รีวิว AROM WONGAMAT ซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่คอนโดมิเนียม สูงเสียดฟ้า วิวทะเลทุกยูนิต

บนทำเลผืนสุดท้ายริมหาดวงศ์อมาตย์ พัทยา

ท่ามกลางวิถีชีวิตแบบ The Next Normal Living อย่างเช่นปัจจุบันนี้ มีคนจำนวนไม่น้อยที่มองหาที่พักอาศัยในหัวเมืองท่องเที่ยวมากขึ้น โดยเฉพาะเมืองที่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ และใช้เวลาขับรถเพียง 2-3 ชั่วโมง หากต้องการบรรยากาศติดทะเล ริมชายหาด หลายคนก็จะคิดถึงพัทยา ระยอง และหัวหินเป็นอันดับแรก ด้วยการที่มีสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่ง และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆที่แทบไม่ต่างกับในกรุงเทพฯเลย ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร หรือโรงพยาบาลก็ตาม จึงทำให้ตลาดคอนโดในเมืองตากอากาศได้รับความนิยมที่เพิ่มมากขึ้นกว่าเมื่อก่อนมาก เนื่องมาจากสถานการณ์ปัจจุบันที่คนต้องการ Safe Place ส่วนตัวไว้พักผ่อน หลบหนีจากความวุ่นวายในตัวเมือง ส่งผลให้ตลาดคอนโดในหัวเมืองท่องเที่ยวหลายแห่งเริ่มคึกคัก สวนทางกับตลาดคอนโดเปิดใหม่ในกรุงเทพฯ ที่ยังคงชะลอตัวอยู่

หัวหิน และพัทยา คือเมืองท่องเที่ยวติดหาดที่เป็นที่รู้จักกันในระดับโลก โดยที่พัทยานั้นมีบริบทของความเป็นเมืองแห่งสีสันยามค่ำคืนที่มากกว่า และยังเป็นเมืองยุทธศาสตร์ในเรื่องของ EEC Hub โดยในปัจจุบันพัทยาเป็นจุดกึ่งกลางระหว่างเมืองอุตสาหกรรมในภาคตะวันออกกับกรุงเทพมหานคร ตอบโจทย์ประสบการณ์การท่องเที่ยวทุกสไตล์ทั้งหรูหรา ชิลล์ๆ สบายๆ ผจญภัย และท่องเที่ยววัฒนธรรมสำหรับคนทุกวัยทั้งครอบครัว คนวัยทำงานและวัยเกษียณ โดยศักยภาพของเมืองพัทยาที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต คือ เป็นพื้นที่นำร่องการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ อย่าง Smart City เพื่อเป็นการเพิ่มศักยภาพการบริหารจัดการเมืองพัทยา ในด้านเศรษฐกิจ ด้านสังคม ด้านทรัพยากร-สิ่งแวดล้อม ด้านวัฒนธรรม ด้านการบริหาร และการลงทุนของโลก ซึ่งในอนาคตจะเติบโตเป็นศูนย์กลางการลงทุนอุตสาหกรรมสมัยใหม่ และมีโครงข่ายเส้นทางคมนาคมขนส่งเชื่อมโยงกันแบบไร้รอยต่อ ทั้งทางบก ทางราง ทางน้ำ และทางอากาศ อาทิ โครงการ High speed Ferry เชื่อมสามเมืองสำคัญ สมุทรปราการ พัทยา หัวหิน, มีเที่ยวบินตรงจากจีน สิงคโปร์ มาเก๊า มาเลเซีย อุดรธานี และเกาะสมุย มาสู่สนามบินอู่ตะเภา, แผนพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา ภายในปี 2563 จะพัฒนาเพื่อรองรับผู้โดยสารเพิ่มขึ้นเป็น 5 ล้านคน, การพัฒนารถไฟรางคู่ในอนาคต, โครงการมอเตอร์เวย์เชื่อมท่าเรือแหลมฉบังกับท่าเรือทวายในพม่า, และที่สำคัญ คือ โครงการรถไฟความเร็วสูงที่เชื่อมต่อกับ 3 สนามบิน แบบไร้รอยต่อ ทั้งดอนเมือง – สุวรรณภูมิ – อู่ตะเภา และยังสามารถเชื่อมต่อไปยังท่าเรือแหลมฉบัง ท่าเรือมาบตาพุดได้อีกด้วย ซึ่งจะทำให้พัทยาไม่ใช่เมืองท่องเที่ยวเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป แต่จะเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจที่สำคัญของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเร็วๆ นี้พัทยาก็มีแผนที่จะปรับปรุงชายหาดโดยการถมทรายในระยะทาง 2.8 กิโลเมตร ตั้งแต่โซนพัทยาเหนือจนถึงพัทยาใต้ ให้ได้ชายหาดกว้างขึ้น 35 เมตร  สวยงามน่าพักผ่อนยิ่งขึ้นกว่าเดิม

โดยพัทยานั้นสามารถแบ่งโซนได้เป็น พัทยา เหนือ กลาง และใต้ ซึ่งพัทยาเหนือ จะเป็นบริเวณที่ค่อนข้างสงบเหมาะกับการพักผ่อน เพราะคนไม่พลุกพล่าน สามารถเดินเล่นบริเวณชายหาดและลงเล่นน้ำทะเลได้ ส่วนพัทยากลาง และพัทยาใต้ มีผู้คนพลุกพล่าน คึกคักไปด้วยสถานบันเทิงและแหล่งท่องเที่ยวยามค่ำคืน รวมถึงร้านอาหารและที่พัก มีให้เลือกตั้งแต่ราคาหลักร้อยไปจนถึงแบบหรูหราระดับ 5 ดาว

ซึ่งเราจะพามารู้จักกับหาดวงศ์อมาตย์ ที่อยู่ในพัทยาโซนเหนือ เป็นหาดที่มีความยาวประมาณ 1.3 กม. และยังไม่มีถนนเลียบชายหาด จึงทำให้ไม่มีคนพลุกพล่านมากนัก นักท่องเที่ยวรู้สึกได้ถึงความเป็นส่วนตัว เนื่องจากจะไม่มีร้านค้ามาตั้งเต้นท์ ตั้งเก้าอี้บริเวณหาดเหมือนกับหาดอื่นในพัทยา บริเวณชายหาดจะดูสะอาดกว่าหาดพัทยาในย่านอื่นๆอีกด้วย และอาคารส่วนใหญ่ที่สร้างติดหาดวงศ์อมาตย์ ส่วนมากจะเป็นโรงแรมหรู หรือ Beach Club ชั้นนำทั้งนั้น เช่น Centara Grand Mirage Beach Resort Pattaya, Pullman Pattaya, Dusit Thani Pattaya hotel, Amari Pattaya และ Avani Pattaya Resort

