พบกับความงามเหนือกาลเวลา ให้คำว่าบ้านเป็นมากกว่าที่พักอาศัยที่ ARTALE KASET–NAWAMIN บริบทใหม่ของการใช้ชีวิต ใกล้ชิดทะเลสาป

ถ้าเอ่ยชื่อถึงโครงการที่พักอาศัยภายใต้การพัฒนาของ “อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์” ใครๆ ก็ต้องนึกถึงคอนโดตึกสูงๆ ในเขตใจกลางเมือง ติดรถไฟฟ้าที่มีคนพลุกพล่านเป็นจำนวนมาก และเพรียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเส้นทางการจราจร ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้าที่เอาไว้เดินช้อปตากแอร์เย็นๆ อย่างแบรนด์ แอชตัน, ไอดีโอ, ไอดีโอ คิว, ยูนิโอ หรือ เอลลิโอ นั่นเอง แต่อนันดาฯไม่ได้มีเพียงแค่แบรนด์คอนโดที่หลายๆ คนรู้จักกันดังกล่าวเท่านั้น ในรอบสองปีที่ผ่านมานี้อนันดาฯพยายามรุกหนักมากขึ้นในกลุ่มตลาดแนวราบ ซึ่งว่ากันว่าจะเป็นกลุ่มตลาดที่สามารถสร้างความยั่งยืนให้กับบริษัทได้ทั้งในส่วนของรายได้จากการโอน และกลุ่มลูกค้าในแบบครอบครัวสมัยใหม่ที่มีกำลังซื้อสูง โดยจุดเด่นของโครงการแนวราบของอนันดาฯไม่ว่าจะเป็นทาวน์โฮม หรือบ้านเดี่ยว ที่นอกเหนือจากการตั้งอยู่ในทำเลที่มักจะ Prime กว่าโครงการของผู้พัฒนารายอื่นๆแล้วก็ยังเป็นงานดีไซน์ และแลนด์สเคป ที่มีการออกแบบ ได้อย่างสวยงาม เปี่ยมไปด้วยฟังก์ชั่นและสิ่งอำนวยความสะดวกแบบจัดเต็มไม่แพ้คอนโดเลยทีเดียว

หากใครยังจำกันได้ว่าเมื่อต้นปีที่ผ่านมาได้มีการเปิดตัว ARTALE PHATTHANAKAN – THONGLOR (อาร์เทล พัฒนาการ – ทองหล่อ) แบรนด์บ้านเดี่ยวระดับลักส์ชัวรี่ ที่เติมเต็มทุกจินตนาการของบ้านเดี่ยวในเขตเมืองที่อัดแน่นไปกับสิ่งอำนวยความสะดวกไว้อย่างครบครัน เป็นบ้านในฝันสำหรับคนที่ใช้รถยนต์เป็นหลักที่ไม่ชอบการเบียดเสียดตอนเดินขึ้นบันไดรถไฟฟ้า และเหมาะกับการพักอาศัยอยู่กันเป็นครอบครัว

คลิกเพื่ออ่านบทความรีวิว Artale Phatthanakan – Thonglor : https://propholic.com/prop-verdict/artale-phatthanakan-thonglor/

และตามมาติดๆ กับอีกหนึ่งโครงการในระดับ Luxury House ที่ไม่แพ้กันก็คือ ARTALE KASET – NAWAMIN (อาร์เทล เกษตร – นวมินทร์) มาตามติดทุกซอกทุกมุมกันเลยว่าโครงการนี้จะมีอะไรเด็ดๆ มานำเสนอให้คนที่กำลังมองหาบ้านที่มีความหรูหราและเป็นส่วนตัวได้เลือกที่จะใช้ชีวิตในบริบทใหม่ ที่ที่คำว่าบ้านเป็นมากกว่าที่อยู่อาศัย

ARTALE KASET – NAWAMIN แบรนด์บ้านเดี่ยวหรู 3 ชั้นระดับ Luxury โครงการที่สองของอนันดาฯ โดยมีจุดเด่นคือการออกแบบดีไซน์ที่ให้พื้นที่ใช้สอยเยอะ เกือบเต็มขนาดพื้นที่บ้าน และการออกแบบ landscape ของพื้นที่ส่วนกลางให้เจ้าของบ้านและครอบครัวสนุกไปกับกิจกรรมอย่างไม่รู้เบื่อ ภายในโครงการมีบ้านถึง 2 แบบให้เลือกคือ บ้านเดี่ยว (Verona)

และบ้านแฝด (Vesta)  

ยูนิตทั้งหมดมีเพียงแค่ 59 ยูนิตเท่านั้น จึงทำให้ผู้อยู่อาศัยมีความเป็นส่วนตัวสูง และได้แรงบันดาลใจของงานออกแบบสถาปัตยกรรมแบบ Classic ร่วมสมัย เข้ากับความ Modern จึงเกิดเป็น Hybrid Concept ที่ผสานความต่างเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ทุกรายละเอียดสร้างเอกลักษณ์ ที่สะท้อนรสนิยมให้ทุกองค์ประกอบเป็นมากกว่าความภูมิใจ และยังได้บริษัทชั้นนำมาช่วยในการออกแบบคือ Landscape, ATOM design, d+s และ @ forty ซึ่งเน้นการออกแบบบ้านทั้ง 2 แบบ ให้ได้อารมณ์คล้ายกับเมือง Verona (เวโรนา) ประเทศอังกฤษ

