ปกติแล้วหากนึกถึงแบรนด์ NUE จากโนเบิล สิ่งที่เป็น Top of Mind คือการเป็นคอนโดเลย์เอาท์หน้ากว้าง แต่งครบ บนทำเลไม่กลางเมือง ก็ใกล้ห้าง และขายในราคาสุดคุ้มประหยัดกว่าคอนโดข้างเคียงหลายเปอร์เซ็น ซึ่งนั่นก็เป็นเรื่องของ Rational ที่ใช้เหตุผลในการตัดสินใจซื้อล้วนๆซะเป็นส่วนใหญ่ แต่กับคอนโดใหม่อย่าง NUE Riverest Ratburana แห่งนี้ นอกจากจะเป็นคอนโดริมแม่น้ำแห่งแรกของโนเบิลแล้ว ก็ยังเป็นคอนโดที่มีอัตลักษณ์และบรรยากาศที่ค่อนข้างแตกต่างจากแบรนด์ NUE อื่นๆ ด้วยการเริ่มคิดจากโจทย์ในการสร้างบรรยากาศของการพักผ่อนริมแม่น้ำในแบบที่เรามักจะหาได้จาก Luxury – Super Luxury คอนโด มากกว่าคอนโดในเซกเมนท์ Premium Affordable ผลลัพธ์ก็เลยออกมาเป็นแบรนด์ NUE ที่พิเศษ ฉีกออกจากความเป็นโนเบิลออกมาพอสมควร จากความเป็น Individualistic ที่ไม่ว่าจะเป็นทำเลไหน หากเป็นตึกโนเบิลยังไงก็ต้องรู้ทันทีที่ก้าวเข้าโครงการ มาเป็นโครการที่มี Shape อาคารเป็น Organic Form อันโดดเด่น เป็นเอกลักษณ์ เช่นเดียวกับการวางคอนเซปท์โครงการที่ตีความหมายของจุดกำเนิดแม่น้ำที่มาจากภูเขา เราจึงได้เห็นกลุ่มอาคารรูปทรง Organic Shape 8 อาคาร มาผสมผสานกับป่าจำลองในแบบ Urban Forest และมีพื้นที่ Contour เล่นระดับลงไปเป็นหนึ่งเดียวกับแม่น้ำ ซึ่งพร้อมให้คุณเป็นหนึ่งเดียวกับสายน้ำได้ในทุกวัน เช่นเดียวกับการ Blend สีสันของไลฟ์สไตล์ริมแม่น้ำผ่านการร่วมมือกับพันธมิตร Josh Hotel Ari ในการนำร้านอาหารในเครือมาเป็นพื้นที่นั่งชิลล์ริมแม่น้ำ จนออกมาเป็นโครงการภายใต้คอนเซปท์ Urban Rest ที่ผสานองค์ประกอบ 3 ด้านคือ Iconic, Resort Like และ Natural Phenomena ด้วยการใช้ประโยชน์จากที่ดินริมแม่น้ำหน้ากว้างถึง 50 เมตร ลึก 500 เมตร (ส่วนที่ดินข้างๆหน้ากว้างอีก 100 เมตรมีแผนที่จะทำเป็นบ้านเดี่ยวริมแม่น้ำ)

สำหรับตัวโครงการตั้งอยู่ริมถนนใหญ่ราษฎร์บูรณะ เยื้องกับธนาคารกสิกรไทยสำนักงานใหญ่ บนที่ดินขนาด 12 ไร่กว่าๆ แบ่งเป็นอาคารพักอาศัย 8 อาคาร ที่มีจุดเด่นแตกต่างกันไปในแต่ละอาคารจำนวนรวม 1,517 ยูนิต [อาคาร F เลี้ยงสัตว์ได้] มีอาคาร shop 1 อาคารเป็นรูปแบบ Loft จำนวน 4 ยูนิต และอาคารจอดรถ 1 อาคารจำนวน 678 คัน โดยหากวัดระยะตั้งแต่หน้าโครงการริมถนนไปจนถึงอาคาร H และพื้นที่หน้าน้ำจะมีความลึกประมาณ 500 เมตร แต่สะดวกสบายด้วยทางเดินเชื่อมทุกอาคารจากอาคารจอดรถชั้นสอง ต่อเนื่องเข้าไปยังชั้นสองของทุกอาคาร โดยมีรูปแบบห้องให้เลือกถึง 5 แบบตั้งแต่สตูดิโอ 22 – 23.15 ตรม. 1 ห้องนอน 24.9 – 31.65 ตรม. 1 ห้องนอนพลัส 33.6 – 45.3 ตรม. 2 ห้องนอน 47 – 47.35 ตรม.และ 3 ห้องนอนของหายาก ที่เรามองว่ามีรูปแบบห้องและราคาที่ดีสุดในตลาดตอนนี้ คือ 105.75 ตรม. เริ่มก่อสร้าง Q2 ปีหน้าและคาดว่าจะเสร็จ Q3 ปี 2025

