

n/a

Sinking Fund fee

n/a

สร้างเสร็จ

2021

เว็บไซต์

http://bit.ly/2Zd5MS4

02 316 2222


เพื่อนบ้าน Street View


ผสานสมดุลของธรรมชาติให้เข้ากับบริบทเมือง เพื่อชีวิตที่ดีกว่า กับ Ideo Q Phahol-Saphan Khwai เพียง 0 เมตรจากสถานีรถไฟฟ้าสะพานควาย

 

ด้วยเทรนด์ของ Urbanization และการขยายตัวของเส้นทางรถไฟฟ้า ส่งผลโดยตรงต่อทิศทางในการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยแนวสูงอย่างคอนโดใกล้รถไฟฟ้า ปัจจุบันเราเห็นคอนโดถูกพัฒนาขึ้นอย่างหนาแน่นและรวดเร็ว บนจุดขายด้านทำเลที่ใกล้รถไฟฟ้า อยู่ในย่านใจกลางเมือง หรือย่าน CBD ในขณะที่ความสวยงามหรือความท้าทายในการก่อสร้างก็ดูจะเหมือนๆกันเกือบทุกคอนโด แต่ใครจะได้เปรียบมากกว่าในการครองใจกลุ่มผู้ซื้อ ในยุคที่ Social Awareness หรือความตระหนักรู้ทางสังคมเป็นสิ่งสำคัญ ก็ต้องไปดูปัจจัยอื่นๆ ที่จะมอบ Benefits ที่แตกต่างให้กับผู้พักอาศัยในด้านของความเป็นอยู่ที่ดี รวมถึงการสร้างความยั่งยืนคืนธรรมชาติให้กับสังคมรอบข้างด้วย ซึ่งโครงการติดรถไฟฟ้าในเมืองส่วนใหญ่มักจะมอบความเป็นธรรมชาติให้ไม่ได้ เพราะส่วนใหญ่ที่ดินมีขนาดเล็ก และแพง ลำพังแค่พื้นที่ขายอย่างเดียวก็ไม่เพียงพอแล้ว แต่โครงการ Ideo Q Phahol-Saphan Khwai (ไอดีโอ คิว พหล-สะพานควาย) กลับเลือกที่จะพัฒนารูปแบบโครงการที่ช่วยสร้างความยั่งยืนในการใช้ชีวิตบนสุดยอดทำเลที่ดีที่สุดในย่านสะพานควาย คือ พื้นที่ติดสถานีรถไฟฟ้าสะพานควายเพียง 0 เมตร

การคำนึงถึงการอยู่อาศัยที่ดีของผู้พักอาศัย หรือการสร้างความยั่งยืนคืนธรรมชาติให้กับสังคมรอบข้าง เป็นหนึ่งในมาตรฐานที่หลายคนรู้จักในนาม Well Building Standard มาตรฐานที่มีแนวคิด การนำเอาธรรมชาติมาใส่ไว้ในโครงการ รูปแบบของโครงการจำเป็นต้องมีการวางผัง รวมไปถึงการเลือกใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มีสุขภาวะที่ดี ประหยัดพลังงาน สามารถหมุนเวียนทรัพยากรมาใช้ให้เป็นประโยชน์มากที่สุด ซึ่งในปัจจุบันก็มีหลายโครงการที่พยายามจะออกแบบให้ผ่านมาตรฐาน Well Building Standard คือได้รับการรับรองในระดับสากลนั่นเอง

 

ถึงแม้ว่า Ideo Q Phahol-Saphan Khwai จะไม่ได้มีการออกแบบเพื่อยื่นขอใบรับรองตามมาตรฐาน Well Building Standard แต่โครงการก็ริเริ่มดำเนินการออกแบบตามมาตรฐานดังกล่าวในบางส่วน ซึ่งเชื่อว่าโครงการนี้น่าจะเป็นต้นแบบในการพัฒนาโครงการแนว Well Building ของอนันดาฯอย่างจริงจังในอนาคตอันใกล้

ตัวอย่างที่ค่อนข้างชัดเจนในการนำเสนอแนวคิด  Well Building  ของ Ideo Q Phahol-Saphan Khwai คือ การออกแบบรูปแบบของตัวอาคารที่มีการนำเอาธรรมชาติเข้ามาไว้ในโครงการด้วยพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ที่แทรกตัวอยู่ระหว่างทั้ง 3 อาคารพักอาศัย กับ HIGHWAY GARDEN พื้นที่สวนสีเขียวร่มรื่นใจกลางเมือง ที่ทอดยาวตั้งแต่ทางเข้าโครงการ ตลอดจนโซนล็อบบี้ ไปจนถึงสวนที่ชั้น 6 ซึ่งเป็นสวนขนาดใหญ่ที่มองเห็นได้จากรถไฟฟ้า เป็น contour ของ landscape เสมือนอยู่กลางหุบเขาที่มีอาคารมาตั้งอยู่ พร้อม Stair Running ให้คุณออกกำลังกาย จอกกิ้ง สำหรับผู้ชื่นชอบการออกกำลังกายท่ามกลางธรรมชาติไปพร้อมกับดีท็อกซ์มลภาวะให้กับผู้พักอาศัยและเมืองโดยรอบ

ตามคอนเซปท์ Be Eternity คือการเน้นการสอดผสานสมดุลกันระหว่างธรรมชาติ เมือง และคน ผ่านการวางผังอาคาร และ Function ต่างๆ ที่เน้นความสะดวกสบายในการพักอาศัย ประกอบด้วย การเปิดช่องทางให้อากาศไหลเวียนผ่านเชื่อมต่อกันได้ทุกอาคาร สามารถรับลมได้ดี ผู้อยู่อาศัยจึงรู้สึกไม่เหมือนกับการอยู่คอนโดที่มีจำนวยูนิตพันกว่ายูนิตเหมือนที่อื่นๆ

