องค์ประกอบภายใน Cuisine de Garden BKK จึงเน้นการนำวัสดุธรรมชาติมาใช้เป็นหลัก ตั้งแต่ หินกรวด กรวดล้าง และไม้ อีกทั้งยังมีการนำลำต้นของต้นไม้จริงมาจัดวางให้กระจายตัวอย่างอิสระ โดยมีการจัดแต่งกิ่ง ก้าน ใบ และการคว้านพื้นไม้เดิมของตึกแถวหลังนี้ แล้วยึดตัวลำต้นต้นให้เข้ากับพื้นคอนกรีตด้านล่าง จากนั้นจึงโรยทับด้วยหินกรวดสีดำ เสมือนว่าต้นไม้แต่ละต้นเติบโตมาจากผืนดินจริงๆ ซึ่งสอดคล้องไปกับการจัดรูปแบบของโต๊ะอาหารแบบแรนดอม ทั้งเพื่อหลบหลีกแนวต้นไม้ สร้างความเป็นส่วนตัว รวมไปถึงความรู้สึกสบายๆ และเป็นกันเองให้แก่ผู้เข้ามารับประทานอาหารในเวลาเดียวกัน

นอกจากนี้ เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นยังได้รับการออกแบบขึ้นเฉพาะ พร้อมๆ ไปกับการนำกระจกสีชามาติดตั้งที่ผนังด้านหนึ่งเพื่อทำให้พื้นที่โดยรวมดูโอ่โถ่งและกว้างขวางขึ้น ขณะเดียวกันก็สามารถสร้างมิติที่น่าสนใจให้กับสเปซภายใน ประหนึ่งว่ากำลังนั่งอยู่ท่ามกลางสวนกว้างที่แสนสงบ

พื้นที่ด้านในสุดของร้านถูกออกแบบให้บาร์ ที่มีการนำกรวดสีดำมาโรยไว้ภายในสเปซดังกล่าว โดยกรวดเหล่านี้ยังถูกใช้ต่อเนื่องไปยังพื้นที่สวนภายนอกร้าน ซึ่งไม่เพียงแต่จะเป็นสัญลักษณ์ในการบ่งบอกขอบเขตของบาร์ออกจากส่วนรับประทานอาหารที่ใช้พื้นไม้เป็นองค์ประกอบหลักเท่านั้น แต่ยังเป็นวัสดุที่ช่วยปรับความรู้สึกและสร้างประสบการณ์ที่แตกต่างให้ผู้ใช้บริการรู้สึกเสมือนหนึ่งว่ากำลังเดินออกมายังสเปซภายนอกร้าน อันมีต้นไม้ใหญ่เป็นไฮไลท์
สำหรับพระเอกในส่วนบาร์คือการนำต้นไม้มาดีไซน์ฟอร์มเสียใหม่ให้แตกกิ่งก้านสาขาแผ่กระจายท่ามกลางแบคกราวน์ของเพดานสีดำสนิทที่ถูกใช้เพื่อส่งเสริมและสร้างความเปิดโล่ง จำลองบรรยากาศของท้องฟ้าในยามค่ำคืน โดยมีการติดตั้งหลอดไฟ LED ดวงเล็กๆ ไว้บนต้นไม้เพื่อสร้างบรรยากาศให้เสมือนฝูงหิ่งห้อยกำลังบินลอยอยู่บนท้องฟ้า อันเป็นปรากฏการณ์และความสวยงามทางธรรมชาติที่หาได้ยากยิ่งในยุคสมัยปัจจุบัน โดยบาร์นี้มีชื่อว่า ‘บาร์หิ่งห้อย’

และเมื่อมาเยือน Cuisine de Garden BKK ทั้งที ไม่พูดถึงอาหารของที่นี่คงไม่ได้ เพราะแต่ละจานก็มีความโดดเด่นไม่ต่างไปจากการออกแบบภายใน ซึ่งแน่นอนว่าก็ได้รับแรงบันดาลใจจากธรรมชาติเช่นกัน ที่นี่มีรูปแบบการเสิร์ฟอาหารเป็น Course จำลองการรับประทานอาหารแต่ละเมนูเสมือนว่ากำลังอ่านหนังสือแต่ละบท โดยจะมีทั้งหมด 4 Chapter ด้วยกัน ซึ่งจะมีการปรับเปลี่ยนเมนูไปตามฤดูกาลที่แตกต่างกัน และลูกค้าสามารถเลือกเมนูในแต่ละ Chapter ได้ตามอัธยาศัย
อาหารทุกจานของที่นี่เรียกว่าผ่านการคิดค้นและดีไซน์ที่ลงรายละเอียดทุกกระเบียดนิ้ว แน่นอนว่าจุดเด่นคือการเลือกใช้วัตถุดิบพื้นถิ่นของไทย การทำความเข้าใจถึงรสชาติ กลิ่นอาย และเสน่ห์ของความเป็นไทย ทั้งกระบวนการ เทคนิค และภูมิปัญญา โดยทีมเชฟได้หยิบเอาสิ่งเหล่านี้มาต่อยอดและสร้างสรรค์ผ่านรูปแบบอาหาร Modern Cuisine ไม่ว่าจะเป็น ‘Eclipse’ ที่ใช้แกนตะวัน (Sunchoke) เป็นพระเอกของจาน ‘Coast to Coast’ ที่มี ‘มะกรูด’ เป็นสวนประกอบหลัก หรือการใช้ใบบัวบกในเมนู ‘Water Lilies’ เลยไปจนถึงการนำกุยชายเขียวและขาวในจานที่เรียกว่า ‘Swamp’ เป็นต้น

