CULTURE Chula

  

คัลเจอร์ จุฬา


ในย่านพระรามสี่ โดยเฉพาะแถวๆ สามย่าน สีลม ทาง Ananda ปูพรมสร้างโครงการมีแบรนด์คอนโดมิเนียมใกล้รถไฟฟ้า ที่ครอบคลุมหลายเซกเมนต์แล้ว ทั้งแบรนด์ Ideo, Ideo Q, Ashton ดังนั้นเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าที่มี psychological demand ที่แตกต่างกันทาง Ananda จึงมองว่าแบรนด์ Culture ที่เกิดขึ้นมาใหม่นี้เพื่อเติมเต็มความต้องการของกลุ่มผู้อยู่อาศัย

ต่อทอง ทองหล่อ เมื่อ 26 October, 2022 เวลา 13.49 pm

Prop score™: 3.8

คะแนนรีวิว: 0.0

0 รีวิว


ประกาศที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา



    ข้อมูลโครงการ

ชื่อโครงการ

CULTURE Chula

บริษัทผู้สร้าง

Ananda Development PLC

สถานที่

ถนนสุรวงศ์และถนนพระราม 4

สถานีรถไฟ BTS

BTS ศาลาแดง Distance 290 m.

สถานีรถไฟใต้ดิน

MRT สามย่าน Distance 350 m./MRT สีลม Distance 290 m.

Airport Rail Link

-

สถานี BRT

-

พื้นที่

2-1-66.20 ไร่

ชั้น

32 ชั้น

ยูนิต

612 ยูนิต

ที่จอดรถ

248 คัน / EV Charger 5 จุด

ลิฟท์

ลิฟต์โดยสารแบบล็อกชั้น 4 ตัว, ลิฟต์บริการ 1 ตัว

สิ่งอำนวยความสดวก

Lobby, Mailbox, Delivery Room, Co-Working Space, Co-Working Space, Video Call Booth, Meeting Room, Laundry Room, Co-Kitchen Space, Theatre Room, Live Studio, สระว่ายน้ำ, Sky View Garden, Living Area, Sauna, Fitness, Rooftop, C-Sky Terrace, Sensory Urban Faming, Breath Pods


    ประเภทยูนิต

ประเภท

CONDO/คอนโด High Rise

studio

-

1 bedroom

1 Bed 1 Bath 25.00 ตร.ม., 1 Bed Plus 1 Bath 25.00 ตร.ม., 1 Bed Plus 1 Bath 33.00 ตร.ม.

2 bedroom

2 Bed 1 Bath 32.50 ตร.ม., 2 Bed 2 Bath 42.50 ตร.ม., 2 Bed 2 Bath 1 Powder 48.00 ตร.ม.

3 bedroom

-

Duplex

-

Penthouse

-

ประเภทอื่นๆ

-

ความสูงจากพื้นถึงเพดาน

4.3 เมตร

ราคาเริ่มต้น / ตรม.

316,000 บาท/ตร.ม. (คิดหารเฉลี่ยเฉพาะพื้นที่ชั้นล่าง ไม่รวมชั้นลอย กรุณาสอบถามพนักงานขายอีกครั้ง)

ราคาเริ่มต้น / ยูนิต

7.9 ล้านบาท

ค่าส่วนกลาง

n/a

Sinking Fund fee

99 บาทต่อตรม.ต่อเดือน (คิดเฉพาะพื้นที่ชั้นล่าง)

สร้างเสร็จ

คาดว่าแล้วเสร็จประมาณ พ.ย. 68

เว็บไซต์

https://anan.ly/3r0DLgl

02-316-2222


เพื่อนบ้าน Street View


รีวิวห้องตัวอย่าง CULTURE Chula คอนโดกระแสแรงที่สุดแห่งปี 2022

 

ทำไมตลาดคอนโดมิเนียมใจกลางเมืองถึงกลับมา comeback ในปี 2022

ช่วงต้นไตรมาส 4 (เดือนตุลาคม-ธันวาคม) ของปี 2022 นี้ถือว่าเป็นช่วงที่ตลาดคอนโดมิเนียมกลับมาคึกคักที่สุดในรอบ 2 ปีกว่าๆ ดูได้จากการกล้าทยอยกันเปิดโครงการใหม่รับการเปิดเมืองของดีเวลลอปเปอร์หลายๆ ราย อีกทั้งวิถีชีวิตของคนเมืองก็ถึงคราว เปลี่ยนไปอีกครั้ง จากที่เปลี่ยนมาแล้วในช่วงโควิด ที่ใครๆบอกว่าเป็น New Normal แต่จริงๆ แล้วในมุมมองของเจ้าพ่อคอนโดใกล้ รถไฟฟ้าในเมืองอย่าง Ananda ที่มอบคุณภาพชีวิตดีๆ ที่ตอบโจทย์คนเมือง มองว่าที่ผ่านมาคือ Ab Normal ซึ่งก็คือการที่คนเมือง มีพฤติกรรม Exodus to Remote area ย้ายออกจากใจกลางเมืองไปซื้อบ้านทาวน์โฮมนอกเมืองเพื่อต้องการพื้นที่เปิดโล่ง มีสวน มีพื้นที่กิจกรรมรองรับการทำงานจากที่ไหนก็ได้ แต่พอทุกสิ่งเริ่มกลับคืนเป็นปกติ “ยังไงเมืองก็คือเมือง” ใจกลางเมืองคือสถานที่ๆ ทุกคนยังคงต้องวนเวียนเข้ามาเพื่อทำกิจกรรมอะไรสักอย่างที่จำเป็นต่อชีวิต

 

แม้บางคนจะย้ายบ้านออกจากใจกลางเมืองไปชานเมืองเพื่อหนีปัญหาหลักๆ อย่างเช่น การจราจรติดขัด รถติด น้ำท่วมรอระบาย ผู้คนรอรถสาธารณะมากมาย ฯลฯ แต่อาจจะพบกับความจริงที่ว่าชานเมืองไม่ได้สะดวกสบายขนาดนั้น แม้ตัวจะอยู่ชานเมืองแต่ก็ไม่มีเวลาทำสิ่งที่ตัวเองเคยวาดภาพไว้ว่าอยากจะทำที่บ้านชานเมือง ทั้งทำสวนเอย ปลูกผักเอย ทำอาหารเอย เพาะต้นไม้ ขายของออนไลน์ ฯลฯ เพราะความจริงแท้คือต้องเสียเวลาเกือบทั้งวัน ไปกับการเดินทาง เข้ามาใจกลางเมืองเพื่อหาสิ่งที่ต้องการอยู่ดี จุดตรงนี้เองที่ทำให้เกิดปรากฏการณ์ความคิดที่ขัดแย้งกันหรือ Paradoxical Thinking ที่ว่า “ชานเมือง…ก็อยากอยู่นะ…แต่เอาเข้าจริงๆ ก็อยู่ไม่ได้ มันไม่สะดวกในบางอย่าง…จึงต้องมาอยู่ในเมือง…แต่พอมาอยู่ในเมืองก็รู้สึกดีนะ…แต่บางทีก็อยากกลับไปชานเมืองด้วยอะ” เป็นความคิดขัดแย้งกันไปมาในหัวสมองของเราแบบนี้ตลอดเวลา

 

เพราะปรากฏการณ์ทางความคิดดังกล่าวทำให้เทรนด์การมองหาที่อยู่อาศัยเริ่มเปลี่ยนกลับไปกลับมา หลายคนต้องหันกลับมาซื้อคอนโดมิเนียมไว้เป็น second home หรือบ้านใกล้ที่ทำงานในช่วงวันจันทร์ถึงศุกร์ (Weekday) โดยบ้านที่ชานเมืองก็ซื้อเอาไว้เปลี่ยนเป็นอยู่ช่วงสุดสัปดาห์ (Weekend) แทน

