ปี 2022 ที่กำลังจะผ่านไปถึงแม้จะเป็นปีที่ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลอยู่ในภาวะขาลงตลอดทั้งปีและเต็มไปด้วยข่าวร้าย ถึงอย่างไรเรายังได้เห็นพัฒนาการทางด้านเทคโนโลยีสินทรัพย์ดิจิทัลใหม่ๆอย่างต่อเนื่องรวมถึงความเคลื่อนไหวของผู้คนในอุตสาหกรรมที่ยังคงผลักดันให้สินทรัพย์ดิจิทัลได้รับการยอมรับ ทำให้เชื่อได้ว่าปี 2023 จะได้เห็นสิ่งใหม่เกิดขึ้นกับอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างแน่นอน

นี่คือ 7 เทรนด์เทคโนโลยีสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีโอกาสจะเกิดขึ้นในปี 2023 ที่กำลังจะมาถึงโดยมีทั้งประเด็นเก่าที่สืบต่อเนื่องจากปีนี้และประเด็นใหม่ที่อาจจะเกิดขึ้น

Web3 จะเข้าสู่ Mass Adoption

เทคโนโลยีอินเทอร์เนตในยุคที่สามหรือ Web3 ได้รับการพูดถึงมาสักระยะแล้วแต่ในปีหน้านี้มีโอกาสสูงที่ Web3 จะเข้าสู่ Mass Adoption หรือเข้าสู่การใช้งานในวงกว้างโดยผู้ใช้งานทั่วไปซึ่งอาจไม่ได้รู้จักกับสินทรัพย์ดิจิทัลมาก่อน โดยบริษัทอินเทอร์เนตยักษ์ใหญ่ทั้ง Google Meta ฯลฯ ได้เข้ามาลงทุนใน Web3 ระยะหนึ่งแล้ว

เทคโนโลยีที่อาจะจะได้เห็น Web3 เข้าไปมีบทบาทอย่างเช่นการชำระเงิน (Payment) อีคอมเมิร์ซ การตลาดออนไลน์ ดิจิทัลคอนเทนท์ ฯลฯ ซึ่งจะเป็นการผลักดันให้สินทรัพย์ดิจิทัลถูกนำไปใช้ในเศรษฐกิจจริงและระบบการเงินดั้งเดิม

ในอดีตอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลมี Buzz Word ที่สร้างกระแสมาตั้งแต่ ICO ไล่มาจนถึง DeFi,GameFi,Metaverse  ตลอดจน NFT แต่ในปีหน้าเราน่าจะได้เห็นคำว่า Web3 เป็น Buzz Word ใหม่ค่อนข้างแน่นอน

การอนุมัติกองทุน ETF Bitcoin

สถาบันการลงทุนระดับโลกหลายแห่งได้ยื่นเรื่องไปยัง ก.ล.ต. สหรัฐฯเป็นเวลาหลายปีเพื่อขอจัดตั้งกองทุน ETF ที่ลงทุนในตลาด Spot ของ Bitcoin โดยตรง หลังจากที่อนุมัติกองทุน ETF ที่ลงทุนใน Bitcoin Futures มาก่อนหน้านี้ แต่ยังไม่สามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกให้กับตลาดได้เท่ากับการลงทุน Bitcoin โดยตรงในตลาด Spot

ปีหน้าจึงต้องจับตาว่าทางการสหรัฐฯจะทำการอนุมัติกองทุน ETF ในตลาด Spot ของ Bitcoin หรือไม่ซึ่งจะทำให้นักลงทุนสถาบันสามารถนำเงินของลูกค้ามาลงทุนใน Bitcoin ได้ซึ่งน่าจะเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลได้อย่างมาก

Decentralized Exchange จะได้รับความนิยมมากขึ้น

ท่ามกลางปัญหาความเชื่อมั่นในศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลที่เป็นแบบรวมศูนย์หรือ Centralized Exchange อย่าง FTX ที่ล้มละลายไป ตลอดจน Exchange อื่นๆที่ยังคงมีความสงสัยในเรื่องของความโปร่งใส ทำให้กระแสของการเปลี่ยนมาใช้ Exchange แบบกระจายศูนย์หรือ Decentralized Exchange ซึ่งทำงานภายใต้เทคโนโลยี DeFi อาจได้รับความนิยมขึ้นมา เนื่องจากหากเป็น Decentralized Exchange ผู้ใช้งานจะเป็นผู้ดูแลทรัพย์สินของตัวเองทั้งหมด ต่างจาก Centralized Exchange ที่มีอำนาจจัดการเงินของลูกค้าทั้งหมด โดยตัวอย่างของ Decentralized Exchange ที่ได้รับความนิยมก็คือ Uniswap

