LIFE SPACE TREND 2024 อะไรคือเทรนด์การอยู่อาศัยที่เปลี่ยนไปหลังภาวการณ์โรคระบาด โดยเฮียวิทย์ x AP Home
ไม่ใช่เรื่องง่ายที่คนธรรมดาสุด Introvert อย่างผมจะได้เข้ามานั่งอิ่มเอมกับบรรยากาศสุดคลาสสิค และเปี่ยมไปด้วยดีเทลของความครีเอทีฟ ที่ SOHO House Bangkok ครับ [เดิมเป็นโรงแรม Eugenia Hotel] เพราะที่นี่คือ Private Member Clubhouse เพื่อชาว Creative ชั้นนำระดับโลก ที่มีต้นกำเนิดจากลอนดอน และมีสาขามาแล้วทั่วโลก โดยที่สุขุมวิท 31 แห่งนี้นับว่าเป็นบ้านแห่งแรกของ SOHO House ในย่าน South East Asia และเป็นสาขาที่ 3 ในเอเชีย หลังจากที่เปิดที่แรกที่มุมไบ ประเทศอินเดียเมื่อปี 2018 และฮ่องกงในปี 2019 กับราคาค่าสมาชิกที่ 60,000 บาท ต่อปี สำหรับการเข้าถึงเฉพาะที่ Soho House Bangkok และ 135,000 บาท ต่อปี สำหรับการเข้าถึง Soho House ทุกแห่งทั่วโลกที่มีมากกว่า 40 แห่งทั่วโลก และราคาพิเศษสำหรับสมาชิกที่อายุต่ำกว่า 27 ปี โดยที่ต้องกรอกใบสมัครที่บ่งบอกดีกรีของความเป็นครีเอทีฟในตัวคุณส่งไปสกรีนที่ลอนดอน!…แต่ค่ำคืนวันนี้กลับพิเศษไปกว่าอีกเพราะมีเฮียวิทย์ มานั่งเล่าเรื่องราวถึงประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับวิวัฒนาการของบ้าน บนโต๊ะอาหารค่ำ เพื่อสร้างประสบการณ์ร่วมที่มีต่อแบรนด์บ้านเดี่ยวของเอพีให้ได้เข้าใจมากยิ่งขึ้น กับคอนเซปท์ในการออกแบบที่ให้ความสำคัญกับการออกแบบพื้นที่บนแนวคิด LIFE SPACE ครับ
ซึ่งเฮียวิทย์ก็เริ่มปู Background ตามถนัด ว่าด้วยเรื่องวิวัฒนาการของบ้านคน จากที่เคยเป็นแค่ที่ซุกหัวนอน และก็ถูกเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆตามบริบทของสังคม ทั้งในเรื่องของการออกแบบ การเลือกใช้เฟอร์ฯ จนมาถึงเทรนด์การอยู่อาศัยทั่วโลกที่เปลี่ยนไป กับ 7 เรื่องราวจากทั่วโลกหลังภาวการณ์โรคระบาด อาทิ
สหรัฐอเมริกา – ที่ผู้คนมองหาบ้านย่านชานเมืองและชนบท โดยได้รับแรงผลักดันจากความปรารถนาที่จะมีพื้นที่มากขึ้นและสภาพแวดล้อมที่ดีขึ้น เพราะพวกเค้ามองว่าพื้นที่ + การเข้าถึงธรรมชาติ = Quality of life
ออสเตรเลีย – ที่ชาวออสเตรเลียมีการลงทุนปรับปรุงบ้านเพิ่มขึ้น เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมสำหรับการทำงานจากให้บ้านที่มีประสิทธิภาพ
ญี่ปุ่น – ที่ให้ความสำคัญของพื้นที่กลางแจ้งในการออกแบบบ้าน โดยปัจจุบัน ระเบียง ลานบ้าน และสวนมีความสำคัญมากขึ้นต่อการตัดสินใจของผู้ซื้อบ้านที่เห็นคุณค่าของบ้านที่สามารถใช้เวลาส่วนตัวกับพื้นที่ส่วนนี้
.
เกาหลีใต้ – เปิดรับบ้านไฮเทคในยุคดิจิทัล ด้วยการบูรณาการเทคโนโลยีเข้ากับพื้นที่ใช้สอยประจำวันเป็นตัวอย่างชั้นนำของการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัยในยุคดิจิทัล
เดนมาร์ก – ที่เน้นการออกแบบบ้านที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม: บ้านที่ให้ความสำคัญกับสุขภาพ และการอยู่อาศัยอย่างยั่งยืน จากแนวคิดการพัฒนาของหมู่บ้าน UN17 Village ที่ประเทศเดนมาร์ก (หมู่บ้านแรกของโลกที่ออกแบบและตีความตามเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนทั้ง 17 ข้อของ UN) ตอบโจทย์ความท้าทายที่เกิดจากการระบาดของโควิดอย่างครอบคลุมทุกด้าน โดยเป็นต้นแบบสำหรับการพัฒนาการอยู่อาศัยในอนาคตทั่วโลก ด้วยการนำเสนอแนวทางการออกแบบชุมชนโดยให้ความสำคัญกับสุขภาพ การปรับตัวในทุกสภาวะ และความยั่งยืนเป็นหัวใจหลัก แนวทางนี้ไม่เพียงแต่จะมุ่งลดผลกระทบจากภาวการณ์ระบาดของโรคภัยในอนาคตเท่านั้น แต่ยังช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตโดยรวมของผู้อยู่อาศัยอีกด้วย
ดูไบ – ในฐานะศูนย์กลางนวัตกรรมและการลงทุนของโลกได้เปิดรับเทคโนโลยีบล็อกเชนเข้ามาปฏิวัติตลาดอสังหาริมทรัพย์ของตน ความคิดริเริ่มที่มีกรมที่ดินดูไบเป็นหัวหอกนี้มีจุดมุ่งหมายอยู่ที่การเพิ่มความโปร่งใส ความรวดเร็วและประสิทธิภาพในการทำธุรกรรมอสังหาริมทรัพย์ ประโยชน์จากการใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนในอสังหาริมทรัพย์ที่โดดเด่นในกระบวนการซื้อขายบ้าน
ไทย – พลิกโฉมการออกแบบพื้นที่ของการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ไทย กับภาพวันที่ Pandemic ได้เปลี่ยนเกมธุรกิจไปอย่างถาวร วันนี้ไม่ใช่ยุคของนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ แต่คือยุคของ ‘นักออกแบบพื้นที่’ วันที่นิยามแห่งการใช้ชีวิตถูกจารึกขึ้นใหม่ ‘บ้าน’ ต้องเป็นมากกว่า ‘บ้าน’ แต่คือ LIFE SPACE – อาณาจักรแห่งการใช้ชีวิตที่คุณเลือกเองได้ จากเดิมที่เน้นพื้นที่ห้องรับแขกให้เป็นพื้นที่ที่ใหญ่ที่สุดในบ้าน ก็เปลี่ยนเป็น Me & My Family Space ซึ่งเป็นพื้นที่เอนกประสงค์ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามใจชอบ ที่มีความแตกต่างกัน ตามคอนเซปท์การพัฒนาบ้านเดี่ยวเอพีในปีนี้