ส่องทาวน์โฮมนอกกระแส ดีไซน์สวย ฟังก์ชั่นดีงาม บนทำเลศักยภาพรอบกรุงเทพฯ

wipawan khampuwiang 02 July, 2020 at 15.42 pm

ประกาศที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา


ตลาดแนวราบมีแนวโน้มที่จะได้รับความนิยมในกลุ่ม Real Demand ที่เมื่อก่อนชอบซื้อคอนโดจริงหรือ

ในสถานการณ์ที่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และต้องมีมาตรการเพื่อให้คนกักตัวอยู่ในที่พักอาศัยเพื่อเป็นการลดการแพร่ระบาดของไวรัส และเมื่อต้องอยู่ในช่วงกักตัวที่มีระยะเวลา 1-2 เดือน ทุกคนก็มีกิจกรรมภายที่แตกต่างกันออกไปตามรูปแบบของที่พักอาศัย เนื่องจากมีขนาดของพื้นที่ที่ไม่เหมือนกัน จึงทำให้คนที่อาศัยอยู่หอพัก อพาร์ทเมนต์ รู้สึกเบื่อเพราะต้องอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมตลอด 24 ชั่วโมง ส่วนคนที่อยู่บ้านก็ยังถือว่ามีพื้นที่ให้ได้ทำกิจกรรมเพื่อลดความเบื่อได้บ้าง ไม่ว่าจะเป็นการทำสวน ปลูกต้นไม้ บริเวณรอบบ้านตนเองได้ ก็ถือว่าดีกว่าที่ต้องนั่งอยู่ในห้องสีเหลี่ยมตลอดทั้งวัน แม้แต่คอนโดฯ ก็ยังไม่สามารถใช้บริการส่วนกลางของโครงการได้ในช่วงกักตัว

 

จากเหตุการณ์ดังกล่าว อาจทำให้แนวโน้มของตลาดแนวราบได้รับความนิยมเพิ่มสูงขึ้น เพราะบ้านแนวราบในปัจจุบันมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นให้สอดรับดีมานด์ของกลุ่ม New Normal ที่เกิดขึ้นใหม่ ทำให้กลุ่มดีมานด์นี้มองเห็นถึงโอกาสในการซื้อที่อยู่อาศัยแนวราบได้มากกว่า ดูจากราคาบ้านแนวราบเขตชานเมืองในปัจจุบันนั้นมีราคาที่ไม่สูงนัก เมื่อเทียบกับคอนโดใจกลางกรุง แต่ยังคงเดินทางเข้าออกเมืองได้อย่างสะดวก ทำให้บ้านแนวราบกำลังเป็นที่จับตามองเป็นอย่างมาก และที่พักอาศัยแบบแนวราบสามารถรองรับความต้องการการใช้พื้นที่ในการทำงานอยู่ที่บ้าน รวมถึงการใช้พื้นที่ในการทำกิจกรรมส่วนตัว และกิจกรรมร่วมกับครอบครัว

 

จึงทำให้ดีเวลลอปเปอร์หลายรายหันมาเพิ่มน้ำหนักลงทุนบ้านแนวราบ และลดจำนวนการพัฒนาโครงการแนวสูงลง ทำให้คาดการณ์ได้ว่าภายในปีนี้ ตลาดบ้านแนวราบจะกลับมามีสัดส่วนยอดขายสูงกว่าคอนโดฯ ประกอบกับเป็นช่วงที่ดีเวลลอปเปอร์มีการลดราคาพร้อมๆ ไปกับการจัดแคมเปญพิเศษ ออกมาเพื่อกระตุ้นการขาย ส่งผล ให้ดีมานด์จากกลุ่ม New Normal ซึ่งเดิมเป็นกลุ่มที่มองหาคอนโดฯ หันมาตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยแนวราบเพิ่มขึ้นจำนวนมาก ปัจจัยดังกล่าว หนุนให้อัตราการขายกลุ่มที่อยู่อาศัยแนวราบขยายตัวสูงตั้งแต่ในช่วงปลายปี 62 ที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบัน และคาดว่าแนวโน้มดังกล่าว จะยังขยายตัวต่อเนื่องในอนาคต ซึ่งสอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภค ที่เปลี่ยนแปลงตามสถานการณ์ และวิถีการใช้ชีวิตของกลุ่ม New Normal ที่มีความต้องการต่อพื้นที่ในการอยู่อาศัยที่เพิ่มมากขึ้น และยังตอบโจทย์ความต้องการด้านการ ทำงานและกิจกรรมในชีวิตประจำวัน ไม่เพียงเท่านั้นยังสะดวกสบายไปกับระบบขนส่งรถไฟฟ้า ที่สามารถเชื่อมต่อการเดินทางเข้าเมืองหรือแหล่งงานในย่านใจกลางเมืองได้อย่างรวดเร็ว อย่างโครงการที่อยู่ในพื้นที่ชานเมืองก็มีความเจริญมากขึ้น เกิดสิ่งอำนวยความสะดวกรองรับการใช้ชีวิตอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็น โรงพยาบาล สถานศึกษา หรือแม้กระทั่งห้างสรรพสินค้า คอมมูนิตี้มอลล์หลายแห่ง ก็เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในทุกส่วนของกรุงเทพฯ สำคัญที่สุดก็จะเป็นระบบขนส่งรถไฟฟ้าที่มีความครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพฯ และชานเมือง ที่สามารถตอบโจทย์การเดินทางไปทำงานในย่านใจกลางเมืองได้รวดเร็ว กลายมาเป็นปัจจัยหนุนให้พฤติกรรมการเลือกซื้อที่อยู่อาศัยผู้บริโภคหันมาเลือกซื้อบ้านแนวราบเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย

 

ทำเลแนวราบที่มีศักยภาพคือที่ไหนบ้าง ?

ซึ่งแน่นอนว่าก็ต้องประกอบด้วยปัจจัยหลักก็คือ 1.เป็นทำเลที่เชื่อมต่อเข้า-ออกเมืองสะดวก แม้จะไม่ติดรถไฟฟ้าแต่ก็มีเส้นทางรถไฟฟ้าผ่านในระยะ 3-5 กม. พอที่จะสามารถขับรถหรือนั่งรถโดยสารสาธารณะไปใช้บริการรถไฟฟ้าได้ 2.เป็นทำเลที่ตั้งอยู่ท่ามกลางแหล่งชุมชุนที่เจริญแล้ว มีความอุดมสมบูรณ์ทางด้านอาหารการกิน ไม่เปลี่ยว 3.เป็นทำเลใหม่ที่กำลังจะมีโครงการขนาดใหญ่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต เช่นถนนตัดใหม่ ใกล้ทางด่วน หรือห้างสรรพสินค้า และอาคารสำนักงานเปิดใหม่

 

ถ้าหากเป็นทำเลเปิดใหม่ที่มีครบทั้ง 3 อย่างนี้แล้ว อีกไม่นานก็จะมีผู้คนเริ่มทยอยกันเข้ามาพักอาศัยอยู่ในทำเลนั้นๆ เพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน

 

ทำไมถึงเรียกว่าเป็นทาวน์โฮมนอกกระแส

เนื่องจากว่าทาวน์โฮมเหล่านี้ส่วนใหญ่แล้วตั้งอยู่ในทำเลศักยภาพเกือบทั้งหมด แต่บริษัทผู้พัฒนาเป็น Local Developer ที่ไม่เน้นพัฒนาโครงการขนาดใหญ่ ไม่ต้องใช้เงินทุนในการพัฒนาโครงการมากมาย ส่วนใหญ่มี Landbank อยู่ในมืออยู่แล้ว รูปแบบการพัฒนาจึงเน้นไปที่งานดีไซน์ที่สวยงามนำกระแส ใช้วัสดุที่ดูดีมีราคา มอบฟังก์ชั่นที่ช่วยสร้าง First Impression และบรรยากาศที่ดีในการอยู่อาศัยที่ค่อนข้าง Private เนื่องจากเป็นโครงการขนาดเล็ก จึงมีเพื่อนบ้านน้อย โดยนิยามคำว่าดีไซน์สวย ฟังก์ชั่นดีงาม ในมุมมองของเราก็จะประกอบด้วย ความสูงโปร่งของพื้นที่เพื่อสร้างระบบหมุนเวียนอากาศที่ดี แสงธรรมชาติส่องผ่านได้สะดวก เช่นพื้นที่ Void แบบ Double Volume มีพื้นที่ Open Space ที่กว้างขวางเชื่อมต่อหลังบ้านเข้ากับส่วน Living ในบ้าน การออกแบบ Facade ที่สะท้อนถึงความมีเอกลักษณ์ที่ชัดเจนของโครงการ ฟังก์ชั่นการใช้งานในแต่ละ Space ที่เหมาะสม เพียงพอกับผู้อยู่อาศัย เช่นพวกที่จอดรถ พื้นที่เก็บของ Space ห้องน้ำที่กว้างขวางใส่อ่างอาบน้ำลงไปได้ มีห้องน้ำทุกห้องนอน ฯลฯ

 

ดังนั้น หากใครเบื่อกับการอยู่คอนโดมิเนียมที่มีพื้นที่ค่อนข้างจำกัด ไม่สะดวกสบายเหมือนกับที่เข้าอยู่ในช่วงแรก และกำลังมองหาทาวน์โฮมสักหลัง เพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอยที่มากขึ้น และยังรู้สึกถึงความเป็นส่วนตัวมากกว่า ซึ่งกำลังคิดหนักว่าจะเลือกซื้อของโครงการอะไร ที่มีฟังก์ชั่นตอบโจทย์การอยู่อาศัยของเราให้ได้มากที่สุด และอยู่ในทำเลไหนที่สามารถเดินทางได้อย่างสะดวก บทความนี้เราจะพามารู้จักกับทาวน์โฮมหลายโครงการ หลายทำเล ให้คุณได้ลองดูว่ามีโครงการไหนถูกใจ และมีฟังก์ชั่นตอบโจทย์กับความต้องการของคุณมากที่สุด

 

ย่านลาดพร้าว – เกษตรนวมินทร์ ถือได้ว่าเป็นย่าน Prime Area แห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ เลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของเดินทางที่มีทั้งทางด่วนหลายทางและโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลืองช่วงลาดพร้าว-สำโรง ที่สามารถเชื่อมต่อไปยังย่านศรีนครินทร์ได้อย่างรวดเร็ว และยังเป็นชุมชนเก่าแก่ที่มีผู้อยู่อาศัยมานาน โดยในปัจจุบันก็เกิดเป็นห้างสรรพสินค้า โรงแรม สำนักงาน และคอนโดมิเนียม เพื่อรองรับความสะดวกสบายของคนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่นี้อีกด้วย ถึงจะมีรถติดในช่วงเร่งรีบ แต่ก็มีคนย้ายเข้ามาอยู่ในย่านนี้อย่างไม่ขาดสาย และโครงการที่จะแนะนำมีดังนี้

 

โครงการ Authen ลาดพร้าว – นาคนิวาส

โครงการตั้งอยู่ในซอยนาคนิวาส 48 ในย่านเลียบทางด่วนรามอินทรา อีกทั้งโครงการยังแวดล้อมไปด้วย Shopping Mall ชื่อดังมากมาย ไม่ว่าจะเป็น CDC, Cystal Park, Central East Ville, Tesco Lotus และ Home Pro ยังใกล้กับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โดยใช้เส้นทางจากสุคนสวัสดิ์ทะลุไปยังถนนเกษตร-นวมินทร์ อีกทั้งยังเชื่อมต่อกับย่านอื่นง่ายๆ ด้วยทางด่วนฉลองรัช

ซึ่งในอนาคต โครงการจะอยู่ใกล้กับโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลืองสถานีลาดพร้าว 65 ที่ทำการก่อสร้างอยู่ในขณะนี้ คาดการณ์ว่าจะสามารถเปิดให้ใช้บริการได้ภายในปี 2565 แต่มีสถานี MRT ที่ใกล้ที่สุด คือ สถานีลาดพร้าว ระยะทางประมาณ 6.9 กม.

