Poshtel เทรนด์ที่พักแนวใหม่ ที่เหนือกว่าทั้งดีไซน์และเซอร์วิส ในราคาสบายกระเป๋า

ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปกี่ยุคกี่สมัย การเดินทางยังคงเป็นหมุดหมายที่ใครหลายคนเลือกใช้เพื่อแสวงหาประสบการณ์ ความท้าทาย ความทรงจำ และความสุข ซึ่งสิ่งที่ขับเคลื่อนให้การเดินทางนั้นยังคงคุณค่าและมีเสน่ห์จวบจนวันนี้ก็คือเหล่านักเดินทาง ที่ในช่วงหลายปีมานี้ พวกเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนในกลุ่ม Gen Y ที่มีอายุระหว่าง 20 ต้นๆ ถึง 30 ปลายๆ ซึ่งเป็นนักเดินทางกลุ่มใหญ่และมีศักยภาพสูง ได้สร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับพฤติกรรมการท่องเที่ยวอยู่ไม่น้อย คำถามที่ว่าพวกเขาใช้ชีวิตอย่างไร ฝันถึงสิ่งไหน ต้องการและไม่ต้องการอะไร หรือมีวิธีการเลือกตัดสินใจสิ่งต่างๆ ในชีวิตจากอะไรนั้น นอกจากจะทำให้เราเห็นความเป็นไปที่เกิดขึ้นได้อย่างดีแล้ว ก็ยังนำไปสู่การคาดการณ์เพื่อพัฒนาสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวให้สอดคล้องกับพฤติกรรม ความชอบ ตลอดจนค้นหาช่องทางและกลยุทธ์สื่อสารทางการตลาดที่จะเข้าถึงกลุ่มนักเดินทางกลุ่มนี้ได้อย่างมีคุณภาพด้วย

แล้วพวกเขามีพฤติกรรมอย่างไรกัน? หากลองย้อนไปดูผลการศึกษาจากโครงการศึกษาพฤติกรรมนักท่องเที่ยวรุ่นใหม่ ที่จัดทำโดยการท่องเที่ยว แห่งประเทศไทย (ททท.) ที่ศึกษาในประเด็นพฤติกรรมและปัจจัยด้านจิตวิทยาในการเดินทางของ นักท่องเที่ยวรุ่นใหม่ชาวไทย อายุ 18-35 ปี จะพบว่า นักท่องเที่ยวรุ่นใหม่กลุ่มนี้มีความชอบและรสนิยมทางการท่องเที่ยวที่หลากหลาย บ้างก็สนใจแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง บางคนให้ความสำคัญกับงบประมาณทางการท่องเที่ยว บางคนสนใจเรื่องอาหารและวัฒนธรรม ขณะที่หลายๆ คนก็โฟกัสกับความคุ้มค่าในการท่องเที่ยว นอกจากนี้ พวกเขายังชอบวางแผนด้วยตนเอง ไม่ชอบถูกกำหนดทั้งเรื่องเวลา สถานที่ หรือกิจกรรมแบบชะโงกทัวร์จากบริษัทนำเที่ยวเป็นกลุ่มที่มีการสืบค้นหาข้อมูลในการท่องเที่ยวมากกว่าคนรุ่นก่อนๆ เพื่อที่จะคัดกรอง เปรียบเทียบ และวางแผนการเดินทาง ซึ่งรวมไปถึงปัจจัยในการเลือกที่พักด้วยเช่นกัน