การใช้วัสดุธรรมชาติ รวมทั้งการเลือกพรรณไม้ที่คัดกรองตัวฝุ่น อีกทั้งการจำลองต้นไม้ ไว้ใน lobby ตามสไตล์ in the wood lobby ขยายมิติของพื้นที่ล๊อบบี้ ให้มีความสูงโปร่ง เสมือนได้ถูกห่อหุ้มไปกับธรรมชาติที่น่าค้นหา

 

ไปจนถึงพื้นที่ส่วนกลาง อย่าง IN THE TREE HOUSE

พื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ที่มาบนความสูง 3 ชั้น (ชั้น 6-8)

เพิ่มความน่าสนใจให้ทุกมิติของการพักผ่อน ไม่ว่าจะเป็น The Social House : Co-Working Space

The Air House : Bike Simulator

The Play House: Kids Friendly Area

IN THE SKY

เลาจน์ชั้นบนสุดของโครงการถูกออกแบบให้เป็นพื้นที่อเนกประสงค์ 3 โซน ด้วยทิวทัศน์ของเมืองแบบ Panorama มอบบรรยากาศที่โปร่งโล่ง

ให้ทุกการพักผ่อนของคุณ อีกทั้งยังสามารถจัดเป็น Private Exclusive Party ได้เช่นกัน

RAINFOREST POOL

ลอยคอ แหวกว่ายสัมผัสประสบการณ์ใหม่ในการพักผ่อนในสระแบบ Multi-purpose ประกอบด้วยสระยาว 50 เมตร ที่ออกแบบให้บรรยากาศเสมือนลำธารกลางป่าด้วยต้นไม้นานาชนิด ที่เล่นระดับอย่างมีมิติตลอดสองข้าง หรือจะผ่อนคลายและเติมพลังในโซน Hot Spring Bath & Cold Bath หรือออกกำลังกายเบาๆ ใน Hydrotherapy Pool ให้คุณคลีนความเหนื่อยล้าทั้งร่างกายและจิตใจได้อย่างเต็มที่

นอกจากจุดขายด้าน Well Building แล้ว Ideo Q Phahol-Saphan Khwai ยังมีจุดขายที่ทำเล 0 เมตรจากสถานีรถไฟฟ้าสะพานควาย ซึ่งย่านสะพานควายหลายคนอาจไม่ค่อยเห็นคอนโดขึ้นมากนัก ถ้าเทียบกับสถานีใกล้เคียงอย่างจตุจักร หรือารีย์ สาเหตุหลักๆก็เพราะสะพานควายเป็นย่านที่พักอาศัยมาช้านาน ทำให้การเปลี่ยนมือของที่ดินจึงไม่ค่อยมีมากนัก และบริบทโดยรอบก็ล้วนแต่เป็นพื้นที่ที่รองรับชีวิตประจำวันในการอยู่อาศัยในเมืองอย่างแท้จริง อาทิ ตลาดสด Big C โรงพยาบาลเปาโล

รวมทั้งโครงการอสังหาริมทรัพย์ใหม่ๆ อย่าง The Rice อาคาร Mix-used แห่งใหม่ที่กำลังก่อสร้างบริเวณสี่แยกพหล-ประดิพัทธ์บริเวณศรีศุภราชอาเขตเก่า

และโรงพยาบาลวิมุตติ โรงพยาบาลในเครือบริษัทพฤกษาฯ ที่รองรับคนชนชั้นกลาง เป็นอีกทางเลือกของโรงพยาบาลในย่าน

รวมถึงความใกล้แหล่งไลฟ์สไตล์ที่ดีที่สุดของพหลโยธินทั้งอารีย์และจตุจักร ใกล้แหล่งคมนาคมที่ใหญ่ที่สุดของเมืองไทยในอนาคตอย่างสถานีกลางบางซื่อ

 

แต่ในทางกลับกันสะพานควาย ก็เป็นที่ขึ้นชื่อในเรื่องของรถติด ฉะนั้นทำเลทั้งสองฝั่งถนนนั้นมีความแตกต่างและศักยภาพที่ต่างกันพอสมควร

โดยถ้าพูดถึงสถานีสะพานควาย จุดที่ดีที่สุดก็คือบริเวณฝั่งติดโรงพยาบาลเปาโล เพราะมีทั้งโรงพยาบาล และ Big C อีกทั้งหากออกจากโครงการมาก็สามารถเลือกขึ้นทางด่วนได้ทั้ง 2 ฝั่งคือฝั่งพระรามหก หรือจากวิภาวดี และเดินทางขึ้นรถไฟฟ้าเข้าเมืองก็ง่ายด้วยการเดินรถต่อเดียว 3 สถานี ถึงอนุสาวรีย์ฯ และ 3 สถานี ถึงบางซื่อแกรนด์อินเตอร์เชนจ์ และ 6 สถานีถึงสยาม

ในส่วนของตัวโครงการ เป็นโครงการที่พักอาศัยขนาดใหญ่ บนพื้นที่ถึง 5-3-69.5 ไร่ จำนวน 1,119 Units ประกอบด้วยอาคาร 3 อาคาร คือ

Tower Terra มีจำนวนยูนิต 396 ยูนิต ตั้งอยู่ด้านหน้าโครงการ เป็นตึกที่เปิดขายตึกแรก โดยเปิดขายในรอบ online booking เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม ที่ผ่านมา โดยสามารถทำยอดพรีเซล ในระยะเวลา 4 วัน ตั้งแต่ช่วงการจองผ่านช่องทางออนไลน์ “Ananda Online Booking” ผ่านทาง www.ananda.co.th รวมกับงาน Pre-Sales ในวันที่ 25-26 พ.ค. 62 ที่สำนักงานขายโครงการ รวมทั้งสิ้นจำนวน 154 ยูนิต เป็นมูลค่าประมาณ 1,120 ล้านบาท หรือคิดเป็น 39% ของจำนวนที่เปิดขาย

 

ตึกถัดไปคือ Luna มีจำนวนยูนิต 287 ยูนิต เปิดขายเฉพาะชาวต่างชาติ

และ ตึกหลังสุดคือ Sol มีจำนวนยูนิต 431 ยูนิต จะเปิดขายในอนาคต

ซึ่งชื่อทั้ง 3 Tower แปลว่า โลก พระอาทิตย์ และพระจันทร์

 

ด้านหน้าโครงการเป็นทิศตะวันตก ติดถนนพหลโยธิน ด้านข้างโครงการทิศเหนือ เป็นวิวด้านสวนจตุจักร ทิศใต้วิวอนุสาวรีย์ และด้านหลังทิศตะวันออก วิวด้านวิภาวดี

ในส่วนของตัวอาคารที่เปิดขายคือ Terra มีพื้นที่ชั้น 1 – 6 ที่เชื่อมถึงกัน มี shop ร้านค้า ทั้งหมด 5 shop อยู่ใต้ตึก Terra 3 shop ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ 7-11

ที่จอดรถมีทั้งหมด 49% ไม่แยกอาคาร ที่ชั้น 1-5 และที่พักอาศัยเริ่มที่ชั้น 6 พร้อมส่วนกลางที่ชั้น 6-8 ประกอบด้วย Garden, Swimming Pool, Kids Pool, Hydrotherapy Pool, Hot Spring Bath, Cold Bath, Social House, Laundry, Climbing Wall, Fitness room, Changing room, WC., Steam and Sauna Room, Social House, Air House, Play House

และชั้น 39 กับพื้นที่ Garden, Sky Lounge, Bathroom, Sunset Sky, Startarium ที่ปรับเปลี่ยนมุมมองของการใช้งานไม่ว่าจะกลางวันหรือค่ำคืน

สำหรับชั้นพักอาศัย Tower Terra วางตัวในแนวออกตก เป็น double corridor มีรูปแบบการจัดวางห้องเหมือนกันทุกชั้น แต่ชั้นบนๆเนื่องจากโดน set back ขนาดห้องใหญ่จึงไม่เท่าชั้นด้านล่างๆ

แบ่งเป็นห้องใหญ่ 2 bedroom Type E จะอยู่ ห้องมุมสุดท้ายสุดทางเดินทั้งสองด้าน ห้อง living room ได้พื้นที่กระจกเข้ามุม 2 มุม ซึ่งเป็นกระจกเหลี่ยมวางเกือบโค้ง เพื่อลดการสะท้อนและภาพมองที่ผิดไปจากความจริง จึงมีห้องใหญ่ E3 72 Sq.m. ที่โซนด้านหน้าอาคารได้วิวหน้าโครงการ และ E1 57.50 Sq.m. โซนด้านข้าง ได้วิวด้านสวนจตุจักรบางซื่อ

Type ที่มีเยอะสุดคือ Type B 1 bedroom หลายขนาด ที่เกาะกลุ่มอยู่บริเวณตรงกลางอาคาร มีขนาดตั้งแต่ 31-35 Sq.m.

แต่ที่น่าสนใจสำหรับ Type นี้คือ ห้อง B2 32 Sq.m. และ B7 35 Sq.m  ที่เป็นห้องหน้ากว้าง และพื้นที่ living ได้ พื้นที่กระจกเข้ามุม 2 มุม ซึ่งเป็นกระจกเหลี่ยมวางเกือบโค้ง เหมือนห้อง Type ใหญ่ ซึ่งมีชั้นละ 2 ห้องเท่านั้น

Type สุดท้าย คือห้อง size เล็กที่สุด ห้อง studio ที่มีเพียงชั้นละ 3 ห้อง ขนาด 26.5-29.5 Sq.m

มีห้อง  26.5 Sq.m. เป็นห้องที่อยู่บริเวณมุมอาคารที่ออกแบบให้มีความเอียง ทำให้ห้องtypeนี้สามารถ take view สวนชั้น 6 ได้

ห้องตัวอย่างที่โครงการตกแต่งให้ชม มี 3 Type ในพื้นที่ Sale gallery ที่ออกแบบให้เป็น Lifestyle Experience Space ภายใต้ชื่อ Qrator Club มีการใช้วัสดุ recycle มาตกแต่ง และ การจำลองต้นไม้ ไว้ใน lobby ตามสไตล์ in the wood lobby และสร้าง Brand Sensory ด้วยกลิ่น เสียง และสัมผัส

ผ่านการร่วมมือกับ Liberation Pubs, Bars & Eateries ชื่อดังย่านทองหล่อที่มา create mocktail signature ขึ้นมาเฉพาะโครงการนี้

ภายในห้องตัวอย่าง set theme เป็น superstar experience ถือว่าเป็นการนำเสนอห้องที่แปลกใหม่ ต้องใช้จินตนาการ เป็นการนำเสนอห้องที่ไม่เสนอ function ของแต่ละโซนห้อง แต่นำเสนอ space ว่าแต่ละพื้นที่มี space มาน้อยแค่ไหน ถือเป็นการตกแต่งที่แปลกแตกต่าง เราไปเริ่มชมกันเลยดีกว่า

 

ก่อนไปที่ตัวห้อง ขอนำเสนอพื้นที่ sale gallery ที่ใช้วัสดุโฟมยางเหลือใช้ มาดัดแปลงตกแต่งเป็นผนัง ที่เหมือนปกคลุมด้วยกิ่งก้านใบของต้นไม้ในป่าใหญ่ แทรกไปกับเสาต้นไม้ ที่สร้างประสบการณ์การใช้งาน เสมือนคุณเดินอยู่ท่ามกลางป่า

นอกจากนี้ยังมี bar ของ Liberation Pubs, Bars & Eateries ที่ยกเคาท์เตอร์มาพร้อมเมนูสุด create ที่รอให้คุณไปชิม

ห้องตัวอย่างทุกห้องโครงการขายแบบ Fully fitted คือ ให้ครัว ห้องน้ำตามห้องตัวอย่าง ไม่ได้ให้ตู้เสื้อผ้า พื้นห้องให้ Engineered wood และความสูงจากพื้นสู่ฝ้าอยู่ที่ 2.7 เมตร แอร์เป็นแบบฝังฝ้าทุกห้องยกเว้นห้องนอนที่สอง พร้อมระบบ home automation และผ้าม่านทึบ

 

ห้องแรก เป็น 1 bedroom 34.5 Sq.m. แบ่งพื้นที่ส่วน living area และพื้นที่ห้องนอน อย่างละครึ่งเท่าๆกัน

ปีกซ้ายของยูนิตเป็นทางเข้าเชื่อมเข้าสู่ living area ยาวต่อไปถึงพื้นที่ระเบียง

พื้นที่ส่วนแรกติดทางเข้าเป็นพื้นที่ครัว โครงการให้ครัว built-in ที่ด้านซ้ายมือ เข้ามุม

ให้เตาไฟฟ้า FRANKE 2 หัว ฝังเคาท์เตอร์ พื้นที่เตรียมอาหาร อ่างล้างจาน

พร้อมเจาะช่องวางไมโครเวฟ ลิ้นชักและตู้เก็บอุปกรณ์ทำครัวที่ด้านล่าง และด้านบนเคาท์เตอร์

ปลายเคาท์เตอร์เว้นช่องสำหรับวางตู้เย็น

ด้านขวาติดทางเข้า ตรงข้ามพื้นที่ครัว สามารถ built-in เป็นตู้เก็บของ วางเครื่องซักผ้าฝาหน้าได้ (ส่วนนี้โครงการให้มา)

ถัดเข้าไป เป็นพื้นที่โซนพักผ่อน ที่กว้างพอให้ได้จัดวางตกแต่งเป็นพื้นที่ใช้งานเฉพาะบุคคล

ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่นั่งทำงาน

พื้นที่วางอุปกรณ์การทำงาน

หรือแม้แต่พื้นที่นั่งพักผ่อน กับชุดโซฟาริมประตูออกระเบียง

พื้นที่ปีกขวาของยูนิต เป็นห้องนอนห้องน้ำในตัว

ติดประตูทางเข้าห้องนอนเป็นห้องน้ำ แบ่งพื้นที่ติดทางเข้าเป็นพื้นที่ส่วนแห้ง โครงการให้อ่างล้างหน้าฝังเคาท์เตอร์ยาว พร้อมกระจกบานใหญ่

ด้านหน้าเป็นโถสุขภัณฑ์

และพื้นที่ส่วนเปียก กั้นด้วย glass shower โครงการให้ rain shower และ hand shower พร้อมชั้นวางอุปกรณ์อาบน้ำ

ส่วนพื้นที่พักผ่อน ตั้งเตียงนอน อยู่ที่ด้านซ้ายของทางเข้า ติดกระจกเข้ามุม

พื้นที่ตั้งเตียงกว้างพอให้วางเตียง queen size พร้อมโต๊ะหัวเตียง โต๊ะเครื่องแป้ง มุมแต่งตัว ได้ครบทุกการใช้งาน

พื้นที่ส่วนปลายเตียง เป็นผนังสำหรับติดตั้งทีวี และมุมกระจกเข้ามุม ที่เชื่อมมุมมองไปยังระเบียง

ห้องนี้ถึงแม้จะมีขนาดพื้นที่ 34.5 Sq.m. ไม่เล็กไม่ใหญ่ แต่มีพื้นที่รองรับ function การใช้งานที่จำเป็นครบครัน และยังมีพื้นที่เหลือมากพอให้ได้ใช้งานกับกิจกรรมและ lifestyle ส่วนตัวได้อีก

 

ห้องถัดไป 1 bedroom 35 Sq.m. ได้พื้นที่ living area เพิ่มขึ้นและได้ห้องนอนเป็นประตูกระจกบานเลื่อนเข้ามุม หลายๆคนอาจจะเคยเห็นห้องสไตล์ที่มาแล้วจากโครงการอื่น ที่มีข้อเสียในเรื่องของความเป็นส่วนตัว แต่ที่โครงการ Ideo Q Phahol – Saphan Khwai ได้มีการเปลี่ยนรูปแบบบานกั้นห้องให้มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ผู้พักอาศัยจึงได้ใช้พื้นที่ในส่วนของ Living และห้องนอนได้อย่างเต็มที่

เมื่อเข้าสู่ภายในห้อง พื้นที่ส่วนแรกซ้ายมือ เป็นห้องน้ำ

ห้องน้ำ แบ่งพื้นที่ติดทางเข้าเป็นพื้นที่ส่วนแห้ง โครงการให้อ่างล้างหน้าฝังเคาท์เตอร์ยาว พร้อมกระจกบานใหญ่