ที่ตั้งของโครงการ ARTALE KASET – NAWAMIN อยู่ในซอยสุคนธสวัสดิ์ 19 และมีทางเข้าได้อีก 2 ทาง คือเข้าจากถนนเกษตร-นวมินทร์ผ่านซอยนกสกุล หรือเข้าจากซอยสุคนธสวัสดิ์ 17 ทั้งยังใกล้กับแหล่ง Lifestyle และสถานที่สำคัญ Shopping Mall ขนาดใหญ่ รวมถึง Falgship Store ของแบรนด์เฟอร์นิเจอร์หลายแห่งที่มีชื่อเสียงด้วย เช่น Nawamin City Avenue, The Walk Kaset-Nawamin, CDC, Chic Republic, เมเจอร์ รัชโยธิน, เทสโก้ โลตัส ลาดพร้าว วังหิน และ Central Festival Eastville ไม่เพียงแค่นั้นยังใกล้กับสถานศึกษาและโรงพยาบาลใหญ่ๆ อีกหลายแห่ง ซึ่งถือว่าเป็นย่านที่มีความอุดมสมบูรณ์มากอีกย่านหนึ่ง

สถานที่สำคัญใกล้กับโครงการ

– ตลาดนัดรถไฟ เกษตร-นวมินทร์ – 1 กม.

– The Walk เกษตร-นวมินทร์ – 1.1 กม.

– โรงเรียนสตรีวิทยา 2 – 1.6 กม.

– Central Festival East Ville – 5 กม.

– โรงพยาบาลพญาไท นวมินทร์ – 5.8 กม.

– โรงพยาบาลเปาโล โชคชัย 4 – 6.5 กม.

– มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ – 8.3 กม.

The Walk เกษตร-นวมินทร์ สามารถมาเดินซื้อของเข้าบ้าน หรือพาครอบครัวออกมาทานข้าวนอกบ้านก็ได้

CDC Crystal Design Center ศูนย์รวมงานดีไซน์ที่สมบูรณ์แบบที่สุดในเอเชีย

รูปภาพจาก : https://www.tripadvisor.co.uk/LocationPhotoDirectLink-g293916-d4408596-i151331450-Crystal_Design_Center_CDC-Bangkok.html

CHIC REPUBLIC โฮมแฟชั่นสโตร์แห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทย

รูปภาพจาก : http://chicrepublicthai.com/home.php

นอกจากนี้ทำเลแถวนี้มีคนอาศัยอยู่เป็นจำนวนมากและยังใกล้ทางขึ้นทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ เพียงแค่ 2.3 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางไปมาระหว่างทางด่วนเพียงแค่ 5-10 นาทีเท่านั้น สามารถเดินทางเข้าเมืองได้ไม่ยาก แต่มีข้อเสียอยู่อย่างหนึ่งคือแถวเกษตร-นวมินทร์นี้ยังขึ้นชื่อในเรื่องของรถติดในช่วงเวลาทำงานตั้งแต่ช่วงเวลา 07.00 น. เป็นต้นไปจนถึง 21.00 น. แต่อย่างไรก็ตามในอนาคตก็มีโปรเจกต์รถไฟฟ้าหลายสายพาดผ่านอาจจะช่วยลดปัญหารถติดลงก็เป็นได้ อย่างเช่นรถไฟฟ้า Monorail สายสีเทาที่กำลังเริ่มก่อสร้างคาดว่าคงได้ใช้บริการอีกไม่เกินรอ

โดยแผนการศึกษาโครงการจัดสร้างรถไฟฟ้า Monorail สายสีเทาซึ่งมีหลายช่วง ขอเสนอแค่ช่วงวัชรพล-ทองหล่อ สถานีเริ่มมาจากสถานีวัชรพล สถานีนวลจันทร์ และสถานีที่ ARTALE KASET – NAWAMIN อยู่ใกล้มากที่สุดคือ สถานีเกษตรนวมินทร์ รถไฟฟ้าจะวิ่งเลียบทางด่วนรามอินทราอาจณรงค์ไปเข้าถนนเพชรบุรีแล้วเลี้ยวผ่านเข้าไปทางสุขุมวิท 55 หรือซอยทองหล่อ ไปเชื่อมต่อกับ BTS สายสีเขียวสถานีทองหล่อ ถ้าหากเดินทางด้วยรถยนต์แค่เพียงแค่ 13 กม. ก็ถึงย่านเอกมัย-ทองหล่อได้

ไม่เพียงแค่นั้นทำเลนี้ยังใกล้กับรถไฟฟ้าสายอื่นๆ เช่น

– รถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล 7 กม. ถึงสถานีสุคนธสวัสดิ์