หาดวงศ์อมาตย์ เป็นทำเลที่มีสัดส่วนของคอนโดมิเนียมเปิดใหม่น้อยมาก อาจจะเป็นเพราะว่าทำเลวงศ์อมาตย์มีการพัฒนาโครงการอสังหาฯในรูปแบบอื่นๆ เต็มพื้นที่อยู่ก่อนแล้วโดยเฉพาะพื้นที่ติดชายหาดที่ที่ดินส่วนใหญ่มีการพัฒนาเป็นโรงแรมหรูเกือบหมด ทำให้โครงการคอนโดมิเนียมที่ติดชายหาดในพื้นที่นี้ได้รับความสนใจค่อนข้างมาก เนื่องจากมีความเป็นส่วนตัวที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนอย่างแท้จริง และบริบทของทำเลโดยรอบ ไม่ได้เป็นผับบาร์ สถานบันเทิงยามค่ำคืน แต่เป็นโรงแรมหรู และคอนโดมิเนียมระดับไฮเอนด์หลายแห่ง รวมถึงยังอยู่ไม่ใกล้จากห้างสรรพสินค้าชั้นนำ…โดยที่ดินผืนสุดท้ายที่ถือว่าเป็น Prime of the Prime Location บนหาดวงศ์อมาตย์ ก็ถูกปักหมุดโดยโครงการคอนโดมิเนียมระดับซุปเปอร์ลักซ์ชัวรี่อย่าง AROM WONGAMAT (อารมณ์ วงศ์อมาตย์) ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อไม่นานมานี้  โดย AROM WONGAMAT นับว่าเป็นโครงการคอนโดที่เป็น Iconic landmark ที่ไม่ใช่แค่มีความสูงมากๆ และเด่นมากๆเพียงอย่างเดียว แต่ยังเป็นโครงการระดับ Masterpiece ที่มอบประสบการณ์การพักอาศัยริมชายหาดที่สมบูรณ์แบบมากที่สุดในพัทยา ที่ถูกร่วมกัน Crafted ขึ้นมาโดยทีมงานที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล เพื่อให้โครงการนี้ถ่ายทอด “อารมณ์” ซึ่งก็คือความรู้สึก และปฎิกิริยาตอบสนองที่มาจากประสาทสัมผัสทั้ง 5 ของเรา เมื่อได้มายืนอยู่บนทำเลที่ทรงคุณค่า ท่ามกลางธรรมชาติ ในจุดที่ ทะเล, แสงแดด และท้องฟ้า ถูกหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว ให้คุณได้เอนกาย สบายอารมณ์ดั่งลอยอยู่บนฟ้า ท่ามกลางบรรยากาศอันเป็นส่วนตัวของหาดวงศ์อมาตย์

รับชมคลิปโฆษณา ที่ถ่ายทอดความเป็น Sense The Masterpiece ได้ที่นี่

โดยเส้นทางที่สามารถเข้าไปถึงโครงการ AROM WONGAMAT นั้นง่ายมาก อยู่ในโซนพัทยาเหนือที่มีความสงบ เป็นส่วนตัวมากกว่าโซนพัทยากลางและใต้ และบริเวณใกล้เคียงโครงการยังเต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้าที่เป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ในพัทยา อย่าง Terminal 21 Pattaya อีกทั้งสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่ง รวมไปถึงโรงแรมหรูที่อยู่ใกล้กับโครงการ อีกทั้งโรงพยาบาล และร้านอาหาร คาเฟ่สวยๆ อย่างมากมาย

เรามาเริ่มต้นกันที่ Terminal 21 Pattaya ที่จะทำให้เห็นภาพได้อย่างชัดเจน เผื่อว่าใครที่เดินทางไปยังโครงการ AROM WONGAMAT ไม่ถูก

ระยะทางห่างจากโครงการฯ เพียง 3.3 กม. เท่านั้น

แล้วเลี้ยวไปทางขวาตามป้ายนาเกลือได้เลย

ถัดจาก Terminal 21 Pattaya ก็จะเจอกับวงเวียนปลาโลมา และโรงแรมดุสิตธานี พัทยา พอดี

ตามรายทางก็จะมีทั้งร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อ โฮสเทล หลายแห่ง

สามารถเข้าได้ทั้งซอยนาเกลือ 16 และซอยนาเกลือ 18

ภายในซอยนาเกลือ 18 ที่เต็มไปด้วยร้านค้าขนาดเล็กต่างๆ

เลี้ยวขวาตรงแยกนี้

เลี้ยวขวามาก็จะเจอกับ Centara Grand Mirage Beach Resort Pattaya โรงแรมหรูระดับ 5 ดาว ที่มีความสวยงาม ชื่นชอบทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติอีกด้วย

ภาพจาก : https://www.facebook.com/Centaragrandmirage/?ref=page_internal

ขับเลยจากโรงแรมเซนทารา ก็จะเจอกับร้าน The glass house silver Pattaya ซึ่งแยกออกมาจาก The glass house ที่อยู่ตรงนาจอมเทียน แต่ร้านติดหาดเหมือนกัน มีทั้งอาหารคาวและหวาน มาตรฐานรสชาติเดียวกับสาขาแรกไม่ผิดเพี้ยน

ภาพจาก : https://www.facebook.com/theglasshousesilver/photos/?ref=page_internal

Pullman Pattaya Hotel G โรงแรมหรูระดับ 5 ดาว ที่อยู่ใกล้กับโครงการ AROM WONGAMAT เพียง 700 เมตรเท่านั้น

ภาพจาก : https://www.facebook.com/pullmanpattayahotelg/?ref=page_internal

ขับเลยจากโรงแรมพูลแมน จะเจอกับสามแยกที่มีโลตัสเอ็กซ์เพลสอยู่ด้านหน้า ให้เลี้ยวซ้ายได้เลย

หัวมุมซ้ายมือจะเป็น Family Mart

ถัดมาเป็นร้าน Surf & Turf Pattaya เป็น Beach Club สุดฮิต ที่มีดีทั้งบรรยากาศและอาหารอร่อย

ภาพจาก : https://www.facebook.com/Surfandturf.pattaya/?ref=page_internal

ถึงแล้วกับโครงการ AROM WONGAMAT ที่มีป้ายบิลบอร์ดขนาดใหญ่ตั้งอยู่ด้านหน้า

ติดกับโครงการฯ เป็นคอนโด ANANYA

และฝั่งตรงข้ามกับโครงการฯ เป็นคอนโด The Riviera Wongamat Beach

โครงการ AROM WONGAMAT (อารมณ์ วงศ์อมาตย์) ถูกพัฒนาโดยบริษัท คัลเลอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ที่เกิดจากการร่วมทุนระหว่างผู้ประกอบการอสังหาฯ ชั้นนำของเมืองไทย ได้แก่ บริษัท เอปัส ดีเวลลอปเม้นท์ กรุ๊ป จำกัด ผู้พัฒนาอสังหาฯ ระดับลักซ์ชัวรี่ทั้งในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และในหัวเมืองท่องเที่ยว อย่าง พัทยา ชลบุรี ศรีราชา และระยอง มากว่า 10 ปี, บริษัท เออเบิ้ล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ผู้พัฒนาโครงการคอนมิเนียมทั้งในกรุงเทพฯ และพัทยา โดยมีโครงการฯ ในพัทยาทั้งหมดกว่า 9 โปรเจกต์  และบริษัท บ้านสิริศา จำกัด ที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาฯ ในภาคตะวันออกมานาน และมีหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น ทาวน์โฮม คอนโดมิเนียม อาคารพาณิชย์ และบ้านจัดสรร ซึ่งพัฒนาโครงการฯ มาแล้วทั้งหมดกว่า 42 โครงการ ซึ่งทั้ง 3 บริษัทฯ ที่ได้มาร่วมมือกันพัฒนาโครงการ AROM WONGAMAT นั้น มีความฝันที่จะทำอะไรให้ใหญ่กว่าสิ่งที่ตัวเองเคยทำกันมา โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้คนทั้งโลกได้รู้ว่าหากเป็นเรื่องพัทยายังไงดีเวลลอปเปอร์ต่างชาติก็ถ่ายทอดประสบการณ์การพักอาศัยที่ไม่ดีเท่าดีเวลลอปเปอร์ไทยที่รู้ลึก รู้จริง ชำนาญพื้นที่ รู้ใจผู้ซื้อมากกว่า

เฉลิมพล โขนแจ่ม กรรมการผู้จัดการ และผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท คัลเลอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (บริษัท เอปัส ดีเวลลอปเม้นท์ กรุ๊ป จำกัด)

สมภพ วาณิชเสนี กรรมการผู้จัดการ และผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท คัลเลอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (บริษัท เออเบิ้ล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด)

ภาค ธนาอัครชล กรรมการผู้จัดการ และผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท คัลเลอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (บริษัท บ้านสิริศา จำกัด)

โดย บริษัท คัลเลอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ที่เป็นการรวมตัวกันของบริษัทอสังหาฯ 3 บริษัท ที่มีความถนัดกันคนละด้าน แต่ว่ามีความฝันที่จะทำอะไรที่ใหญ่กว่าสิ่งที่เคยทำกันอยู่ โดยความมุ่งมั่นจากทั้ง 3 ฝ่าย คือ ต้องการความเป็นที่สุด และเป็นผลงานชิ้นเอกที่ทำให้ทุกคนรู้สึกว่าบริษัทฯตั้งใจสร้างโครงการนี้ขึ้นมา มุ่งมั่นทำในสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นในพัทยา และยังเป็นการนำประสบการณ์ บทเรียนเก่าๆ มาพัฒนาโครงการ AROM WONGAMAT ที่เน้นเรื่องของฟังก์ชั่นทุกตารางนิ้วให้ลูกค้าสามารถใช้ประโยชน์ได้มากที่สุด และสะท้อนถึงความเป็นตัวตนของผู้พักอาศัย ให้ได้เข้ามาสัมผัสกับชีวิตทันสมัยที่สามารถอยู่ร่วมกับธรรมชาติได้ มีความสุขทั้งคนพัฒนาโครงการและผู้อยู่อาศัยจริงๆ

โดย AROM WONGAMAT เป็นโครงการคอนโดมิเนียมระดับซุปเปอร์ลักซ์ชัวรี่ บนพื้นที่ขนาด 3-3-41 ไร่ ขนาด 1 อาคาร สูง 55 ชั้น จำนวน 319 ยูนิต พร้อมที่จอดรถ 44% คิดเป็น 146 คัน และพื้นที่ส่วนกลางอย่างจุใจมากถึง 4,820 ตารางเมตร มีห้องให้เลือกทั้งหมด 3 แบบ ได้แก่ ห้องแบบ 1 ห้องนอน ขนาด  37.50 – 63 ตารางเมตร ห้องแบบ 2 ห้องนอน ขนาด 81-87 ตารางเมตร และเพนท์เฮ้าส์ขนาด 201 – 210 ตารางเมตร และยังสามารถมองเห็นวิวทะเลพัทยาแบบพาโนรามา 180 องศา ได้ทุกยูนิต

ไม่เพียงเท่านั้น AROM WONGAMAT ยังโดดเด่นไปด้วยแนวคิด “Sense The Masterpiece”  ที่มีด้วยกัน 4 แกนหลักๆ  ได้แก่ 1. Masterpiece of Nature 2. Masterpiece of Design 3. Masterpiece of Living และ 4.Masterpiece of the Future มาดูกันว่าความหมายของแต่ละแกนหลักเป็นอย่างไรบ้าง

1. Masterpiece of Nature

โครงการนี้ให้ความสำคัญกับธรรมชาติโดยรอบโครงการเป็นอย่างมาก เพราะเชื่อว่าธรรมชาติคือผลงานชิ้นเอกที่ไม่มีใครสามารถเปลี่ยนแปลงความงดงามของธรรมชาติได้ ตัวโครงการตั้งอยู่ท่ามกลางพื้นที่สีเขียวซึ่งร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่กว่า 100 ปี บนโลเคชั่นที่เงียบสงบริมหาดวงศ์อมาตย์อันสวยงาม ผสานทั้งธรรมชาติและความหรูหราอย่างกลมกลืน รังสรรค์สรวงสวรรค์แห่งการพักผ่อนที่ซึ่งท้องฟ้า ดวงอาทิตย์ สายลม และหาดทรายมาบรรจบกัน พร้อมการตกแต่งพื้นที่ส่วนกลางที่ดึงเสน่ห์ความงามจากธรรมชาติโดยรอบ สะท้อนสู่อารมณ์ความรู้สึกของผู้พักอาศัยให้รู้สึกสดชื่นผ่อนคลายในแบบ “Private Island & Leisure Lifestyle”

2. Masterpiece of Design

อารมณ์ วงศ์อมาตย์ เรียกได้ว่าเป็นโครงการเดียวที่รวบรวมเอาสถาปนิกและนักออกแบบชาวไทยเจ้าของรางวัลระดับโลก ทั้งด้านสถาปัตยกรรม การออกแบบตกแต่งภายใน และแลนด์สเคปดีไซน์ เพื่อมอบผลงานชิ้นเอกอันน่าภาคภูมิใจและเป็นมาตรฐานใหม่ของพัทยา โดยงานสถาปัตยกรรมรับผิดชอบโดยบริษัท แทนเดม อาร์คิเท็ค (2001) งานออกแบบตกแต่งภายในโดย PIA Interior และภูมิสถาปัตยกรรม โดย บริษัท ทร็อพ TROP : Terrains + Open space ที่พร้อมจะให้คุณได้สัมผัสกับโครงการระดับซุปเปอร์ลักซ์ชัวรี่ที่สามารถตอบโจทย์ได้ทั้งในด้านของการออกแบบและการอยู่อาศัยของคุณ

คุณอรรถพร คบคงสันติ ผู้บริหารบริษัท T.R.O.P จำกัด ที่ดูแลส่วนของภูมิสถาปัตย์ (Landscape Design) พื้นที่ส่วนกลางตกแต่งสวนโดยยังคงอนุรักษ์พันธุ์ไม้และต้นไม้ใหญ่อายุเก่าแก่กว่า 100 ปีในพื้นที่ เสริมด้วยพันธุ์ไม้พื้นเมืองนานาชนิด ออกแบบสวนด้วยรูปทรงกลมและหยดน้ำที่ได้แรงบันดาลคลื่นและท้องทะเล ช่วยสร้างบรรยากาศแห่งการพักผ่อนอันร่มรื่นตั้งแต่ก้าวแรกเมื่อเข้าสู่โครงการ

คุณธัช พิทักษ์รักษ์สันติ กรรมการผู้จัดการบริษัท แทนเดม อาร์คิเท็ค (2001) จำกัด ดูแลในส่วนของการออกแบบสถาปัตยกรรมอาคาร (Exterior Design) นำแรงบันดาลใจจากธรรมชาติมาสร้างสรรค์เป็นรูปทรงอาคารแบบ Single Stand Tower เพื่อมอบความโดดเด่นริมหาดด้วยรายละเอียดต่างๆ โดยเฉพาะส่วน Façade ซึ่งใช้กระจกทั้งหมด เพื่อสื่อถึงคลื่นน้ำที่สะท้อนแสงอาทิตย์และละอองลมทะเลที่สดชื่น รวมไปถึงการตกแต่งด้วยเส้นโค้งรอบนอกอาคารเพื่อสร้างเลเยอร์ให้รู้สึกถึงความเคลื่อนไหวอันน่ามหัศจรรย์ คล้ายกำลังล่องลอยบนท้องฟ้าเหนือท้องทะเล มอบภาพลักษณ์อันสง่างามที่สะกดทุกสายตา ส่วนระเบียงกระจกออกแบบให้แต่ละชั้นมีตำแหน่งการบิดที่ไม่เหมือนกัน ก่อให้เกิดมิติแห่งการเคลื่อนไหวไหลลื่นที่ผสานคลื่นและลมอย่างลงตัว แต่ยังคงความงามสง่าในทุกมุมมอง

และ คุณนธินี วสุรัตนา Senior Project Manager PIA INTERIOR ได้รับโจทย์ให้ดูแลการออกแบบภายใน (Interior Design) ที่สื่อถึงความเป็น Private Island & Leisure Lifestyle สถานที่พักผ่อนสุดหรูและมีความเป็นส่วนตัวสูง เน้นการออกแบบให้สวยงามเรียบง่าย แต่ยังให้ความรู้สึกหรูหราสไตล์ทรอปิคอล โมเดิร์น โดยมีการเลือกใช้โทนสีที่ได้แรงบันดาลใจมาจากภูมิทัศน์อันงดงามของหาดทราย น้ำทะเล และประกายแสงสีทองของดวงอาทิตย์ยามกระทบกับผืนน้ำ เพื่อให้ผู้พักอาศัยรู้สึกผ่อนคลายและใกล้ชิดธรรมชาติ การออกแบบพื้นที่ทุกตารางนิ้วคำนึงถึงความกลมกลืนความสงบ และฟังก์ชั่นเพื่อการอยู่อาศัยเป็นสำคัญ มีการใช้เฟอร์นิเจอร์และวัสดุที่ทำจากเส้นใยปลอดสารพิษด้วยรูปลักษณ์ที่หรูหรามีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

3. Masterpiece of Living

การออกแบบจัดวางองค์ประกอบพื้นที่ใช้สอยทุกยูนิตคำนึงถึงความเป็นส่วนตัวและความรู้สึกผ่อนคลายของผู้อยู่อาศัยรวมกับการจัดฟังก์ชั่นอย่างชาญฉลาดให้ความรู้สึกเหมือนได้พักผ่อนที่โรงแรมตากอากาศหรูที่ทุกยูนิตทุกยูนิตสามารถชมวิวทะเลแบบพาโนรามาซีวิว สำหรับห้องขนาด 1 ห้องนอน แบ่งสัดส่วนพื้นที่ห้องนั่งเล่น ห้องนอน ห้องน้ำ และครัวไว้อย่างลงตัว ระเบียงมีหน้ากว้างถึง 3 เมตร พร้อมเพดานสูง 2.8 เมตร ทำให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกปลอดโปร่งโล่งสบายจากการเปิดรับวิวที่มากขึ้น ส่วนความพิเศษของห้องขนาด 2 ห้องนอนคือมีลิฟต์ส่วนตัวทุกยูนิต เพิ่มสัดส่วนของฟังก์ชั่นการใช้งาน ที่ปรับเปลี่ยนพื้นที่ได้ตามไลฟ์สไตล์และครัวแบบปิด และสำหรับห้องเพนท์เฮ้าส์ขนาด 200 ตารางเมตร เหนือกว่าด้วยฟังก์ชั่นและพื้นที่ที่มากกว่า มอบเพดานสูงถึง 4 เมตร ให้ความรู้สึกหรูหราอย่างเหนือระดับ โดยห้องทั้ง 3 แบบตกแต่งในสไตล์ Fully Fitted ติดตั้งอุปกรณ์ครัวและสุขภัณฑ์จากแบรนด์ดังระดับโลก เช่น Gessi รวมถึงตู้เสื้อผ้า Built-in ขนาดใหญ่ นอกจากนี้ยังมียูนิตซิกเนเจอร์พิเศษที่มีสระจากุซซี่บนระเบียงส่วนตัว

ไม่เพียงเท่านั้น โครงการยังครบครันไปด้วยการบริการและสิ่งอำนวยความสะดวกระดับเฟิร์สคลาส ตั้งแต่ที่จอดรถระบบ Auto parking และ Electric Vehicle Charging Point สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า ลิฟต์ส่วนตัวสำหรับห้องแบบ 2 ห้องนอน เติมเต็มไฟล์สไตล์การพักผ่อนด้วยพื้นที่ส่วนกลางร่มรื่นสีเขียว เพียบพร้อมด้วยบริการและสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ตั้งแต่ Beach Facilities กับสระริมหาดเล่นระดับสำหรับผู้ใหญ่ที่เชื่อมต่อสไลด์เดอร์สำหรับสระเด็ก 2 ชั้น แบบ Multilevel Aqua Pool แห่งเดียวในพัทยา ออนเซนขนาดใหญ่ ห้องซาลอน สตีมและซาวน์น่า ฟิตเนส โยคะ สปา รวมถึงห้องชมภาพยนตร์ ห้องเด็กเล่นสีสันสดใส ตลอดจนถึง Sky Facilities บนชั้นดาดฟ้าที่สามารถชมรับวิวได้แบบพาโนราม่า และสระว่ายน้ำระบบน้ำเกลือ Infinity View Sky Pool ยาวถึง 35 เมตร Sky Jacuzzi และ Aqua Cycling & Swim jet ที่แยกโซนไว้อย่างเป็นสัดส่วน รวมทั้ง Sky Lounge, Private Deck และ Co-Kitchen Space สำหรับการสังสรรค์ของครอบครัวและเพื่อนๆ เมื่อมาใช้เวลาวันหยุดด้วยกันในโครงการ

Masterpiece of the Future

“อารมณ์ วงศ์อมาตย์” ได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อเป็นไอคอนิกแลนด์มาร์กแห่งใหม่ของพัทยาและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่หรูหราแห่งอนาคต โดยคำนึงถึงธรรมชาติและความยั่งยืน ทั้งในขั้นตอนการคัดสรรวัสดุก่อสร้างและหลักการออกแบบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกับความโดดเด่นของโครงการนั่นเอง

Model + Master Plan ของโครงการ และ Facilities แบบจุใจมากถึง 4,820 ตารางเมตร

อาคารแบ่งได้เป็น 3 โซน คือ Serenity Zone (ชั้น 3 – 21), Reflection Zone (ชั้น 22 – 43) และ Horizon Zone (ชั้น 44 – 50) โดย Horizon Zone จะมี Units Type ที่แตกต่างจากโซนอื่น คือ มีสระจากุซซี่หรืออ่างอาบน้ำที่ระเบียงส่วนตัว

สามารถชมวิวทะเลได้ทุกห้อง

ทางโครงการจะเก็บคอมเพลสเซอร์แอร์ฯ ไว้ด้านหลังของอาคาร และทุกห้องจะเป็นแบบ Single Loaded Corridor

ทางเข้าโครงการอยู่ทางด้านทิศตะวันออก

บริเวณ Underground ก็จะเป็นในส่วนของสระว่ายน้ำผู้ใหญ่และสระเด็ก 2 ชั้น ที่สามารถเชื่อมต่อกันได้ด้วยสไลด์เดอร์

เมื่อขับรถเข้ามาในโครงการ ก็จะตรงเข้าไปยังจุดนี้ เพื่อ Drop รถเข้าไปจอดยังโซน  Auto Parking มีลิฟท์จอดรถ 2 ตัว

รถเข้า-ออก ได้แบบนี้

ชั้น 2 จะเป็นในส่วนของ Facilities ไม่ว่าจะเป็น Fitness Room, Yoga Room, Golf VR Room และ Theater Room

ชั้น 1 และ 2 จะเป็นในส่วนของ Facilities ของโครงการ

ชั้นพักอาศัยเริ่มที่ชั้น 3 และผู้พักอาศัยจะรู้สึกได้ถึงความเป็นส่วนตัวสุดๆ เพราะมีห้องเพียง 7 ห้องต่อชั้นเท่านั้น โดยจะเป็นห้องแบบ 1 ห้องนอน และ 2 ห้องนอน คละกัน โดยชั้น 3 – 20 จะอยู่ใน Serenity Zone และห้อง 2 ห้องนอน จะมีลิฟท์ส่วนตัวให้ทุกยูนิต และสามารถเทควิวหาดวงศ์อมาตย์ได้ทุกห้อง ย้ำว่าทุกห้อง!

ชั้น 22 – 43 เป็นส่วนของ Reflection Zone ที่อยู่สูงกว่าโซนแรก และสามารถเทควิวทะเลได้ไกลกว่า

ชั้น 44 – 46 จะมีอ่างอาบน้ำส่วนตัวอยู่ที่ระเบียงห้อง สามารถอาบน้ำไปและชมวิวด้านนอกไปพร้อมๆ กันได้

ในชั้น 47 – 50 ที่มีซิกเนเจอร์แบบพิเศษสุดๆ คือ มีสระจากุซซี่ ให้บนระเบียงส่วนตัวเรียกได้ว่าหาจากไหนไม่ได้อีกแล้ว

มาถึง Sky Facilities ในชั้น 53 – 55 ที่สามารถเทควิวขอบฟ้าไกลสุดสายตาได้แบบ Panorama ไม่ว่าจะขึ้นมาชมวิวหรือปาร์ตี้กับเพื่อนๆ ก็สนุกไม่แพ้กัน

หรือจะขึ้นไปชมวิวบนชั้นดาดฟ้า ตรงจุดนี้ก็ได้นะ

Facilities ภายในโครงการแบบจุใจในระดับเฟิร์สคลาส

AROM WONGAMAT เป็นโครงการที่ครบครันไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกในระดับเฟิร์สคลาส และเพียบพร้อมด้วยบริการและสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ตั้งแต่ Beach Facilities กับสระริมหาดเล่นระดับสำหรับผู้ใหญ่ที่เชื่อมต่อสไลด์เดอร์สำหรับสระเด็ก 2 ชั้น แบบ Multilevel Aqua Pool แห่งเดียวในพัทยา ไปจนถึง Sky Facilities บนชั้นดาดฟ้าที่สามารถชมวิวขอบฟ้าได้แบบ Panorama และบริการสระว่ายน้ำระบบน้ำเกลือ Infinity View Sky Pool, Sky Jacuzzi และ Aqua Cycling & Swim jet ที่แยกโซนไว้อย่างเป็นสัดส่วน อีกทั้ง Sky Lounge, Private Deck และ Co-Kitchen Space สำหรับการสังสรรค์ของคุณและคนสำคัญ เมื่อเข้ามาพักภายในโครงการ

Swimming Pool

Kids Pool

Lobby

Steam & Sauna

Theater Room

Co-Kitchen Space

Infinity View Sky Pool

Sky Lounge & Private Deck

Sales Gallery และห้องตัวอย่าง

ด้านหน้าของ Sales Gallery มีป้ายบิลบอร์ดชื่อโครงการขนาดใหญ่ติดอยู่

บริเวณทางเข้า Sales Gallery

ด้านข้างติดกับ ANAYA Condominium

ด้านหน้าเป็นคอนโด The Riviera Wongamat Beach

พื้นที่ว่างด้านข้าง เป็นที่ตั้งของโครงการ AROM WONGAMAT ที่จะเริ่มก่อสร้างภายในปี 2564

บรรยากาศรอบ Sales Gallery ที่ถูกตกแต่งอย่างสวยงาม

บรรยากาศด้านใน Sales Gallery

Set Back จากหาดถึง Sales Gallery ประมาณ 86 เมตร

ห้องตัวอย่าง

ห้องแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 38 ตารางเมตร

ทางโครงการให้เป็น Digital Door Lock ยี่ห้อ Samsung ที่สามารถแตะคีย์การ์ดและสแกนนิ้วได้

ตรงประตูห้องมีช่องระบายลม เพื่อช่วยหมุนเวียนอากาศภายในห้องได้

เปิดเข้าห้องมาก็จะเจอกับส่วนครัวเป็นอันดับแรก เพดานภายในห้องสูง 2.8 เมตร โดยห้องมาตรฐานจะมีเพดานสูง 2.8 เมตร แต่ห้องพักที่อยู่ในชั้น 46 ขึ้นไป จะมีเพดานสูง 3.5 เมตร

ทางโครงการให้เป็นท็อปครัว ทั้ง Hood, Hob และ Sink ยี่ห้อ Gessi จากประเทศอิตาลี และชั้นวางของด้านบน

หากติดตู้ด้านข้างแบบเดียวกับห้องตัวอย่าง (โครงการไม่ได้ให้ตู้พร้อมชั้นวางมา และไม่ได้ให้ตู้เย็นแบบ Built-in แต่ให้หน้าบานมา) ก็จะสามารถเก็บของได้เยอะขึ้น และเปิดออกมาได้ประมาณนี้

เตาไฟฟ้า 2 หัว ยี่ห้อ Teka

อ่างล้างจานแบบ 1 ช่อง ยี่ห้อ Teka เช่นเดียวกัน

ตู้นี้ไม่ได้ให้มาด้วย ถ้าดูจากยูนิตแปลนด้านหน้าห้อง ตรงส่วนนี้ในห้องจริงจะเป็นเสาปูนแทน

โต๊ะทานอาหารอยู่ติดกับส่วนครัว วางโต๊ะแบบ 2 ที่นั่งได้พอดี และปูพื้นด้วยลามิเนต

ถัดมาเป็นห้องนั่งเล่น ที่วางโซฟาแบบ 4 ที่นั่งได้สบาย เพราะเป็นพื้นที่แบบแนวยาว และวางโต๊ะเล็กๆ หน้าโซฟาได้ โดยห้องนั่งเล่นติดกับห้องนอน กั้นด้วยประตูบานเลื่อนแบบ 3 พับ และประตูกรุลามิเนตให้

เปิดประตูบานเลื่อนจะได้แบบนี้ ทำให้ห้องดูกว้างมาก โดยทางโครงการจะเตรียมช่องรางม่านและดรอปฝ้าให้

ภายในห้องใช้เป็นแอร์ติดฝ้าแบบนี้ ยี่ห้อ Daikin และพื้นที่ตรงห้องนั่งเล่น ระหว่างทีวีกับโซฟาไม่แคบเกินไป

มุมมองจากส่วนห้องนอน หากไม่ปิดประตูกั้น ก็ทำให้ห้องดูโปร่งมาก

ปลั๊กไฟในห้องทางโครงการให้ประมาณนี้ ยี่ห้อ Schneider

ถัดมาเป็นส่วนของระเบียงห้อง ทางโครงการติดกระจกให้แบบเต็มบาน เนื่องจากทุกห้องหันหน้าไปทางหาดวงศ์อมาตย์ ผู้อยู่อาศัยก็จะสามารถชมวิวหาดได้แบบไม่มีอะไรกั้น

ติดกับหัวเตียงเป็นตู้เสื้อผ้า

ทางโครงการแยกตู้อาบน้ำและห้องน้ำออกจากกัน สะดวกต่อการใช้งานพร้อมกัน 2 คน

ทางเดินเข้าห้องน้ำ ผู้อยู่อาศัยสามารถตกแต่งเหมือนกับห้องตัวอย่างได้ เพราะห้องจริงจะเป็นผนังทาสีขาวปกติ

ในห้องน้ำ ทางโครงการติดตั้งสุขภัณฑ์แบรนด์ดังระดับอย่าง Gessi ให้ ไม่ว่าจะเป็นท็อปตรงอ่างล้างหน้า และก๊อกน้ำ ใช้ชักโครก Kohler แบบ Washlet

ห้องน้ำมีประตู 2 ฝั่ง เดินเข้าจากทางห้องครัวหรือห้องนอนก็ได้

ห้องแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 52 ตารางเมตร (1 Bedroom Jacuzzi)

เปิดห้องเข้าไปก็จะเจอส่วนครัวก่อนเป็นอันดับแรก ทางโครงการให้ทั้ง Hood, Hob และ Sink

ขนาดครัวเท่ากันกับห้อง 38 ตารางเมตร และเพดานห้องสูง 2.8 เมตร

ช่องใส่ตู้เย็น (ให้แต่หน้าบานไม่มีตู้เย็นมาให้) และช่องใส่รองเท้าด้านข้าง ทางโครงการไม่ได้ให้ แต่หากผู้อยู่อาศัยต้องการตู้แบบเดียวกับห้องตัวอย่าง สามารถแจ้งกับทางโครงการได้เลย

ช่องด้านล่างวางเครื่องซักผ้าและไมโครเวฟได้

อุปกรณ์เครื่องครัว ยี่ห้อ Teka ทั้งหมด

เตาไฟฟ้าแบบ 2 หัว

อ่างล้างจานแบบ 1 ช่อง ของ Teka

โต๊ะอาหารจัดวางแบบ 2 ที่นั่ง แต่เนื่องจากห้องนี้มีขนาดกว้างกว่าห้องก่อนหน้า จึงสามารถวางโต๊ะแบบ 4 ที่นั่งได้

บริเวณหน้าห้อง ทางโครงการตกแต่งมุมนี้ให้เป็นตู้เก็บของ

ใช้สวิตซ์ไฟ ยี่ห้อ Schneider

ห้องน้ำจะคล้ายกับห้องก่อนหน้านี้ มีประตู 2 ฝั่ง เข้าได้จากฝั่งห้องครัวและฝั่งห้องนอน

ท็อปอ่างล้างหน้าจากแบรนด์ Gessi มีชั้นวางของด้านล่าง ผนังลายเดียวกับห้องตัวอย่าง

ประตูฝั่งเชื่อมออกไปทางส่วนครัว

ชักโครก Kohler Washlet

ติดแผงควบคุมตรงจุดนี้

แยกส่วนแห้งและเปียกออกจากกัน มีตู้อาบน้ำด้านหน้าเหมือนห้อง 38 ตารางเมตร ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับตู้อาบน้ำ

เปิดออกได้แบบนี้

ผนังภายในตู้อาบน้ำลายเดียวกับห้องน้ำ มีฝักบัวและ Rain Shower ยี่ห้อ Kohler

ทางฝั่งห้องนอน ด้านปลายเตียงติดกับห้องนั่งเล่น ใช้ประตูบานเลื่อนแบบ 3 พับกั้นไว้

ใช้แอร์ติดฝ้าแบบเดียวกับห้องแรก ยี่ห้อ Daikin

กระจกเต็มความสูงแบบเต็มบาน แยกม่านฝั่งห้องนอนและห้องนั่งเล่นออกจากกัน

เปิดม่านได้แบบนี้ มองเห็นวิวได้นอกได้เต็มๆ สามารถรับแสงธรรมชาติได้เต็มที่และไม่ทำให้ห้องมืด

ฝั่งห้องนั่งเล่น

ใช้ประตูแบบ 3 พับ กั้นกับห้องนอน ใช้รางม่านแยกกับห้องนอน

เปิดออกได้แบบนี้ ห้องกว้างมาก

พื้นที่ห้องนั่งเล่นกว้าง วางโซฟาได้เยอะ ส่วนโต๊ะวางทีวีทางโครงการไม่ได้ให้มาด้วย จะใช้เป็นโต๊ะแบบห้องตัวอย่างก็สามารถเก็บของได้เยอะ หรือจะใช้เป็นทีวีติดผนังก็จะทำให้มีพื้นที่ภายในห้องเพิ่มขึ้น

ความพิเศษของห้องขนาด 52 ตารางเมตร ในโซน Horizon ก็คือ ทางโครงการจะติดตั้งอ่างอาบน้ำไว้ตรงระเบียง ที่จะทำให้คุณสามารถแช่น้ำไปชมวิวทะเลไปพร้อมๆ กันได้

บริเวณระเบียงกว้างมาก ที่จะทำให้ให้ประสบการณ์การแช่น้ำของคุณไม่เหมือนกับที่อื่นอย่างแน่นอน

ห้องแบบ 2 ห้องนอน ขนาด 87 ตารางเมตร (2 Bedroom Jacuzzi)

ห้องขนาดใหญ่ภายในโครงการ รองจากห้อง Penthouse (แอบได้ยินมาว่า Penthouse เหลือยูนิตสุดท้ายละจ้า) โดยห้อง 2 ห้องนอนแบบนี้ มีเพียง 2 ห้องต่อชั้นเท่านั้น และห้องที่มีจากุซซี่บนระเบียงส่วนตัวเริ่มที่ชั้น 47 – 50

และความพิเศษอีกหนึ่งอย่างก็คือ ห้องไทป์นี้มีลิฟท์ส่วนตัวทุกยูนิต สะดวกกับเจ้าของห้องที่สามารถใช้ลิฟท์แยกกับผู้อาศัยห้องอื่นได้ ปกติห้องพักอาศัยจะมีเพดานสูงที่ 2.8 เมตร แต่ห้อง 2 ห้องนอน ที่อยู่ในชั้น 46 ขึ้นไป จะมีเพดานสูงถึง 3.5 เมตร และอยู่ใน Horizon Zone อีกด้วย

แต่ห้องนี้ก็มีประตูห้องเหมือนกับห้องอื่นๆ ใช้สำหรับแม่บ้านหรือผู้มาติดต่อกับเจ้าของห้องที่ไม่สามารถขึ้นลิฟท์ส่วนตัวมายังห้องพักได้

บริเวณโถงลิฟท์ภายในห้องที่ทางโครงการจำลองมาให้ จะเป็นประมาณนี้ ให้ลิฟท์ยี่ห้อ Kone

เดินออกมาจากลิฟท์ก็จะเจอกับประตูหน้าห้อง

สามารถติดตั้งตู้แบบในห้องตัวอย่างเพื่อใช้เก็บของได้

มีประตูอีกหนึ่งชั้นก่อนจะเข้าไปยังส่วนของที่พักอาศัย

ใช้ Digital Door Lock ยี่ห้อ Samsung

สวิตซ์ไฟใช้ยี่ห้อ Schneider

เปิดเข้ามายังส่วนพักอาศัยก็จะเจอกับ Master Bedroom ก่อน ปูพื้นด้วยลามิเนต โดยห้องนี้จะมีความเป็นส่วนตัวมาก เพราะเป็นห้องมุมที่สามารถเทควิวได้รอบด้าน

บริเวณปลายเตียงมีพื้นที่กว้าง วางโต๊ะทีวีได้และยังเหลือพื้นที่ให้เดิน หรือจะใช้เป็นทีวีติดผนังแบบห้องตัวอย่างก็ได้

ใช้กระจกแบบเต็มความสูง ทำให้ห้องได้รับแสงธรรมชาติจากด้านนอกได้เต็มที่

พื้นที่ข้างหัวเตียงมีที่วางโต๊ะเล็กๆ แบบนี้ได้

แอร์ติดฝ้า Daikin

ตู้เสื้อผ้า Built-in ขนาดใหญ่

ความพิเศษของ Master Bedroom ก็จะเป็นการดีไซน์ของการนำอ่างล้างหน้ามาไว้ด้านนอกห้องน้ำ ใกล้กับเตียงนอน

อ่างล้างหน้าแบบ His & Her ใช้สุขภัณฑ์จาก Gessi

เปิดช่องได้ทั้งด้านล่างและด้านบน ใช้สำหรับเก็บของได้

ก๊อกปรับน้ำร้อน – เย็นได้

กั้นห้องน้ำเป็น 2 โซน แบบนี้

สุขภัณฑ์ ยี่ห้อ Kohler Washlet

ส่วนเปียกมีอ่างอาบน้ำให้ และยังชมวิวด้านนอกพร้อมกับแช่น้ำได้อีกด้วย

พร้อมฝักบัวและ Rain Shower ยี่ห้อ Kohler

เดินออกมายังห้องครัวและห้องนั่งเล่น

สวิตซ์ไฟใช้ยี่ห้อ Schneider หรือเทียบเท่า

ปูพื้นด้วยลามิเนต

ไม้บัวที่พื้นไม่ยื่นออกมา จัดวางเฟอร์ฯชิดผนังได้ง่าย

ครัวและห้องนั่งเล่น

ครัวของห้องไทป์นี้มี Island ให้

ทางโครงการติดตั้งอุปกรณ์ครัวให้เหมือนกับ 2 ห้องก่อนหน้านี้ แต่ได้เตาไฟฟ้าแบบ 4 หัว ทำอาหารหลายอย่างพร้อมกันได้

เครื่องดูดควัน Teka

ช่องด้านล่างวางไมโครเวฟและเครื่องซักผ้า

ตู้เย็นจะตั้งอยู่มุมนี้ แต่ทางโครงการไม่ได้ให้ตู้เย็นมาด้วย

โต๊ะทานอาหารจัดวางแบบ 4 ที่นั่งได้สบาย

บริเวณระเบียงที่ติดกับครัว ติดเป็นประตูบานเลื่อน โดยด้านนอกเรียกว่าเป็นซิกเนเจอร์ของโครงการเลยก็ว่าได้ เพราะมีสระจากุซซี่อยู่บนระเบียงส่วนตัว ที่จะทำให้คุณได้แช่น้ำและดื่มด่ำไปกับบรรยากาศของหาดวงศ์อมาตย์

ด้างล่างเป็นสเตปที่เอาไว้นั่งแช่น้ำได้

โดยห้องไทป์นี้สามารถเทควิวได้รอบด้าน

ส่วนของห้องนั่งเล่น กว้างมาก วางโซฟาและเก้าอี้ได้เยอะ

สามารถจัดมุมนี้ไว้ใช้ปาร์ตี้เล็กๆ กับครอบครัวหรือกลุ่มเพื่อนได้ เพราะติดกับครัว สะดวกทั้งการทำอาหารและและการเก็บกวาด

มาถึงห้องนอนเล็กที่อยู่ติดกับห้องนั่งเล่นกันบ้าง

ถึงจะเป็นห้องนอนเล็ก แต่ก็ไม่ได้แคบจนเกินไป ยังเหลือพื้นที่ข้างหัวเตียงให้วางโต๊ะได้

และสะดวกไปกับการใช้ทีวีติดผนัง เพื่อเพิ่มพื้นที่ให้กับห้องนอน

ตู้เสื้อที่ให้ในห้องนอนเล็ก จะเป็นหน้าบานกระจก

ติดกันเป็นห้องน้ำ ที่มีประตู 2 ฝั่ง ซึ่งเป็นห้องน้ำที่ใช้รับแขกได้ สามารถเดินเข้าประตูจากฝั่งห้องนั่งเล่นได้โดยไม่ต้องเดินผ่านเข้ามาในห้องนอน

สุขภัณฑ์ของ Gessi เช่นเดียวกัน และใช้ชักโครก, ฝักบัว, Rain Shower ยี่ห้อ Kohler

สรุปจุดเด่นโครงการ AROM WONGAMAT

“A Great brand taps into emotions. Emotions drive most, if not all, of our decisions. A brand reaches out with a powerful connecting experience. It’s an emotional connecting point that transcends the product.” Scott Bedbury, Nike, Starbucks