รถไฟฟ้า BTS ที่เปิดให้บริการถึงสถานีวัดพระศรีมหาธาตุ ส่วนสถานที่ใกล้ที่สุด คือ สถานีรัชโยธิน ระยะทาง 7.3 กม.

โครงการ Authen ลาดพร้าว – นาคนิวาส (ออเธน) ตั้งอยู่บนพื้นที่ขนาด 1-0-60 ไร่ ถูกพัฒนาขึ้นโดย บริษัท เรียลตี้ กรุ๊ป ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด เป็นทาวน์โฮม 3 ชั้นครึ่ง หน้ากว้าง 5.2 เมตร 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ พื้นที่ใช้สอยประมาณ 276 ตารางเมตร จำนวนยูนิตเพียง 14 ยูนิตเท่านั้น ราคาเริ่มต้น 9.59 ลบ.

ภายในโครงการมีดีไซน์ และฟังก์ชั่นที่น่าสนใจ คือ Living Room แบบ Double Volume สูงขนาด 6 เมตร มี Private Garden ให้ทางด้านหลังบ้านทุกหลัง และเก็บสายไฟลงใต้ดินให้ทุกหลังเช่นกัน โดยสิ่งหนึ่งที่เป็นเอกลักษณ์ที่แตกต่างจากโครงการอื่นๆ ก็คือที่นี่มีการตกแต่ง Façade หลังบ้านที่สวยงามโดดเด่นไม่แพ้หน้าบ้านเลย

บ้านตัวอย่าง

สนใจรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ : www.facebook.com/authenofficial   โทร.09-5141-4288

 

NORD LADPRAO 110

โครงการแวดล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกในย่านลาดพร้าว-เกษตรนวมินทร์ ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้าและซุปเปอร์มาร์เก็ต อย่าง Foodland Big C และ Central East Ville โรงพยาบาล คือ โรงพยาบาลลาดพร้าวและโรงพยาบาลเวชธานี ไม่เพียงเท่านั้นโครงการยังถูกรายล้อมไปด้วยโรงเรียนนานาชาติชื่อดังหลายแห่ง อย่าง Regent’s International School Bangkok, Singapore International School of Bangkok และ Lycée Français International de Bangkok  เรียกได้ว่าเป็นย่านของคนมีฐานะย่านหนึ่งเลยก็ว่าได้

ในอนาคตโครงการจะอยู่ใกล้กับรถไฟฟ้าสายสีเหลืองสถานีฉลองรัช ที่จะเปิดให้ใช้บริการได้ในปี 2565  วัดระยะจาก Big C ลาดพร้าว ไปยังโครงการ ประมาณ 1.6 กม.

โครงการ NORD LADPRAO 110 (นอร์ด ลาดพร้าว 110) เป็นโครงการทาวน์โฮมขนาด 3 ชั้นครึ่ง 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอด มีพื้นที่ใช้สอย 285 ตร.ม. ตั้งอยู่บนที่ดิน 28-42 ตร.วา และพื้นที่โครงการ 1-0-29 ไร่ พิเศษเพียง 9 ยูนิต ได้รับความเป็นส่วนตัวสุดๆ พัฒนาโดยบริษัท แอสเสทต้า ดีเวลล็อปเม้นท์ จำกัด ในราคาเริ่มต้นที่ 11.9 ลบ.

จุดเด่นภายในโครงการก็จะเป็น บ้านหน้ากว้าง 6.2 เมตร บริเวณโถงที่ชั้น 1 สูง 6 เมตร พร้อมผนัง Double Wall ที่กันเสียงและความร้อนได้ดี และมีการนำระบบไฟฟ้าใต้ดินทั้งโครงการ เพื่อความปลอดภัยของลูกบ้านภายในโครงการ

สนใจรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ : www.assetta.co.th  โทร. 08-1565-3663

 

Neo Haus Plus นาคนิวาส 32

โครงการตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพ ใกล้เซ็นทรัล อีสวิลล์, CDC, คริสตัลพาร์ค เดินทางสะดวกด้วยทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์  และยังสามารถเชื่อมต่อไปยังถนนเลียบด่วนรามอินทรา, ถนนรัชดาภิเษก, ถนนเกษตรนวมินทร์ และถนนลาดพร้าว ได้ง่าย อีกทั้งยังมีทำเลติดโรงเรียนสตรีวิทยา 2 อีกด้วย

รถไฟฟ้าที่ใกล้ที่สุด คือ โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง สถานีจันทรเกษม ระยะทาง 5.6 กม. ที่จะเปิดให้ใช้บริการได้ภายในปี 2565

Neo Haus Plus นาคนิวาส 32 (นีโอ เฮ้าส์ พลัส นาคนิวาส 32) โดย นีโอ กรุ๊ป (NEO Group) เป็นทาวน์โฮม 3.5 ชั้น 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำพร้อม Double Volume สูง 5.8 เมตร และที่จอดรถ 2 คัน มีพื้นที่โครงการ  217 ตารางวา และพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 196-237 ตารางเมตร แต่ละหลังขนาดที่ดินเริ่มต้น 17-26 ตารางวา ราคาเริ่มต้น 6.99 ล้านบาท

ภายในโครงการมีบ้านทั้งหมด 8 หลัง แบ่งเป็นหลังมุม 4 หลัง และหลังกลาง 4 หลัง

โดดเด่นด้วยพื้นที่ชั้นลอย เน้นความโปร่งโล่งสบาย ที่มาพร้อมกับ Double Volume สูง 5.8 เมตร เป็นการเพิ่มพื้นที่การใช้สอยให้มากขึ้น เพื่อรองรับกิจกรรมของทุกคนในบ้าน บริเวณระเบียงที่ชั้น มีผนังยื่นออกมากั้นระหว่างบ้าน เพื่อความเป็นส่วนของลูกบ้าน

สนใจรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ : www.neogroupth.com   โทร. 09-7946-7995

 

โครงการ Ther Ladprao 93

ที่ตั้งของโครงการอยู่ในศูนย์กลางของย่านลาดพร้าว ที่แวดล้อมไปด้วยโรงเรียนและมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียง ทั้งมหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษมและมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์  อีกทั้งอยู่ใน Residential ที่มีผู้คนอาศัยกันมาอย่างยาวนาน ทั้งในปัจจุบันย่านนี้ยังได้รับการพัฒนาขึ้นเป็นอย่างมาก

Ther Ladprao 93 (เธอ ลาดพร้าว 93) โครงการทาวน์โฮมแบบ 3 ชั้นครึ่ง จากบริษัท วิจิตรา ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด บนพื้นที่ทั้งหมด 8 ไร่ จำนวน 84 ยูนิต มีบ้านให้เลือกทั้งหมด 3 แบบ คือ แบบ Gather ขนาด 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ, แบบ Altogether ขนาด 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ และแบบ Further ขนาด 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ มีพื้นที่ใช้สอยประมาณ 244.54 ตร.ม. ในราคาเริ่มต้น 8.9 ลบ.

โดยมีการออกแบบโครงการให้มีพื้นที่โปร่งโล่ง สบายตา สบายใจ โดยผู้อยู่อาศัยสามารถรับลมธรรมชาติจากภายนอกได้ สามารถจอดรถได้มากสุดถึง 3 คัน และ Family Room ที่สามารถปรับเปลี่ยนการใช้ประโยชน์ได้ตามความต้องการของสมาชิกภายในบ้าน

สนใจรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ : www.therladprao93.com  โทร. 06-5642-9098

 

ย่านรัชดา – ลาดพร้าว ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นย่านที่รถติดมากที่สุดในกรุงเทพฯ เลยก็ว่าได้ เนื่องจากย่านลาดพร้าวมีคนอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ทั้งหมู่บ้านที่มีคนเก่าแก่อาศัยอยู่มานาน และคอนโดมิเนียม หอพัก ก็เกิดขึ้นตามมาอีกเป็นจำนวนมาก ทั้งยังสามารถตัดผ่านไปยังย่านรัชดา รวมถึงรามคำแหง และรามอินทรา ได้อยากสะดวก จึงทำให้เป็นสาเหตุของรถติดเกือบตลอดทั้งวัน แต่ก็ยังสามารถเลี่ยงได้โดยการใช้บริการของรถไฟใต้ดินแทนนั่นเอง ซึ่งในอนาคตก็จะมีโครงการรถไฟฟ้าตัดผ่านถนนเส้นนี้ทั้งสาย ทำให้คนที่อาศัยอยู่ในย่านนี้ได้รับความสะดวกขึ้นมากทีเดียว ทำให้เกิดโครงการอสังหาฯ ขึ้นอยู่ตลอด และโครงการ Townhome ที่ทางเราจะแนะนำมีดังต่อไปนี้

 

โครงการ The Author Ratchada 32

โครงการอยู่ในซอยรัชดา 32 ห่างจากถนนเส้นหลักประมาณ 1.2 กม. และใกล้กับมหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม สามารถเชื่อมต่อไปยังย่านลาดพร้าว พระราม 9 และถนนเกษตรนวมินทร์ได้โดยง่าย พร้อมทั้งยังใกล้กับซุปเปอร์มาร์เก็ตและห้างสรรพสินค้าอีกด้วย

สะดวกไปกับโครงการรถไฟฟ้าถึง 3 โครงการ ในระยะทางประมาณ 2.7 กม. ไม่ว่าจะเป็นสายสีเหลือง สถานีรัชดา และสายสีน้ำเงิน ที่สถานีลาดพร้าว ถ้านั่งใต้ดินสายสีน้ำเงินสามารถต่อไปยัง BTS สายสีเขียว สถานีห้าแยกลาดพร้าวได้

The Author รัชดา 32 (ดิ ออเธอร์ รัชดา 32) เป็นทาวน์โฮม 3 ชั้นครึ่ง หน้าบ้านกว้าง 5.2 เมตร ขนาด 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ที่ดินขนาด 20.9 – 30.4 ตารางวา และพื้นที่ใช้สอย 227 ตารางเมตร มีเนื้อที่โครงการทั้งหมด 1 ไร่ 4 ตารางวา จำนวน 14 ยูนิต ซอยรัชดา 32 แยก 19-4  พัฒนาโดยบริษัท ตฤณ แอสเสท จำกัด ราคาเริ่มต้น 9.9 ล้านบาท

จุดเด่นที่ทำให้โครงการ The Author รัชดา 32 ไม่ซ้ำใครกับ Townhome คือ ตั้งอยู่บนพื้นที่ขนาด 227 ตารางเมตร ห้อง Master Bedroom ที่ชั้น 3 มีพื้นที่ Walk in Closet กว้าง และ Double Height Ceiling สูงถึง 6.5 เมตร มีห้องนอนชั้นละ 1 ห้อง รู้สึกถึงความเป็นส่วนตัว

สนใจรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ : www.trynasset.com  โทร. 09-1395-3333

 

โครงการ L-Craf Ratchada 20

โครงการตั้งอยู่ในซอยรัชดา 20 เป็นทำเลที่ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง สามารถเชื่อมต่อไปยังถนนลาดพร้าว และถนนพหลโยธิน ได้อย่างรวดเร็ว ในอนาคตยังเพิ่มโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลืองที่สามารถรองรับการเดินทางของผู้คนในย่านลาดพร้าว-รัชดา ได้อีกด้วย และใกล้กับสถานที่สำคัญรวมถึงสำนักงานใหญ่หลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็น ศาลยุติธรรม และมหาวิทยาลัย โดยสามารถเข้าจากถนนรัชดาใกล้มากกว่า เพียงประมาณ 400 เมตร

ระยะทางจาก MRT สถานีรัชดาภิเษก (สายสีน้ำเงิน) ไปยังโครงการ เพียง 800 กม. ภายในปี 2565 โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลืองจะเปิดให้ใช้บริการที่สามารถเชื่อมต่อไปยังสำโรงได้อย่างรวดเร็ว สะดวกต่อการเดินทางเป็นอย่างมาก

โดยโครงการ L Craf รัชดา 20 (แอล คราฟ รัชดา 20) จากบริษัท เลิศ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ตั้งอยู่ในซอยรุ่งเรือง รัชดาภิเษก 20 เป็นโครงการทาวน์โฮม 3.5 ชั้น บ้านหน้ากว้าง 5.7 เมตร มีบ้านให้เลือกด้วยกัน 2 แบบ คือ แบบ COBALT และแบบ COPPER พื้นที่โครงการทั้งหมด 0-1-45 ไร่ ที่ดินเริ่มต้น 24 ตารางวา ราคาเริ่มต้นประมาณ 12.98-19 ล้านบาท

แบบ COBALT มีฟังก์ชั่น 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ห้องอเนกประสงค์ 2-3 ที่จอดรถ พื้นที่ใช้สอยประมาณ 226 ตารางเมตร และขนาดที่ดิน 24-33 ตารางวา

แบบ COPPER มีฟังก์ชั่น 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ห้องอเนกประสงค์ 2-3 ที่จอดรถ พื้นที่ใช้สอยประมาณ 253 ตารางเมตร และขนาดที่ดิน 25-38 ตารางวา

จุดเด่น คือ ทางโครงการได้มีการออกแบบ Townhome ที่โปร่ง โล่ง ให้ความรู้สึกเหมือนบ้านเดี่ยว ด้วยการแยกอาคารออกจากกันเพื่อรับลมและแสงแดด ทำให้บ้านสามารถรระบายความร้อนได้ดี มีแสงเข้ามาในบ้านอย่างเพียงพอ การออกแบบให้เกิด Space ด้วย Double Space และสวนส่วนกลางของบ้าน

และการออกแบบผนังแบบ Double Wall Insulation ที่เป็นผนัง 2 ชั้น และฉนวน Rockwool ระหว่างบ้าน เพื่อป้องกันเสียงรบกวนจากบ้านหลังข้างๆ นั่นเอง

ตัวอย่างบ้าน

สนใจรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ : www.lertdevelopment.com/lcraf-ratchada-20  โทร. 09-0917-6899

 

โครงการ Novel Residence Ladprao 18

ตั้งอยู่บนทำเลทองใจกลางลาดพร้าว ซอยลาดพร้าว 18 ในซอยเงียบสงบแต่ปากซอยคึกคัก ตั้งอยู่ในทำเลใจกลางเมืองที่สัมผัสกับความเงียบสงบได้ แต่ใกล้สถานีรถไฟฟ้า MRT ลาดพร้าวและ MRT รัชดาภิเษกเพียง เดินทางเข้าออกไปได้หลายเส้นทางทั้งซอยลาดพร้าว 18 ซอยรัชดาภิเษก 19 และซอยวิภาวดี 20 ยังใกล้กับสวนลุมไนท์บาร์ซา รัชดา ด้วย

โครงการห่างจาก MRT สถานีลาดพร้าว ระยะทางเพียง 950 ม. หรือสถานีรัชดาภิเษก ก็มีระยะทางไม่ไกลกันมาก แต่ในช่วงเวลาเร่งรีบอาจมีรถติดบริเวณแยกรัชดา-ลาดพร้าว

โครงการบ้านหรูระดับลักซ์ชัวรี่ Novel Residence Ladprao 18 (โนเวล เรสซิเดนซ์ ลาดพร้าว 18) จำนวน 16 ยูนิต บนพื้นที่ 2 ไร่ พัฒนาเป็นบ้านแฝดและทาวน์โฮม 3 ชั้นครึ่ง โดยมีทั้งหมด 3 แบบคือ OPUS หน้ากว้าง 6 เมตร 2 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 4 ที่จอดรถ, POEM หน้ากว้าง 6 เมตร 2 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 4 ที่จอดรถ และ STORY หน้ากว้าง 6.4 เมตร 2 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 4 ที่จอดรถ มีขนาดเนื้อที่ 30 – 57 ตารางวา และมีพื้นที่ใช้สอย เริ่มต้น 350 – 400 ตารางเมตร ราคาขายเริ่มต้นเพียง 16.6 ล้านบาท

ทั้งโครงการมีเพียง 16 ยูนิต ลูกบ้านจึงรู้สึกได้ถึงความเป็นส่วนตัวมากกว่า และมีออกแบบให้มีพื้นที่ Open-Plan ที่ให้ผู้อยู่อาศัยออกแบบการใช้สอยได้เอง ไฮไลท์อยู่ที่ห้องนั่งเล่น Common Area ที่มีเพดานสูง เน้นงานกระจกบานใหญ่ บ้านหน้ากว้างมากกว่า 6 เมตร สามารถจอดรถได้ถึง 4 คัน สามารถใช้เป็น Home Office ได้ ซึ่งบ้านแต่ละไทป์ ทุกชั้นมีฟังก์ชั่นแบบเดียวกัน แต่แตกต่างแค่จำนวนพื้นที่ใช้สอยของแต่ละยูนิตเพราะมีแปลงที่ดินแตกต่างกันเท่านั้น

Floor Plan Townhome

Floor Plan บ้านแฝด

ตัวอย่างบ้าน

สนใจรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ : www.library-estate.com/project/novel-ladprao18  โทร. 06-2002-5999, 09-5512-0256

โครงการ Baan Puri Puri Ladprao 41

*หมายเหตุ: รูปนี้เป็นของโครงการที่สตรีวิทยา 2 แต่แบบบ้านเป็นแบบเดียวกัน

 

โครงการตั้งอยู่ใจกลางลาดพร้าวเลยก็ว่าได้ เพราะสามารถเข้าได้ทั้งซอยลาดพร้าว 35 ระยะทาง 1.5 กม. และซอยลาดพร้าว 41 ระยะทาง 1.2 กม. อีกทั้งยังใกล้กับย่านลาดพร้าว-วังหิน ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นย่านที่มีร้านอาหารอร่อยๆ มากมาย และมีซุปเปอร์มาร์เก็ต คอมมูนิตี้มอลล์ หลายแห่ง ไม่เพียงเท่านั้นยังสามารถออกไปทางถนนรัชดา ถนนลาดพร้าว-วังหิน และถนนโชคชัย 4 ได้อย่างรวดเร็ว

MRT สถานีลาดพร้าว ห่างจากโครงการระยะทาง 2.4 กม. ในอนาคตจะมีโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง สถานีภาวนา ที่อยู่ใกล้กัน และสามารถผ่านออกมาทางซอยลาดพร้าว 41 ได้

โครงการบ้านภูริปุรี ลาดพร้าว 41 (baan puripuri Ladprao 41) พัฒนาโดย บริษัท ABJV ที่เป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง Assetwise กับบริษัท บ้านภูริปุรี จำกัด เป็นโครงการทาวน์โฮมขนาด 3.5 ชั้น หน้ากว้าง 5.35 เมตร แบบ 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ มีพื้นที่ใช้สอย 220 ตารางเมตร พื้นที่ทั้งหมดของโครงการ 1-2-42 ไร่ จำนวน 15 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 9.9 ล้านบาท

จุดเด่นของที่นี่มีหลายอย่างมาก ไล่ตั้งแต่ดีเทลการตกแต่งที่ใช้สไตล์ย่อมุมไม้สิบสองมาถ่ายทอดออกมาเป็น Façade (ที่มีต้นไม้ใหญ่ด้วย) และผนังทั้งบ้านที่ทำให้คุณประหยัดค่ากรุผนังไปได้เยอะเลย นอกจากนี้ก็จะเป็นในเรื่องของฟังก์ชั่นที่ครบถ้วน คุ้มมาก ทั้งบริเวณ Master Bedroom ที่ชั้น 3 จะมีพื้นที่ Walk-in Closet กว้างมาก (ให้มาด้วยนะ) จุใจสำหรับคุณผู้หญิงสายสไตล์ลิสต์ บริเวณห้องนั่งเล่น มีเพดานสูงแบบ Double Space ทำให้สวนส่วนนั่งเล่นโปร่ง โล่ง และมีประตูกระจกขนาดใหญ่สูง 2 ชั้น แบบเต็มความสูง เชื่อมต่อกับชานนอกบ้านด้วยระดับพื้นที่เท่ากัน เป็นพื้นที่นั่งเล่นขนาดใหญ่ต่อเนื่องออกไปยังสวนส่วนตัวด้านหลัง ให้เจ้าของบ้านรู้สึกผ่อนคลาย และที่แปลกมากๆในแบบไม่เคยเห็นที่อื่นก็คือเค้าเอาครัวยกไปไว้บนชั้นลอย เนื่องจากทางทีมผู้ออกแบบมองว่าถ้าเอาครัวไว้ชั้นลอยจะถ่ายเทอากาศได้ดีกว่า อีกทั้งการทำอาหาร และรับประทานอาหารคือกิจกรรมที่น่าจะทำร่วมกันแบบพร้อมหน้าพร้อมตา ซี่งบริเวณชั้นลอยที่เป็นจุดศูนย์กลางของบ้านนี่ล่ะเหมาะแล้ว ที่สำคัญคือเค้าให้ครัวมาด้วย คุ้มค่ามากๆเลย นอกจากนี้บริเวณชั้นบนสุดก็ยังมีส่วนของห้อง Laundry มาให้ วางเครื่องซักผ้า ซักแล้วก็ตากที่ระเบียงได้เลย ข้อขัดใจอย่างเดียวของที่นี่ก็คือต้องวาง CDU ส่วน Living ชั้นล่างไว้หน้าประตูบ้านนี่ล่ะ

ตัวอย่างบ้าน

สนใจรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ : www.baanpuripuri.com  โทร. 0-2168-0000

 

ย่านพัฒนาการ เป็นย่านที่ใกล้กับศรีนครินทร์ และลาดกระบัง ใกล้โรงงานขนาดใหญ่ และนิคมอุตสาหกรรมขนาดย่อมหลายแห่ง พัฒนาการยังมีพื้นที่อย่างกว้างขวางไม่จำกัดเหมือนกับอยู่ในเมือง และที่ดินแถวนี้ในอดีตมีราคาถูกกว่าในเมืองแต่ก็ยังเดินทางเข้าเมืองได้สะดวก เพราะมีเส้นทางที่สามารถเชื่อมต่อใจกลางเมือง ทั้งเส้น ทองหล่อ เอกมัย และสุขุมวิท ได้เพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น ปัจจุบันกำลังมีการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง ให้ผู้คนได้เดินทางกันอย่างสะดวกมากขึ้น และในย่านนี้ก็มีโครงการที่พักอาศัยเกิดขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากภายในปี 2565 ผู้คนในย่านนี้ก็จะได้ใช้บริการของรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง ในการเดินทางแล้ว เราจึงมาแนะนำโครงการ Townhome ในย่านนี้กันว่าจะมีโครงการใดบ้าง เพื่อเป็นตัวเลือกในการตัดสินใจให้กับคนที่กำลังมองหาบ้านหลังใหม่อยู่

 

“บ้านภูริปุรี คอร์ทยาร์ด – พัฒนาการ” ทาวน์โฮม 3 ชั้นพร้อม Private Courtyard เล่นระดับกลางบ้าน!

“บ้านภูริปุรี คอร์ทยาร์ด – พัฒนาการ” ทาวน์โฮม 3 ชั้น ภายใต้แนวคิดใหม่ ‘Another Step of Townhome with Private Courtyard’ เพื่อให้คุณใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันกับธรรมชาติได้อย่างผ่อนคลายแบบไม่เหมือนใคร บนพื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่ตั้งแต่ 241 – 298 ตารางเมตร มาพร้อมพื้นที่ส่วนกลาง สร้างความสุขให้กับ ทุกคนในครอบครัว ในราคาเริ่มต้น 14.2 ล้านบาท เพียงจำนวน 37 ยูนิต ด้วยมูลค่าโครงการรวม 530 ล้านบาท
โครงการมีขนาดหน้ากว้าง 5.35 เมตร ประกอบด้วย 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ และที่จอดรถ 4 คัน มีพื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่ตั้งแต่ 241 – 298 ตารางเมตร มาพร้อม Private Courtyard ตั้งอยู่ระหว่างซอยพัฒนาการ 32 และซอยพัฒนาการ 38 บนพื้นที่โครงการกว่า 5 ไร่ สามารถเดินทางเชื่อมต่อเข้า – ออกเมือง อาทิ ถนนสุขุมวิท ถนนเอกมัย และถนนทองหล่อได้สะดวกสบายหลากหลายเส้นทาง ทั้งทางพิเศษฉลองรัช ทางพิเศษศรีรัช หรือมอเตอร์เวย์กรุงเทพ – ชลบุรีสายใหม่ อีกทั้งยังใกล้กับรถไฟแอร์พอร์ตลิ้งค์ ที่สามารถเชื่อมต่อโซนต่างๆ ได้อย่างครอบคลุม ซึ่งทำเลของโครงการถือเป็นโซนพื้นที่อยู่อาศัยเพื่อทุกคนในครอบครัว เนื่องจากรายล้อมด้วยแหล่งไลฟ์สไตล์ โรงพยาบาล และสถานศึกษาชั้นนำ ไม่ว่าจะเป็นซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์, เดอะไนน์ เซ็นเตอร์ พระราม 9, ศูนย์การค้า ธัญญาพาร์ค, โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ, โรงเรียนนานาชาติ ไบรท์ตัน คอลเลจ กรุงเทพฯ, โรงพยาบาลวิภาราม และโรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ เป็นต้น
“บ้านภูริปุรี คอร์ทยาร์ด – พัฒนาการ ได้รับการออกแบบมาอย่างพิถีพิถัน ลงตัวทั้งในด้านพื้นที่ใช้สอยและความงามทางสถาปัตยกรรม ภายใต้แนวคิดใหม่ ‘Another Step of Townhome with Private Courtyard’ เพื่อให้ใช้ชีวิตเป็นส่วนหนึ่งกับธรรมชาติอย่างเป็นส่วนตัวแบบไม่เหมือนใคร และเป็นการฉีกแนวในการพัฒนาทาวน์โฮมรูปแบบเดิมที่เป็นกล่อง ทึบตันเพื่อให้ผู้อยู่อาศัย อยู่ในพื้นที่คุณภาพอยู่ร่วมกันกับธรรมชาติอย่างผ่อนคลาย และเป็นหนึ่งเดียวกัน จึงเป็นที่มาของการออกแบบ Private Courtyard ที่ตั้งอยู่ใจกลางบ้าน โดยการวาง Layout บ้านแบบนี้ นอกจากจะเพิ่มความแปลกใหม่ให้กับตัวบ้านแล้ว ยังเพิ่มเติมการเล่นระดับพื้นที่ให้มีลูกเล่นมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นทั้ง Indoor และ Outdoor อีกทั้งบริเวณหน้าบ้านยังมีการปลูกดอกไม้เลื้อย อย่างเหลืองชัชวาลที่มีดอกเป็นสีเหลือง เพื่อเพิ่มความสวยงาม และสอดคล้องกับกระเบื้องโมเสคสีทอง และสีเงิน ซึ่งเมื่อสะท้อนกับแสงแดด จะยิ่งทำให้บ้านดูสวยงามโดดเด่น และเป็นเอกลักษณ์อีกด้วย
โครงการให้ความสำคัญกับพื้นที่สีเขียวภายในบ้าน เพื่อให้สอดคล้องกับอาคาร ด้วย Private Courtyard ที่หากดูแปลนอย่างเดียวจะเห็นว่าคล้ายกันมาก แต่ถ้าสังเกตดี ๆ จะพบว่า Private Courtyard นั้น ไม่ได้อยู่ระดับเดียวกับพื้นดินเหมือนเดิม แต่ค่อยๆ ยกเป็นสเต็ปไล่ขึ้นไปจากชั้นล่าง ทำให้พื้นที่โปร่งโล่ง สามารถรับความอบอุ่นจากแสงแดดเพิ่มขึ้นผ่านจากช่องรับแสงด้านบนที่เปิดกว้าง ซึ่งทำให้มีการไหลเวียนของลมได้เป็นอย่างดี เพื่อให้บ้านเย็นสบายมากขึ้น โดยพื้นที่ Private Courtyard นี้ ยังสามารถใช้งานได้ ไม่ว่าจะเป็น การนั่งอ่านหนังสือ หรือพื้นที่ทำกิจกรรมระหว่างครอบครัว และยังเป็นการแก้ปัญหาของทาวน์โฮมในรูปแบบเดิม ที่ลูกค้าต้องการมีพื้นที่สีเขียวที่สามารถใช้งานได้จริง เพื่อตอบไลฟ์สไตล์ผู้อยู่อาศัยที่ต้องการใกล้ชิดกับธรรมชาติ”
ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจสามารถเยี่ยมบ้านตัวอย่างได้แล้ววันนี้ ณ สำนักงานขาย โครงการบ้านภูริปุรี คอร์ทยาร์ด – พัฒนาการ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม https://assetwise.co.th/house/baanpuripuri-courtyard-pattanakarn/

 

โครงการ Shizen Phatthanakan 32

โครงการตั้งอยู่ในซอยพัฒนาการ 32 ที่สามารถเชื่อมต่อไปยังย่านอื่นได้อย่างสะดวก ไม่ว่าจะเป็น ถนนเพชรบุรี ทองหล่อ เอกมัย พระรามเก้า ถนนศรีนครินทร์ และถนนสุขุมวิท รายล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกไม่ว่าจะเป็นซุปเปอร์มาร์เก็ต Big C, Max Valu และ Tesco Lotus ยังใกล้กับโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว สถานีอ่อนนุช และสายสีเหลือง สถานีพัฒนาการ ที่จะได้ใช้บริการภายในปี 2565 อีกด้วย ซึ่งในซอยพัฒนาการ 32 นี้ในปัจจุบันเจริญขึ้นมาอย่างผิดหูผิดตามาก จากการร่วมกันพัฒนาโครงการแนวราบของผู้นำหลายๆรายทั้งแสนสิริ เอสซีแอสเสท และอื่นๆอีกมากมาย นับว่าเป็นทำเลดาวรุ่งพุ่งแรงไปอีกหลายปีต่อจากนี้

ห่างจาก สถานีอ่อนนุช ระยะทาง 7.3 กม.

ใกล้กับสถานีพัฒนาการเพียง 3.1 กม. สถานีจะอยู่ด้านหน้า Max Valu พัฒนาการพอดี

โครงการ Shizen Phatthanakan 32 (ชิเซน พัฒนาการ 32) โดย บริษัท ภาพัฒน์ พรอพเพอร์ตี้ จำกัด ตั้งอยู่ในซอยพัฒนาการ 32 บนพื้นที่โครงการ 8-0-17 ไร่ เป็นทาวน์โฮมขนาด 3 ชั้นครึ่ง หน้ากว้าง 5.5 ม. มี 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ มีพื้นที่ใช้สอยประมาณ 210 ตร.ม. จำนวน 57 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 7.9 ลบ.