เมนู A Must ของที่นี่คงหนีไม่พ้น ‘NEST’ อาหารหน้าตาเรียบง่ายกับวัตถุดิบหลัก 3 อย่าง ที่ถูกนำมาผสมผสานกันอย่างพอเหมาะ ตั้งแต่ไข่ออนเซ็น ที่เชฟเลือกไข่ออแกนิคมาทำให้สุกด้วยเทคนิค Sous Vide (ซูสวีด) นั่นคือการนำวัตถุดิบไปแพ็คไว้ในถุงสุญญากาศ จากนั้นจึงนำลงไปแช่ในน้ำที่่ควบคุมอุณหภูมิไว้ โดยความร้อนจะค่อยๆ ถ่ายเทสู่ตัวไข่ซึ่งทำให้วัตถุดิบไม่สูญเสียคุณค่าและความชุ่มฉ่ำใดๆ และไข่ที่ได้จถูกนำมาตอกลงบนรังนกที่ทําขึ้นจากเส้นหมี่ขาว โดยมีเนื้อไก่ฉีกที่ถูกปรุงรสมาเป็นตัวเสริมรสชาติ ทำให้จานนี้เข้ากันได้อย่างดี

สำหรับในช่วงหน้าร้อนที่ผ่านมา ทีมเชฟก็ได้คิดเมนูอาหารเซ็ตใหม่และเครื่องดื่ม signature cocktail ที่ถ่ายทอดเรื่องราวและบรรยากาศฤดูร้อน ตั้งแต่ขนม Canelé ในฟอร์มต้นกระบองเพชรที่ตั้งอยู่ท่ามกลางทะเลทราย เมนูปลาหมึกที่ถ่ายทอดเรื่องราวของท้องทะเลและชายหาด ไปจนถึงการใช้ผลไม้สมุนไพรที่มีผลมีสีแดงเรียวเล็กหน้าตาคล้ายคลึงกับมะเขือเทศลูกเล็กอย่าง มะนาวโห่ หรือ มะม่วงหาวมะนาวโห่ (Karanda) มาใช้เป็นส่วนผสมของของไอศกรีม โดยทานคู่กับ Mille-Feuille ในรูปแบบเฉพาะของทางร้าน ที่ประกอบไปด้วยแป้งพัฟกรอบๆ ราดด้วยครีมคาราเมลที่ให้รสชาติหวานนิดๆ เค็มหน่อยๆ ชูรสด้วยความเปรี้ยวของลูกมะนาวโห่ดองและเนื้อหอมๆ นุ่มๆ ละมุนลิ้นของเจลลี่เหล้าบ๊วย

ภายใต้บรรยากาศในสวนเล็กๆ กลางเมืองของ Cuisine de Garden BKK แห่งนี้ นอกจากการได้ลิ้มลองรสและกลิ่นหอมที่คุ้นเคยจากวัตถุดิบท้องถิ่นของไทย ผ่านหน้าตาของเมนูอาหารแบบทันสมัยและดึงดูดใจ พร้อมๆ ไปกับการนำเทคนิคการปรุงอันหลากหลายมาใช้ในเมนูแต่ละจานแล้ว การนำเสนอผ่านเรื่องราวและแรงบันดาลใจจากธรรมชาติผ่านรูปแบบการตกแต่งก็ยังเป็นตัวชูโรงที่ทำให้การเดินทางผ่านแต่ละ Chapter ของอาหารเมนูต่างๆ นั้นมีความสนุก สวยงาม และสร้างประสบการณ์ที่ไม่ต่างไปจากการเปิดอ่านหนังสือสนุกๆ สักเล่ม แต่เป็นหนังสือที่มีทั้งรูป รส กลิ่น และเสียง เรียกได้ว่าครบรสจริงๆ

Cuisine de Garden BKK
Designer: IF (Integrated Field)
Photo: Ketsiree Wongwan
Location: 12/6 Phatsana1, Northern Phrakanong, Wattana, Bangkok 10110
Contact Information: www.cuisinedegarden.com, www.facebook.com/cuisinedegardenbkk