สำหรับพื้นที่ส่วนกลางให้มาเยอะมากๆตามสไตล์ NUE แต่มีการแบ่ง Zoning ออกเป็นหลายโซน ต่อเนื่องตั้งแต่อาคารจอดรถไปจนถึงอาคาร H ที่มีส่วนกลางริมแม่น้ำ มี Sky Zone Facilities เชื่อมระหว่างกันที่อาคาร B และ C มี Valley และ Forest Zone ที่ชั้นล่างแทรกอยู่กลางระหว่างแต่ละอาคาร

แม้จะเห็นว่ามีจำนวนยูนิตถึง 1,517 ยูนิต แต่ที่นี่กลับมีความหนาแน่นในการใช้งานแต่ละอาคารน้อยมากๆ จากการที่แบ่งออกเป็นอาคารถึง 8 อาคาร โดยมีจำนวนยูนิตสูงสุดต่อชั้นเพียงแค่ 2-27 ยูนิตเท่านั้น สำหรับอาคาร F ซึ่งเลี้ยงสัตว์ได้จะมีจำนวน 194 ยูนิต เน้นห้อง 1 Bed และ 1 Bed Plus ส่วนอาคาร G และ H จะมีจำนวนยูนิตน้อยที่สุดคือ 2-6 ยูนิตต่อชั้นเท่านั้นมีห้องใหญ่หน้าน้ำเป็นไฮไลท์ และ Floor Plate เป็น Single Loaded Corridor ส่วนอีกอาคารที่ได้ Value ของการได้อยู่ริมแม่น้ำเหมือนกันแต่ราคาดีกว่าตึก G และ H คือตึก E ที่มีห้องเด่นเป็นห้อง 1 Bed Plus หน้ากว้างแบบพิเศษ 45.3 ตรม. มี Foyer ส่วนตัวบริเวณสุดโถงทางเดิน รับวิวแม้น้ำหน้าตรงได้เหมือนกัน

สำหรับห้องตัวอย่างมี 3 ห้องนะครับ ถ่ายมาให้ดูในโพสแล้ว ขายแบบ Fully Furnished มีตู้ Built-in ครบ ตามสไตล์ NUE แต่ผมว่าโทนสี กับวัสดุดูน่าอยู่กว่าปกตินะ ห้อง 2 นอนมีอ่างอาบน้ำให้ โครงการแบ่งรูปแบบห้องตามชื่อเรียกเป็น River Collection ที่เป็นกลุ่มห้องใหญ่บนตึกหน้าน้ำ G และ H กับ Nue Collection คืออาคาร A – F ครับ

ราคาเริ่มต้นของที่นี่คือประมาณ 1.79 – 15 ล้านบาท หรือเฉลี่ยราวๆตรม.ละเก้าหมื่นกว่าๆเท่านั้น ซึ่งทางทีมผู้พัฒนา โดยคุณอรนุช อิติโกศิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานพัฒนาธุรกิจ 4 เน้นย้ำว่า ต่อให้ที่แปลงนี้เป็นของดีเวลลอปเปอร์รายอื่นก็ไม่สามารถสร้างบรรยากาศให้เป็น Premium Riverside Living ที่ขายในราคานี้ได้ ซึ่งก็จริงและผมเห็นด้วยมากๆเพราะคอนโดริมแม่น้ำส่วนใหญ่ในเมืองคือขายในราคาตรม.ละ 130 – 500K และที่อยู่นอกเมืองก็ขายในระดับราคาที่เฉียดตารางเมตรละแสนบาทแล้ว

เค้าจะเปิดขายในช่วง Pre Booking ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึง 30 ตค.นี้ ( ดูห้องตัวอย่างได้วันที่ 17 ตค.นี้) โดยผู้มาดูห้องตัวอย่างแล้วสนใจต้องจ่ายค่า Pre Booking ห้องละ 1,000 บาท เพื่อรับส่วนลด On Top 10,000 บาท* ต่อยูนิต ถัามาร่วมงาน Early Bird วันที่ 5 พย. แล้วไม่ชอบก็ขอเงินคืนได้ครับ สำหรับส่วนลดรอบ Early Bird ก็มีส่วนลดตั้งแต่ 100,000 – 500,000 บาท และส่วนลด On Top ตาม Conditions* เพิ่มเติมครับ

ถ้าสนใจก็ลงทะเบียนที่นี่เลยครับ https://nobleurl.com/3do4WOQ