 

หลายคนหันกลับมาซื้อคอนโดเพราะ “ในเมื่อมีที่เดียวไม่โอเค ก็จัดไปทั้งสองโลเคชั่นซะเลย”

 

นอกจากนี้ความคิดของคน Local ที่เปลี่ยนไปแล้ว ก็ยังมีกำลังซื้ออสังหาฯ จากชาวต่างชาติที่เริ่มกลับมาเพราะการเดินทางท่องเที่ยวที่กลับมาเปิดทำการแล้ว จึงเป็นโอกาสของ Ananda อีกครั้งพร้อมกับการเปิดตัวแบรนด์ใหม่ชื่อว่า “Culture”

 

Culture แบรนด์ใหม่จาก Ananda

ในย่านพระรามสี่ โดยเฉพาะแถวๆ สามย่าน สีลม ทาง Ananda ปูพรมสร้างโครงการมีแบรนด์คอนโดมิเนียมใกล้รถไฟฟ้า ที่ครอบคลุมหลายเซกเมนต์แล้ว ทั้งแบรนด์ Ideo, Ideo Q, Ashton ดังนั้นเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าที่มี psychological demand ที่แตกต่างกันทาง Ananda จึงมองว่าแบรนด์ Culture ที่เกิดขึ้นมาใหม่นี้เพื่อเติมเต็มความต้องการของกลุ่มผู้อยู่อาศัย ประเภทหนึ่งที่มีความต้องการในการอยู่อาศัยที่แตกต่างออกไป โดยความเป็น Culture จะเน้นในเรื่องของการมองหา Neighborhood Community ในแบบคนคอเดียวกัน และเป็นศูนย์รวมคนที่ใส่ใจในเรื่องของการอยู่อาศัยแบบยั่งยืน (Sustatinable Living) ไม่ใช่การต่างคนต่างอยู่โดยที่ไม่ได้มีกิจกรรมหรือทำสิ่งต่างๆ contribute อะไรให้ส่วนรวม หรือสิ่งแวดล้อมเลย

 

แบรนด์ Culture เป็น Luxury Brand สื่อถึงความหรูหราตามนิยามใหม่ที่ไม่ใช่หรูหราด้วยวัตถุอลังการ แต่คิดมุมกลับไปยังการมุ่งเน้นว่าความหรูหราคือ peace of mind หรือสภาพจิตใจที่สงบเป็นสุขแบ่งปันแก่ส่วนรวม ซึ่ง Ananda พยายามจะนำเสนอออกมาเอาใจคนกลุ่มใหม่นี้ จึงเป็นที่มาของการออกโครงการภายใต้แบรนด์ Culture

 

หากท่านอยากรู้ลึกเกี่ยวกับแบรนด์ Culture คลิกอ่านที่นี่เพิ่มเติมครับ

 

จากภาพ INFOGRAPHIC ด้านล่างจะเห็นได้ว่า พื้นที่โซนพระรามสี่ สามย่าน ใกล้สีลม เป็นบริเวณที่ใครเปิดขายคอนโดมิเนียมก็ขายดีขายหมด และราคาขายต่อได้ราคางดงาม นักลงทุนปล่อยขายปล่อยเช่าต่างก็ยิ้ม คนซื้ออยู่เองก็แฮปปี้เพราะบางทีซื้ออยู่เองก็คุ้มกว่าเช่า ถ้าไม่อยู่จะขายต่อกำไรดี ยิ้มกว้างกันทุกคน

เหตุผลแฮปปี้แบบนี้เป็นเพราะดีมานด์จากสถาบันการศึกษารอบๆ ต่างๆ ทุกระดับชั้นต่างก็นำพาคนใหม่ๆ เข้ามายังพื้นที่นี้อยู่ตลอดเวลา นอกจากกลุ่มนักเรียน นิสิต นักศึกษาก็ยังมีคนวัยทำงานและกลุ่มครอบครัวที่เติบโตขึ้นมาใหม่และต้องการที่อยู่อาศัยสะดวกสบายใจกลางเมือง นอกจากนี้ยังมีกลุ่มผู้สูงอายุที่ต้องการความอุ่นใจ อยากอยู่ใกล้โรงพยาบาลคุณภาพสูงในย่านนี้ด้วย

จากภาพข้างต้นจะเห็นว่า Culture Chula ไม่ใช่คอนโดมิเนียมที่ทำราคาขายออกมาเพื่อแข่งกับตึกอื่นแน่ๆ แต่ Culture Chula เป็นคอนโดมิเนียมราคาสูงที่จับกลุ่มผู้คนที่มีไลฟ์สไตล์แบบ Differntiate Luxury หรูหราในแบบที่แตกต่างจากนิยามทั่วไป ดังนั้นคนที่เลือกอยู่ใน Culture Chula ก็จะไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไปครับ แต่จะเป็นคนที่คำนึงเรื่องสิ่งแวดล้อม แคร์ในเรื่องที่คนอื่นอาจจะยังไม่แคร์ และที่ Culture Chula ก็เปิดเพื่อต้อนรับ Community สำหรับคนที่คิดเหมือนกันเข้ามาอยู่ในที่เดียวกัน

 

Why Culture Chula?

เหตุผล 6 ข้อ ว่าทำไมเลือกโครงการ Culture Chula คือคำตอบที่ใช่เพียงหนึ่งเดียว

ข้อที่ 1 โครงการ Culture Chula นี้เป็นคอนโด Freehold แห่งใหม่แห่งเดียว ในย่านนี้ที่แทบจะเป็นที่ดินผืนสุดท้ายที่ตั้งอยู่ริมถนนใหญ่พระรามสี่ – สุรวงศ์ ใกล้จุฬาฯ ที่สุด ทำเลที่ดีที่สุดของ Chula District (ประมาณ ถ.ราชดำริ ถึง ถ.บรรทัดทอง) พูดง่าย ๆ คือ ถ้าทำงานย่านสีลม-สยาม-สามย่าน หรือ ลูกเรียนจุฬา ฯ จะสะดวกสบายที่สุดแถมยังได้เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์จริง ๆ ไม่ใช่ Leasehold อย่างตึกอื่น ๆ ในย่านนี้ที่ได้แค่เหมือนเป็นผู้เช่าระยะยาว 30 ปี

 

ข้อที่ 2. ทำเลดีก็ต้องหมายถึงการเดินทางที่สะดวก แน่นอนว่า โครงการ Culture Chula นี้ พิเศษพรีเมี่ยมกว่าใคร เพราะใกล้ทั้ง 350 เมตร จาก MRT สามย่าน 290 เมตร จาก MRT สีลม และ BTS ศาลาแดง เท่ากับว่า connect การเดินทางได้ครบ loop ทั่วกรุงเทพ ทั้งเหนือใต้ออกตก จะทำงานฝั่งไหน นัดมีตติ้งกับใครก็ไปได้ทั่วไม่ต้องกลัวรถติด หรือถ้าจะใช้รถก็มีทางด่วนให้ขึ้นไม่ไกล ทั้งบ่อนไก่-พระรามสี่ หรือ สะพานเหลือง-หัวลำโพง

 