ตรงกลางเป็นโถสุขภัณฑ์

และพื้นที่ส่วนเปียก กั้นด้วย glass shower โครงการให้ rain shower และ hand shower พร้อมชั้นวางอุปกรณ์อาบน้ำ

ถัดเข้าไป ต่อจากพื้นที่ห้องน้ำ มีแนวผนัง ที่สามารถ built-in วางเครื่องซักผ้าได้ (โครงการแถมมาให้)

ถัดเข้าไปซ้ายมือเป็นครัวปิด

โครงการให้ครัว built-in ที่ด้านซ้ายมือยาวเต็มแนวผนัง

ให้เตาไฟฟ้า 2 หัวของFRANKE ฝังเคาท์เตอร์ พื้นที่เตรียมอาหาร อ่างล้างจาน

พร้อมเจาะช่องวางไมโครเวฟ ลิ้นชักและตู้เก็บอุปกรณ์ทำครัวที่ด้านล่าง และด้านบนเคาท์เตอร์

ปลายเคาท์เตอร์เว้นช่องสำหรับวางตู้เย็น

ปลายสุดทางเดินของพื้นที่ห้องครัว เป็นทางออกระเบียง ที่มีพื้นที่ให้ใช้งานเป็นสัดส่วน

ด้านขวาของยูนิต หลักๆเป็นพื้นที่ living area และห้องนอนกั้นกระจกเข้ามุม

พื้นที่ living area เป็นกระจกเข้ามุม หันไปทางระเบียง

พื้นที่หน้ากว้าง กว้างพอให้วางชุดโซฟา พร้อมพื้นที่ใช้งาน

และพื้นที่ตั้งโต๊ะทำงาน ติดกระจกบานใหญ่

อีกด้าน ถูกกั้นด้วยกระจกเข้ามุม เป็นพื้นที่ห้องนอน สามารถเปิดเชื่อมพื้นที่ living ได้กว้าง

กว้างพอให้วางเตียง Queen size พร้อมโต๊ะหัวเตียง และยังมีพื้นที่โดยรอบให้ได้ใช้งาน จัดวางอุปกรณ์ต่างๆ

ห้องนี้เหมาะสำหรับคนชอบทำอาหาร เพราะได้ครัวปิดติดระเบียง และสำหรับคนที่ชอบมีพื้นที่ใช้งานที่กว้างในบริเวณ living are ที่สามารถเปิดเชื่อมพื้นที่ห้องนอนได้กว้างขึ้น

 

ห้องสุดท้าย 2 bedroom 72.00 Sq.m. ห้อง Type พิเศษ ที่ได้กระจกเหลี่ยมโค้งทำมุม บริเวณห้อง living area และได้ครัวปิด ทำให้ผู้พักอาศัยสามารถ Take View 3 ทิศบริเวณส่วน Living ที่เป็นพื้นที่ที่ใหญ่ที่สุดของห้องได้อย่างสบายตา

ห้องนี้เข้าไปจะพบโถงทางเดินในห้อง เชื่อมสู่พื้นที่ห้องนอนทั้งสอง ครัว และปลายสุดทางเดินคือพื้นที่ living area ตามลำดับ

ห้องแรกขวามือ เป็นห้องนอนใหญ่ห้องน้ำในตัว

ในห้องนอนกว้างมากพอให้วางเตียง Queen size พร้อมโต๊ะหัวเตียง ติดหน้าต่างบานใหญ่

กว้างพอให้วางโซฟาตัวเล็ก เป็นมุมพักผ่อน หรือมุมทำงาน

และพื้นที่แต่งตัวที่สามารถกั้นเป็น walk-in closet ได้ (โครงการให้เป็นพื้นที่โล่ง)

ปลายเตียงเป็นทางเข้าห้องน้ำ

ห้องน้ำ แบ่งพื้นที่ติดทางเข้าเป็นพื้นที่ส่วนแห้ง โครงการให้อ่างล้างหน้าฝังเคาท์เตอร์ พร้อมกระจกบานใหญ่ พร้อมโถสุขภัณฑ์

และพื้นที่ส่วนเปียก กั้นด้วย glass shower โครงการให้ rain shower และ hand shower พร้อมชั้นวางอุปกรณ์อาบน้ำและอ่างอาบน้ำวางติดกระจกและหน้าต่างระบายอากาศในห้องน้ำ

ห้องนอนที่สอง อยู่ขวามือของทางเดิน

ติดกันเป็นห้องน้ำ double access ที่เข้าได้จากห้องนอนเล็ก และโซน living

ห้องน้ำ double access แบ่งพื้นที่ติดทางเข้าเป็นพื้นที่ส่วนแห้ง โครงการให้อ่างล้างหน้าฝังเคาท์เตอร์ พร้อมกระจกบานใหญ่ พร้อมโถสุขภัณฑ์ ที่ด้านซ้าย

และพื้นที่ส่วนเปียก กั้นด้วย glass shower โครงการให้ rain shower และ hand shower พร้อมชั้นวางอุปกรณ์อาบน้ำ

ห้องนอนเล็ก เปิดรับด้วยกระจกบานใหญ่ เปิดรับเต็มความกว้างของห้อง

ห้องนี้กว้างพอให้ปรับเป็นห้องทำงาน ไม่ว่าจะวางโต๊ะ อุปกรณ์ทำงาน เก้าอี้ หรือเก็บของสำหรับใช้งาน ก็ยังมีพื้นที่เหลือเฟือให้ได้ปรับใช้

ตรงข้ามห้องนอนเล็ก เป็นครัวปิด (แต่ห้องจริงโครงการให้ประตูกระจก)