ในการเลือกที่พักนั้น สิ่งที่พวกเขาคำนึงถึงมีตั้งแต่รูปแบบห้องพัก ความเป็นมิตรของพนักงาน ทำเลที่ตั้ง เทคโนโลยี รวมถึงการมองหาแบรนด์ที่มีการออกแบบและสะท้อนอัตลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร เหล่านี้ทำให้ตัวเลขการจับจองที่พักในแบบโรงแรมตั้งแต่หนึ่งจนถึงหลายดาวเริ่มถูกยักย้ายถ่ายเทไปยังที่พักรูปแบบอื่นๆ ที่ตอบโจทย์มากกว่า สามารถให้ประสบการณ์ที่แปลกแตกต่าง ในราคาที่ใกล้เคียงหรือประหยัดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเลือกใช้การบริการบูติกโฮเทล การจองห้องพักผ่านเว็บไซต์ดังอย่าง airbnb, โฮสเทล รวมทั้งที่พักรูปแบบใหม่ในนาม ‘โพชเทล’ ด้วย

โพชเทล หรือ ‘poshtel’ นั้นเริ่มเข้ามาเป็นทางเลือกใหม่ให้กลุ่มนักเดินทาง Gen Y เมื่อ 3-4 ปีก่อน โดยมีต้นกำเนิดมาจากประเทศแถบยุโรป จากนั้นจึงแพร่หลายไปยังเมืองใหญ่ๆ ทั้งในอเมริกา สแกนดิเนเวีย และเอเชีย poshtel เป็นคำที่ผสมขึ้นจากระหว่าง ‘posh’ ที่แปลว่า หรูหรา ชั้นดี กับคำว่า ‘hostel’ เข้าด้วยกัน ซึ่งก็แปลตรงตัวแบบนั้นคือ โฮสเทลในเวอร์ชั่นที่หรูหราขึ้น ทั้งในแง่ภาพลักษณ์ การบริการ สิ่งอำนวยความสะดวก และแน่นอนว่าต้องเป็นราคาที่จับต้องได้

ด้วยการคาดการณ์ว่ากลุ่ม Gen Y คือเป้าหมายหลักของห้องพักแบบที่ว่า การดีไซน์รูปแบบธุรกิจจึงอ้างอิงไปกับความต้องการและกำลังซื้อของพวกเขา เป็นต้นว่า ที่พักจะต้องให้ประสบการณ์แปลกใหม่ มีดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ อาจไม่จำเป็นต้องใหญ่โตนัก มีความเป็นส่วนตัว แต่ยังคงสามารถพบปะกับผู้เข้าพักคนอื่นได้แบบที่โฮสเทลทำ ดังนั้นสิ่งที่สร้างความแตกต่างให้กับ ‘poshtel’ อย่างแรกก็คงจะเป็นการออกแบบ ที่แน่นอนว่าแต่ละแห่งก็งัดเอากิมมิกต่างๆ มาเพิ่มความน่าสนใจ เช่น การดีไซน์ในแนวอินดัสเทรียลลอฟท์ โมเดิร์น การคงคุณค่าของสถาปัตยกรรมท้องถิ่นเอาไว้ หรือการออกแบบให้ทุกซอกทุกมุมสามารถเชื่อมโยงไปกับไลฟ์สไตล์แบบ photography addicted ที่ถ่ายยังไงก็ขึ้นกล้องเพื่อแชร์ให้ทั้งโลกโซเชียลรับรู้การมาถึงของพวกเขา ถัดมาคงหนีไม่พ้นสิ่งอำนวยความสะดวกที่พรีเมี่ยมขึ้น ทั้ง free wifi บาร์ คาเฟ่ ร้านอาหาร การให้บริการ craft cocktail โต๊ะพูล ฟิตเนส สระว่ายน้ำขนาดย่อม rooftop หรือบรรดาไฮไลท์อื่นๆ ในแบบที่เจ้าของจะสามารถสรรหามาดึงดูดใจผู้เข้าพัก อาทิ การสร้างกิจกรรมที่เชื่อมไปกับบริบทพื้นที่หรือวัฒนธรรม เป็นต้น ไม่เพียงเท่านี้ poshtel ยังเพิ่มความหลากหลายของห้องพัก ทั้งห้องนอนรวมในรูปแบบหอพัก ห้องพักแบบมาตรฐาน ห้องพักสำหรับครอบครัว ห้องสวีท หรือบางที่ก็มีเพนท์เฮ้าส์ให้สามารถเลือกพักได้ตามความต้องการ ส่วนราคาก็จะสูงกว่าโฮสเทลแต่ก็จะได้รับความสะดวกสบายมากขึ้นเช่นกัน

การเกิดขึ้นของ poshtel ที่สามารถจับจุดพฤติกรรมผู้บริโภคว่าต้องการ ไม่ต้องการ ชอบหรือไม่ชอบ รวมถึงดึงเอาเฉพาะข้อดีของการให้บริการที่พักแต่ละรูปแบบมาผสมผสานจนเกิดรูปแบบใหม่นี้ ตลอดจนความนิยมของผู้บริโภค ที่แม้ผู้ประกอบการ ‘poshtel’ จะเจาะจงไปที่นักท่องเที่ยวกลุ่ม Gen Y แต่เอาเข้าจริงผู้เข้าพักในโรงแรมสไตล์นี้ยังรวม Gen X และกลุ่มผู้ใหญ่ที่ยังคงรักอิสระ รักการเดินทาง และมีกำลังซื้อ ได้สร้างแรงสั่นสะเทือนอุตสาหกรรมโรงแรมไม่น้อย เพราะบรรดาโรงแรม chain เอง ก็ยังเปิดตลาดกลุ่ม poshpacker ทั้ง HYATT ที่เปิดตัว HYATT CENTRIC หรือ Marriott กับการสร้าง poshtel ของพวกเขาในนาม Moxy Hotels ไปจนถึง Aloft ภายใต้การบริการของ Starwood Hotels Worldwide ซึ่งนี่ก็เป็นเหตุผลที่ทำให้เทรนด์ของ poshtel น่าจะได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ

สำหรับการเติบโตของธุรกิจโรงแรมและที่พักรูปแบบใหม่ในกรุงเทพฯ เมืองที่ได้รับการจัดอันดับให้เป็นเมืองมีผู้มาเยือนมากที่สุดในโลกในช่วงปีสองปีนี้ จึงไม่ใช่เรื่องที่เหนือการคาดเดาที่เราจะได้เห็นการเปิดตัวที่พักรูปแบบดังกล่าวขึ้น ซึ่งดูเหมือนว่ากำลังผลิบานตามรุ่นพี่อย่างโฮสเทลมาติดๆ และนี่คือ 4 poshtel ที่ถูกก่อตั้งขึ้นและกำลังพิสูจน์ให้เราเห็นถึงเส้นทาง ตลอดจนให้ภาพสะท้อนของสถานการณ์ ทั้งอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและการบริการที่กำลังดำเนินอยู่ในช่วงเวลานี้ด้วย

Augusta Poshtel ที่พักในบรรยากาศอบอุ่นแบบฤดูใบไม้เปลี่ยนสี

Augusta Poshtel เป็นรูปแบบที่พักแนว poshtel ที่เพิ่งเปิดตัวได้ราวปีกว่าๆ ท่ามกลางกระแสการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ poshtel ขนาด 4 ชั้น แห่งนี้ที่ซ่อนตัวอยู่ภายในย่านทองหล่อ ซอย 7 ที่มีเป้าหมายคือการสร้างพื้นที่ให้เป็นเสมือนบ้านเพื่อไม่ให้เหล่านักเดินทางที่มาจากหลากหลากวัฒนธรรมรู้สึกแปลกแยกแตกต่าง แต่อุ่นใจแม้จะอยู่ต่างแดน โดยทั้งชื่อและแนวทางการออกแบบนั้นก็มีที่มาจากคำว่า August หรือเดือนสิงหาคม ซึ่งเป็นเดือนของฤดูใบไม้เปลี่ยนสีในทวีปยุโรป อากาศเย็นสบาย สายลม แสงแดด และบรรยากาศสดใสของใบไม้ที่เริ่มเปลี่ยนสีเป็นสีเหลืองและสีส้มสด ตัดกับภูมิทัศน์ของเมือง ได้ถูกถ่ายทอดมายังรูปแบบการตกแต่งที่ผู้ก่อตั้งอย่าง ชัยณัฏฐ์ แคว้นคอนฉิม บรรจงคัดสรรของตกแต่ง งานเฟอร์นิเจอร์ ข้าวของเครื่องใช้ ที่ไม่เพียงแต่จะมีคุณภาพเทียบเท่าโรงแรมชั้นนำ แต่ยังสะท้อนภาพของฤดูดังกล่าวออกมาได้อย่างลงตัว