รวมถึงกระเป๋าเงินดิจิทัลที่ใช้จัดเก็บสินทรัพย์ดิจิทัลประเภท Non Custodial Wallet ซึ่งผู้ใช้งานจัดการดูแลทรัพย์สินของตัวเองอย่าง Metamask ก็จะได้รับความนิยมขึ้นมาเช่นกัน

Centralized Exchange แห่ยื่นขอใบอนุญาตทางการเงิน

ก่อนหน้าที่จะเกิดปัญหาขึ้นกับ FTX ผู้ประกอบธุรกิจ Exchange รายใหญ่ของโลกอย่าง Binance ได้ปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจของตัวเองจากเดิมที่ดำเนินงานนอกเหนือการกำกับดูแลเข้ามาสู่การขอรับใบอนุญาตทางการเงินกับรัฐบาลต่างๆมากขึ้น โดยเฉพาะดูไบที่พยายามจะก้าวขึ้นมาเป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลแห่งใหม่ รวมถึงสหรัฐอเมริกาที่มี Exchange หลายแห่งเข้าไปเปิดกิจการ

การที่ Exchange ต่างๆเข้ามาขอรับใบอนุญาตน่าจะช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนมากยิ่งขึ้นตลอดจนนักลงทุนสถาบันมีความมั่นใจที่จะนำเงินมาลงทุนและจะช่วยให้อุตสาหกรรมเติบโตได้อย่างยั่งยืน

แบรนด์ดังตบเท้าเข้าสู่โลกของ NFT ต่อเนื่อง

แม้ว่า Metaverse  จะยังไม่มีการใช้งานในวงกว้างแต่สำหรับ NFT สามารถเข้าถึงได้ง่ายกว่าและแบรนด์ดังระดับโลกได้เข้ามาใช้ NFT เป็นเครื่องมือการตลาดยุคใหม่มาได้ระยะหนึ่งแล้ว ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์แฟชั่น แบรนด์กีฬา ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม  ฯลฯ ซึ่งในปีหน้าคาดว่าจะมีแบรนด์ดังระดับโลกเข้ามาในโลกของ NFT มากขึ้น

อย่างเช่นแบรนด์กาแฟระดับโลกอย่างสตาร์บัคส์ที่เริ่มนำ NFT มาใช้เป็นของสะสมพรีเมียมในรูปแบบดิจิทัล แม้แต่นักกีฬาดังอย่างคริสเตียนโน โรนัลโด้ ที่ขาย NFT ของตัวเอง

ค่ายเกมส์ตบเท้าทดสอบ GameFi

เกมส์ที่สามารถสร้างได้ให้กับผู้เล่นหรือ GameFi เกิดเป็นกระแสขึ้นมาในช่วงปี 2020 จากการที่มีผู้เล่นกลุ่มหนึ่งเล่นเกมส์เพื่อเป็นรายได้ในช่วงที่เศรษฐกิจมีปัญหาช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด แต่ความซ้ำซากจำเจของระบบการเล่นและการเข้ามาเก็งกำไรมากเกินไปทำให้ความนิยมใน GameFi ลดลง

อย่างไรก็ตาม ค่ายผู้ผลิตเกมส์ระดับโลกหลายค่ายไม่ว่าจะฝั่งญี่ปุ่นอย่าง Konami หรือค่ายตะวันตกอย่าง Ubisoft ที่ให้ความสนใจในการสร้างเกมส์ที่สามารถสร้างรายได้ให้กับผู้เล่นเช่นกัน และเป็นไปได้ว่าอาจได้เห็น GameFi จากค่ายเกมส์ระดับโลกนี้ในปีหน้า

CBDC สำหรับผู้ใช้งานรายย่อย

ธนาคารกลางทั่วโลกกำลังเร่งพัฒนาสกุลเงินดิจิทัลแห่งชาติหรือ CBDC โดยส่วนใหญ่ได้นำไปใช้ในการทำธุรกรรมการเงินระหว่างประเทศรวมถึงธุรกรรมสำหรับองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่แล้ว และในปีหน้ามีโอกาสที่จะได้เห็น CBDC สำหรับผู้ใช้งานทั่วไปหรือ Retail โดยประเทศไทยเองติดอยู่ในอันดับของธนาคารกลางที่มีพัฒนาการเรื่องของ CBDC รุดหน้ามากที่สุดในโลก

นี่คือ 7 เทรนด์ที่น่าจะได้เห็นในปี 2023 สำหรับอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัล อย่างไรก็ตาม เราอาจจะได้เห็นเทรนด์หรือเทคโนโลยีใหม่เกิดขึ้นก็เป็นได้เพราะอุตสาหกรรมนี้มีความเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา