สำหรับใครหลายคน ‘พักร้อน’ คือช่วงเวลาสั้นๆ ที่เราได้หยุดพักเพื่อผ่อนคลายจากความเครียด ละทิ้งความกังวล เปิดโอกาสให้เราได้เจอสิ่งใหม่ๆ ให้ร่างกายและจิตใจได้ชาร์ตพลังหลังจากการทำงานหนักมาตลอดทั้งปี แต่คงจะดีไม่น้อยหากเราสามารถทำให้ทุกวันมีความสุขและผ่อนคลายไม่ต่างไปจากช่วงเวลาดังกล่าว และนี่คือที่มาของ ‘VACATION BANGKOK’ บูติคโฮเตลแห่งใหม่ที่จะมาทำให้ทุกวันของคุณไม่ธรรมดาอีกต่อไป

“หลังจากทำงานมาเรื่อยๆ หลายที่ หลายรูปแบบธุรกิจ พี่ก็พบว่า ไม่ว่าจะงานประจำหรือการทำธุรกิจของตัวเองก็ตาม ความเครียดสะสมก็ยังเกิดขึ้นอยู่ ตัวพี่เองหรือภาพที่เราเห็นจากคนรอบตัว คือการนับถอยหลังเพื่อให้ถึงวันพักร้อนไวๆ พี่เลยตั้งคำถามกันขึ้นมาว่า จะเป็นไปได้ไหมหากเราจะทำให้ทุกวันมีความสุขเหมือนเป็นวันหยุด ขณะเดียวกัน ก็ยังสามารถทำงานไปพร้อมๆ กันได้ด้วย” จากความคิดเมื่อ 2 ปี ก่อนของ ณัฏฐิกา  บุญวิภาส และพาร์ทเนอร์ทั้ง 5 ได้นำไปสู่การหยิบเอาความชอบอันหลากหลาย ทั้งการเดินทาง งานออกแบบ กาแฟ อาหาร การแสวงหาและเรียนรู้สิ่งใหม่ มาประกอบร่างกัน จนกระทั่งที่นี่เป็นรูปเป็นร่างและมีเอกลักษณ์ชัดเจนแบบทุกวันนี้

ความพิเศษของ VACATION BANGKOK นอกจากการเป็นโครงการแบบ multi-function space ที่ประกอบไปด้วยพื้นที่ 4 แบบ  ตั้งแต่ คาเฟ่, บูติกเฮ้าส์ และอีก 2 สเปซที่อยู่ระหว่างการพัฒนาคอนเซ็ปต์ โดยจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงครึ่งปีหลัง ทั้งร้านอาหารแบบ casual dining และ co-creation space หรือสเปซสำหรับรองรับการจัดเวิร์กช็อป การใช้เป็นแกลเลอรี่เฉพาะกิจ รวมทั้งเป็นแพลตฟอร์มสำหรับผู้สนใจงานสร้างสรรค์ที่สามารถมาใช้เวลาร่วมกันได้แล้ว การบริหารงานในแต่ละส่วนยังใช้ความถนัดและประสบการณ์ของพาร์ทเนอร์แต่ละคนเป็นที่ตั้ง ตั้งแต่ณัฏฐิกา หัวหอกสำคัญของโครงการ กับการรับผิดชอบงานด้านพัฒนาธุรกิจ การจัดการ การเงิน และแบรนดิ้ง ขณะที่ จุฑามาศ  ภูประภัสสร คือผู้ที่คอยรังสรรค์เมนูเครื่องดื่มในฐานะบาริสต้า พร้อมๆ ไปกับการควบตำแหน่งนักออกแบบซึ่งดูภาพรวมของ corporate identity อานนท์  ฮุนตระกูล เจ้าของร้านอาหารดังย่านศาลายาอย่าง Anya’s Place กับหน้าที่ในการคิดค้นเมนูทั้งคาวและหวาน กุลภัค  ดาวแก้ว ในฐานะผู้ประสานงานสื่อและประชาสัมพันธ์ โดยมี วันวิสาข์  บุญวิภาส   และ พรทิพย์ ลี้สวัสดิ์ถาวรกุล รับผิดชอบในส่วนของการดูแลแขกทั้งหมด ซึ่งนี่คือจุดแข็งสำคัญของ VACATION BANGKOK

จากคำถามธรรมดาๆ อย่าง “เราจะส่งมอบประสบการณ์แบบไหนให้กับคอกาแฟ? เราจะดีไซน์ห้องพักอย่างไรให้ผู้หลงใหลการเดินทางสามารถใช้เวลาพักผ่อนได้อย่างแท้จริงและมีความรู้สึกที่แตกต่างไปจากเดิม? ไปจนถึงว่าเราจะออกแบบพื้นที่สร้างสรรค์เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์การใช้ชีวิตระหว่างกันอย่างไรได้บ้าง? ได้ถูกคลี่คลายไปสู่การออกแบบพื้นที่ส่วนต่างๆ

ส่วนแรกคือคาเฟ่แบบ specialty coffee & brew bar ในชั้นที่ 1 ซึ่งแม้พาร์ทเนอร์ทั้ง 6 จะไม่เคยจับธุรกิจร้านกาแฟมาก่อน แต่การเป็นคอกาแฟและมีประสบการณ์ในฐานะผู้ใช้บริการตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา กลับเป็นข้อได้เปรียบของพวกเขา ทั้งในการออกแบบวิธีให้บริการ การสร้างคาแร็คเตอร์และรสชาติให้กาแฟมีความโดดเด่นเฉพาะตัว การคัดสรรเมล็ดกาแฟคุณภาพ ความพิถีพิถันในขั้นตอนการชงในรูปแบบต่างๆ การใช้น้ำมะพร้าวออแกนิกในการดริปกาแฟแทนน้ำเปล่า ไปจนถึงการทดลองและรังสรรค์เมนูเครื่องดื่ม ซึ่งทำให้รสชาติแต่ละแก้วเรียกว่าไม่ธรรมดาเลย อาทิ Fresh Mint Americano เครื่องดื่มที่บาริสต้ายังคงเสน่ห์ของกลิ่นและรสธรรมชาติผ่านช็อตเอสเปรสโซ โดยเพิ่มความสดชื่นให้เครื่องดื่มแก้วนี้ด้วยเลม่อนและใบมิ้นท์สด ในส่วนคาเฟ่นี้ยังมีเมนูเบเกอรี่และ light meal ประเภทเบอร์เกอร์ ซุป สลัด รอพร้อมเสิร์ฟคู่กับเครื่องดื่มภายในร้านอีกด้วย

และด้วยเป้าหมายที่อยากให้คาเฟ่สามารถสร้างความบรรยากาศแบบ ‘อยู่สบายและสวยงาม’ การออกแบบภายในจึงถูกคิด มาเป็นอย่างดี ตั้งแต่การเลือกใช้วัสดุ สีสัน ของตกแต่ง และเฟอร์นิเจอร์ เพื่อให้สามารถตอบโจทย์ดังกล่าวได้มากที่สุด ทั้งการนำปูนเปลือยที่ให้อารมณ์ดิบๆ แต่ทันสมัย มาใช้ในส่วนของบาร์เครื่องดื่ม โดยลดทอนความกระด้างของวัสดุชนิดด้วยสีเขียวของไม้เลื้อย การออกแบบไลท์ติ้งให้มีแอมเบี้ยนที่สร้างความรู้สึกสดชื่นและเป็นกันเอง การติดตั้งภาพศิลปะจากศิลปินไทยและเทศที่หมุนเวียนมาสร้างสีสันให้สเปซภายใน  การมีปลั๊กไฟทุกโต๊ะเพื่อให้ผู้ใช้บริการสามารถชาร์ตสมาร์ทดีไวซ์ต่างๆ ได้อย่างสะดวก การคัดเลือกและจัดวางเฟอร์เจอร์หลากหลายรูปแบบ เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าทั้งที่มาคนเดียวและอยากได้ความเป็นส่วนตัว หรือแบบกลุ่มขนาดใหญ่ที่ต้องการใช้เวลาร่วมกัน กลุ่มคนทำงานที่เช้ามาใช้ประชุม พูดคุย และแลกเปลี่ยนความคิด ไปจนถึงบรรดาคอกาแฟที่อยากดื่มด่ำไปกับรสชาติที่พวกเขาหลงใหล

สำหรับการออกแบบห้องพักนั้น ถูกดีไซน์ขึ้นโดยคำนึงถึงความงามและหน้าที่ใช้สอยเป็นสำคัญ ขณะที่ยังสามารถสร้างประสบการณ์ร่วมและความสบายให้แก่ผู้เข้าพักได้ด้วย ห้องพักแต่ละห้องมีขนาดระหว่าง 32-35 ตารางเมตร พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก ทั้งมินิบาร์ที่สามารถทานได้ฟรีทั้งหมด ตู้เย็นขนาดใหญ่แบบ 2 ประตู ไมโครเวฟ เครื่องนอนที่นุ่มสบายเทียบเท่ากับโรงแรม 5 ดาว อีกทั้งยังมีการนำเก้าอี้และของงานแฮนด์เมดจากดีไซเนอร์ไทยและเทศมาใช้ในการตกแต่ง

VACATION BANGKOK มีห้องพักเพียง 4 ห้อง ถ่ายทอดผ่านรูปแบบของศิลปิน 4 สายอาชีพ ได้แก่ ห้อง ‘Photoghapher’ ที่ตกแต่งด้วยภาพถ่ายขาวดำของ อานนท์ ฮุนตระกูล เพื่อผู้มาเยือนรู้สึกราวกับว่ากำลังพักอยู่ภายในห้องของช่างภาพสักคนหนึ่ง

ห้อง ‘Illustrator’ กับธีมนักวาดภาพประกอบ ที่ใช้งาน illustrate และงานกราฟิกของดีไซเนอร์ไทยอันเป็นของสะสมของณัฏฐิกามาเพิ่มความโดดเด่นให้สเปซภายใน

ห้อง ‘Leathersmith’ ที่หยิบเอามรดกทางวัฒนธรรมของย่านคลองสาน ซึ่งเป็นถนนสายคราฟและมีชื่อเสียงด้านการทำเครื่องหนัง มาเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบ ผ่านการใช้เครื่องเรือนที่ทำจากหนังแท้และอุปกรณ์ทำเครื่องหนัง

ปิดท้ายด้วย ‘Gardener’ หรือนักจัดสวน ห้องพักที่เติมเต็มสิ่งที่ขาดหายไปในวิถีชีวิตของคนเมืองปัจจุบันอย่างพื้นที่สีเขียว เข้าไปในสเปซ ทั้งการใช้สีแบบเอิร์ธโทน การติดตั้งกระถางต้นไม้ ต้นไม้แขวน เลยไปจนถึงการมีสวนขนาดย่อมบริเวณระเบียง

หากลองทอดสายตาไปยังถนนเจริญรัถ ในเขตคลองสาน ย่านธนบุรี ที่มีตึกแถวเก่าใหม่เรียงรายตลอดสองข้างทาง การเกิดขึ้นของ VACATION BANGKOK แห่งนี้ แม้จะดูแปลกแยกไปจากบริบทแวดล้อมอย่างชัดเจน ทว่าในความแตกต่างนั้น กลับซ่อนความน่าสนใจหลายๆ อย่าง ประการแรกคงเป็นความตั้งใจของผู้ก่อตั้งที่อยากให้พื้นที่ของพวกเขาเป็นส่วนหนึ่งที่สามารถสร้างประสบการณ์อันน่าประทับใจให้แก่ผู้มาเยือน ทัศนคติในการให้บริการซึ่งยึดถือเอาความสุขของลูกค้าเป็นที่ตั้ง ที่สำคัญไปกว่านั้นคือการเคารพต่อชุมชนเก่าแก่แห่งนี้ โดยเลือกที่อยู่ร่วมกับผู้คนและระแวกย่านอย่างถ้อยทีถ้อยอาศัย ซึ่งนับว่าเป็นวิธีการที่เป็นมิตร ถ่อมตน และยั่งยืนไม่น้อยทีเดียว

VACATION BANGKOK

Architect / Interior Designer: Studio Wall to Wall

Photos courtesy of VACATION BANGKOK

Location: 762, 764 Charoen Rat Rd., Khlong Ton Sai, Khlong San, Bangkok, Thailand

Contact Information: www.facebook.com/vacationbangkok