จุดเด่นและดีไซน์ของโครงการ คือ ตอบโจทย์การอยู่อาศัยโดยใช้หลัก Well Being เน้นตัวบ้านออกแบบให้มีความโปร่ง โล่ง จาก Double Space ที่เชื่อมชั้น 1 และชั้น 2 และรองรับการอยู่อาศัยของผู้สูงอายุด้วยห้องนอนในชั้นล่าง และมีการออกแบบโดยใช้พลังงานธรรมชาติได้สูงสุด มีช่องเปิดพลังงานแสง และลม ในทิศที่ถูกต้อง แต่ที่นี่ก็มีการเอาพื้นที่ Double Volume ไว้ตรงส่วนของหน้าบ้าน แทนที่จะเป็นส่วนของหลังบ้าน แบบโครงการอื่นๆที่ได้นำเสนอไป ซึ่งก็อาจจะโดนบดบังเวลาที่รถตัวเองเข้ามาจอดหน้าบ้านได้ อารมณ์แบบมองออกไปเป็นวิวท้ายรถตัวเองแทนที่จะเป็นสวน และอีกอย่างก็คือโครงการมีการก่อสร้างที่ค่อนข้างช้าพอสมควรกว่าจะสร้างหมดทั้งโครงการ

สนใจรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ : www.papus.co.th/papusproperty/shizen  โทร. 0-2618-8888

 

โครงการ Estara Haven Pattanakarn 20

ในบรรดาทุกโครงการที่อยู่ใน Wishlist ของเราในบทความนี้ Eastern Star Development PCL ดูจะเป็นบริษัทที่ใหญ่ที่สุด และไม่ได้เป็น Local Developer แบบรายอื่นๆ แต่เราก็ยังต้องการที่จะนำเสนอโครงการนี้ เพราะเค้าแทบจะไม่ได้ใช้จ่ายเงินในการทำโฆษณาเลย อีกทั้งจะว่ากันตามความเป็นจริงแล้ว นี่คือโครงการทาวน์โฮม + บ้านแฝดที่มีคนถามถึงในเว็ปเรามากที่สุด มากจริงๆ ซื้อกันจริงจังมากกว่าโครงการอื่นๆ พอๆกับโครงการ TOWN26 เลยอ่ะ… พูดง่ายๆ ก็คือหากจะถามว่าโครงการไหนที่ทำเลดีที่สุดในบทความนี้ในสายตาพี่เกริก ก็ขอยกให้กับ Estara Haven พัฒนาการ 20 นี้เลยล่ะ!

 

โครงการตั้งอยู่ในซอยพัฒนาการ 20 เดินทางสะดวกสบาย ใกล้ BTS อ่อนนุช, ถนนพัฒนาการ, ถนนอ่อนนุช, ถนนพระราม 9, ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์, สถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น, รพ.วิภาราม, มอเตอร์เวย์ ใกล้ Max Valu, Tanya Park, Big C, Peaople Park และ ม.เกษมบัณฑิต

BTS สถานีอ่อนนุช ห่างจากโครงการ Estara Haven Pattanakarn 20 ระยะทางประมาณ 3.9 กม. และในอนาคตยังใกล้กับสถานีพัฒนาการ (สายสีเหลือง) ระยะทาง 4.1 กม. อีกด้วย

โครงการ Estara Haven Pattanakarn 20 (เอสทารา ฮาเว่น พัฒนาการ 20) พัฒนาโดย บริษัท อีสเทอร์น สตาร์ เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) เป็นโครงการทาวน์โฮม 3.5 ชั้น และบ้านแฝด 3 ชั้น เนื้อที่โครงการ 21-2-14 ไร่ จำนวน 152 ยูนิต ที่ดิน 22-37 ตารางวา มีพื้นที่ใช้สอย 200-220 ตารางเมตร ขนาด 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 7.49 ล้านบาท

ไฮไลท์ที่นี่คือพื้นที่เพดาน สูง 6 เมตร ไปถึงบริเวณส่วน Living ชั้น 2 รวมไปถึงการจัดวางเลย์เอาท์ห้องที่แสงส่องผ่านกระจกบานใหญ่ได้ทุกห้อง สามารถกั้นเป็นห้องนอนผู้สูงอายุได้ เพราะมีห้องน้ำที่มีอุปกรณ์อาบน้ำให้ และรางระบายน้ำแบบ Universal Design ไม่มีสเตป สามารถเดินผ่านได้อย่างสะดวกไม่มีสะดุด และ Master Bedroom มีห้องน้ำใหญ่พร้อมอ่างอาบน้ำ มีครัวแบบ Fully Equipped สวยงามมาให้ ที่สำคัญคือเค้ามีโปรโมชั่นราคาถูกมากๆ จนหลายๆ คนตะลึงออกมาเมือเดือนที่แล้ว ขายไปได้ยังไงหลังละ 6.99 ล้านบาท ถูกเกิ้นนน…แนะนำว่าให้ซื้อบ้านที่เป็นหลังมุม เพราะจะได้พื้นที่บริเวณโถงบันไดที่สูงโปร่ง โล่ง รับแสงได้เต็มๆ และก็จะได้พื้นที่ระเบียงมาด้วย

สนใจรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ : www.estarpcl.com/projects/estara-haven-pattanakarn-20  โทร. 09-1949-0000

 

โครงการ EIGEN Pattanakarn

ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ และ 2 ทางด่วนกาญจนาฯ และพัฒนาการ โครงการเข้า-ออก ได้หลายทาง ทั้งจากถนนพัฒนาการ ถนนอ่อนนุช และถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 รวมไปถึงแหล่งไลฟ์สไตล์มากมาย ไม่ว่าจะเป็น ซีคอนสแควร์, Paradise Park, Big C และ Tesco Lotus โดยในอนาคตมีสถานีรถไฟฟ้าที่ใกล้ที่สุดคือ สถานีศรีนครินทร์ 38

EIGEN Pattanakarn (ไอเจ้นท์ พัฒนาการ) โครงการใหม่จาก บริษัท รีโว  ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด พรีเมียมทาวน์โฮม 3 ชั้น มีแบบบ้านให้เลือก 3 แบบ คือ EZY, SIMPLI และ FLEXY บ้านหน้ากว้าง 5-8 เมตร ที่ดินเริ่มต้น 18 ตารางวา มีพื้นที่ใช้สอย 162-214 ตารางเมตร แบบ 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2-3 ที่จอดรถ จำนวน 169 ยูนิต ราคาเริ่ม 3.79 ล้านบาท

EZY ขนาด 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ที่ดินเริ่มต้น 18 ตารางวา และมีพื้นที่ใช้สอย 162 ตารางเมตร

SIMPLI ขนาด 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ที่ดินเริ่มต้น 21 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 182 ตารางเมตร ระเบียงแบบพาโนรามาวิว มีพื้นที่ U SPACE  มุมพิเศษปรับฟังก์ชั่นได้

FLEXY ขนาด 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ ที่ดินเริ่มต้น 26 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 214 ตารางเมตร

ทางโครงการฯ มีการติดตั้งระบบรักษาความปลอดภัย SMART SAFETY พร้อมระบบ INTELLIGENT AIR FLOW ระบบระบายความร้อนภายในตัวบ้านให้อากาศไหลเวียน ปลอดโปร่ง ช่วยลดแบคทีเรียภายในตัวบ้าน และถนนที่ใช้ภายในโครงการฯ กว้างสูงสุดถึง 12 เมตร

 

ย่านพระราม 9 – กรุงเทพกรีฑา ย่านนี้สามารถเดินทางเข้าไปยังย่าน CBD ของกรุงเทพฯ ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว ด้วยทางด่วนพระราม 9 – ศรีนครินทร์, ถนนกาญจนาภิเษกด้านตะวันออก และมอเตอร์เวย์กรุงเทพฯ-ชลบุรี และในอนาคตบริเวณถนนกรุงเทพกรีฑา จะเป็นย่านที่อยู่กึ่งกลางระหว่างเส้นทางรถไฟฟ้าสายใหม่ทั้งสองสาย คือสายสีเหลืองที่สถานีศรีกรีฑา และสายสีส้มที่บริเวณสถานีลำสาลี ซึ่งเป็นจุดตัดกับสายสีเหลืองเช่นกัน โดยในปัจจุบันก็มีรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงค์ไว้ให้บริการเช่นกัน จึงทำให้ย่านนี้ได้รับความนิยมขึ้นมาก และมีดีเวลลอปเปอร์ทั้งในกระแส นอกกระแส สนใจที่ดินทำโครงการในทำเลนี้อย่างมากมาย และ Townhome ที่เราจะพามาแนะนำก็มีดังนี้

 

โครงการ Aires Rama 9

โครงการฯ ตั้งอยู่บนถนนพระราม 9 ซอย 49 รายล้อมด้วยร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อ ร้านกาแฟอยู่มากมาย เดินทางเข้าออกได้จาก 2 เส้นทางหลัก ถนนพระราม 9 ซอย 49 และถนนรามคำแหง ซอย 26 สะดวกสบายไปกับแหล่งไลฟ์สไตล์และสถานที่สำคัญ อย่าง เดอะไนน์ และ มหาลัยอัสสัมชัญ รามคําแหง, โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์, เดอะมอลล์ รามคําแหง, ทองหล่อ เอกมัย และสนามบินสุวรรณภูมิ

ระยะทางจากโครงการไปยัง แอร์พอร์ตลิงค์ หัวหมาก ระยะทาง 6.5 กม. และยังใกล้กับรถไฟฟ้าสายสีส้ม (สถานีรามคำแหง) และสีเหลือง (สถานีศรีกรีฑา) ที่จะเปิดให้บริการในอนาคตอีกด้วย

AIRES RAMA 9 (ไอเรส พระราม 9) จาก บริษัท ดี เวล แกรนด์ แอสเสท จํากัด เป็นทาวน์โฮม 3 ชั้นครึ่ง แบบ 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2-3 ที่จอดรถ ตั้งอยู่ทำเลถนนพระรามเก้าซอย 49 ขนาดพื้นที่โครงการ 1 ไร่ 3 งาน 73.2 ตารางวา ที่ดินเริ่มตั้งแต่ 21.4 ตารางวาถึง 34.6 ตารางวา จำนวน 18 ยูนิต มีพื้นที่ใช้สอยเริ่มตั้งแต่ 243 ตารางเมตร ถึง 304 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 13.89-19.9 ล้านบาท

โครงการนี้โดดเด่นอย่างมากด้วย Private Rooftop Terrace ชั้นบนทุกยูนิต ซึ่งวิวที่ได้รับเป็นวิว และพื้นที่บน Rooftop ก็ยังใช้ประโยชน์อื่นๆ ได้อีก เช่น ปลูกต้นไม้ปลูก ใช้นั่งเล่น ปาร์ตี้เล็กๆ ในตอนกลางคืนได้อีกด้วย และบริเวณชั้น 1 เพดานสูงแบบ Double Volume 6.3 เมตร บนชั้น 3 มี Passion Room หรือห้องอเนกประสงค์ โดยออกแบบเอาไว้ให้เปิดโล่ง ให้ลูกบ้านได้ออกแบบพื้นที่ตามความต้องการ

ตัวอย่างบ้าน

สนใจรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ : www.aires-residence.com โทร. 09-09964949

 

โครงการ Signature Urban L Rama 9

โครงการตั้งอยู่ซอยพระรามเก้า 55 ใกล้กับ The Nine Rama 9 900 ม., แอร์พอร์ตลิงค์ หัวหมาก 1.9 กม., Homepro Rama 9 2 กม., Max Value พัฒนาการ 2 กม., โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ 2 กม. และโรงพยาบาล วิภาราม 2.5 กม.

โครงการ Signature Urban L Rama 9 (ซิกเนเจอร์ เออเบิน แอล พระราม 9) เป็น Urban Town Home 4.5 ชั้น และ 3.5 ชั้น พัฒนาโดยบริษัท normal มีฟังก์ชั่นให้เลือก 2 แบบ คือ Garden Villa และ Pool Villa (Sold Out) ขนาด 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ที่ดินขนาด 26.4 – 37 ตารางวา มีพื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 290 – 320 ตารางเมตร ราคา 13.9 ล้านบาท (Garden Villa ยูนิตสุดท้าย)

ชั้น 1 ส่วนเป็นส่วนของ Living Room ให้ทุกคนในบ้านได้ทำกิจกรรมร่วมกัน ส่วนด้านนอกก็แบ่งเป็นสระว่ายน้ำหรือสวนตามฟังก์ชั่นของบ้าน ชั้น 2 จะมีห้องนอนและ Living Room บนชั้นลอยสามารถตกแต่งเป็นห้องทำงานได้ ชั้น 3 และ 3 ครึ่ง ก็เป็นส่วนของห้องนอนเช่นกัน โดยห้องนอนจะอยู่ห่างกันเป็นฝั่งหน้าบ้านและหลังบ้าน ให้ผู้อาศัยรู้สึกถึงความเป็นส่วนตัวมากที่สุด

สนใจรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ : www.normal.co.thwww.normal.co.th  โทร. 0-92879-1915

 

โครงการ DHEPA

โครงการอยู่ในย่านกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ ตั้งอยู่ในซอยรามคำแหง 118 อยู่ใกล้กับโรงเรียนนานาชาติ Ascot การเดินทางสะดวกสบายเพราะสามารถเชื่อมต่อกับถนนวงแหวนกาญจนาภิเษกได้ ทำให้เดินทางไปยังย่านอื่นได้อย่างรวดเร็ว ในอนาคตจะมีรถไฟฟ้า 2 สาย เปิดให้ใช้บริการ คือ สายสีส้มและสายสีเหลือง อีกทั้งยังใกล้มอเตอร์เวย์เพื่อออกไปยังภาคตะวันออกได้

โครงการ Dhepa Ramkhamheang 118 (เทพา รามคำแหง 118) พัฒนาโดย บริษัท เอเซียถือหุ้น จำกัด ทาวน์โฮมขนาด 3.5 ชั้น หน้ากว้าง 6 เมตร บนพื้นที่โครงการทั้งหมด 7-1-79 ไร่ จำนวน 55 ยูนิต ที่ดินขนาด 27.7 – 48.3 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 245 ตร.ม. มีบ้านให้เลือก 2 แบบ คือ DHEPA และ DHAPA Plus ราคาเริ่มต้น 9.25 ลบ.

โดย DHEPA มีฟังก์ชั่นแบบ 3 ชั้นครึ่ง พื้นที่ใช้สอย 245 ตร.ม. จอดรถ 2 คัน หน้ากว้าง 6 ม. ห้องนั่งเล่นเพดานสูง 5.2 ม. ห้องนอนใหญ่เต็มพื้นที่ทั้งชั้น และ DHAPA Plus มีฟังก์ชั่นแบบ 3 ชั้นครึ่ง พื้นที่ใช้สอย 295 ตร.ม. ที่จอดรถ 3 คัน ห้องนั่งเล่นเพดานสูง 5.2 ม. พร้อมสระว่ายน้ำระบบเกลือ มีห้องนอนแม่บ้านพร้อมห้องน้ำในตัว และบริเวณสวนหลังบ้านจะเชื่อมต่อกับพื้นที่ในบ้านด้วยผนังกระจกขนาดใหญ่ ตัวโครงการแม้ตั้งอยู่ในซอยรามคำแหง 118 แต่ก็สามารถเลี่ยงรถติดได้ผ่านเส้นทางถนนคู่ขนานกาญจนาภิเษก – มอเตอร์เวย์ ที่เชื่อมต่อไปยังถนนกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ มุ่งสู่พระรามเก้า – พัฒนาการได้ในอึดใจเดียว

ตัวอย่างบ้าน

ข้อดีของที่ก็คือเป็นบ้านที่สร้าง First impression ให้กับผู้มาเยือนได้ดีมากๆด้วย โถง Living สูงถึง 5.2 เมตร พร้อมกระจกแบบเต็มๆความกว้างเกือบ 6 เมตร ไม่มีการถูกตัดทอนด้วยพื้นที่ครัว เสา โถงบันได หรือห้องอะไรทั้งนั้น พื้นที่สวนหลังบ้านที่ใหญ่มาก และมีการเลือกใช้วัสดุที่ค่อนข้างโอเคในชั้น 1,ชั้นลอย,และชั้น 2 แต่ข้อเสียก้คือยังมีหลายๆจุดที่มีการลดทอนความสวยงาม และคุณภาพออกไปเช่นบริเวณชั้นสามที่เป็นพื้นกระเบื้องยาง ในขณะที่ชั้นลอยและสองเป็น Engineered Wood ราวกับเป็นคนละคนออกแบบ Façade แบบแท่งปูนดิบๆที่หลายคนบอกว่าถ้าเปลี่ยนเป็น Composite จะมี Value และความสวยงามเพิ่มขึ้นอีกเยอะ เช่นเดียวกับ Material ที่ดูสวยแต่ไม่คงทน ฟังก์ชั่นการใช้งานบางอย่างที่ยังไม่ตอบโจทย์คนที่อยู่จริงสักเท่าไหร่ และประสบการณ์ของผู้พัฒนาโครงการที่ดูจะค่อนข้างน้อยกว่าหลายๆราย

 

สนใจรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ : http://www.dhepa-urbanhome.com โทร 06-3921-6563

 

โครงการ The Preston Townhome

ตั้งอยู่บนถนนกรุงเทพกรีฑา ในซอยกรุงเทพกรีฑา 7 ซอยนี้สามารถใช้เป็นทางลัดไปออก ซอยรามคำแหง 60 ที่ใกล้แยกบางกะปิได้ ใช้เส้นทางเข้าสู่โครงการได้หลายทาง เช่น จากถนนศรีนครินทร์, ถนนรามคำแหง, ทางวงแหวนกาญจนาภิเษก และถนนศรีนครินทร์-ร่มเกล้า ที่เป็นถนนตัดใหม่ สามารถใช้ถนนศรีนครินทร์, พระราม 9 เข้าเมืองได้ และในอนาคตโครงการจะใกล้กับรถไฟฟ้าสายสีเหลือง สถานีศรีกรีฑา ระยะทางประมาณ 3 กม. ถือว่าเป็นโครงการที่มีทำเลดีที่สุดบนย่านรามคำแหง – กรุงเทพกรีฑาตัดใหม่

The Preston Townhome (เดอะเพรสตัน ทาวน์โฮม) พัฒนาโดยบริษัท เจ กรุ๊ป เรียล เอสเตท ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ทาวน์โฮมสไตล์โมเดิร์นอิงลิชสูง 3 ชั้น จำนวน 58 ยูนิต บนพื้นที่โครงการ 5-2-78.7 ไร่ บ้านหน้ากว้าง 5.7 เมตร แบบ 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ห้องเอนกประสงค์ มีพื้นที่ใช้สอย 175 ตารางเมตร

โดดเด่นด้วยการออกแบบบ้านให้เป็น Panoramic Bay Window บนชั้น 2 และ 3 แบบ 180 องศา ให้เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของโครงการฯ ตอบรับการพักผ่อนให้รู้สึกเหมือนอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ และชั้น 3 แบบ Penthouse มีเพดานสูง 4.45 เมตร พร้อม Skylight ให้ได้รับแสงธรรมชาติเต็มๆ ซึ่งเป็นโครงการเดียวในบทความนี้ที่มีพื้นที่ Double Volume อยู่บนสุดของตัวบ้านบริเวณห้อง Master Bedroom แต่ต้องไปตกแต่งเพิ่มบันได ชั้นลอยอะไรพวกนี้เอาเองนะ แต่ถ้าไม่เพิ่มเวลาเรานอนก็อาจจะดูโล่งๆ เวิ้งว้างไปหน่อย เหมือนล่องลอยในอวกาศแค่นั้นเอง และก็มีข้อตินิดนึงตรงลานจอดรถที่สั้นไปหน่อย หากจอดรถแวน หรือกระบะก็อาจต้องเปิดประตูรั้วเอาไว้

ตัวอย่างบ้าน

สนใจรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ : http://www.prestontownhome.com โทร. 08-3026-1666

 

ย่านสุขุมวิทตอนปลาย ตั้งแต่บางจาก ปุณณวิถี อุดมสุข บางนา แบริ่ง รวมถึงสำโรง เป็นทำเลที่มีศักยภาพและมีอนาคตที่จะพัฒนาให้เกิดมูลค่าสูงขึ้นได้อีก เพราะยังมีการพัฒนาที่ยังไม่เต็มที่ มีที่ดินรอพัฒนาอีกค่อนข้างเยอะ ราคาที่ยังต่ำ สามารถสร้างผลกำไรในอนาคตให้กับนักลงทุนรายย่อยได้ อีกทั้งยังมีโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่ใช้กันในปัจจุบันตัดผ่านไปจนถึงสถานีเคหะฯ แล้ว จึงเริ่มมีกลุ่มผู้มีรายได้มากกลุ่มใหม่ๆ เริ่มทยอยเข้ามาทำมาหากินในย่านมากขึ้น และมีจำนวนผู้คนเข้ามาพักอาศัยเพิ่มขึ้นอีกด้วย เมื่อมีคนย้ายเข้ามาตั้งถิ่นฐานในย่านนี้เยอะ ทางเราก็มี Townhome โครงการดีๆ มานำเสนอให้ได้ชมกันดังนี้

 

โครงการ Heart Sukhumvit 62/1

โครงการอยู่ในซอยสุขุมวิท 62/1 อยู่ใกล้อาคาร M tower ที่เป็นอาคารสำนักงานขนาดใหญ่ ซึ่งด้านในตึกมีร้านค้า ร้านอาหาร ธนาคาร ให้บริการ และ WHIZDOM 101  หรือ TRUE DIGITAL PARK ที่มีทั้งคอมมูนิตี้มอลล์ อาคารออฟฟิศ สะดวกต่อคนในย่านนี้เป็นอย่างมาก

จาก BTS บางจาก สามารถเดินเข้าไปยังโครงการฯ เพียง 650 ม. เท่านั้น และยังอยู่ห่างจากทองหล่อ เพียง 4 สถานี ทำให้ผู้คนเลือกมาพักอาศัยอยู่ในย่านนี้ เนื่องจากที่พักหลายที่มีค่าเช่ารายเดือนถูกกว่าย่านสุขุมวิทตอนต้นและตอนกลาง แถมยังเดินทางเข้าเมืองได้อย่างสะดวกด้วย BTS เพียงไม่กี่สถานีเท่านั้น

โครงการ Heart Sukhumvit 62/1 (ฮาร์ท สุขุมวิท 62/1) พัฒนาโดยบริษัท ชีวาฮาร์ต จำกัด เป็นทาวน์โฮม 3 ชั้นครึ่ง มีพื้นที่ใช้สอย 230 ตารางเมตร พร้อมที่จอดรถ 2 คัน พร้อมสระว่ายน้ำและสวนส่วนกลาง จำนวน 9 ยูนิต ที่ดินต่อยูนิต 17 – 22 ตารางวา เนื้อที่โครงการทั้งหมด 317 ตารางวา ราคา 17.9 ล้านบาท

โดย 2 ยูนิต ที่อยู่ด้านหน้า ติดถนนหลักในซอย สามารถทำเป็น Home Office ได้ เนื่องจากอยู่นอกประตูรั้วโครงการ และอีก 7 ยูนิต สำหรับพักอาศัยอยู่ด้านในประตูขนาดใหญ่ ปิดเปิดด้วย RFID

ไฮไลท์ของโครงการฯ คือโถงพื้นที่ Living เพดานสูง 6 เมตร  แม้จะเรียกว่าชั้น 3 M แต่จริงๆ ก็คือชั้น 4 ของบ้าน เพราะความเพดานของชั้น สูง 3 M 2.75 เมตร ที่นี่ออกแบบมาให้เป็น 2 BEDROOM DUPLEX UNIT ถ้าครอบครัวที่มีกัน 2-3 คน ก็สามารถเลือกอยู่แค่ชั้น 3-3M แล้วปล่อยชั้น 1,2 ให้คนเช่าเพื่อทำรายได้ เดือนละ 3-4 หมื่น ก็ยังได้

 

คือถ้าจะให้บอกว่าโครงการไหนมีคอนเซปท์ที่โดดเด่นแปลกตามากที่สุดก็คงจะเป็น Heart Sukhumvit 62/1 นี่ล่ะ เพราะโดยรวมแล้วมันเหมือนกับการเอาคอนโด 4 ห้องมาต่อเรียงกันเป็นแนวตั้งมากกว่า อีกทั้งผู้พัฒนายังจับเอางานระบบครัวมาไว้ให้ในทุกชั้นเลย เหมาะกับคนที่ชอบอยู่คอนโดในแบบที่บางอารมณ์ก็อยากจะตัดขาดกับเพื่อนบ้าน แต่บางอารมณ์ก็อยากจะทำกิจกรรมร่วมกันผ่านทางโถง Living แบบ Double Volume และชั้นทั้งหมดถูกเชื่อมต่อกันด้วยลิฟท์โดยสาร ก็แหงล่ะเพราะผู้พัฒนาคือคนที่ชอบอยู่คอนโดมากกว่าบ้าน ที่มีนามว่า “คอนโดแมน” นี่เอง

ตัวอย่างบ้าน

สนใจรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ :  www.chewaheart.com  โทร. 08-1554-4745

 

โครงการ Qualitia Sukhumvit 62

โครงการฯ สามารถเดินทางเข้าออกได้ถึง 2 เส้นทางหลัก อย่างถนนสุขุมวิท ผ่านซอยสุขุมวิท 60/2 และซอยสุขุมวิท 62 และขึ้นลงทางด่วนพิเศษ เฉลิมมหานคร ที่ด่านสุขุมวิท 50 และ 62

และยังใกล้รถไฟฟ้าสถานีบางจากเพียง 200 เมตร ในระยะทางเท่านี้สามารถเดินจากโครงการไป BTS ได้สบาย

Qualitia Sukhumvit 62 (ควอลิเทีย สุขุมวิท 62) โดย บริษัท ควอลิเทีย ลิฟวิ่ง จำกัด เป็นทาวน์โฮม 3.5 ชั้น 3 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 1 extra space บ้านหน้ากว้าง 6 เมตร สามารถปรับเป็น Home Office สามารถจอดรถได้ถึง 4-7 คัน มีพื้นที่ใช้สอยกว่า 300 ตาราเมตร จำนวน 8 ยูนิต มีพื้นที่โครงการรวม 0-3-17.5 ไร่ โดยที่ดินของแต่ละยูนิตจะไม่เท่ากัน เริ่มต้นที่ 25.70-41 ตารางวา ราคาเริ่มต้นที่ 20.9 ล้านบาท

การออกแบบที่ทำให้ทุกห้อง ทุกพื้นที่มีพื้นที่ติดอากาศ หรือระเบียง รวมทั้งการออกแบบที่ทำให้มี Double Volume ถึง 2 ส่วน และยูนิตหน้ากว้างมาก จอดรถได้ 2 คัน รวมทั้งการออกแบบที่เจ้าของบ้าน Customized Space Layout ได้ตามใจชอบ โดยที่ Developer เป็นดูแลให้

สามารถเพิ่มลิฟท์บ้านเพื่ออำนวยความสะดวกสำหรับคนที่มีผู้สูงอายุ หรือปรับพื้นที่ชั้น 1 เป็นที่จอดรถทั้งชั้น ให้ชั้นลอย เป็น welcome space เชื่อมชั้น 2 ที่เป็นโซนสำนักงาน และชั้น 3 เป็นที่พักอาศัย หรือจะต่อเติมพื้นชั้นลอยให้เพิ่มพื้นที่ใช้งานบางส่วนก็ทำได้

ตัวอย่างบ้าน

สนใจรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ : http://www.qualitialiving.comโทร. 0-2331-1255

 

โครงการ Galeria 64

โครงการอยู่ในซอยสุขุมวิท 64 ที่สามารถเชื่อมต่อไปทางพิเศษเฉลิมมหานคร โดยทะลุจากถนนพงษ์เวชอนุสรณ์ไปทางด้านหลังซอย เส้นนี้จะเชื่อมไปทางไปขึ้นทางด่วนที่ซอยสุขุมวิท 62 ซึ่งใช้ทางด่วนเส้นนี้เข้าเมืองได้ และโครงการอยู่ใกล้กับ Gateway เอกมัย และ Tesco Lotus

ระยะทางจากโครงการถึง BTS สถานีปุณณวิถี เพียง 650 เมตร ในช่วงเร่งด่วนก็ใช้บริการของ BTS แทนการขับรถยนต์ได้ ถือเป็นการเลี่ยงรถติดไปด้วย

Galeria 64 (แกลอเรีย 64) จากบริษัท บัลโคนี่เอสเตท จำกัด เป็นทาวน์โฮมหรู 3 ชั้นครึ่ง พร้อมลิฟต์ส่วนตัว จำนวน 5 ยูนิต บนพื้นที่โครงการ 0-1-99 ไร่ มีบ้าน 2 Type คือ A และ B Type A หน้ากว้าง 7 เมตร 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 2+1 คัน ที่ดิน 22.4-28.8 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 305 ตร.ม. และ Type B หน้ากว้าง 8 เมตร 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 4 คัน ที่ดิน 47.3 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 373 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 16.9 ล้านบาท

ทางโครงการได้มีการออกแบบด้วยแนวคิด Ventilation Design เชื่อมโยงการใช้ชีวิตด้วยพื้นที่ Double Living Space และออกแบบพื้นที่ให้ใกล้ชิดธรรมชาติ โดยการคำนึงแสงส่องสว่าง และการหมุนเวียนของอากาศ ทำให้บ้านปลอดโปร่งมากขึ้น

สนใจรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ : http://www.balconyestate.co.th/galeria64โทร. 09-0984-5495

 

โครงการ BORO Bang-Aor Station

โครงการตั้งอยู่ในซอยจรัญสนิทวงศ์ 84/1 และแวดล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล สถานศึกษา และสถานที่สำคัญอื่นๆ เช่น เทสโก้โลตัส สาขาจรัญสนิทวงศ์, เซ็นทรัลพลาซ่า ปิ่นเกล้า, Gateway บางซื่อ, โรงพยาบาลยันฮี, โรงพยาบาลบางโพ และธนาคารแห่งประเทศไทย อีกทั้งทางพิเศษศรีรัช-วงแหวนรอบนอก ที่จะเชื่อมต่อไปยังย่านอื่นได้โดยง่าย

ระยะทางจากโครงการไปยัง MRT สถานีบางอ้อ เพียง 450 เมตรเท่านั้น สะดวกสำหรับผู้ที่ต้องเดินทางในช่วงเวลาเร่งรีบและไม่ต้องกังวลเรื่องรถติด

Boro Bang-Aor Station (โบโร่ บางอ้อ สเตชั่น) พัฒนาโดย บริษัท เจ ดับเบิ้ลยู ที ดีเวลลอปเมนต์ จำกัด เป็นทาวน์โฮม 3 ชั้นครึ่ง 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ห้องทำงาน 2 พ็อกเก็ต คอร์ทยาร์ด 2 ที่จอดรถ จำนวน 12 ยูนิต ที่ดินประมาณ 22- 35 ตารางวา โดยโครงการมีการออกแบบด้วยความใส่ใจ ภายใต้แนวคิด ‘Levering up the urban living’ เพื่อยกระดับสู่อีกขั้นของความเป็นส่วนตัว มี Pocket Garden ที่ให้เจ้าของบ้านออกแบบได้เอง และเชื่อมต่อกับ Double Volume Living Space เพดานสูง เพิ่มความโปร่งโล่งสบายให้การอยู่อาศัย พิเศษไปกับPocket Courtyard ชั้นบนสุด เฉพาะเจ้าของบ้านเท่านั้น ราคาเริ่มต้น 7.9 ล้านบาท มีบ้านให้เลือก 2 Type ดังนี้

TYPE 1 มีพื้นที่ใช้สอย 224 ตารางเมตร

TYPE 2 มีพื้นที่ใช้สอย 202 ตารางเมตร

ตัวอย่างบ้าน

สนใจรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ : http://www.borotownhome.com โทร. 09-4969-6926

 

สรุป

ในการเลือกซื้อโครงการจาก Local Developer ไม่ใช่ว่าจะดีไปซะทั้งหมดเสมอไป โดยผู้ซื้อจำเป็นที่จะต้องคิดพิจารณาให้รอบด้านเนื่องจากการซื้อบ้านในแต่ละหลังนั้นจำเป็นต้องใช้งบประมาณในการตกแต่งเพิ่มเติมมากกว่าการซื้อคอนโด ไม่ว่าจะเป็นการทำครัว ต่อเติมหลังคากันสาด ทำห้องน้ำ ทำ Walk-in Closet ทำผ้าม่าน ทำพื้นลานจอดรถ ฯลฯ ซึ่งในมุมมองของพี่เกริก Propholic มองว่าข้อเสียของการซื้อโครงการจากดีเวลลอปเปอร์รายย่อยก็จะเป็นในเรื่องของ…