– รถไฟฟ้าสายสีชมพู 3 กม. ถึงสถานีวัชรพล

– รถไฟฟ้าสายสีเขียว 2 กม. ถึงสถานีห้าแยกลาดพร้าว

– รถไฟฟ้าสายสีเหลือง 4 กม. ถึงสถานีพัฒนาการ

ในอนาคตเมื่อรถไฟฟ้าสร้างแล้วเสร็จทุกสถานี การจราจรที่ติดขัดในย่านนี้ก็จะไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป เพราะเป็นทำเลที่มีความสะดวกสบาย ไปไหนมาไหนง่ายทั้งคนใช้รถและไม่ใช้รถ ต่อไปคนที่อยู่ในใจกลางเมืองอย่างย่านเอกมัย – ทองหล่อ อาจจะย้ายหนีจากความวุ่นวายออกไปอยู่แถวถนนเกษตร-นวมินทร์ก็เป็นได้

ที่ตั้งของ ARTALE KASET – NAWAMIN ขับรถเลี้ยวเข้าไปในซอยสุคนธสวัสดิ์ 19

ขับรถเข้ามาในซอยสุคนธสวัสดิ์ 19 ประมาณ 500 เมตร ก็จะพบกับประตูทางเข้าโครงการ ARTALE KASET – NAWAMIN ที่ดูหรูหรามีสไตล์แบบในภาพไม่มีผิด เหมือนเรากำลังจะทะลุผ่านเข้าไปในเมืองๆ หนึ่งของต่างประเทศยังไงยังงั้น

มีประตูคนเดินเข้าพร้อมระบบ Security หนาแน่นเข้าออกด้วยระบบ Key Card Access Card Control ระยะไกล และแบบ Easy Pass ส่วนผู้มาติดต่อจะต้องแลกบัตรประชาชนทุกคนกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเพื่อจะเข้ามาในส่วนของโครงการ

ซึ่ง ARTALE KASET – NAWAMIN เป็นโครงการบ้านเดี่ยว พื้นที่โครงการขนาด 15-2-0 ไร่ มีความเป็นส่วนตัวเพราะมีเพียง 59 ยูนิต และมีแบบบ้านให้เลือก 2 แบบ บนที่ดินเริ่มต้น 38.5 ตร.ว. ขึ้นไป พื้นที่ใช้สอย เริ่มต้น 255-390 ตร.ม. ฟังก์ชั่นบ้านมีแบบ 3-5 ห้องนอน, 4-6 ห้องน้ำ, ที่จอดรถ 2-3 คัน

ที่ตั้งโครงการอยู่ทางด้านตะวันตกเฉียงเหนือ และอยู่ติดทะเลสาปสาธารณะที่อยู่ติดกับหมู่บ้านอารียา Sawanna ซึ่งที่แปลงนี้อนันดาฯ ก็ซื้อต่อมาจากอารียาเหมือนกัน จึงมีข้อได้เปรียบที่ยากจะหาโครงการไหนเหมือนได้ ก็คือมีพื้นที่ Clubhouse ที่รับวิวทะเลสาปไปเต็มๆ ทั้งบ้านแฝดแปลงที่ 12 และบ้านเดี่ยวหลังที่อยู่หัวมุม

จาก Master Plan นั้น บ้านเดี่ยวที่อยู่ตรงหัวมุมสามารถเทควิวทะเลสาบสาธารณะได้ทั้งหมด รวมถึงบ้านแฝดหลังสุดท้ายที่อยู่บนที่ดินแปลงที่ 12 อีกด้วย

แค่เดินมาจากหน้าประตูทางเข้าโครงการเพียง 150 เมตร ก็จะเจอกับพื้นที่ Club House ที่มีถึง 2 หลังใหญ่ ที่เต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก ซึ่งมีทั้งห้องฟิตเนส, ห้องสมุด,ห้องประชุม และสระว่ายน้ำ ที่อยู่ติดกับทะเลสาบขนาดใหญ่ ให้ความผ่อนคลายเมื่อต้องการพักผ่อน และอยู่ท่ามกลางเงาไม้ใหญ่ที่โอบล้อมแบบ 360 องศา งดงามในแบบที่ธรรมชาติสร้างไว้ ทำให้รู้สึกร่มรื่นและเป็นส่วนตัวแบบสุดๆ

Club House สามารถเทควิวทะเลสาบสาธารณะได้ทั้งหมด

จัดเต็มกับสระน้ำระบบน้ำเกลือขนาดใหญ่ที่มีความกว้าง 5 เมตร และความยาวถึง 30 เมตร มีทั้งจากุซชี่ และสระเด็กให้เด็กๆ ได้เล่นอย่างสนุกสนาน  และสามารถเทควิวทะเลสาบได้ไกลสุดลูกหูลูกตา ช่วยผ่อนคลายความเหนื่อยล้าจากการทำงานได้ดีทีเดียว