ในการสร้างแบรนด์สำหรับตลาด Luxury โดยเฉพาะในสินค้าประเภท High Involvement Product เรามักจะเรียนรู้มาตลอดว่าแบรนด์ที่ดีย่อมเป็นแบรนด์ที่สามารถถ่ายทอดประสบการณ์ร่วมของแบรนด์ที่มีต่อผู้บริโภค จนเกิดเป็นอารมณ์ที่นำมาซึ่ง Passion ในการถวิลหาเพื่อที่จะได้ครอบครอง…ซึ่งแน่นอนว่าหากใครที่ได้ลองเข้ามาสัมผัสบรรยากาศจริงที่ Sale Gallery ของ AROM Wongamat ก็คงไม่แปลกใจว่าทำไมโครงการนี้ถึงเลือกที่จะใช้ชื่อแบรนด์ว่า “อารมณ์” แทนที่จะเป็นชื่ออื่นๆที่สะท้อนถึงความเป็น International Reputation ของชายหาดพัทยา หรือพัฒนาเป็น Branded Residences เพื่อที่จะขายชาวต่างชาติ หรือกลุ่มนักลงทุน ดังเช่นหลายต่อหลายโครงการคอนโดที่อยู่ในพัทยา คีย์เวิร์ดของคำว่าอารมณ์นั้น ถือว่าเป็น Trigger สำคัญที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อของลูกค้า แน่นอนว่าหากสินค้าหรือโครงการใดที่สามารถถ่ายทอด Emotional Appeal ออกมาผ่านองค์ประกอบต่างๆของแบรนด์ ให้ซึมลึกเข้าไปสู่โสตประสาทของผู้บริโภคได้มากที่สุด ลูกค้าก็จะตัดสินใจซื้อโดยที่ไม่จำเป็นต้องไปเปรียบเทียบหรือหาเหตุผล ตัวเลือกอื่นใดอีก เพราะนี่มันคือเสียงสะท้อนที่ดังก้องอยู่ในใจของผู้ซื้อว่า นี่ล่ะคือตัวฉัน คือของๆฉันที่จะต้องคว้ามาเป็นเจ้าของให้ได้ บางทีการตั้งชื่อโครงการว่าอารมณ์ ก็ส่งผลดีอย่างเหลือเชื่อในการที่จะปลุกเร้าจิตใต้สำนึกของผู้ซื้อให้ลองหลับตาจินตนาการถึงภาพตัวเองยามล่องลอยอยู่บนท้องฟ้า เหนือชายหาดวงศ์อมาตย์ อันเป็นส่วนตัวแห่งนี้ มากกว่า Tangible Benefits ในเชิงตัวเลข หรืออะไรหลายๆอย่าง

AROM WONGAMAT (อารมณ์ วงศ์อมาตย์) เป็นโครงการคอนโดมิเนียมที่ตั้งอยู่บนที่ดินฟรีโฮลด์ผืนสุดท้ายของหาดวงศ์อมาตย์และยังมีราคาแพงมากที่สุดในพัทยา โดยพัทยายังเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพในด้านการลงทุนจากโครงสร้างของรัฐบาลอย่างต่อเนื่องเพื่อดึงดูดนักลงทุนทั้งชาวไทยและต่างชาติ ห้องทุกห้องในโครงการและสามารถชมวิวของหาดวงศ์อมาตย์ได้ทั้งหมด ทางโครงการยังให้ความเป็นส่วนตัวแก่ผู้พักอาศัยที่มีห้องพักสูงสุด 7 ยูนิตต่อชั้นเท่านั้น พร้อมให้สุขภัณฑ์ครัว, ห้องน้ำ จากแบรนด์ดังระดับโลกอย่าง Gessi และมียูนิตซิกเนเจอร์ที่ไม่เหมือนใครมาพร้อมสระ หรืออ่างจากุซซี่บนระเบียงส่วนตัว หากเลือกเป็นแบบ 2 ห้องนอน ก็จะได้ลิฟท์ส่วนตัวทุกห้อง ถ้าอยู่ในชั้น 46 – 52 คุณจะได้ Floor to Ceiling ถึง 3.5 เมตร รวมถึงพื้นที่ส่วนกลางแบบจุใจมากถึง 4,820 ตารางเมตร ในระดับเฟิร์สคลาสอีกด้วย ไม่เพียงเท่านั้น อารมณ์ วงศ์อมาตย์ ยังเรียกได้ว่าเป็นโครงการที่ได้รวมเอาสถาปนิกและนักออกแบบระดับโลกในด้านต่างๆ มาร่วมกันสร้างสรรค์โครงการที่สามารถถ่ายทอดประสบการณ์ของการอยู่อาศัยแบบส่วนตัวบนหาดวงศ์อมาตย์ได้ดีที่สุด

โครงการคอนโดมิเนียมที่อยู่บริเวณโดยรอบของ AROM WONGAMAT มีทั้งเป็นโครงการที่ติดกับหาดวงศ์อมาตย์และไม่ติดหาด ส่วนใหญ่มีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 125,000 – 135,000 บาท/ตารางเมตร และมีขนาดห้องพักเริ่มต้นที่ 27 – 71 ตารางเมตร โดยที่ Supply ใหม่ที่เป็นคอนโดติดหาดนั้นไม่มีเกิดขึ้นมานานแล้ว จึงถือได้ว่า AROM WONGAMAT เป็น One of a Kind ที่น่าจะเป็นโครงการสุดท้ายบนที่ดินสุด Prime แห่งนี้แล้ว ห้องพักที่นี่มีขนาดเริ่มต้น 37.5 ตารางเมตร ในราคาโปรโมชั่น 6.2 ล้านบาท แม้ว่าราคาต่อตารางเมตรอาจจะดูสูงในสายตาของใครหลายคน แต่เชื่อเถอะว่าหากได้ลองเข้ามาสัมผัสบรรยากาศจริงแล้ว ก็จะพบว่าราคาดังกล่าวนั้นเทียบไม่ได้กับอารมณ์ ความรู้สึกประทับใจ และความภาคภูมิใจในการเป็นเจ้าของ ที่คุณจะได้รับจากโครงการนี้ในแบบที่ไม่สามารถประเมินค่าออกมาเป็นตัวเลขได้เลย

“อารมณ์ วงศ์อมาตย์” เพียงหนึ่งเดียว ที่ชีวิตอันสุดงดงาม จะถูกรวบผสานเข้ากับธรรมชาติอันสมบูรณ์ สู่มรดกแห่งการอยู่อาศัยใน สถาปัตย์ศิลป์ชิ้นเอก โดย COLOURS DEVELOPMEMT เริ่ม 6.2 ลบ.*

“อารมณ์…ที่ร่ำรอให้คุณได้เข้ามาเปิดทุกโสตสัมผัสไปพร้อมกัน”

▶️ รับชมข้อมูลโครงการ ได้ที่

Facebook : Arom Wongamat

Website : www.aromwongamat.com

▶️ ลงทะเบียนรับข้อมูลพร้อมส่วนลดพิเศษ ได้ที่

https://www.coloursdevelopment.com/

คลิก : http://bit.ly/2RYJlPP

▶️ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมนัดหมายเยี่ยมชมโครงการ ได้ที่

โทร : 097-917-8000

Mail : info@coloursdevelopment.com

มาร่วมเป็นเจ้าของ AROM WONGAMAT PATTAYA พร้อมรับสิทธิพิเศษ เหนือระดับก่อนใคร…