โครงการให้ครัว built-in เข้ามุมด้านขวา

ให้เตาไฟฟ้า 4 หัว ฝังเคาท์เตอร์ พื้นที่เตรียมอาหาร อ่างล้างจาน

พร้อมเจาะช่องวางไมโครเวฟ ลิ้นชักและตู้เก็บอุปกรณ์ทำครัวที่ด้านล่าง และด้านบนเคาท์เตอร์

ปลายเคาท์เตอร์ด้านขวาเว้นช่องสำหรับวางตู้เย็น

ด้านซ้ายเป็นตู้เก็บของแบบ Built-in วางเครื่องซักผ้าฝาหน้าได้

สุดทางเดินของห้องเป็นพื้นที่ living area ที่เปิดรับด้วยกระจกบานใหญ่ ยาวเต็มความกว้างของห้อง มีโค้งเหลี่ยมเข้ามุม ไม่ทำให้เกิดการสะท้อนที่ดูหลอกตาแบบกระจกโค้งเข้ามุม

พื้นที่ living area ค่อนข้างใหญ่

สามารถจัดมุมทำงาน

หรือตั้งมุมวางดูทีวีพักผ่อน เชื่อมพื้นที่ระเบียง semi outdoor ที่เปิดเชื่อมเพิ่มพื้นที่ใข้งานได้ในบางเวลา ทำให้พื้นที่กว้างมากขึ้นกว่าเดิม

เป็นห้องสำหรับคนที่ชอบห้องมุม พื้นที่living area กว้าง มีห้องที่สามารถเป็นห้องนอนสำหรับสมาชิกของครอบครัว หรือสำหรับเป็นห้องทำงาน ใช้งานในกิจกรรมพิเศษ เฉพาะของแต่ละบุคคลได้

 

 

Ideo Q Phahol – Saphan Khwai กับราคา New High บนย่านสะพานควาย

นับตั้งแต่ที่อนันดาประกาศจะพัฒนาโครงการคอนโดที่ติดรถไฟฟ้า BTS สถานีสะพานควายในระยะ 0 เมตรในช่วงปลายปีที่แล้ว หลายคนก็ล้วนแต่คิดเอาไว้ในใจแล้วว่าไม่ว่าโครงการนี้จะมีชื่อรหัส หรือชื่อแบรนด์ว่าอะไร ก็ย่อมต้องมีราคาขายเฉลี่ยต่อตารางเมตรที่สูงที่สุดในย่านพหลโยธินตอนต้น (ช่วงสนามเป้า – สะพานควาย) แน่ๆ ด้วยเหตุผลในด้านของราคาที่ดินสุด Prime ติดรถไฟฟ้าแปลงใหญ่ถึง 5 ไร่กว่า ชื่อเสียงของการเป็นแบรนด์ระดับ Top ในตลาด การเป็นเจ้าตลาดคอนโดในย่านนี้ (อนันดามีโครงการคอนโดติดรถไฟฟ้าแบบ Mixed Use ในย่านนี้ก่อนเป็นโครงการแรกคือ Ideo Mix Phaholyothin และตามมาด้วย Ideo Phaholyothin – Chatuchak) รวมไปถึงความสวยงามในการออกแบบโครงการให้เป็น New Iconic ที่โดดเด่นสะดุดตาในย่านนี้

 

การเปิดตัวมาด้วยราคาเริ่มต้นประมาณตารางเมตรละ 220,000 บาทจึงไม่ใช่เรื่องที่น่าเซอร์ไพร์สสำหรับใครหลายๆคนที่นิยมชมชอบโครงการของอนันดาฯ แต่สำหรับใครๆอีกหลายคนก็มาพร้อมกับข้อสงสัยที่ว่าโครงการนี้ตั้งราคาขายแพงไปหรือเปล่าที่นี่คือทำเลสะพานควายนะ หาใช่ย่านอารีย์ หรือพญาไท ซึ่งหากเรามองในข้อเท็จจริงก็ต้องบอกว่าในช่วงเวลา 2-3 ปีที่ผ่านมา Supply คอนโดบริเวณริมถนนพหลโยธินตอนต้นนั้นแทบจะไม่มีเกิดขึ้นมาเลย โดยส่วนใหญ่แล้วมักจะไปตั้งอยู่ในซอยย่อย และยิ่งหากไปดูคอนโด Low Rise ในซอยย่อยบริเวณอารีย์ก็จะพบว่ามีราคาขายที่เกินกว่าตารางเมตรละแสนเจ็ดเข้าไปแล้ว โดยคอนโดที่กำลังสร้างอยู่ที่เป็น High Rise ริมถนนใหญ่มีรัศมีพอที่จะทาบได้ก็มีเพียงแค่ Noble Around Ari ที่มีราคาขายพอๆกันกับ Ideo Q Phahol – Saphan Khwai จริงอยู่ที่ในอดีตนั้นเราสามารถหาคอนโดริมถนนช่วงสะพานควายได้อย่างง่ายๆ แต่โครงการเหล่านั้น ไม่ว่าจะเป็น Urbano Signature, The Editor, Onyx, Ideo Mix Phaholyothin ก็ล้วนแต่มีอายุพอสมควร ต้องไปหาซื้อห้องรีเซลในราคาที่สูงขึ้นเกินกว่าตารางเมตรละ 170,000 บาท และโครงการสร้างใหม่ที่เกิดขึ้นมาจากนี้ไปก็ล้วนแต่ไปตั้งอยู่บนถนนสายรองอย่างประดิพัทธ์ อินทรามระ หรือเลยไปทางช่วงจตุจักร – ห้าแยกลาดพร้าวทั้งสิ้น ซึ่งถ้าลองมา Weight ในเรื่องของราคากับทำเลดู ย่านประดิพัทธ์ราคาอาจจะถูกกว่าประมาณตารางเมตรละห้าหมื่นบาทแต่ก็ต้องแลกกับการเดินทางที่ลำบากขึ้นมาหน่อย เพราะไม่ใกล้รถไฟฟ้า ส่วนย่านห้าแยกลาดพร้าวก็ดูจะเลยช่วงพหลโยธินตอนต้นไปแล้ว ซึ่งใครที่ไม่คุ้นชินกับชีวิตในช่วงลาดพร้าว-รัชโยธินก็คงทำใจลำบากในการเดินทางด้วยรถยนต์