ลาน Jogging track ที่อีกไม่นานก็จะร่มรื่นไปด้วยต้นไม้

พร้อมด้วยห้องฟิตเนสที่มีอุปกรณ์แบบครบครันอยู่บนชั้นสองของ Club House ที่หันหน้าออกไปทางทะเลสาบ สามารถออกกำลังกายพร้อมชมวิวทะเลสาบไปพร้อมๆ กันเลย

ดังที่กล่าวไปในข้างต้นว่าโครงการ ARTALE KASET – NAWAMIN มีบ้าน 2 แบบด้วยกันคือ บ้านเดี่ยว (VERONA) และบ้านแฝด (VESTA) มาดูกันว่าบ้านทั้ง 2 แบบจะมีฟังก์ชั่นอะไรเด่นๆ ที่ช่วยดึงดูดแนวครอบครัวยุคใหม่ที่ประสบความสำเร็จในด่นธุรกิจการงาน และมองหาที่พักอาศัยที่กว้างใหญ่ มีฟังก์ชั่นครบพอที่จะตอบโจทย์ทุกคนในบ้านได้

บ้านเดี่ยว (VERONA) บ้านเดี่ยว 3 ชั้น มีเพียงแค่จำนวน 47 ยูนิตเท่านั้น บนที่ดิน 54 ตร.ว. มีฟังก์ชั่นทั้งหมดดังนี้

– พื้นที่ใช้สอย 390 ตร.ม.

– 3 ที่จอดรถ

– 5 ห้องนอน 7 ห้องน้ำ

– 1 ห้องแม่บ้านพร้อมห้องน้ำ

– ห้องนั่งเล่น

– ห้องครัว และ Pantry

– สวนส่วนตัว

Floor 1

บริเวณพื้นที่จอดรถหน้าบ้าน มีความกว้างสามารถจอดเรียงกันได้ถึง 3 คันทีเดียว

ซึ่งตรงประตูบ้านทุกหลังจะใช้เป็นระบบ Digital Door Lock ยี่ห้อ Samsung ที่เจ้าของบ้านสามารถตั้งรหัสผ่านเพื่อป้องกันความปลอดภัยได้ และทางโครงการยังมีกล้องวงจรปิดแบบ CCTV ติดให้ถึง 4 ตัวต่อหลัง สามารถเช็ครายละเอียดของกล้องวงจรปิดได้ผ่านแอพพลิเคชั่นในมือถือได้อีกด้วย (ที่เห็นเป็น Digital Door Lock ติดกันสองอันคือโครงการติดเป็น Dummy ของจริงได้ตัวเดียว)

พื้นที่ข้างตัวบ้านมีสนามหญ้า และลานซักล้างกำแพงติดกับห้องครัว

เมื่อเดินเข้าไปในชั้น 1 ของบ้านเดี่ยวนั้นก็จะพบกับตู้ไฟและตู้เซอร์วิสที่อยู่ด้านขวามือที่ทางโครงการมีให้ สามารถใช้เก็บของหรือเครื่องมือต่างๆ ได้

ฝั่งด้านซ้ายมือเป็นหน้าต่างกระจกมีม่านอยู่ด้านบนไว้ดึงลงมาปิดได้ หรือจะติดกระจกเงาตามแบบโครงการก็ดูดีเผื่อเช็คเสื้อผ้าก่อนออกจากบ้าน

ข้างๆ กับโซน Living Room ก็มีห้องน้ำแยกเพื่อใช้รับแขก

ข้างในมีชักโครก อ่างล้างมือ และกระจกเงา ใกล้ๆ บันไดขึ้นชั้น 2

ถัดมาก็จะเป็นโถง Living Room มีขนาดกว้างสามารถวางโซฟาได้อย่างครบชุดที่สมาชิกในครอบครัวสามารถใช้ดูทีวีและทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกันได้ ของจริงไม่มีตกแต่งแบบนี้นะจ๊ะ

ด้านข้างติดกระจกบานเลื่อนเต็มความสูงรับแสงได้เต็มที

และติดตั้งทีวีขนาดใหญ่บนผนังได้แบบนี้

ยังเหลือพื้นที่ในส่วนด้านหลังของโซฟาไว้วางโต๊ะทานอาหารที่มีขนาด 6-8 คน

ในบ้านเดี่ยวทุกหลังจะได้แอร์ทั้งหมด 11 เครื่อง และเป็นแอร์ต่อท่อติดผนังโดยยกคอมเพลสเซอร์แอร์ขึ้นไปไว้บนหลังคาบ้านทั้งหมด เพื่อเพิ่มพื้นที่ของบ้านมากขึ้น ในส่วนของห้องครัวจะอยู่เยื้องๆ ขวามือกับโซน Living Room

ซึ่งทางโครงการได้แถม Pantry และเตาอบไฟฟ้าของยี่ห้อ Gorenje ชื่อดังจากประเทศสโลเวเนียให้อีกด้วย แต่ไม่ได้ให้ตู้เย็นด้วยนะ