 

1. การออกแบบที่หลายๆ โครงการ เป็นโครงการแรกของดีเวลลอปเปอร์รายนั้นๆ ซึ่งก็ทำให้ยังต้องลองผิดลองถูกกันอยู่ โดยส่วนใหญ่แล้วดีเวลลอปเปอร์รายย่อยก็มักจะมองในมุมมองของงานดีไซน์โดยรวม ให้ออกมาเพื่อสร้าง First impression และบรรยากาศที่ดีมากกว่า ลงลึกในเชิง Detail ของการอยู่อาศัย แตกต่างกับ Developer รายใหญ่ที่มีประสบการณ์อันยาวนาน รู้ถึง Insight ในการอยู่อาศัยของลูกค้า ว่าต้องการอะไร มีการทำ PDCA อยู่เสมอ และไม่สร้างภาระเพิ่มเติมให้กับลูกค้าเวลา Move in อย่าไปหลงในจุดสลบเชิง Emotional เช่นเรื่องของพื้นที่ Double Volume ในส่วนของ Living ที่สูงโปร่งโล่งและบรรยากาศแบบจัดเต็มของบ้านตัวอย่าง โดยเวลาเลือกซื้อเราควรต้องสังเกตุในหลายๆ Detail และเชิง Function ของบ้านจริงที่ส่งมอบให้ดีๆ ว่าโครงการมีการจัดมาให้ครบหรือไม่ อาทิ ห้องครัวที่มีการเดินสายไฟเพื่อ Support อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวครบ เป็นสายไฟเบอร์ 4-6 ไม่ใช่แค่เบอร์ 2.5 ที่ยังไงก็ไม่พอกับการติดตั้งอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัว มีการจัดวางตำแหน่งที่ไม่มีช่อง หลืบ ตำแหน่งคานที่อยู่ผิดที่ หรือตำแหน่งท่อน้ำดีบริเวณผนัง ที่อาจจะส่งผลต่อการสร้างชุดครัว เช่นการต่อท่อ Hood การเปลี่ยนผนัง พื้น หรือแม้กระทั่งพื้นที่ในการติดตั้งเตาแก๊ส เครื่องซักผ้า ตู้เย็น ว่ามีให้เพียงพอไหม มีการทำ Drop ฝ้า เสริมโครงสร้าง หรือมีการติดรางผ้าม่านเพื่อ Support การติดม่านไฟฟ้าหรือ โคมไฟขนาดใหญ่หรือไม่ เดินท่อแอร์ไว้ให้หรือไม่ เดินสาย Lan แบบ CAT6 ไว้ให้ในแต่ละจุดของบ้านหรือไม่ มีการติดตั้งตำแหน่งสวิตซ์ไฟ เต้ารับ เต้าเสียบ ตามหลัก Human Centric ตอบโจทย์การใช้งานจริงหรือไม่ ไม่ใช่ต้องรื้อเลื่อนจุดทุกครั้งที่ทำเฟอร์ ฯลฯ…ซึ่งสิ่งเหล่านี้หากโครงการไหนไม่มีมาให้ก็เป็น Cost ที่เราต้องจ่ายเพิ่มมหาศาลทั้งนั้น ในขณะที่โครงการขนาดใหญ่บรรดาทีมออกแบบมักจะทราบดีอยู่แล้ว จึงมักไม่ค่อยมีปัญหาพวกนี้มาให้รำคาญใจ กับเปลืองเงินมากกว่าที่ควรจะเป็น

 

2. การบริการหลังการขาย ที่มักจะไม่ได้มีทีมงานในส่วนของ Customer Service ที่รับแจ้งเรื่องราวร้องเรียน แจ้งซ่อม และควบคุมงาน กำหนดการซ่อมอย่างจริงจัง โดยหลายๆ โครงการมักจะใช้บริการของเซลล์ หรือ Foreman หน้างานเป็นคนประสานสาน ไม่ได้มีระบบอะไรที่ชัดเจนแน่นอน ซึ่งเป็นความแตกต่างอย่างชัดเจนมากๆ ถ้าเทียบกับ Developer ขนาดใหญ่ ที่มีหน่วยงานในการดูแลเรื่อง Customer Care อย่างจริงจัง ตรวจสอบได้ ทุกคนรู้หน้าที่ของตัวเอง เช่นเดียวกับหน่วยงานนิติบุคคลที่จะต้องจัดตั้งมาเพื่อเป็นศูนย์กลางในการ Monitor ปัญหาของโครงการ และลูกบ้านอย่างละเอียดนับตั้งแต่วันแรกที่ Move in

 

3. ระบบรักษาความปลอดภัย ที่ไม่ใช่แค่รักษาความปลอดภัย แต่ต้องสร้างความอุ่นใจ ไว้ใจ และเป็นที่พึ่งได้…เรื่องระบบรักษาความปลอดภัยใครหลายๆ คนก็มองว่ามันเป็นแบบมาตรฐานเหมือนกันหมด มีแค่ตัว รปภ. กับกล้อง CCTV ก็พอ แต่ในความเป็นจริงไม่ใช่ครับ ความรู้สึกอุ่นใจของการพักอาศัย ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงแค่มี รปภ. คอยเปิด-ปิดประตูทางเข้าหน้าโครงการ กับแลกบัตรให้ แต่จำเป็นต้องมีเจ้าหน้าที่ที่มีการ Train มาโดยเฉพาะในเรื่องของการบริการ และกระบวนการในการรับมือที่แตกต่างกันให้ในกลุ่มผู้มาเยือน ทั้งลูกบ้าน ผู้รับเหมา คนส่งของ เจ้าหน้าที่หน้างาน ช่าง และคนแปลกหน้า ซึ่งในจุดนี้ผมว่าทุกเจ้าต้องไปเลียนแบบการทำงานของบริษัทอย่างแสนสิริครับ

 

4. ราคา ส่วนลด และโปรโมชั่น…อย่าไปคิดว่าซื้อกับดีเวลลอปเปอร์รายย่อยแล้วจะถูกกว่าซื้อกับรายใหญ่นะครับ ผมบอกเลยว่าไม่ใช่เสมอไป ส่วนใหญ่จะไม่ใช่ด้วย ถึงแม้ว่าจะเป็น Landbank ของเค้าเอง แต่ด้วยการที่เป็น Developer รายย่อยทำให้ต้นทุนค่าดำเนินการ ค่าสั่งซื้อของ ต้นทุนค่าก่อสร้าง มันไม่มี Economy of Scale ไม่สามารถทำราคาได้ถูกกว่าโครงการจากดีเวลลอปเปอร์รายใหญ่ เนื่องจากเค้าพัฒนาแค่ทีละไม่กี่ยูนิต ต่างกับรายใหญ่ที่สั่งของทีนึงใช้เผื่อไปเลย 5 โครงการเป็น 1,000 ยูนิต นอกจากนี้อาวุธทางการเงินของรายย่อยยังไงก็ไม่เท่ารายใหญ่ครับ เราไม่มีวันเห็นโปรโมชั่นลดเทกระจาด หรือโปรโมชั่นอยู่ฟรี 12-24-36 เดือน กับดีเวลลอปเปอร์รายย่อยแน่ๆ เพราะสถาบันการเงินให้เครดิตที่แตกต่างกันไป อีกทั้งดอกเบี้ยเงินกู้ทำโครงการก็สูงกว่าหลายๆ ราย ลูกค้าจะซื้อก็กู้ได้ไม่เต็ม หรือกู้เต็มอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ก็ไม่ดีเท่า แถมบางโครงการยังต้องเสียค่าประเมินให้กับธนาคาร และก็ไม่ได้ส่วนลด ณ วันโอน ฟรีค่าจดจำนองฯ เหมือนกับโครงการใหญ่ๆ ที่เค้าทำกันเพื่อเร่งยอดโอนในตอนนี้อีก

 

ลองพิจารณาดูถึงข้อดีและข้อเสียดังกล่าว และตัดสินใจด้วยตัวเองครับว่าความสบายใจของการอยู่อาศัยคุณคืออะไร และอะไรคือโจทย์ในการเลือกที่อยู่อาศัยของคุณ แต่หากคุณพบว่าโครงการที่คุณกำลังเล็งๆอยู่นั้นไม่ได้มีจุดบกพร่องอะไรเลย สอบผ่านทุกอย่างตามสี่ข้อที่ว่ามา โครงการนั้นก็น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีไม่แพ้โครงการจากดีเวลลอปเปอร์รายใหญ่เลย…เชื่อว่าทุกคนมีคำตอบในใจอยู่แล้วล่ะ

 

#Authenลาดพร้าว–นาคนิวาส #NORDLADPRAO110 #NeoHausPlusนาคนิวาส32 #TherLadprao93 #TheAuthorRatchada32 #L-CrafRatchada20 #NovelResidenceLadprao18 #BaanPuriPuriLadprao41 #ShizenPhatthanakan32 #EstaraHavenPattanakarn20 #EIGENPattanakarn #AiresRama9 #SignatureUrbanLRama9 #DHEPA #ThePrestonTownhome #HeartSukhumvit62/1 #QualitiaSukhumvit62 #Galeria64 #BOROBang-AorStation

wipawan khampuwiang

wipawan khampuwiang

จบทางด้านภาษาไทยและชอบงานเขียน ชอบอ่านและดูรูปภาพรีวิวบ้าน คอนโดต่างๆ เบื่อกับการอยู่ห้องทั้งวันแบบไม่มีอะไรทำ ฉะนั้นงานอดิเรกก็เลยชอบหาที่เที่ยวและถ่ายภาพ

เว็บไซต์

โซลเลซ พหลฯ-ประดิพัทธ์

นิว เวิร์ส กรุงเทพกรีฑา

นิว ซี-สแควร์ สวนหลวง สเตชั่น

ซึ่งวันนี้เราจะพาคุณผู้อ่านมาพบกับโครงการคอนโดพร้อมอ...

30 January, 2024

ริธึ่ม เจริญนคร ไอคอนิค

วันนี้จะมาเล่าเรื่องเกี่ยวกับคอนโดมิเนียมสุดฮอตชื่อโ...

29 January, 2024

วิสซ์ดอม คราฟท์ สามย่าน

Whizdom Craftz Samyan คือโครงการที่มอบ 5 องค์ประกอบพ...

4 December, 2023

นาวว์ เมกา

หากจะพูดถึง NOWW MEGA (นาวว์ เมกา) ในพื้นที่ของ Maga...

14 November, 2023

สอบถามโครงการ

ได้รับข้อมูลเรียบร้อยแล้ว
ขอบคุณอย่างยิ่งที่สนใจครับ
จะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับไปนะครับ

ขออภัย
ไม่สามารถส่งข้อมูลได้
กรุณาลองใหม่อีกครั้ง