 

นอกจากนี้ ในอนาคตข้างหน้าบริเวณย่านสะพานควายก็จะมี Story ที่ค่อนข้างจะมี Impact ต่อเหล่านักเดินทางประเทศ Business Traveler ทั้งชาวไทยและต่างชาติพอสมควร เนื่องจากอยู่ห่างเพียงแค่ 3 สถานีจากบางซื่อ แกรนด์ อินเตอร์เช้นจ์ ที่น่าจะกลายเป็นหมุดหมายสำคัญสำหรับการคมนาคมทางรางที่จะเชื่อมต่อทั้งในกรุงเทพ ไปยังต่างจังหวัด จนไปถึงประเทศใกล้เคียงอื่นๆ ในระยะเวลาอันรวดเร็วขึ้น หรือหากเอาแค่ในปัจจุบัน การได้อยู่คอนโดที่มีบันไดทางขึ้นรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพชั้นในมาเกยอยู่หน้าโครงการ และเป็นเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่เป็น Backbone ของชาวกรุงเทพฯ แถมถัดไปไม่กี่ก้าวก็มีทั้งโรงพยาบาล และห้างขนาดใหญ่อยู่พร้อมสรรพก็ดูจะมีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าพอสมควร

ทั้งนี้ในส่วนของทิศทางการพัฒนาโครงการอสังหาฯในอนาคตของย่านพหลโยธินตอนต้นช่วงอารีย์ – สะพานควาย นั้น จากข้อมูลจากบริษัท เน็กซัส พรอพเพอร์ตี้ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด ได้ชี้ให้เห็นว่าโครงการประเภท Commercial & Office Building และ Mixed Use ที่เกิดใหม่ น่าจะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยยกระดับย่านสะพานควายให้กลายเป็นศูนย์กลางธุรกิจเกิดใหม่ จากเดิมที่หน่วยงานธุรกิจดั้งเดิมส่วนใหญ่มักจะอยู่ในช่วงอารีย์เป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็น ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (เอ็กซิมแบงค์), ธนาคารออมสิน (สำนักงานใหญ่), สำนักงาน กสทช., ธนาคารกสิกรไทย สำนักงานใหญ่, เอไอเอส ทาวเวอร์ เป็นต้น ยังมีอาคารสำนักงาน เกรด A แห่งใหม่บนถนนพหลโยธิน อีก 3 อาคารที่เพิ่งเปิดใช้งาน ได้แก่  1. Pearl Bangkok อาคารสูง 25 ชั้น แลนด์มาร์คแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ 2. Ari Hill อาคารมิกส์ยูส สูง 34 ชั้น ที่มีทั้งอาคารออฟฟิศ ร้านค้า และโรงแรม 3. SC Tower อาคารสูง 24 ชั้น คาดการณ์ว่าจะมีผู้ทำงานในทั้ง 3 อาคารนี้ประมาณ 3,733 คน, 1,500 คน และ 817 คน ตามลำดับ หรือรวมแล้วประมาณ 6,050 คน อีกทั้งยังมีโครงการใหญ่อื่นๆ ที่กำลังก่อสร้างและคาดการณ์กำหนดแล้วเสร็จภายในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ได้แก่ 1. The Rice อาคารมิกส์ยูส สูง 24 ชั้น มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท 2. โรงพยาบาลวิมุตติ ในเครือพฤกษา ที่มีมูลค่าโครงการ 5,000 ล้านบาท โดยมีกำหนดแล้วเสร็จในปี 2020 ทั้ง 2 โครงการ 3. อาคารวานิช เพลส ของกลุ่มแหลมทองสหการ เป็นออฟฟิศ 31 ชั้น และคอมมูนิตี้มอลล์ที่มีกำหนดแล้วเสร็จในปี 2021 การผุดขึ้นของอาคารสูงระดับไฮเอนด์เหล่านี้อย่างต่อเนื่องเป็นการตอกย้ำว่าย่านอารีย์ – สะพานควาย ยังคงเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจที่ผสานกับเสน่ห์ของไลฟ์สไตล์ดั้งเดิม จนทำให้คนรุ่นใหม่ อยากเข้ามาใช้ชีวิตในย่านนี้มากขึ้น คลิกเพื่ออ่านบทความ จับตาดู อารีย์-พหลโยธิน ย่านเก่าร่วมสมัย ศูนย์กลางสำคัญแห่งใหม่ สำหรับชีวิตติดเมือง