ส่วนชั้นเก็บของภายในครัวก็จะใช้ของยี่ห้อ KOHLER

เปิดออกมาก็จะได้ประมาณนี้

สามารถเก็บอุปกรณ์ทำครัวและวัตถุดิบได้เยอะทีเดียว

มีช่องให้สำหรับใส่เครื่องดูดควัน เวลาทำอาหารกลิ่นจะได้ไม่ลอยฟุ้งไปทั่วบ้าน

หากครอบครัวไหนที่มีผู้สูงอายุอยู่ด้วย ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องขึ้น-ลงบันได เพราะที่ชั้น 1 มีห้องนอนสำหรับผู้สูงอายุโดยเฉพาะ

ผนังห้องตรงปลายเตียงเหลือพื้นที่ให้วางตู้และทีวีได้แถมยังเหลือพื้นที่ทางเดิน หน้าต่างกระจกมีม่านอยู่ข้างบนสามารถมองเห็นสวนข้างบ้านได้

ห้องน้ำในห้องนอนชั้น 1 ยังมีราวจับกันลื่นไว้สำหรับผู้สูงอายุอีกด้วย แบบนี้สบายใจหายห่วง

มีฝักบัวอาบน้ำที่สามารถปรับเป็นน้ำอุ่นได้ และมีที่วางสบู่ไว้ให้

กระจกสามารถเปิดออกเพื่อเก็บอุปกรณ์อาบน้ำได้ พร้อมกับอ่างล้างมือ มีตู้เก็บของด้านล่างของอ่างด้วย

สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำใช้ของยี่ห้อ KOHLER เป็นหลัก

แถมทางโครงการยังได้ออกแบบ Universal Design มีทางลาดสำหรับผู้สูงอายุที่ชั้นล่าง ใกล้กับที่จอดรถเพื่อง่ายต่อการใช้รถเข็น

ที่กั้นขอบประตูบานเลื่อนข้างบ้านไม่สูงเกินไป

ส่วนของข้างบ้านยังมีห้องนอนสำหรับแม่บ้านพร้อมกับห้องน้ำแยกออกมาจากห้องนอน โดยที่เจ้าของบ้านไม่ต้องหาช่างเข้ามาต่อเติมห้องใหม่เวลาที่มีแม่บ้านย้ายเข้ามาอยู่ด้วย

ห้องมีขนาดกว้างพอสำหรับ 1 คน มีปลั๊กไฟให้

หน้าต่างบานเลื่อนติดไว้ให้

ห้องน้ำแยกออกมาจากห้องนอน มีฝักบัวอาบน้ำ ชักโครก กระจก และอ่าง พร้อมกันในห้องเดียว

Floor 2

เดินขึ้นบันไดมายังชั้น 2 ของตัวบ้าน

โดยบันไดทำจากไม้และมีหน้ากว้างถึง 1.20 ซม. กั้นราวบันไดด้วยกระจก TEMPERED ที่มีความหนา 6-8 มิล และยังมีห้องเล็กๆ สำหรับเก็บของไว้ใต้บันไดทุกชั้นอีกด้วย

ที่พักเท้าตรงบันไดทางขึ้นชั้น 2 มีโคมไฟติดไว้ให้

สวิตซ์ไฟในบ้านหน้าตาแบบนี้

บนชั้น 2 ประกอบไปด้วย 2 ห้องนอน มีห้องนอนฝั่งหน้าบ้านและหลังบ้าน 3 ห้องน้ำ พื้นที่ Family Area และห้องอเนกประสงค์ ซึ่งจะมีห้องน้ำแยกออกมาอยู่ติดกับบันไดเพื่อป้องกันการเดินเข้า-ออก ห้องนอนของสมาชิกภายในบ้านเมื่อมีแขกแวะมาเยี่ยมเยียน

ถัดจากห้องน้ำเป็นทางเดินไปยังห้องนอนที่อยู่ฝั่งหลังบ้าน และซ้ายมือเป็นพื้นที่ Family Area

ซึ่งไฮไลท์เด็ดๆ ก็จะอยู่ตรงชั้น 2 ของบ้านนี่เอง คือ มีพื้นที่ Double Volume สำหรับ Family Area ที่มีเพดานสูงถึง 6 เมตร สูงขึ้นไปถึงชั้น 3 ของตัวบ้านทีเดียว สามารถประดับโคมไฟระย้าที่มีความยาวห้อยลงมาได้แถมดูหรูหรามีสไตล์อีกด้วย

ติดกระจกเต็มความสูงไปจนถึงชั้น 3 เลยนะ

และพื้นที่มีความกว้างใหญ่สามารถทำกิจกรรมกันได้ทั้งครอบครัวไม่ต้องกลัวอึดอัด หรือใช้รับแขกได้อีกหลายคนทีเดียว

สามารถแขวนทีวีไว้ตรงผนังได้ หรือวางตู้ข้างล่างทีวีไว้ใช้เก็บของ

จากห้องนอนฝั่งหลังบ้านอาจเปลี่ยนเป็นห้องทำงานก็ดูดีไปอีกแบบ จะได้มีพื้นที่ใช้ทำงานแบบส่วนตัว

เดินมาทาง Family Area ก็จะเห็นช่องระเบียงเล็กๆ ที่ถูกกั้นด้วยประตูกระจก สามารถเปิดรับลมและนำกระถางต้นไม้ไปประดับเพื่อความร่มรื่นแบบที่ทางโครงการตกแต่งไว้ก็ได้

ที่กั้นบานเลื่อนกระจก

ถัดมาก็จะเป็นห้องนอนที่อยู่ฝั่งหน้าบ้านพร้อมห้องน้ำในตัว

สามารถ Built in ตู้เสื้อผ้าไว้บริเวณหน้าห้องน้ำก็ได้

ในห้องน้ำกั้นส่วนแห้งและเปียกไว้

มีพื้นต่างระดับกั้นห้องอาบน้ำ

ใช้อุปกรณ์ของ KOHLER ทุกห้อง

กระจกในห้องน้ำเปิดออกเก็บของได้

นอกจากนี้ยังมีห้องอเนกประสงค์ที่ถูกกั้นไว้กับ Family Area ใช้เป็นห้องออกกำลังกายและทำกิจกรรมอย่างอื่นได้ ถ้าหากไม่ชอบในส่วนห้องอเนกประสงค์เจ้าของบ้านสามารถทุบตรงกำแพงกั้นห้องออกได้เนื่องจากถูกก่อขึ้นด้วยวัสดุมวลเบาแล้วรวมเป็น Family Area ให้มีความกว้างขึ้น

มีประตูกระจกทางฝั่งขวามือของพื้นที่ Family Area สามารถเปิดออกไปยังโซน OUT DOOR ได้

ด้านนอกมีความกว้าง สามารถวางเฟอร์นิเจอร์ไว้ใช้สำหรับทำกิจกรรมกันในครอบครัวหรือจัดปาร์ตี้ที่เป็นวันสำคัญของคนในครอบครัวได้ ถือเป็นการเปลี่ยนบรรยากาศไปอีกแบบนึง

Floor 3

ขึ้นมาดูที่ชั้น 3 กันบ้าง ทางเดินขึ้นบันได มีช่องระเบียงแคบๆ ที่สามารถเปิดหน้าต่างออกไปได้

ซึ่งตอนแรกทางโครงการจะใช้เป็นที่วางคอมเพลสเซอร์แอร์ แต่คอมเพลสเซอร์แอร์ก็ถูกย้ายขึ้นไปวางไว้บนหลังคาทั้งหมด ตรงนี้จึงมีพื้นที่ว่างเปิดหน้าต่างออกรับลมได้

บันไดวนขึ้นมาที่ชั้น 3

เดินขึ้นมาถึงชั้น 3 ตรงไปข้างหน้าก็จะเจอกับห้องนอนพร้อมห้องน้ำในตัวที่สามารถจัดไว้ให้ลูกๆ ได้

มีหน้าต่างรับแสงได้ทั้ง 2 ด้าน

มีห้องน้ำรูปแบบเหมือนกับห้องนอนอื่น

มาต่อกันที่ Master Bedroom เดินเข้าไปฝั่งซ้ายมือจะเห็นห้องน้ำ ซึ่งบริเวณหน้าห้องน้ำมีพื้นที่กว้างสามารถ Built-in  Wake-in Closet  และซ้ายมือมีประตูกระจกมองเห็น Family Area ได้

ในห้องน้ำมีอ่างอาบน้ำจากุซชี่ให้ พร้อมกระจกกั้นอาบน้ำส่วนแห้งและเปียก

มีห้องกระจกกั้นพื้นที่ส่วนเปียก

กระจกกั้นระหว่างอ่างกับชักโครก

มีทั้งฝักบัวแบบธรรมดาและ Rain Shower ให้

มีประตูบานเลื่อนกระจกเปิดออกไปข้างนอกห้องได้

บริเวณเตียงนอนกว้างขวาง ปลายเตียงวางโซฟาขนาด 2 ที่นั่ง ไว้นั่งดูทีวีได้

วางโต๊ะและทีวีได้ประมาณนี้

ประตูข้างเตียงเป็นประตูกระจกบานเลื่อนทั้งหมด สามารถเปิดรับแสงในยามเช้าได้และใช้ม่านปิด ห้องนี้มีระเบียงส่วนตัวถึง 2 ด้าน

ระเบียงฝั่งหน้าบ้าน

มีความกว้างสามารถนำโต๊ะเก้าอี้มานั่งกลางแจ้งได้

มาดูกันที่บ้านแฝด (VESTA) บ้านแฝด 3 ชั้น ด้วยความเป็นส่วนตัวสุดๆ จึงมีเพียงแค่จำนวน 12 ยูนิตเท่านั้น บนที่ดิน 54 ตร.ว. ซึ่งมีฟังก์ชั่นทั้งหมดดังนี้

– พื้นที่ใช้สอย 255 ตร.ม.

– 2 ที่จอดรถ

– 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ

– 1 ห้องแม่บ้านพร้อมห้องน้ำในตัว

– ห้องนั่งเล่น

– ห้องครัว และ Pantry

– สวนส่วนตัว

Floor 1

ด้านหน้าของบ้านแฝดจะเป็นสองหลังข้างกันแบบนี้ แต่จะใช้กำแพงเดียวกันแค่ส่วนของชั้น 1 เท่านั้น ส่วนที่ติดกันกับหลังข้างๆ ก็จะเป็นห้องน้ำแทน เพื่อความเป็นส่วนตัวของคนในบ้าน ซึ่งบ้านแฝดทุกหลังจะหันทางไปทางทิศตะวันออกทั้งหมด

ส่วนชั้น 2 และ 3 ไม่ใช้กำแพงติดกับหลังข้างๆ และมีรั้วเหล็กติดไว้แทน

บริเวณหน้าบ้านมีความกว้าง 5 เมตร ลึก 5.20 เมตร

สามารถจอดรถยนต์ได้ 2 คัน

มีรั้วเหล็กกั้นฝั่งประตูหน้าบ้าน

ประตูเป็นระบบ Digital Door Lock และผนังติดวอลเปเปอร์สีขาวให้ทุกชั้น

สวิตซ์ไฟเหมือนกับบ้านเดี่ยว

Living Room ชั้น 1 ติดประตูบานเลื่อนกระจกทั้งหมด สามารถมองเห็นวิวข้างบ้านได้ บ้านแฝดทุกหลังจะได้รับแอร์ทั้งหมด 7 เครื่อง

ห้องครัวอยู่ที่ชั้น 1 กระจกเลื่อน 3 จังหวะ ทางโครงการให้ Pantry เตาอบไฟฟ้า เหมือนกับบ้านเดี่ยวทั้งหมด

ในส่วนของหลังบ้านมีห้องนอนพร้อมห้องน้ำในตัวสำหรับแม่บ้าน และห้องซักล้าง

เดินมาทางบันไดขึ้นไปชั้น 2 ข้างๆ เป็นห้องน้ำของชั้น 1 ที่มีส่วนของผนังติดกับบ้านแฝดหลังข้างๆ และห้องเก็บของใต้บันได

ขนาดของห้องน้ำชั้นล่างไม่กว้างมาก มีอ่างล้างมือและชักโครก

ข้างๆ อ่างล้างหน้ามีประตูกระจกบานเลื่อนเปิดออกไปได้ เป็นช่องระบายอากาศเปิดโล่งไปถึงชั้น 3 สามารถนำราวแขวนผ้ามาตากไว้ตรงนี้ได้

ชักโครกใช้ยี่ห้อ KOHLER

บันไดวนขึ้นมายังชั้น 2 มีหน้าต่างกระจกเปิดออกรับลมได้ และให้ช่างปีนออกไปซ่อมคอมเพลสเซอร์ที่อยู่บนหังคาได้ เนื่องจากมีบันไดลิงอยู่ข้างๆ ตัวบ้าน

พื้นที่ Family Area อยู่ฝั่งซ้ายมือติดกับบันได ไฮไลท์คือมีเพดานสูงถึง 6 เมตร เหมือนกับบ้านเดี่ยว มีหน้าต่างกระจกสามารถมองเห็นวิวด้านนอกได้

เพดานสูงไปถึงชั้น 3

ถัดมาเป็น Master Bedroom

ห้องกว้าง ติดกระจกบานเลื่อนไว้ 3 ตำแหน่ง ทั้งฝั่งหน้าบ้านและข้างบ้าน รับแสงได้เต็มๆ แบบไม่ต้องกลัวห้องมืด

มีระเบียงเล็กๆ อยู่ติดกับฝั่งหน้าบ้าน

ห้องน้ำใน Master Bedroom มีอ่างล้างหน้าแยกให้ 2 อ่าง

มีอ่างอาบน้ำแต่ไม่มีระบบจากุซชี่เหมือนกับบ้านเดี่ยว

มีกระจกกั้นพื้นที่ส่วนเปียกและชักโครกให้ ฝั่งอาบน้ำมีทั้งฝักบัวและ Rain Shower

ใช้สุขภัณฑ์ของ KOHLER เหมือนเดิม และมีเครื่องทำน้ำอุ่นให้ทุกหลัง

ช่องกระจกตรง Family Area ที่อยู่ชั้น 2 สูงขึ้นมาถึงชั้น 3

มีชั้นลอยติดกับบันไดชั้น 3 สามารถเปลี่ยนเป็นมุมทำงานสบายๆ ได้

ถัดมาเป็นห้องนอนที่อยู่ฝั่งหน้าบ้าน

ผนังฝั่งหน้าบ้านติดกระจกทั้งหมด รับแสงได้เต็มๆ

ห้องน้ำในตัว กระจกกั้นส่วนเปียกและแห้งไม่มีอ่างอาบน้ำเหมือนห้อง Master Bedroom

พื้นต่างระดับกั้นเวลาอาบน้ำไม่ให้ไหลออก

กระจกสามารถเปิดออกมาแล้วเป็นชั้นวางของ รวมถึงตู้ด้านล่างก็สามารถเก็บของได้

รวมถึงตู้ด้านล่างข้างๆ ชักโครกก็สามารถเก็บของได้

มีชั้นวางอุปกรณ์อาบน้ำข้างๆ ฝักบัว

ห้องนอนสุดท้ายบนชั้น 3 ของบ้านแฝด ที่อยู่ฝั่งหลังบ้าน มีกระจกบานเลื่อนรับแสง

มีห้องน้ำในตัว ทางเดินไปห้องน้ำ

ที่กั้นระหว่างห้องนอนและห้องน้ำ

ตู้ใต้กระจกเปิดเก็บของได้

มีปลั๊กไฟให้ในห้องน้ำ

กระจกกั้นส่วนแห้งและเปียก

พื้นต่างระดับกั้นไม่ให้น้ำไหลออกไปด้านนอก

กระจกบานเลื่อนรับแสงจากด้านนอกได้

โดยสรุปแล้ว ARTALE Kaset – Nawamin (อาร์เทล เกษตร-นวมินทร์) คือโครงการบ้านเดี่ยว พร้อมบ้านแฝด 3 ชั้น ระดับ Luxury ที่หรูหราที่สุด เป็นโครงการที่สองของ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) และเป็นโครงการแรกในย่านเกษตร-นวมินทร์ ต่อจาก ARTALE Phatthanakarn-Thonglor (อาร์เทล พัฒนาการ-ทองหล่อ)

สิ่งที่พิเศษก็คือโครงการนี้มี Option ให้กับผู้สนใจพิจารณาเลือกซื้อบ้านแบบบ้านแฝดได้ด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งฟังก์ชั่นการใช้งานและรูปลักษณ์ของอาคารก็สวยงาม มีความคลาสสิคไม่แพ้บ้านเดี่ยวแต่อย่างใด จึงน่าจะเหมาะกับผู้ซื้อครอบครัวระดับเล็ก-กลางที่มีงบประมาณในระดับ 17 -20 ล้านบาท ซึ่งจะว่าไปในย่านเกษตร-นวมินทร์ ก็มักจะเต็มไปด้วยบ้านเดี่ยวราคาแพงเกินกว่า 20 ล้านบาทขึ้นไป ดังนั้นตัวเลือกอย่างบ้านแฝดที่มีขนาดพื้นที่ใช้สอยถึง 255 ตรม.ก็ดูจะเป็น Choice ที่น่าสนใจไม่น้อย

ด้วยคอนเซ็ปที่อยากให้บ้านเป็นมากกว่าที่อยู่อาศัย อาร์เทล เกษตร – นวมินทร์ จึงรวบรวมทุกความรู้สึกที่กำลังจะเกิดขึ้น เพื่อความทรงจำให้ทุกชีวิตสร้างเรื่องราวที่น่าจดจำ และเพราะคำว่าบ้านเป็นมากกว่าการใช้ชีวิตทุกพื้นที่ของการอยู่อาศัยจึงถูกออกแบบอย่างดีที่สุดเพื่อเชื่อมโยงทุกเรื่องราวไว้ด้วยกัน

และผู้อาศัยทุกคนจะได้รับประโยชน์จากการมีพื้นที่ Clubhouse ที่สามารถ Take View แบบ Panorama ของทะเลสาปสาธารณะได้ ทำให้ได้พื้นที่พักผ่อนเปิดโล่ง สบายตา แตกต่างกับโครงการเปิดใหม่อื่นๆ ในย่านเดียวกันอย่างสิ้นเชิง

และโครงการอยู่ในทำเลที่กำลังได้รับการพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากใกล้กับทางขึ้นทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ เพียงแค่ 2.3 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางไปมาระหว่างทางด่วนเพียงแค่ 5-10 นาทีเท่านั้น ทั้งเส้นทางการคมนาคมอย่างรถไฟฟ้าบีทีเอสสายสีเทาและสีน้ำตาลที่มีแผนที่จะพัฒนาในอนาคตข้างหน้า ที่จะช่วยลดปัญหาของรถติดลงได้เป็นอย่างมาก และมีแหล่งช้อปปิ้งมอลล์ขนาดใหญ่ และรูปแบบบ้านได้รับแรงบันดาลใจจากงานออกแบบสถาปัตยกรรมแบบ Hybrid Concept ที่ผสานความต่างเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ซึ่งช่วยตอบโจทย์การอยู่อาศัยกับแบบครอบครัวและเน้นการทำกิจกรรมร่วมกันของสมาชิกในบ้าน จึงเหมาะกับกลุ่มเป้าหมายที่อยากมีบ้านที่มี Open Space และ Club House วิวสวยขนาดใหญ่ไว้ใช้เวลาว่างทำกิจกรรมร่วมกันกับครอบครัวหลังจากเหนื่อยล้าจากการทำงาน…ให้ทุกความหมายของการใช้ชีวิต เกิดขึ้นพร้อมกันที่ ARTALE Kaset – Nawamin

สนใจข้อมูลโครงการ ARTALE Kaset – Nawamin เพิ่มเติม ติดตามได้ที่ https://www.ananda.co.th/house/artale-kaset-nawamin/th