จากทางเข้า เราจะพบกับล็อบบี้ที่ตกแต่งด้วยวัสดุและเครื่องเรือนประเภทไม้ทั้งพื้น ผนัง ชั้นวางของ โต๊ะ และเค้าน์เตอร์ในส่วนต้อนรับ ซึ่งให้ความรู้สึกอบอุ่น โดยมีเฟอร์นิเจอร์ในโทนสีต่างๆ ทั้งเหลือง ส้ม น้ำตาล มาช่วยขับเน้นให้บรรยากาศดูสนุกขึ้น ไม่ว่าจะเป็นโซฟาสีเหลืองและเทา หมอนอิงในลวดลายแปลกตา ตัด decorative item ในโทนขรึมขึ้น ทั้งเปียโน โต๊ะยาว และโคมไฟในโทนสีดำ ก่อนที่สเปซส่วนนี้จะแยกตัวแตกแขนงไปสู่ห้องครัว มุมกาแฟ และห้องอาหารที่ควบฟังก์ชั่นของการเป็นมุมพักผ่อนในตัว พร้อมมีทีวีขนาดใหญ่และอินเตอร์เนตให้บริการ

ในส่วนของห้องพักนั้น ที่นี่จะเน้นไปที่ห้องแบบ private room ซึ่งมีทั้งหมด 4 ห้อง ด้วยกัน ในชั้นที่ 2 เป็นห้องพักในแบบ Private A และ Private B ที่ประกอบไปด้วย 4 เตียงเดี่ยว ซึ่งสามารถรองรับแขกที่มาเป็นกลุ่ม ทั้งเพื่อนและครอบครัว ขณะที่ชั้น 3 จะมีห้องพักจำนวน 2 ห้อง ในแบบ Double Bed Deluxe ที่มี 2 เตียงเดี่ยว กับ 1 เตียงใหญ่ และ Superior กับ 1 เตียงใหญ่ พร้อมเตียง 2 ชั้น

สำหรับชั้น 4 เป็นที่ตั้งของห้องแบบ Mixed Dorm Deluxe ที่มี bunk bed จำนวน 6 เตียง โดยถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบ พร้อมโคมไฟหัวเตียง ตู้สำหรับใส่ของมีค่า ผ้าม่านที่สามารถรูดปิดเมื่อต้องการความเป็นส่วนตัว ในพื้นที่เดียวกันนี้ ยังมีการติดตั้งตู้สำหรับจัดเก็บสัมภาระที่มีขนาดใหญ่ ห้องน้ำ ตลอดจนพื้นที่ส่วนกลางอย่างสเปซนั่งเล่นแบบโอเพ่นแอร์สำหรับให้ผู้เข้าพักสามารถปรับเปลี่ยนอิริยาบถ พักผ่อน อ่านหนังสือ หรือพบปะพูดคุยกับผู้เข้าพักท่านอื่นๆ

ความอบอุ่นและบรรยากาศแบบฤดูใบไม้เปลี่ยนสียังปรากฏผ่านรูปแบบการตกแต่งภายในห้องพักทุกแบบ โดยเราจะเห็นจุดเชื่อมโยงไปกับงานอินทีเรียบริเวณชั้นล่าง ที่ทุกห้องจะเน้นการดีไซน์แบบเรียบ เท่ แต่ให้ความรู้สึกสบายและเป็นส่วนตัว ทั้งการจัดวางพื้นที่ใช้สอยแบบไม่ซับซ้อนและเป็นสัดเป็นส่วน การใช้วัสดุอย่างพื้นไม้ที่เหมือนกันในห้องทุกแบบ รวมถึงพื้นที่ส่วนกลางในชั้นล่างเพื่อเพิ่มบรรยากาศอบอุ่นและเป็นมิตร แต่จะมีการเพิ่มกิมมิกเล็กๆ บริเวณผนังแต่ละห้องด้วยการใช้สีในโทนที่แตกต่างกัน เช่น เหลือง เขียว ฟ้า มาลดทอนให้ความเรียบง่ายนั้นมีสีสันและโดดเด่นมากยิ่งขึ้น ไม่เพียงเท่านี้ ในส่วนของการเลือกเฟอร์นิเจอร์ จะเน้นไปที่รูปทรงเกลี้ยงๆ และมีสีสันสะอาดตา ขณะเดียวกันก็ยังคำนึงถึงเรื่องของคุณภาพทั้งเตียงนอน ผ้าปู และผ้าห่ม ที่ได้รับการคัดสรรมาอย่างดีเพื่อพักผ่อนนั้นเกิดความสบายสูงสุดด้วย

แม้จะเป็นน้องใหม่สำหรับธุรกิจ poshtel แต่ Augusta Poshtel ก็สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามในการทำความเข้าใจความต้องการของผู้เข้าพักที่มาจากต่างถิ่นได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะกลุ่มนักเดินทางชาวยุโรป (ซึ่งแม้ในท้ายที่สุดจะมีผู้มาเยือนจากหลากหลายวัฒนธรรมก็ตาม) กับการออกแบบให้แขกแต่ละท่านไม่รู้สึกแปลกที่ ทั้งบรรยกาศในแบบที่พวกเขาคุ้นเคย การดีไซน์พื้นที่สาธารณะให้มีการใช้สอยได้หลายรูปแบบ เช่น ห้องอาหารที่สามารถใช้เป็นพื้นที่พักผ่อน พูดคุย นั่งเล่น หรือทำงาน การผสานและเชื่อมต่อกันของสเปซที่เอื้อให้คนเกิดปฏิสัมพันธ์กัน ขณะที่ยังคงความเป็นส่วนตัวเมื่อเข้าสู่ที่พัก การต้อนรับและบริการที่ใกล้ชิดและพร้อมให้ความช่วยเหลือ ที่สำคัญเลยคือการต่อยอดการบริการ ทั้งการสร้างพันธมิตรกับร้านค้า ร้านอาหาร และธุรกิจในระแวกข้างเคียง หรือบริการ city tour ที่มีการคิดโปรแกรมขึ้นมาเฉพาะ (ซึ่งกำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต) เพื่อเพิ่มทางเลือกให้แก่แขกผู้เข้าพัก โดยความตั้งใจที่เราเห็นได้จากรายละเอียดในส่วนต่างๆ ที่แม้จะเป็นส่วนเล็กๆ น้อยๆ ล้วนทำให้ poshtel แห่งนี้ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ไม่ได้เป็นเพียงห้องพักให้ผู้คนผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนมาใช้บริการ แต่คือพื้นที่ของการสังสรรค์ทางวัฒนธรรมที่เป็นธรรมชาติ อันจะนำไปสู่การสร้างประสบการณ์และความทรงจำส่วนตัวที่ผู้คนสามารถเก็บเกี่ยวติดตัวกลับไปได้ด้วย

Augusta Poshtel

Photo courtesy of Augusta Poshtel

Address: 133/1 Thonglor 7 Alley, Sukumvit 55 Road, Wattana District, Bangkok 10110

Website: www.augustaposhtel.com