จากเหตุผลดังกล่าวก็ย้อนกลับมาที่ Attribute หลักของโครงการในการที่เป็นคอนโด High Rise ในแบบ Iconic Building ที่อยู่ติดบันไดสถานีรถไฟฟ้าเพียงแค่โครงการเดียวในย่านพหลโยธินตอนต้นล่ะครับ (Noble Around Ari และ The Monument Sanampao ที่มีราคาพอๆกันแต่ก็ไม่ได้อยู่ติดบันไดสถานีรถไฟฟ้าขนาดนี้) ว่าด้วยเหตุผลในด้านทำเลที่ตั้งก็น่าจะเหมาะสมล่ะครับสำหรับราคานี้ในยุคสมัยนี้ แต่หากใครที่จะซื้อไว้ลงทุนระยะสั้นก็คงจะไม่เหมาะเท่าไหร่ เนื่องจากโครงการมี 3 อาคาร และมีราคาขายที่ไม่เท่ากัน มีกลุ่มลูกค้าที่แตกต่างกันไป จึงเชื่อว่าลูกค้าประเภท End User น่าจะรอความชัดเจนในเรื่องของกลไกราคาทั้ง 3 อาคารเพื่อเช็คให้ชัวร์ก่อนซื้อครับ ทั้งนี้การวางคอนเซปท์ให้โครงการมีความเป็น Sustainability หน่อยๆก็ดูจะเป็นการหยั่งเชิงของอนันดาฯในการที่จะก้าวมาเป็นผู้เล่นคนต่อไปในตลาด Well Building คอนโดในโครงการลำดับถัดๆไปมากกว่าครับ แต่ถึงอย่างไรที่นี่ก็มีการน้อมนำเอาหลัก Well being มาใช้ค่อนข้างมากกว่าโครงการที่ผ่านๆมาของอนันดาฯเช่นกัน

 

ถึงจะมีราคาเฉลี่ยต่อตรม.ที่เป็น New High แต่ห้องส่วนใหญ่ของที่นี่ก็เป็นห้องขนาด Compact แถมมีห้องมุมที่เป็นห้องขนาดเล็กด้วยหลายห้อง ราคารวมจึงออกมาเป็นที่พอรับได้ของคนชั้นกลางค่อนมาทางด้านบนที่มีงบประมาณในการซื้อคอนโดในหลักไม่เกิน 7 ล้านบาทครับ…การจัดวาง Space ของห้องตัวอย่างอาจจะดูต้องใช้จินตนาการมากกว่าปกตินิดนึง แต่ก็เป็นเรื่องที่สร้างความหวือหวาได้เป็นอย่างดีครับ ห้องตัวอย่างทั้ง 3 ห้อง พร้อมรอให้คุณเข้าไปสัมผัสกับประสบการณ์ของการเป็น Super Star ได้แล้ววันนี้ ที่ Qrator Club ศูนย์เมตรจากสถานีสะพานควาย

 

ผู้สนใจสามารถลงทะเบียนเพื่อรับข้อมูลข่าวสารและนัดหมายเพื่อเข้าชมโครงการได้ที่ http://bit.ly/2Zd5MS4



เกริก บุณยโยธิน

เกริก บุณยโยธิน

ผู้ก่อตั้งเวปไซต์แบ่งปันความรู้ด้านการตลาด และการสร้างแบรนด์ในวงการอสังหาฯ พร็อพฮอลิค ดอทคอม..หลังจากที่ใช้เวลามากกว่า 10 ปี ในการวนเวียน เข้าๆออกๆ ในสายงานด้านการตลาด และวางแผนกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ ของบริษัทอสังหาฯ และเอเยนซีโฆษณาชั้นนำหลายแห่ง (โดยที่ไม่รู้ว่าทำไมต้องจับสลากเจอลูกค้าสายอสังหาฯทุกที)...จนถูกครอบงำโดยจิตใต้สำนึก ให้ถีบตัวเองออกจากกรอบการทำงานแบบเดิมๆ เพื่อออกมาจุดประกายความคิดที่ถูกต้อง และนำเสนอมุมมองใหม่ๆ ให้กับกลุ่มคนที่สนใจในธุรกิจอสังหาฯ

เว็บไซต์


PropScore™ 4.0

SCORE:
0.0
From : 1 รีวิว




0.0

ดูคะแนนและ Comment ทั้งหมด


ข้อเท็จจริง และความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน ระหว่างอสังหาฯรูปแบบ Freehold และ Leasehold

ในปีนี้เราจะมีโอกาสได้เห็นโครงการ Leasehold ที่กำลังจะสร้างเสร็จพร้อมอยู่หลายที่ครับ และก็ในหลายระดับราคาด้วย ไม่ว่าจะเป็น ONE Bangkok Residence (Tentative Name), AMAN Nai Lert Bangkok, Thirty Thre... อ่านต่อ

17 April, 2024



คัดสรรให้! งบ 7 ลบ. ก็หาซื้อคอนโดหรูพร้อมอยู่ในย่านพร้อมพงษ์ – ทองหล่อ – เอกมัย ได้

หลังจาก ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมท... อ่านต่อ
12 April, 2024

เคาะแล้ว! แพคเกจกระตุ้นตลาดอสังหาฯ โดยกระทรวงการคลัง

สืบเนื่องมาจากข้อมูลของกระทรวงการคลังที่รายงานครม.ไปว่าในช่วงไตรมาสสี่ของปีที่ผ่านมา ภา... อ่านต่อ
10 April, 2024

มาร่วมออกแบบโครงการให้โลกจำเป็นตำนาน ด้วยสูตรลับที่ตกผลึกมาจากประสบการณ์หลากหลายมุมมอง กับหลักสูตรสำหรับคนฝันใหญ่ “Iconic Xperience 2”

ในการพัฒนาโครงการอะไรก็แล้วแต่ แน่นอนว่าเป้าหมายหลักของผู้พัฒนาโครงการก็น่าจะเป็นในเรื่... อ่านต่อ
1 April, 2024

สอบถามโครงการ

ได้รับข้อมูลเรียบร้อยแล้ว
ขอบคุณอย่างยิ่งที่สนใจครับ
จะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับไปนะครับ

ขออภัย
ไม่สามารถส่งข้อมูลได้
กรุณาลองใหม่อีกครั้ง