ข้อที่ 3.แน่นอนว่าอสังหาฯ จะดีหรือไม่นั้น อีกข้อพิสูจน์หนึ่งคือ ความต้องการทั้งเช่าและซื้อขาย ทำเลโซนนี้มี demand การเช่าและการซื้อต่อหมุนเวียนต่อเนื่องค่อนข้างมาก และเป็น demand  ที่มักเลือกของที่ไม่ธรรมดาสามัญแต่ยินดีจ่ายแพง เพื่อให้ได้ความพิเศษทั้งสะดวกและปลอดภัย กลุ่มพ่อแม่ผู้ปกครองเด็กนักเรียนโรงเรียนดัง สาธิตจุฬาฯ สาธิตปทุมวัน โรงเรียนเตรียมฯ หรือ เซนต์โยคอนแวนต์ และนิสิตจุฬาฯ ที่มีการผัดเปลี่ยนหมุนเวียนตลอด ถ้าเป็นการซื้อลงทุนปล่อยเช่า การเช่าก็ได้ระยะยาว 3-6 ปี เช่ากันไปยาวๆ และกลุ่มคนทำงานในโซนไข่แดงของกรุงเทพเงินเดือนสูง รักความสบายไลฟ์สไตล์เมืองหลวงพร้อมที่จะลงทุนเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี ซึ่งเมื่อวิเคราะห์แล้วด้วย supply ที่น้อย และ demand ที่มีจำนวนมาก ก็จึงไม่แปลกใจว่าทำไม Culture Chula ถึงตอบโจทย์ว่าลงทุนทั้งอยู่เองหรือปล่อยเช่าก็ดีไปหมด ทำเลนี้ ถือเป็น All-time favourite ของทั้งนักลงทุนและผู้อยู่อาศัยจริง ดูได้จากผลงานที่ผ่านมาของอนันดาในย่านนี้

 

ข้อที่ 4. มาถึงเรื่องความพิเศษภายในโครงการ คือ เลย์เอาท์ห้องเป็นแบบ Hybrid เพดานสูง 4.3 เมตรทั้งหมดทุกยูนิตในโครงการซึ่งในซีรีส์ใหม่นี้ที่ไม่เคยมีมาก่อน ให้รู้สึกโล่งโปร่งสบายไม่เหมือนคอนโดธรรมดาอื่น ๆ ทั่วไป ให้ความรู้สึกเหมือนบ้านมากกว่า แต่อยู่ใจกลางเมืองสะดวกสบายกว่าบ้านชานเมืองไกลๆ และยังเหมาะกับไลฟ์สไตล์ของกลุ่มคนรุ่นใหม่

 

ข้อที่ 5. โครงการ Culture Chula นี้ ดูแลบริหารให้บริการแบบ World Class Service จาก The Ascott Limited ซึ่งมีประสบการณ์การให้บริการระดับโลก ผู้อยู่อาศัยจะได้ประการณ์ที่พิเศษพรีเมียมแน่นอน เหมือนซื้อคอนโด แต่กลับได้ไลฟ์สไตล์คล้ายอยู่โรงแรม ถ้านึกไม่ออกว่าต่างกันยังไง ให้ลองนึกถึงว่าคอนโดอื่นเปิดเข้ามาก็จะไม่มีกลิ่นอะไร แต่ถ้าอยู่ Culture Chula จะได้สัมผัสกับรูปรสกลิ่นเสียง Aroma หอมๆ ทักทายเราตั้งแต่เข้ามา

นี่แหละครับ ความต่างก็จะประมาณนี้ครับ น่าสนใจดี และที่สำคัญโครงการจะได้รับการดูแลเป็นอย่างดี ไม่ดูทรุดโทรม อย่างน้อย 10 ปี

โดยบริการจาก The Ascott Limited จะมีทั้งการดูแลจัดการอาคาร Concierge ความปลอดภัย รักษาความสะอาด และกิจกรรมลูกบ้าน นอกจากนี้ยังมีบริการในแบบ On-Demand Activity สำหรับผู้ที่ต้องการตอบสนองความต้องการพิเศษในแบบของตัวเอง ทั้งทำความสะอาดภายในห้อง ซักอบรีด และบริการซ่อมบำรุงอุปกรณ์ภายในห้อง

 

ข้อที่ 6. แบรนด์ Culture นี้ ได้คิดออกแบบเพื่อ new Tribe of urban living ในหลายด้าน ทั้งกิจกรรมและพื้นที่ส่วนกลางตลอด 24 ชม. ในส่วนของ Co-Working Space / Live Studio / Video call booth เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมืองหลวงที่ใช้เวลาได้อย่างคุ้มค่าและอิสระ สามารถทำงาน ขายของออนไลน์ หรือประชุมงานได้ทุกเวลาที่สะดวก และไม่ต้องกังวลว่าจะกลับมายิมไม่ทัน จุดนี้โครงการคิดแก้ปัญหามาให้เรียบร้อย

 

Culture Chula เป็นคอนโดมิเนียมที่ไม่ใช่การตีความคำว่า Luxury แบบทั่วไปที่เคยนิยมกันในอดีต เช่น การยกแบกเอาหินอ่อนที่แซะจากภูเขาหินธรรมชาติมาแปะโชว์บนผนังว่า “นี่ไง หินอ่อนไง สวยและหรูหราใช่ไหมละ” แต่คน Culture จะบ่ายเบี่ยงหน้าแล้วบอกว่า “หินอ่อนที่ว่าหรู หรือจะสู้ความสบายทุกสภาวะกายและจิต” เพราะฉะนั้นความหรูหราในแบบคน Culture จะมองว่าหรูต้องมาพร้อมด้วยบริการ Luxury in Service ความหรูหราคือการใช้ชีวิตยังไงให้มี peace of mind สงบ ไม่หงุดหงิด และไม่เกิดภาระกับสิ่งแวดล้อมอีกด้วย ซึ่งเป็นการพลิกแนวคิดจากเดิมไปเลย ดังนั้น หรูแบบ Culture จึงไม่สามารถเทียบกับหรูแบบเดิมๆ ได้อีก

 

Factsheet

Culture Chula (คัลเจอร์ จุฬา) ตั้งอยู่บนถนนพระราม 4 (คลิกดูพิกัดในแผนที่ Google Maps ที่นี่ https://goo.gl/maps/ozBAX8iubTmHEsmt9 ) เป็นคอนโดมิเนียมสูง 32 ชั้น ตั้งบนที่ดินขนาด 2 ไร่ 1 งาน 66.20 ตารางวา มีจำนวนห้องพัก 612 ยูนิต ร้านค้าอีก 2 ห้อง มีที่จอดรถมากเพียงพอตามกฎหมายกำหนดที่ 248 คัน พร้อม EV Charger 5 ช่อง มีลิฟต์ 4 ตัว ลิฟต์บริการ 1 ตัว

ทำเลอยู่ใจกลางเมือง ที่หลายคนอยากได้

ภาพวิวทิศต่างๆ เริ่มจากชั้นเตี้ย กลาง สูง ไล่จากจากซ้ายไปขวา คือทิศใต้ ตะวันตก เหนือ ตะวันออก จะเห็นว่าโซนทิศใต้และทิศตะวันออกก็โล่งดีครับ ส่วนทิศเหนือก็เป็นวิวที่ไม่น่าจะมีการเปลี่ยนแปลงแล้วเพราะติดถนนใหญ่ ทิศที่น่าสนใจเรื่องราคาดีคือทิศตะวันตกครับ

ภาพแสดง orientation การวางตัวของอาคารครับ ฝั่งที่จะโดนบังวิวคือตะวันตก แต่ถ้าซื้อห้องชั้น 10 ขึ้นไปก็น่าจะพ้นการบังครับ ดังนั้นซื้อสูงๆ ไว้ดีกว่าครับ ส่วนใครอยากได้ห้องไว้ใช้งานเฉยๆ หรือเป็นคนไม่สนใจวิวเพราะอยู่ห้องก็ดูแต่หนัง ดูทีวี ก็ต้องเลือกชั้นเตี้ยๆ ครับเพราะราคาดีกว่า

ใครเห็นภาพด้านล่างนี้แล้วบอกว่า อู๊ย ทำไมตึกบังเยอะจัง ก็จะขอปรับความเข้าใจก่อนว่า ที่นี่คือใจกลางเมืองครับ ไม่ใช่ทุ่งหญ้าสวยงามแต่ไร้สิ่งอำนวยความสะดวก ดังนั้นถ้าชอบความสะดวกสบาย อยากมีอะไรรอบข้างใช้งานง่ายๆ เดินแป๊บเดียวถึง เราก็ต้องไม่ซีเรียสกับการมีตึกรอบข้างครับ อย่าลืมครับว่าย่านนี้มีทุกอย่างที่ต้องการจริงๆ ทั้งห้าง ตลาด โรงเรียน มหาวิทยาลัย โรงพยาบาล วัด ออฟฟิศ รถไฟฟ้า ทางด่วน สวนสาธารณะ เรียกได้ว่า เกิดแก่เจ็บตาย มีครบทุกสิ่งจริงจัง ซื้อไว้รอบเดียว แต่ใช้ได้ตั้งแต่รุ่นเราถึงรุ่นลูกหลานเหลนลื่อลืบลืด สืบทอดไกลขนาดนั้นเลยละครับเพราะเป็นกรรมสิทธิ์แบบ freehold

 

Floor Plan

ต่อไปจะขอกล่าวถึงลักษณะเด่นของแต่ละชั้นนะครับ

 

อยากให้ดูภาพ gif เคลื่อนไหวอันนี้ก่อนครับ จะได้เห็นภาพรวมทั้งหมด

ชั้น 1 มีทางเข้าหลักรถยนต์เข้าออกได้ มีถนนปูชิดรอบโครงการ ข้างหน้าเป็นสวนติดถนนพระราม 4 นอกจากนี้มีพื้นที่สีเขียวและทางเดินสำหรับคนเดินออกไปยังถนนสุรวงศ์อีกด้วย ถ้าเข้าไปในอาคารก็จะมีโถง Lobby ห้องนิติบุคคล ห้องตู้จดหมาย และพื้นที่สำหรับร้านค้า

และชั้นลอย หรือชั้น M จะมีห้องทำงานเอนกประสงค์ Co-working Space ห้องวีดีโอคอล และโซนซักรีด

ต่อไปขึ้นมาดูที่ชั้น 7 เริ่มเป็นชั้นแรกที่เป็นห้องพักอาศัย มีสวนด้วยนะครับ

ต่อไปเป็นชั้น 8-16 เป็นโซนพักอาศัยทั้งหมด ชั้นนี้จะเป็นแบบเต็ม floor มากที่สุด

มี32 ยูนิตต่อชั้น
และชั้นสูงขึ้นต่อจากนี้ไปจะค่อยๆ ลดจำนวนพื้นที่ลงเพื่อให้เป็นไปตามกฎหมาย setback กับถนนสุรวงศ์ครับ

ชั้น 17 เริ่มมีการลดขนาดพื้นที่จากฝั่งซ้าย

ชั้น 18 ชั้นนี้มี 30 ยูนิตต่อชั้น

จะสังเกตว่าพื้นที่ค่อยๆ โดนกฎหมาย setback กินมาจากทางซ้ายเรื่อยๆ

จะเห็นได้ว่าห้องที่ถูกกินพื้นที่ไปจะเปลี่ยนเป็นสวนพื้นที่สีเขียวแทน ช่วยเพิ่มประโยชน์ในการใช้งานได้ครับ

ชั้น 19

ชั้น 20 ชั้นนี้มี 29 ยูนิตต่อชั้น

ชั้น 21 มีสวนลอยฟ้า

ชั้น 22 ชั้นนี้มี 25 ยูนิตต่อชั้น

ชั้น 23 ชั้นนี้มี 24 ยูนิตต่อชั้น

ชั้น 24 มีสวนลอยฟ้าเช่นกัน

ชั้น 25  ชั้นนี้มี 21 ยูนิตต่อชั้น จะเห็นได้ว่าชั้นยิ่งสูงยิ่งมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้นเพราะจำนวนห้องต่อชั้นน้อยลงนั่นเอง

ชั้น 26 จะเห็นได้ว่าห้องพักทางขวาล่างจะเริ่มถูกกฎหมาย setback กินเข้ามาและเปลี่ยนเป็นพื้นที่สีเขียวแทน

ชั้น 27 ชั้นนี้มีห้องพัก 16 ยูนิต

และจะสังเกตว่าบันไดหนีไฟจะเริ่มเปลี่ยนตำแหน่งแล้วนะครับ

ชั้นที่ 28 จะมีสวนลอยฟ้าขนาดใหญ่กว่าสวนลอยฟ้าชั้นอื่น

ชั้นที่ 29 จะมีจำนวนห้องพักอาศัยน้อยที่สุด เพียง 9 ยูนิตเท่านั้น

ชั้น 30 มี Facility หลายฟังก์ชั่น ได้แก่ห้อง Co-working, Co-Kitchen , ห้องดูหนัง, ห้องประชุม, ห้อง Video Call และ Live Studio

ชั้น 31 มีสระว่ายน้ำสวนส่วนกลางห้องซาวน่าพื้นที่ใช้งานอเนกประสงค์และห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า

ชั้น 32 มีห้องออกกำลังกายพร้อมอุปกรณ์ ออกกำลังกายอย่างเพลิดเพลินชมวิวเมืองสวยๆ

ชั้นดาดฟ้า Rooftop มีสวนส่วนกลางอย่างเช่น C-Sky Terrace, Sensory Urban Farming , Breath Pods

 

Unit Plan

ต่อไปเรามาดูกันว่าห้องแต่ละแบบเป็นยังไงกันบ้าง

ห้องพักทุกห้องของโครงการนี้จะเป็นแบบ Hybrid เพดานสูง 4.3 เมตร นะครับ ซึ่งข้อดีของการมีเพดานสูงขนาดนี้ก็คือมันสามารถที่จะตกแต่งให้มีชั้นลอยที่ใช้ได้จริงด้วย

โดยตามข้อมูลทางการ ลูกบ้านที่ซื้อจะได้โฉนดขนาดพื้นที่ตามรูปขาวดำทางซ้ายมือ เช่น 25 ตารางเมตร แต่ในของจริงเมื่อก่อสร้างเสร็จและมีบริษัทบุคคลภายนอกมาตกแต่งให้แล้ว จะมีขนาดพื้นที่ที่ใช้ได้จริงเพิ่มขึ้น มีบันไดและพื้นที่ชั้นลอยเสมือนได้พื้นที่ห้องแถมขึ้นมานั่นเองครับ (ตามรูปสีทางขวาที่เป็นรูปมีคำว่า upper, lower) ดังนั้นไม่ต้องแปลกใจว่า เอ๊ะ ทำไมพื้นที่ดูเหมือนจะน้อยจัง 25 ตารางเมตรเอง แต่ความจริงคือได้มากกว่านั้นครับ ผมขออภัยถ้าผมอธิบายตรงนี้อาจจะไม่ค่อยชัดเจน ขอเชิญชวนให้ไปดูห้องตัวอย่างจริงที่สำนักงานขาย ท่านจะเห็นภาพได้ดีมากกว่าครับ

 

มาเริ่มกันที่ห้องรูปแบบแรกกันเลยครับ

 

One Bedroom A1 25 ตารางเมตร

จากรูปด้านล่างจะเห็นได้ว่ามีลักษณะเป็นห้องซองลึกเข้าไป ถ้าดูแว๊บแรกเหมือนจะเป็นห้อง Studio แต่อย่าลืมว่าเพดานสูง 4.3 เมตร ทำให้สามารถตกแต่งเพิ่มเติมให้กลายเป็น One Bedroom ได้ครับ โดยชั้นล่างจะเป็นโซน service มีครัว ห้องน้ำ ห้องนั่งเล่น ระเบียง ส่วนพื้นที่ชั้นลอยที่เชื่อมด้วยบันไดเดินขึ้นไปจะเป็นโซนห้องนอนครับ

 

เหมาะกับคนที่อยู่อาศัยคนเดียว หรือสองคน อาจจะเป็นกลุ่มนักเรียน นักศึกษา คนวัยทำงาน คนที่มีแฟน อยู่เป็นคู่แต่ยังไม่มีลูก หรือบางทีอาจจะอยู่กันเป็นครอบครัวก็ได้ เช่น พ่อแม่วัยทำงานนอนชั้นลอยข้างบน ลูกตัวเล็กๆ ก็นอนกลิ้งที่โซฟาเบดชั้นล่าง แบบนี้ก็ได้ หรือจะไปนอนรวมกันชั้นลอยกันทุกคนก็ได้หมด พอลูกโตพ่อแม่ก็ย้ายออกไปอยู่บ้านชานเมืองและยกห้องให้ลูกวัยรุ่นแยกอยู่ไปให้เป็นส่วนตัว จนถึงลูกของลูกก็ยังมาอยู่ได้

เรียกได้ว่าซีนาริโอการอยู่อาศัยได้หลากหลายมากครับ ดังนั้นถือว่าคุ้มที่จะซื้อสุดๆ ครับ เพราะใช้ได้ยาวเป็นหลายสิบๆ ปี

ใครที่คิดว่าคอนโดมิเนียมนี้แพง ลองเอาเงินที่ซื้อหารด้วย 480 เดือน (40 ปี) จะเห็นว่ามันถูกมาก

 

One Bedroom ห้องตระกูล A1 จะมีประมาณ 11 แบบ ซึ่งฟังก์ชันหลักๆ จะเหมือนกันก็คือ เปิดประตูห้องเข้ามาเจอมุมครัวก่อน แล้วก็หันอีกข้างไปจะเจอห้องน้ำ เมื่อผ่านประตูบานเลื่อนครัวไปจะกลายเป็นโซน Living ที่ระเบิดสเปซกว้าง มองขึ้นไปเห็นเพดานสูง มีระเบียงพาดตลอดแนวของจุดรับแสงของห้อง

 

หลังตกแต่งจะมีบันไดเดินขึ้นไปชั้นลอยห้องนอนที่มีประตูและกระจกกั้นเพื่อความเป็นส่วนตัว (ตรงนี้ทำให้มันเรียกว่าเป็น One Bedroom ที่แท้จริงนั่นเอง)

 

ส่วนจุดแตกต่างที่ทำให้ห้องตระกูล A1 นี้ต่างกันนั้นเป็นเพียงจุดเล็กๆ น้อยๆ เช่น ตำแหน่งวางของเสาโครงสร้างตึกที่ต่างกัน หรือแค่ห้องแบบ mirror พลิกซ้ายพลิกขวาต่างกันเท่านั้นครับ ซึ่งทั้งหมด 11 แบบก็มีขนาดตามข้อมูลทางการเท่ากันคือ 25 ตารางเมตรครับ

 

A1

A1M

A1.1

A1.1M

A1W

A1-1

A1-1M

A1-1.1

A1-1.1M

A1-1.2

A1-1.2M

One Bedroom A3 26.5 ตารางเมตร

ห้องตระกูล A3 มีฟังก์ชันเหมือน A1

มีพื้นที่เพิ่มขึ้นมาในส่วน walkin closet ที่ชั้นลอย

One Bedroom A2 25 ตารางเมตร

ห้องนี้แตกต่างจาก A1 เพราะว่าพื้นที่ Void โล่งย้ายมาอยู่โซนครัวแทนครับ

ทำให้โซนลิฟวิ่งไม่ได้สูงโปร่ง แต่จะเป็น stack ซ้อนกันกับโซนนอน
แต่กลายเป็นข้อดีคือโซนห้องนอนชั้นลอยได้อยู่ติดหน้าต่าง แสงแดดส่องเข้าถึงโดยตรง ส่วนชั้นลอยก็มีผนังและกระจกกั้นเป็นส่วนตัวตามปกติครับ

นอกจากนี้โซน Walk in closet จะย้ายมาเหนือห้องน้ำครับ

One Bedroom Plus B1 33 ตารางเมตร

ห้องตระกูล B1 นี้คาดว่าจะขายดีครับ เพราะว่าออกแบบมาอย่างสมดุลระหว่างพื้นที่ที่ใช้จริงได้กับการมีฟังก์ชั่นเพดานสูงครับ

 

benefit ของห้องนี้มีหลายประการ ได้แก่ ครัวแยกย้ายออกไปโซนติดอากาศระบายกลิ่นได้ดี , ห้องนอนชั้นบนมีความเป็นส่วนตัว, มีพื้นที่ void โปร่งสูง, และที่สำคัญมีห้องอเนกประสงค์งอกเพิ่มขึ้นมาที่ชั้นลอยครับ เหมาะกับการทำเป็นห้องทำงาน work from home หรือทำเป็นห้องเก็บของ หรือสามารถเป็นห้องนอนสำรองปูผ้านอนพื้นแบบเกาหลีก็ได้ เรียกได้ว่า ใครชอบแบบห้องที่ใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย ต้องโดนใจกับห้อง One Bedroom Plus ครับ

 

ห้องตระกูล B1 นี้มีหลายแบบ ต่างกันแค่ตำแหน่งเสาโครงสร้าง และ mirror สลับซ้ายขวากันครับ

**Update ตอนนี้มี New Minor Change ของห้องแบบ B1 และ B1-1 ออกมาแล้วครับ

โดยเอาห้องแบบ 1 Bed Plus เฉพาะ B1 ขนาด 33 ตรม. และ B1-1 ขนาด 32.5 ตรม. มาทำ Minor Change ด้วยการปรับเลย์เอาท์ เพิ่มพื้นที่ใช้สอยของชั้นลอยให้มากขึ้นจนเพียงพอที่จะวางเตียงเพิ่มเป็น 2 ห้องนอนได้ครับ ซึ่งเดิมห้อง Type B1 จะมีห้องเอนกประสงค์เพิ่มขึ้นมาที่ชั้นลอย เหนือส่วนครัวปิดติดอากาศครับ ส่วนห้อง Type B1-1 เดิมจะมีห้องเอนกประสงค์เพิ่มขึ้นมาที่ชั้นลอย เหนือส่วนห้องทำงานชั้นล่างครับ ซึ่งถ้าดูจากขนาดพื้นที่แล้วก็น่าจะเหมาะกับการทำเป็นห้องทำงาน work from home หรือทำเป็นห้องเก็บของมากกว่าทำเป็นห้องนอนแบบจริงจังวางตู้เสื้อผ้าได้
การทำ Minor Change แบบนี้เรียกได้ว่าเพิ่ม Value ของห้อง 1 Bed Plus ให้ขึ้นมาเทียบเท่ากับห้องแบบ 2 Bedroom เลยครับ ซึ่งผมว่าได้ฟังก์ชันการใช้งานที่เยอะกว่า ครบคุ้มทุกตารางเมตรเลยนะ เพราะได้ห้องทำงานเพิ่มที่ชั้นล่างสำหรับคนที่เลือก B1-1 และที่ Work มากๆเลยคือ B1 ที่ได้ครัวปิดติดอากาศ ในแบบที่ห้อง 2 Bedroom 2 Bathroom ก็ให้ไม่ได้ แถมพื้นที่หน้าห้องก็ยังกว้างเหลือๆพอที่จะจัดสรรให้เป็นตู้เก็บของ หรือตู้โชว์โมเดล ของสะสมสวยๆ ไว้อวดเพื่อนได้เลยครับ! 
รายละเอียดเพิ่มเติมว่าจะทำชั้นไหนบ้างติดต่อเจ้าหน้าที่โครงการเลยครับ

One Bedroom Plus B3 35.5 ตารางเมตร

พิเศษหายาก มี 1 ห้องต่อชั้น

แตกต่างจากห้องอื่นๆ ที่ตรงทางเข้าครับ และเป็นห้องมุมจึงมีพื้นที่รับแสงสองด้าน

2 Bedroom 1 Bath B2 32.5 ตารางเมตร

ห้องตระกูล B2 เป็นหนึ่งในห้องที่ขึ้นโมเดลห้องตัวอย่างในสำนักงานขายครับ ท่านสามารถไปดูของจริงได้เลย

ห้องแบบนี้จุดเด่นคือมีสองห้องนอน ไม่เน้นความเพดานสูงโปร่งอลังการแต่เน้นไปที่การใช้งานจริง ความเห็นส่วนตัวผมคิดว่าห้องแบบนี้ให้อารมณ์เหมือนบ้านทาวน์เฮาส์เขตเมืองเก่าของภูเก็ตที่มีปล่องกลางบ้าน ดังนั้นห้องแบบนี้จึงให้อารมณ์อบอุ่น Homey เหมือนบ้านครับ

2 Bedroom 2 Bathroom Type C 42.50 ตารางเมตร

เป็นยูนิตห้องมุม ฝั่งทิศเหนือ มี 1ห้องต่อชั้นเท่านั้น ฟังก์ชั่นสำคัญคือสองนอนสองน้ำ มีห้องนอนและห้องน้ำทั้งชั้นล่างและชั้นลอย ถือว่าสะดวกใช้จริงมากๆ ห้องนี้เหมาะกับการอยู่แบบครอบครัว

2 Bedroom 2 Bathroom 1 Powder Room Type D 48-51.50 ตารางเมตร

ห้องนี้เป็นรูปทรงคล้ายสี่เหลี่ยมจัตุรัส มีจุดเด่นคือ ห้องมีห้องน้ำแบบ 2.5 หมายถึง มีห้องน้ำเต็มรูปแบบสองห้อง และห้องน้ำสำหรับขับถ่ายอีก 1 ห้อง นอกจากนี้ห้องนอนมี 2 ห้องทั้งชั้นล่างและลอย โดยแต่ละห้องนอนมีห้องน้ำส่วนตัวเป็นของตัวเอง ดังนั้นห้องแบบนี้จึงเหมาะกับครอบครัวที่มักจะเชิญแขกมาที่บ้าน แขกจะได้ใช้ห้องน้ำ powderroom ครับ ทำให้ผู้พักอาศัยมีความเป็นส่วนตัวสูง

3 Bedroom 2 Bathroom  1 Powder room Type H 71 ตารางเมตร

เป็นหนึ่งในห้องหายาก มีห้องเดียวต่อชั้น ที่ชั้น 7-17 ครับ

เป็นห้องที่เหมาะกับการอยู่แบบครอบครัวในระยะยาว เพราะมีห้องนอนแยกส่วนตัวให้มากถึง 3 ห้อง โดยห้องนอน Master Bedroom ชั้นล่างมีห้องน้ำส่วนตัว ส่วนห้องนอนอีกสองห้องที่ชั้นลอยก็มีห้องน้ำแชร์กันได้ นอกจากนี้ยังมีห้อง powder room สำหรับแขกที่มาเยี่ยมอีกด้วย อีกจุดเด่นคือมีพื้นที่ห้องนั่งเล่นที่กว้างขวางเพดานสูงโปร่งโอ่โถง สามารถจัดปาร์ตี้ได้

ท่านใดชอบห้องแบบไหน ขอแนะนำว่าให้รีบศึกษาและตัดสินใจจองห้องที่สำนักงานขายนะครับ เพราะโครงการนี้มีคนมาดูเยอะมากๆ เนื่องจากดีมานด์ในย่านสีลม สามย่าน พระรามสี่ มีค่อนข้างสูงครับ และห้องที่คาดว่าจะหมดก่อนเพื่อนคือห้อง size ใหญ่ๆ นี่แหละครับ

ส่วนห้องไซส์เล็กก็ฮิตไม่น้อยกว่าเช่นกันเพราะออกแบบเป็นห้องเพดานสูงที่โดนใจคนรุ่นใหม่มากๆ ครับ\

 

SHOW UNITS

รีวิวห้องตัวอย่าง Culture Chula

ในสำนักงานขาย มีห้องตัวอย่างทั้งหมด 2 แบบ ได้แก่ Type A 1 Bedroom และ Type B 2 Bedroom 1 Bathroom ครับ

 

ทาง Ananda จะแบ่งการขายเป็น 2 แพคเกจ คือ แพคเกจแบบ Fully Furnished แต่งเฟอร์นิเจอร์ โดย The Ascott Limited ให้ครบเหมาะสำหรับนักลงทุนที่อยากซื้อเพื่อปล่อยเช่า กับอีกแพคเกจคือ Fully Fitted ที่แถมให้เฉพาะชุดครัว และ Digital Door Lock เหมาะกับคนที่ซื้อเพื่ออยู่เองและอยากจ้างช่างมาตกแต่งเอง แต่อย่างไรก็ตาม ทุกยูนิตจะได้รับการตกแต่งชั้นลอยจากบริษัทบุคคลภายนอกตามแบบที่แนะนำเอาไว้ให้ครับ ดังนั้นไม่ต้องกังวลว่าจะไม่มีชั้นลอยครับ

 

จุด Gimmick เล็กที่พบเห็นในห้องตัวอย่างเช่น มีห้อง Laundry & Storage พื้นที่เก็บเครื่องซักผ้าใต้บันไดเพิ่มขึ้นมาเป็น extra sapce ,  มีพื้นที่วางของในครัวเพิ่มขึ้น, มีการแบ่งแยกห้องน้ำให้เป็นสัดส่วน โซนอาบน้ำและโซนสุขภัณฑ์ นอกจากนี้มีพื้นที่ใช้สอยเยอะมากโดยที่ยังคงความโปร่งโล่งตามสไตล์ห้องเพดานสูงไว้ได้อย่างลงตัว ทั้งหมดนี้คือข้อได้เปรียบของการออกแบบห้องพักในโครงการ Culture Chula ที่คิดเพื่อคนเมือง

 

ห้องตัวอย่าง type A  1 Bedroom 25 ตารางเมตร (เพดานสูง 4.3 เมตร)

เมื่อเปิดประตูเข้ามาจะเจอห้องน้ำและส่วนที่เป็นครัว

ภายในห้องอาบน้ำที่กั้นเป็นกระจกและฝักบัว 2 แบบ

อ่างล้างหน้าแบบชิ้นเดียวกับเคาน์เตอร์กว้างวางของได้มากพร้อมกระจกบานใหญ่

ที่วางของหลังชักโครกเป็นที่ซ่อนระบบกดน้ำชักโครก ซึ่งช่วยลดเสียงได้

โถสุขภัณฑ์แบบติดผนังลอยตัว พร้อมสายฉีดชำระและที่แขวนกระดาษชำระ

โซนครัวขนาดพอเหมาะ มีตู้เคาน์เตอร์ ตู้แขวน เตาไฟฟ้า ที่ดูดควันและชั้นวางไมโครเวฟ

มีธรณีและประตูกระจกแบบผลักแบ่งโซนเปียกโซนแห้ง

ตู้เคาน์เตอร์ครัวพร้อมอ่างล้างจานและตู้แขวนไว้เก็บของด้านบน

ท้อปเคาน์เตอร์ครัวเป็นชิ้นเดียวยาวและมีส่วนกันเปื้อนที่ผนัง

เครื่องดูดควันจาก MEX

เตาไฟฟ้าจาก MEX

ตู้เก็บของต้านหน้าห้องสามารถเก็บร่มและของเล็กๆน้อยๆ

กระจกส่องหน้าบานใหญ่ทำให้ห้องน้ำดูกว้าง

มุมมองจากประตูทางเข้าผ่านครัวจะเห็นหน้าต่างและกระจกใสสูงให้ห้องดูโล่ง

เครื่องซักผ้าถูกออกแบบให้ซ่อนจัดเป็นโซนซักล้างโดยใช้พื้นที่ใต้บันได

ตู้เก็บของใต้บันไดมีช่องระบายอากาศ

ตู้เก็บของใต้บันไดและที่ว่างเครื่องซักผ้าซ่อนไว้เป็นสัดส่วน

มุมมองจากโต๊ะกินข้าวมองไปยังทีวีที่แขวนติดไว้ที่ผนังตรงทางขึ้นบันได

มุมห้องนั่งเล่นติดกับประตูออกระเบียงและกระจกใสบานสูง ทำให้ห้องดูโล่งโปร่ง

ป้าย Unit Plan อยากให้อ่านเพื่อความเข้าใจเงื่อนไขครับ

สวิตช์ไฟดูเรียบหรู

โซนรับประทานอาหาร

มุมมองออกไปทางประตูห้อง

บันไดขึ้นชั้นลอย

ห้องชั้นลอยมีหน้าต่างกระจกใสบานใหญ่มองเห็นด้านล่างและทำให้ห้องดูโปร่ง

ห้องนอนและเตียงนอน

โซนโต๊ะทำงานและชั้นวางของอยู่ข้างเตียงหันหน้าออกทางกระจกใสมองเห็นวิวกว้าง

มุมมองจากหน้าห้องนอน

มุมมองทางลงบันไดจากชั้นลอย

ตู้เสื้อผ้าบานเลื่อนใหญ่ในห้องนอน

มุมมองจากปลายเตียงเห็นโต๊ะทำงานและวิวโล่ง

ห้องนอนและเครื่องปรับอากาศติดผนัง

มุมมองแนวตั้งของห้องนั่งเล่นที่เปิดวิวโล่งด้วยกระจกสูง

ที่วางของและตู้เก็บของใต้ซิงค์อ่างล้างหน้า

ที่แขวน CDU แอร์นอกระเบียงซ่อนไว้ริมผนังไม่บังวิว

ระเบียงสามารถจัดมุมนั่งเล่นเล็กๆ

มุมมองภายในห้องจากระเบียง

ประตูกระจกเลื่อนออกระเบียง

มุมรับประทานอาหาร

ทีวีและตู้วางของ

สวิตช์ไฟ

ก็อกน้ำอ่างล้างจานและชุดวางอุปกรณ์ครัว

ห้องนั่งเล่น

ห้องนั่งเล่นอีกมุมหนึ่ง

ห้องนั่งเล่นจากมุมสูงชั้นลอย

ห้องนอน

ตู้เสื้อผ้าและชั้นวางของในห้องนอน

มุมนั่งทำงานบนชั้นลอย

มุมมองจากหัวเตียง

มุมมองจากระเบียง

 

ห้องตัวอย่าง 2 Bedroom 32.5 ตารางเมตร (Hybrid)

ห้องนี้เน้นใช้งานจริง พื้นที่เยอะมาก มีห้องนอนมากถึงสองห้อง

มุมมองจากประตูทางเข้าห้อง

โซนครัวทำอาหาร

อ่างล้างจานและที่วางอุปกรณ์ครัว

ธรณีประตูเข้าห้อง

ชุดครัว

ข้างๆกันเป็นตู้เก็บรองเท้าหน้าห้อง

โซนทำอาหารและเตาไฟฟ้า

ห้องน้ำแบ่งสองฝั่ง โซนสุขภัณฑ์และโซนอาบน้ำและมีประตูกระจกกั้นของใครของมัน ดังนั้นถ้าติดม่านหรือติดฟิล์มก็จะเหมือนได้ห้องน้ำแบ่งส่วน ใช้งานพร้อมกันได้ด้วย

ฝั่งโถชักโครก

ฝั่งอาบน้ำ

ตรงกลางเป็นโซนแห้ง

อ่างล้างหน้าอยู่ตรงกลาง

โถชักโครกติดผนัง

โถสุขภัณฑ์ American Standard

ปุ่มกดชักโครก

มุมมองภายในห้องชั้นล่าง

ชั้นวางของสูงติดผนัง

โต๊ะรับประทานอาหาร

โต๊ะรับประทานอาหารติดห้องซักล้างใต้บันได(มองเห็นเครื่องซักผ้า)

มุมเงยมองขึ้นไปห้องนอน

ห้องใต้บันไดซ่อนเครื่องซักผ้า

มุมรับประทานอาหาร

มุมมองห้องทั้งชั้นล่างและชั้นลอย

มุมมองดูทีวี

โซนห้องนั่งเล่น

โซฟาในห้องนั่งเล่น

บันไดทางขึ้นชั้นลอย

ประตูกระจกเลื่อนบานใหญ่ทางออกระเบียง

ที่แขวน CDU แอร์ซ่อนที่ระเบียง อยู่บนิเวณชั้นล่างทั้งหมด ทำให้ไม่มีเสียงรบกวนเข้ามาบริเวณห้องนอนชั้นลอย

มุมมองจากระเบียงเข้ามาในห้อง ถ้าใครตัวสูงๆ เกิน 185 cm. ถ้าเดินขึ้นบันไดต้องระวังศีรษะนะครับ ต้องก้มๆ นิดหน่อย

บันไดและทางเดินเชื่อมระหว่างสองห้องนอนชั้นลอย

ป้ายเงื่อนไข

ทางเดินเข้าห้องนอน

ทางเดินเข้าห้องนอนเหมือนสะพาน

มองลงมาข้างล่าง

ห้องนอน

เตียงนอน

หัวเตียวประดับตกแต่งแบบโมเดิร์น แต่ของจริงได้ผนังฉาบเรียบทาสีขาว

โต๊ะทำงานปลายเตียง

ทางเดินไปอีกห้องนอน

ห้องนอนมีกระจกใสบานใหญ่ให้รู้สึกโล่งโปร่ง

สามรถมองเห็นอีกห้องนอนตรงข้ามได้

ห้องนอนใหญ่

โซนตู้เสื้อผ้า จะออกแบบให้โปร่งแบบนี้ก็ได้

ห้องนอนอีกห้องและเตียง

วิวจากหน้าต่างที่มองทะลุทั้งสองห้อง

มุมมองทางเดินชั้นลอยหน้าห้องนอน

วิวชั้นล่างจากห้องนอน

วิวอีกห้องนอน

จุดติดตั้งแอร์ในห้องนอน

มุมมองจากระเบียง เชื่อมต่อกันทั้งหมด เป็น center ของบ้าน

ห้อง type นี้ให้ฟีลเหมือนทาวน์เฮาส์ครับ

ไม่เหมือนคอนโดมิเนียม แต่เหมือนบ้านที่อบอุ่น

 

SALE GALLERY

สำนักงานขายตั้งอยู่บนถนนพระราม 4 (คลิกดูพิกัดในแผนที่ Google Maps ที่นี่ https://goo.gl/maps/ozBAX8iubTmHEsmt9 )

 

บรรยากาศโดยรอบสำนักงานขายและที่ตั้งโครงการ

มุมองถนนพระรามสี่

ด้านหน้าโครการ

ด้านหน้าโครงการ

บรรยากาศภายในสำนักงานขาย

การตกแต่งสำนักงานขายจำลองมาจาก Facility ของโครงการ Culture Chula

วิวด้านข้างเห็นโรงแรมมณเฑียร

มีงานศิลปะจัดวางไว้สื่อถึงความเป็น community ของคอนโดมิเนียมนี้

CONCLUSION สรุปจุดเด่นโครงการ

โครงการ Culture Chula ตั้งอยู่ริมถนนใหญ่พระราม 4 – สุรวงศ์ ใกล้กับสามย่าน สีลม ซึ่งเป็นทำเลที่มีคอนโดแบบฟรีโฮลด์กรรมสิทธิ์ ตลอดไปเปิดขายน้อยมากและที่เป็นที่ดินผืนท้ายๆในย่านนี้ นอกจากนี้ทำเลถนนพระราม 4 คือพื้นที่ยุทธศาสตร์ที่มีโครงการมิกซ์ยูสขนาดใหญ่เกิดขึ้นมาก ที่สุดของกรุงเทพฯในรอบ 10 ปีมานี้ อีกจุดเด่นคือตั้งอยู่ใกล้ทั้ง BTS สายสีเขียวสถานีศาลาแดงเพียง 290 เมตรและ MRT สายสีน้ำเงินสถานีสามย่านแค่ 350 เมตรเท่านั้น

 

Culture Chula เป็นคอนโดแบรนด์ใหม่ที่ร่วมกันพัฒนากับ Scratch First ริเริ่มสร้างให้เป็น sustainable community มาพร้อมกับการบริการระดับมาตรฐานโดยแบรนด์ระดับโลกอย่างที่ The Ascott Limited มี worldclass service เหมือนได้บริการจากโรงแรมหรูในทุกๆ วัน โครงการตั้งอยู่ในทำเลที่มี demand ทั้งเช่าและซื้อหมุนเวียนอย่างต่อเนื่อง จากกลุ่มนักศึกษา นักเรียน และบุคลากร คนทำงานในย่านแหล่งงานรายได้สูง

 

ทาง Ananda แบ่งรูปแบบการขาย Culture Chula เป็น 2 แพคเกจ ได้แก่ Fully furnished ที่ได้รับครบทั้งเฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นและเครื่องใช้ไฟฟ้า ถ้าซื้อ Ascott Furniture Package พร้อมปล่อยเช่าได้ทันที และอีกแบบคือ fully fitted ที่มีชุดครัว และ Digital Door Lock

 

รูปแบบห้องเป็นแบบไฮบริด มีเพดานสูง 4.3 เมตรทุกยูนิตทั้งโครงการ โดยจะมีการตกแต่งพิเศษเพื่อเน้นพื้นที่ใช้สอย ภายในห้องที่มากกว่าห้อง Hybrid เพดานสูงทั่วไป มี type ห้องให้เลือกเยอะมากตั้งแต่ 1 ห้องนอน 2 ห้องนอน และ 3 ห้องนอน ซึ่งถือว่าเป็นมาตรฐานใหม่ของคอนโดมิเนียมใจกลางเมืองในยุคปัจจุบันที่คนมักนิยมอยู่อาศัยบนคอนโดใจกลางเมืองแบบจริงจัง อีกหนึ่งจุดเด่นที่ตอบโจทย์มากคือออกแบบให้ชั้นลอยมีพื้นที่ห้องน้ำด้วยเฉพาะผู้ที่ซื้อ type 2 Bedroom 2 Bathroom ขึ้นไป

 

อุดมด้วยพื้นที่ส่วนกลาง และพิเศษตรงที่โซน Sky Fitness  และ Co-working Space ที่มีอุปกรณ์ให้ทำงาน หรือต่อยอดธุรกิจออนไลน์ได้ครบครัน ทั้ง Video Call Booth และ Live Studio จะเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงใช้ได้ทุกวันทุกเวลาแบบไม่ต้องรอเวลาเปิดปิด

 

สัมผัสกับประสบการณ์ Luxury in Service ได้ที่ Culture Chula รีบมาดูและรีบจอง ก่อนห้องที่คุณเล็งไว้จะปลิวไปอยู่ในมือคนอื่น

หากสนใจข้อมูลโครงการ Culture Chula

กรุณาคลิกลิงก์ลงทะเบียนที่นี่ 

https://anan.ly/3r0DLgl

 

#CONDOMINIUM #CULTURE #ANANDA #CHULA #THONGLOR #NEWTRIBE #WORLDCLASS #PROPHOLIC



ต่อทอง ทองหล่อ

ต่อทอง ทองหล่อ

บรรณาธิการสื่อเกี่ยวกับการศึกษา และ Blogger ผู้มีผลงานการวิเคราะห์ด้านอสังหาฯ มามากกว่าร้อยบทความ ยังเป็นผู้สนใจลงทุนคอนโดมิเนียม ชอบใช้ชีวิตแบบ Digital Nomad รักการเดินเท้าและเลือกใช้ขนส่งมวลชนสำรวจความเปลี่ยนแปลงของทำเลสถานที่ผ่านมุมมองการเข้าใจมนุษย์ นอกจากนี้ยังเป็น Active Citizen ช่วยขับเคลื่อนพัฒนาเมืองผ่านงานเขียนและเครื่องมือสื่อสารที่เชื่อมรัฐกับประชาชน เป้าหมายระยะยาวต้องการเห็นคุณภาพชีวิตการอยู่อาศัยที่ดีขึ้นของทุกคนในสังคม ติดตามผลงานได้ที่ https://matttortong.weebly.com

เว็บไซต์


PropScore™ 3.8

SCORE:
0.0
From : 0 รีวิว


ยังไม่มีการให้คะแนนและ Comment โครงการนี้


ข้อเท็จจริง และความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน ระหว่างอสังหาฯรูปแบบ Freehold และ Leasehold

ในปีนี้เราจะมีโอกาสได้เห็นโครงการ Leasehold ที่กำลังจะสร้างเสร็จพร้อมอยู่หลายที่ครับ และก็ในหลายระดับราคาด้วย ไม่ว่าจะเป็น ONE Bangkok Residence (Tentative Name), AMAN Nai Lert Bangkok, Thirty Thre... อ่านต่อ

17 April, 2024



คัดสรรให้! งบ 7 ลบ. ก็หาซื้อคอนโดหรูพร้อมอยู่ในย่านพร้อมพงษ์ – ทองหล่อ – เอกมัย ได้

หลังจาก ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมท... อ่านต่อ
12 April, 2024

เคาะแล้ว! แพคเกจกระตุ้นตลาดอสังหาฯ โดยกระทรวงการคลัง

สืบเนื่องมาจากข้อมูลของกระทรวงการคลังที่รายงานครม.ไปว่าในช่วงไตรมาสสี่ของปีที่ผ่านมา ภา... อ่านต่อ
10 April, 2024

มาร่วมออกแบบโครงการให้โลกจำเป็นตำนาน ด้วยสูตรลับที่ตกผลึกมาจากประสบการณ์หลากหลายมุมมอง กับหลักสูตรสำหรับคนฝันใหญ่ “Iconic Xperience 2”

ในการพัฒนาโครงการอะไรก็แล้วแต่ แน่นอนว่าเป้าหมายหลักของผู้พัฒนาโครงการก็น่าจะเป็นในเรื่... อ่านต่อ
1 April, 2024

สอบถามโครงการ

ได้รับข้อมูลเรียบร้อยแล้ว
ขอบคุณอย่างยิ่งที่สนใจครับ
จะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับไปนะครับ

ขออภัย
ไม่สามารถส่งข้อมูลได้
กรุณาลองใหม่อีกครั้ง