ไม่เคยหยุดสร้างเซอร์ไพรส์เลยจริงๆ สำหรับ ‘แสนสิริ’ ที่ล่าสุดส่งโครงการคอนโดมิเนียมระดับไฮเอนด์ลงมาปักหมุด ณ ทองหล่อ 12 แถมเพิ่มดีกรีความหรูหรา สง่างาม และความล้ำสมัยอีกระดับ ด้วยการจับมือกับ YOO และ ฟิลิปป์ สตาร์ค (Phillipe Starck) อภิมหาดีไซเนอร์โลก ระดับปรมาจารย์ ร่วมกันรังสรรค์ KHUN by YOO inspired by Starck ที่ทำเอาทั้งคนรุ่นใหม่ที่รักแสนสิริ และฟิลิปป์ สตาร์ค อยากจะรีบจับจองในทันที นับเป็น Branded Residences ที่ผสานมนต์เสน่ห์ของงานดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ แห่งแรกในประเทศไทย ที่กำลังเป็น Talk of the town อยู่ในขณะนี้

Design Matters

หากจะบอกว่า ‘ดีไซน์’ เป็นหนึ่งในนวัตกรรมที่สร้างความแตกต่างให้กับโครงการอสังหาริมทรัพย์ก็คงไม่ผิดนัก โครงสร้างและรูปแบบสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นและสวยงาม ทำให้เกิดความดึงดูด  นอกจากจะเสริมสง่าราศีให้กับทำเลนั้นแล้ว ยังทำให้ผู้พักอาศัยรู้สึกภาคภูมิใจอีกด้วย คอนโดมิเนียมที่ได้รับการออกแบบทั้งภายนอกและภายใต้อย่างโดดเด่น มีเอกลักษณ์ และละเมียดละไม จึงเป็นโครงการที่เปี่ยมไปด้วยคุณค่า ไม่ใช่แค่สถานที่ที่ใช้เพื่ออยู่อาศัยและหลับนอนเพียงเท่านั้น หากแต่บ่งบอกถึงสถานะ ไลฟ์สไตล์ และรสนิยมของผู้ครอบครองได้เป็นอย่างดี ยิ่งเป็นโครงการที่ผ่านขุมพลังไอเดียจากดีไซเนอร์เลื่องชื่อแล้ว ยิ่งทำให้โครงการนั้นมีมูลค่ามากขึ้นเป็นเท่าทวี

Getting to know Philippe Starck…The World-Class Designer

ฟิลิปป์ สตาร์ค เป็นดีไซเนอร์ชาวฝรั่งเศสระดับเอลิสต์ ผู้สร้างชื่อในแวดวงการออกแบบผลิตภัณฑ์หลากหลายประเภท การออกแบบเฟอร์นิเจอร์ การตกแต่งภายใน รวมถึงการออกแบบทางอุตสาหกรรมและสถาปัตยกรรม หรือจะเรียกว่าเขาออกแบบตั้งแต่ไม้จิ้มฟันยันเรือรบก็ไม่ผิดนัก (คบเพลิงโอลิมปิก ปี 1992 ที่กรุงบาร์เซโลน่า ประเทศสเปน เป็นเจ้าภาพ เขาก็เป็นคนออกแบบ) โดยสร้างสรรค์ผลงานไม่ต่ำกว่า 10,000 ชิ้น ซึ่งผลงานแต่ละชิ้นล้วนมีเอกลักษณ์ และมีความโดดเด่นเฉพาะตัวสูง ทั้งสนุกสนาน แปลกใหม่ และขบถ ทว่าตอบโจทย์การใช้งานได้เป็นอย่างดี จึงทำให้ฟิลิปป์ สตาร์ค เป็นนักออกแบบผลิตภัณฑ์คนสำคัญของโลกที่มีแฟนตัวยงติดตามผลงานอยู่ทั่วทุกมุมโลก คำกล่าวของเขาที่ว่า “Subversive, ethical, ecological, political, humorous… this is how I see my duty as a designer.” น่าจะยืนยันความเป็นตัวตนที่ไม่ซ้ำแบบใครของเขาได้เป็นอย่างดี

ฟิลิปป์ สตาร์ค เกิดเมื่อวันที่ 18 มกราคม 1949 ปัจจุบันอายุ 67 ปี สนใจการทำงานออกแบบมาตั้งแต่เด็ก ๆ โดยมีแรงบันดาลใจอันยิ่งใหญ่จากพ่อของเขาเองที่เป็นวิศวกรการบิน ที่สร้างสรรค์นวัตกรรมต่างๆอยู่เสมอ เพราะงานของเขาเต็มไปด้วยความสนุกสนาน มีความขบถ ทว่าก็มีความแปลกใหม่น่าสนใจ สตาร์คบอกว่า “สำหรับผม ชีวิตนี้ผมไม่เคยทำงานหรอก มีแต่การได้เล่น ได้สงสัยใคร่รู้ ได้เอื้อเฟื้อ และสร้างสรรค์วิสัยทัศน์”

เครดิตภาพ: http://www.starck.com

จุดมุ่งหมายในการทำงานออกแบบของฟิลิปป์ สตาร์ค ไม่ว่าสิ่งที่เขาออกแบบอยู่นั้นคือผลิตภัณฑ์ประเภทไหนก็คือ การช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตให้คนจำนวนมากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ยิ่งถ้าเป็นผลิตภัณฑ์ที่นำมาใช้ภายในบ้าน ฟิลิปป์ สตาร์ค ต้องการให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาอย่างดีที่สุด และเป็นผลิตภัณฑ์ที่เข้าถึงง่ายที่สุดสำหรับทุกคน

ตัวอย่างผลงานที่เด่นๆ ของฟิลิปป์ สตาร์ค ได้แก่ Louis Ghost Chair ที่ออกแบบให้กับแบรนด์ Kartell เมื่อปี 2002 ได้แรงบันดาลใจจากเก้าอี้ของพระเจ้าหลุยส์ที่ 15  แต่ใช้วัสดุโปร่งใส จนถึงปัจจุบันเก้าอี้ยอดนิยมนี้ขายดิบขายดีนับล้านตัวทั่วโลก

Juicy Salif Lemon Squeezer เครื่องคั้นน้ำมะนาว 3 ขา ที่ทำจากอะลูมิเนียม ของแบรนด์ Alessi ออกแบบเมื่อปี 1990

Hot Bertaa Kettle กาต้มน้ำสไตล์อิตาเลี่ยน แบรนด์ Alessi ออกแบบเมื่อปี 1987

เครดิตภาพ: http://www.dwell.com/

นอกจากนี้ยังออกแบบโซฟา,ที่วางนิตยสาร และแชนเดอเลีย รวมถึงผลิตภัณฑ์อื่นๆ อีกมากมาย ด้านสถาปัตยกรรมและการตกแต่งภายใน ฟิลิปป์ สตาร์ค ก็ฝากฝีไม้ลายมือไว้ทั่วโลก อาทิ โรงแรม Le Royal Monceau Raffles Paris ประเทศฝรั่งเศส, Faena Hotel Buenos Aires ประเทศอาร์เจนติน่า และ โรงแรม M Social ประเทศสิงคโปร์ เป็นต้น

เครดิตภาพ โรงแรม Le Royal Monceau Raffles Paris จาก http://www.cpp-luxury.com/le-royal-monceau-raffles-paris-debuts-e20-000-a-night-suite-package/

เครดิตภาพโรงแรม Faena Hotel Buenos Aires จาก http://www.booking.com/hotel/ar/faena-universe.th

เครดิตภาพโรงแรม M Social จาก http://www.starck.com

ส่วนใครที่อยากเจาะลึกว่าฟิลิปป์ สตาร์ค มีอัจฉริยภาพด้านการออกแบบแค่ไหน ลองไปหาเรียลลิตี้โชว์เรื่อง รายการ Philippe Starck’s School of Design มาดู ซึ่งเป็นรายการที่เขาจะต้องเฟ้นหานักออกแบบไฟแรงจากทั่วประเทศ ที่ร่วมแข่งขันกันออกแบบผลงานภายใต้โจทย์ “การออกแบบผลิตภัณฑ์สุดเจ๋งชิ้นใหม่ที่ใครๆ ก็อยากเป็นเจ้าของในศตวรรษที่ 21″ ซึ่งผู้ชนะเพียงหนึ่งเดียวจากผู้เข้าแข่งขัน 10 คน จะได้เข้าร่วมทำงานที่บริษัทของฟิลิปป์ สตาร์คป็นเวลานาน 6 ดือน ซึ่งตัวเขาเองทำหน้าที่วิจารณ์และให้คำแนะนำนักออกแบบหน้าใหม่ ในแง่มุมที่น่าทึ่ง และทำให้คนดูได้เปิดโลกทัศน์ด้านการออกแบบที่ไม่ใช่เพียงก้าวออกจากกรอบ แต่ยังสร้างพื้นที่ใหม่ๆ ขึ้นมา รวมถึงสร้างนิยามการออกแบบที่ไม่แยแสต่อขนบใดๆ

เครดิตภาพ: http://www.starck.com

Nice To Meet YOO

สำหรับการร่วมงานกับ YOO เพื่อทำงานออกแบบอาคารและที่พักอาศัยนั้น มีจุดเริ่มต้นครั้งแรกเมื่อฟิลิปป์ สตาร์ค ได้ออกแบบโครงการที่กรุงลอนดอนในปี 2001 ซึ่งก็นับว่าเป็นการเปิดตัวที่สวยงาม เพราะเขาได้มองข้ามวิถีการออกแบบที่พักอาศัยที่เราคุ้นชินไปเลย ด้วยการสร้างสรรค์ผลงานที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิง ผ่านการนำเสนออาคารในสไตล์โมเดิร์นที่แปลกใหม่ ทว่าเป็นในแบบที่แฟน ๆ ของเขาคาดหวังจะเห็น นับเป็นความว้าวที่นำมาซึ่งความปลาบปลื้มเป็นอย่างมาก

ความสำเร็จของ YOO ที่โด่งดังไปทั่วโลก และเป็นรู้จักกันดีในกลุ่มคนผู้รุ่มรวยรสนิยมนั้น เกิดจากการสั่งสมประสบการณ์และวิสัยทัศน์ตลอดทั้งชีวิตของฟิลิปป์ สตาร์ค ซึ่งเป็นหนึ่งใน Celebrity Designer คนสำคัญของ YOO ปัจจุบัน YOO มีโครงการในความรับผิดชอบอยู่ 76 โครงการในมากกว่า 33 ประเทศ อาทิ Residences by YOO ซึ่งมีอยู่หลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็น The Limited กรุงเม็กซิโก ซิตี้ ประเทศเม็กซิโก, YOO 8 กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย, Hyde กรุงปานามา ซิตี้ ประเทศปานามา, Dihanie กรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย, Echo Brickell เมืองไมอามี่ ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นต้น

ล่าสุดคือ KHUN by YOO inspired by Starck ที่ฟิลิปป์ สตาร์คก้าวเข้ามาร่วมงานกับ ‘แสนสิริ’ บริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของเมืองไทยเป็นครั้งแรก เพื่อสร้างสรรค์โครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ไม่มีใครเหมือน และไม่เหมือนใคร สำหรับลูกค้าที่เป็นแฟนของฟิลิปป์ สตาร์ค และกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ชอบงานดีไซน์ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น และชื่นชอบไลฟ์สไตล์ที่หรูหรา และเต็มไปด้วยสีสันของย่านทองหล่อ

Why Thonglor?

ทำเลทองหล่อเป็นทำเลศักยภาพที่เป็นที่นิยมจากทั้งชาวไทยและต่างชาติมาตลอด เพราะตั้งอยู่ใจกลางถนนสุขุมวิท รวมทั้งแวดล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย อาทิ โรงพยาบาล โรงเรียน คอมมูนิตี้มอลล์ ร้านค้า ร้านอาหาร ฯลฯ ตลอดจนยังใกล้สถานีรถไฟฟ้าทองหล่อ และสถานีรถไฟฟ้าสายสีเทาที่จะมีการให้บริการในอนาคตอันใกล้อีกด้วย จึงทำให้มีการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมระดับบนในทำเลนี้เป็นจำนวนมาก โดยมีราคาเริ่มต้นเฉลี่ยสำหรับโครงการใหม่ๆที่ 300,000 บาทต่อตารางเมตร  เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ราคาที่ดินในทำเลทองหล่อถีบตัวไปถึงราคาตารางวาละ 1,000,000 – 2,000,000 บาทในปัจจุบัน โดยในอนาคตคาดว่าราคาที่ดินและคอนโดมิเนียมในย่านนี้จะยังเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากความต้องการของคนรุ่นใหม่ที่ขยายครอบครัวออกจากครอบครัวเดิมที่อยู่อาศัยในทำเลนี้อยู่แล้ว รวมทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่หลงใหลไลฟ์สไตล์หลากรสของทองหล่อ

สำหรับแสนสิริเองมีความเชี่ยวชาญ ทั้งยังคุ้นเคยกับการพัฒนาและบริหารโครงการในทำเลทองหล่อเป็นอย่างดี  โดยราคาของโครงการต่าง ๆ ของแสนสิริในทองหล่อจะเพิ่มขึ้นทุกโครงการ จากผลวิจัยของพลัส  พร็อพเพอร์ตี้ เห็นได้ชัดว่าโครงการของแสนสิริมีเปอร์เซนต์การเติบโตในมูลค่าสูงที่สุดในทำเลทองหล่อเมื่อเปรียบเทียบกับโครงการของผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายอื่น เนื่องจากแบรนด์ที่แข็งแกร่ง โลเกชั่นที่เยี่ยมยอด การบริการอันเป็นเลิศ และการดูแลบริหารจัดการโครงการให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์อยู่เสมอ

KHUN by YOO inspired by Starck…The Most Fabulous Residence is coming to town
โครงการล่าสุดระดับเพชรน้ำเอกของแสนสิริในย่านทองหล่อนี้ ถือเป็น Collectible Item ที่คนรักงานดีไซน์และเป็นแฟนตัวจริงของ Philippe Starck ต้องเก็บสะสมไว้ เพราะเป็นเพียง 1 ใน ไม่กี่โครงการที่พักอาศัยของ Starck ในโลก เปรียบเหมือนงานศิลปะชั้นเลิศจากดีไซน์เนอร์ระดับโลกที่แน่นอนว่ามูลค่าโครงการจะสูงขึ้นตามกาลเวลา ดังนั้นแสนสิริจึงเชื่อมั่นว่าโครงการ KHUN by YOO inspired by Starck  จะเป็นโครงการระดับมาสเตอร์พีซซึ่งเป็นทั้งความภาคภูมิใจของผู้พักอาศัยและการลงทุนที่มีศักยภาพอันโดดเด่น เหนือระดับ

KHUN by YOO inspired by Starck ตั้งอยู่บนพื้นที่ 1 ไร่ ใจกลางซอยทองหล่อ 12 เป็นอาคารคอนโดมิเนียมสูง 27 ชั้น จำนวน 148 ยูนิต ประกอบด้วยยูนิต 1 ห้องนอน 2 ห้องนอน 3 ห้องนอน และเพนต์เฮาส์ พื้นที่ตั้งแต่ 41.50 – 302.75 ตารางเมตร มูลค่ารวม  4,000 ล้านบาท ราคายูนิตเริ่มต้น 15 ล้านบาท

จุดเด่นของโครงการนี้คือการออกแบบที่โดดเด่นโดยทีม YOO  ภายใต้แนวคิด “Industrial Heritage” เพื่อสะท้อนถึงความทันสมัยของย่านทองหล่อ ทำเลที่พักอาศัยคุณภาพเกรดเอใจกลางกรุงเทพฯ ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน ผสานความหรูหรา และความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ ด้วยเส้นสายที่สร้างลวดลายสมมาตรทำให้เกิดท่วงทำนอง และจังหวะที่ต่อเนื่อง การเลือกใช้วัสดุที่ผสมผสานระหว่างความเลอค่าอย่างหินอ่อน และความแปลกใหม่ อย่างปูนเปลือย ทองแดง หินขัด ฯลฯ  การออกแบบภายในมีการเล่นสีสันที่ตัดกันและใช้เฟอร์นิเจอร์รวมถึงอุปกรณ์ตกแต่งที่มีขนาดใหญ่เป็นพิเศษ (Oversize) อันเป็นเอกลักษณ์ของฟิลิปป์ สตาร์ค แม้จะเปี่ยมไปด้วยดีไซน์ที่จัดจ้าน ทว่ายังให้ความสำคัญกับฟังก์ชั่นการใช้สอยอย่างครบถ้วนลงตัว

KHUN by YOO inspired by Starck พรั่งพร้อมด้วยพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ เพื่อให้ผู้พักอาศัยได้สัมผัสความเป็นความเป็นธรรมชาติกลางเมือง และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อาทิ ห้องฟิตเนสและสระว่ายน้ำลอยฟ้า พร้อมตกแต่งด้วยระบบไฟแบบ Fiber Optic ทำให้เห็นวิวทิวทัศน์ใจกลางกรุงแบบ 360 องศา พร้อมที่จอดรถแบบอัตโนมัติ (Automatic Parking) ซึ่งเป็นครั้งแรกที่แสนสิรินำระบบที่จอดรถแบบนี้เข้ามาใช้ในโครงการ โดยสามารถรองรับจำนวนรถได้ถึง 100% ของจำนวนยูนิต

Material Exhibition…The New Approach of Sales Gallery
ลบภาพจำของ Sales Gallery ที่คุ้นเคยไปได้เลย เพราะนอกจากความโดดเด่นของตัวโครงการแล้ว KHUN by YOO inspired by Starck ยังฉีกกรอบเดิมของการทำ Sales Gallery แบบเดิมๆ  ด้วยการไม่จัดแสดงห้องตัวอย่าง แต่ใช้คอนเซ็ปต์การนำเสนอโครงการผ่านการสร้างแรงบันดาลใจ ในรูปแบบ Material Exhibition โดย Sales Gallery สูง 2 ชั้นแห่งนี้เกิดขึ้นจากแนวคิด ‘Industrial Heritage’ ที่สื่อผ่านการใช้วัสดุที่มีสีสันตัดกัน อย่างทองแดงผสมผสานกับคอนกรีตเปลือย และสถาปัตยกรรมภายนอกรูปทรงแปลกตาเพื่อสร้างความดึงดูด พร้อมการประดับไฟเพื่อสร้างความโดดเด่นในยามค่ำคืน ภายในตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ของฟิลิปส์ สตาร์ค  และใช้วัสดุแบบเดียวกับที่ตกแต่งในล็อบบี้ของโครงการจริง  เพื่อกระตุ้นให้ทุกคนที่ได้เข้ามาชมเกิดแรงบันดาลใจอย่างไม่รู้จบ นับเป็นประสบการณ์แปลกใหม่ น่าจดจำ และสร้างความประทับใจให้กับผู้เข้าชมได้เป็นอย่างดี

ภายนอก – แนวความคิด ‘Industrial Heritage’ ถูกถ่ายทอดออกมาให้เห็นผ่านการออกแบบสถาปัตยกรรมของตัวอาคารในรูปทรงที่สะดุดตาตั้งแต่แรกเห็น ด้วยการใช้วัสดุโลหะสีทองแดงที่นอกจากจะสะท้อนความหรูหราและความน่าสนใจของโครงการให้ทุกคนที่ผ่านไปมาในย่านใจกลางทองหล่อได้ตื่นตะลึงแล้ว ยังสะท้อนเอกลักษณ์ของงานดีไซน์ที่ไม่ยึดติดกับกรอบใด ๆ ในสไตล์ของฟิลิปป์ สตาร์ค ได้อย่างถึงที่สุดด้วย

ภายใน – เมื่อเดินเข้ามาในบริเวณพื้นที่ชั้น 1 ของ Sales Gallery ลูกค้าจะได้พบกับโซนต้อนรับที่จัดวางเฟอร์นิเจอร์ตัวเด่น ผลงานออกแบบของฟิลิปป์ สตาร์ค ไว้อย่างเย้ายวน อาทิ เก้าอี้ Lou read จากแบรนด์ Driade แบรนด์เฟอร์นิเจอร์สัญชาติอิตาเลียน มีรูปทรงกึ่งประติมากรรมที่ชวนให้นึกถึงสิ่งมีชีวิต ความเป็น organic form และวัสดุที่ถูกคัดสรรอย่างพิถีพิถัน สร้างความสบายผ่อนคลาย แสดงให้เห็นถึงคุณภาพของชิ้นงาน และสื่อถึงอารมณ์ขันและความสนุกสนาน นอกจากนี้ยังมีผนังที่บุด้วยจอแอลซีดีเพื่อฉายภาพยนตร์แนะนำโครงการ รวมทั้งมีวีดิโอสัมภาษณ์ฟิลิปป์ สตาร์คให้แฟน ๆ ได้รับชมกันด้วย

จากนั้นเมื่อก้าวเท้าขึ้นบันไดวนโค้งขึ้นไปทางด้านขวาของโซนต้อนรับ ผ่านโคมระย้าขนาดใหญ่จากแบรนด์ Barovier & Toso จัดได้ว่าเป็นแบรนด์ที่เก่าแก่ที่สุดแบรนด์หนึ่งของโลกโดยมีมาตั้งแต่สมัยยุคกลางในยุโรป(ศตวรรษที่13) โดยเป็นแบรนด์ที่มีความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษในงาน Murano glass (แก้วเป่า) ซึ่งโดยโคมระย้านี้เป็นโมเดลเดียวกันกับที่จะถูกใช้ในลอบบี้ของโครงการจริง

บนชั้น 2 ทุกคนก็จะได้พบกับ Material Exhibition ที่เป็นการแสดงการผสมผสานผลงานชิ้นเอกของฟิลิปป์ สตาร์ค ที่ได้รับการคัดสรรมาใช้ใน Sales Gallery แห่งนี้ ผนวกกับเทคโนโลยีในการนำเสนอรวมทั้งองค์ประกอบอื่น ๆ ที่จะใช้จริงในโครงการอย่างลงตัว ซึ่งแบ่งแยกย่อยออกเป็น 4 โซน โดยพื้นที่ทั้งหมดของชั้น 2 ควบคุมด้วยระบบสมาร์ทโฮม (Home Automation) ที่เชื่อมต่อถึงกันทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นระบบไฟ จอ และไอแพดในมือของทีมงาน โดยมีการรังสรรค์ลำดับการนำเสนออย่างลงตัวผ่านการเปิดไฟในเฉพาะโซนที่กำลังนำเสนออยู่ ประหนึ่งพาลูกค้ามาเยี่ยมชมงานศิลปะอันล้ำค่าในพิพิธภัณฑ์

โซนที่ 1 เป็นจอภาพขนาดใหญ่ที่นำเสนอมุมมองและสีสันอันมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของทองหล่อจากภาพจริงและวิวจริงของโครงการนี้

จากนั้นในโซนที่ 2 เป็นการนำโมเดลเสมือนจริงของตัวอาคารของโครงการมาจัดแสดง เพื่อแสดงให้เห็นถึงความล้ำสมัยในการออกแบบโครงสร้างอาคารที่มีวัสดุทองแดง เน้นย้ำสไตล์ Industrial Heritage ให้ประจักษ์ชัดอีกครั้งหนึ่ง

เมื่อเข้าสู่โซนที่ 3 ซึ่งเป็น Lifestyle Kitchen ที่นำเอาเครื่องครัวจริงจากแบรนด์เครื่องครัวที่จะถูกนำมาใช้จริง ๆ ในห้องพักของโครงการมาจัดแสดงในรูปแบบที่สามารถรองรับการจัดกิจกรรมพิเศษหรือเวิร์คช็อปการทำอาหาร หรือจะเป็นเวิร์คช็อปพิเศษกับบาริสต้าหรือมิกซ์โซโลจิสต์ที่จะรังสรรค์เมนูเครื่องดื่มสุดประทับใจให้กับทุกคนก็ได้เช่นกัน

ปิดท้ายที่โซนที่ 4 ซึ่งหยิบผลงานการออกแบบชิ้นที่เด่นที่สุดของฟิลิปป์ สตาร์คอย่าง Axor Starck ก๊อกน้ำไฮเอนด์ที่มีชื่อเสียงด้านคุณภาพ และ Duravit Starck ก๊อกน้ำดีไซน์พิเศษที่ใครเห็นเป็นต้องสะดุดตา ซึ่งทั้งหมดจะมีใช้จริงในโครงการเช่นกัน มาล้อมไว้ในกรอบกระจกในรูปแบบของแกลเลอรี่ให้ทุกคนได้ชม ซึ่งทุกชิ้นงานที่นำมาจัดแสดงในเซลส์แกลเลอรี่รูปแบบใหม่แห่งนี้ เป็นการเรียกน้ำย่อยชั้นดี พร้อมที่จะกระตุ้นแรงบันดาลใจให้ทุกคนเห็นภาพความเป็น KHUN by YOO inspired by Starck ว่าเมื่อโครงการก่อสร้างจนแล้วเสร็จจะมีหน้าตาอย่างไร

KHUN by YOO inspired by Starck จะเปิดทำการขายอย่างเป็นทางการในเดือนมีนาคม 2560 โดยโครงการคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จในเดือนกรกฎาคม 2563 สำหรับผู้ที่สนใจสามารถเข้าชมโครงการ สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.sansiri.com/condominium/khunbyyoo/th/

หรือโทร 1685