ยุคนี้ซื้อคอนโดปล่อยเช่า ต้องปรับตัวกันเยอะเลยครับ

เกริก บุณยโยธิน 07 October, 2014 at 09.50 am

ประกาศที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา


สวัสดีช่วงปลายปีนะครับ คิดอยู่นานว่าเดือนนี้จะเขียนเรื่องอะไรดี แต่พอดีเห็นว่าช่วงนี้เป็นช่วงที่คอนโดหลายๆโครงการสร้างเสร็จพร้อมโอน และก็มีงานคอนโดหลายๆงานจัดขึ้นมาพร้อมๆกัน แล้วตัวผมเองเนี่ย จากที่ได้มีโอกาสไปเดินชม เดินสำรวจตามงานต่างๆก็จะเห็นว่า มีกลุ่มผู้ซื้อจำนวนไม่น้อยเลยน่ะครับ ที่ถามเซลล์โครงการว่า ซื้อไปกะจะเอาไปปล่อยเช่า จะปล่อยเช่าได้ไหม แล้วมันได้ราคาเท่าไหร่ คุ้มรึเปล่า ที่จะซื้อ บลาๆๆๆๆๆ >>> แหม ในฐานะคนที่ทำงานด้านนี้ ถ้าคุณลูกค้าไปถามเซลล์ เซลล์ที่ไหนจะบอกว่าไม่คุ้มล่ะครับ ร้อยทั้งร้อยต้องบอกประมาณว่า ปล่อยเช่าได้อยู่แล้วล่ะพี่ แถวนั้นมีออฟฟิศเยอะแยะ เนี่ยถ้าพี่ไม่อยากเสียเวลาปล่อยเช่าเอง มาฝากหนูปล่อยตอนหลังโอนก็ได้นะ บริษัทก็มีบริการปล่อยเช่าเหมือนกัน ไม่ยุ่งยากเรยแม้แต่นิดเดียว ซื้อๆไปเหอะพี่จองวันนี้แค่ห้าพัน ได้ iPad Air ด้วย แถมผ่อนค่าทำสัญญา 0% ได้อีกสิบเดือนเชียวนะพี่ จองไปเลยล่ะพี่ เอาบัตรเครดิตมา…….

 

หลังจากนั้นลูกค้าก็มึนไปอีกสองปีจนตึกสร้างเสร็จ แล้วก็มามึนอีกรอบตอนที่จะเริ่มหาผู้เช่าแหละครับว่า อ้าว ห้องมันเฟอร์นิเจอร์ไม่ครบนิ ถ้าจะปล่อยเช่าต้องซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าเยอะแค่ไหน แล้วนี่ยังไม่รวมค่าส่วนกลางไปเลยลืมคิดอ่ะ ไอ้ตอนซื้อเซลล์ก็ไม่บอกว่าเท่าไหร่ แล้วฉันจะไปหาลูกค้าได้จากที่ไหน แล้วถ้าหาลูกค้าได้แล้วจะปล่อยเช่าราคาเท่าไหร่ดีถึงจะคุ้ม >>> สุดท้ายแล้วคุณลูกค้าหลายๆท่าน ก็อาจจะปล่อยเช่า ได้ในราคาที่เสมอตัว หรือขาดทุนกับค่างวดธนาคารเลยก็ว่าได้ครับ…เอาล่ะครับ เข้าเรื่องเลยดีกว่า วันนี้ผมจะมาอธิบายให้นักการตลาดอสังหา และผู้ที่กำลังคิดจะซื้อคอนโดเพื่อปล่อยเช่ากัน ได้เห็นครับว่าในการปล่อยเช่าคอนโดแต่ละที่นั่น คุณต้องคำนึงถึงอุปสรรคอะไรบ้าง ปล่อยเท่าไหร่ถึงจะคุ้ม ดีไม่ดีหากคุณอ่านบทความนี้ของผม คุณอาจจะเปลี่ยนใจเลิกซื้อคอนโดเพื่อปล่อยเช่าไปเลยก็ได้ครับ!!! อ้าว ไหงเป็นงั้น???

สิ่งแรกที่ผู้ซื้อคอนโดต้องคำนึงถึงนะครับ นั่นคือค่าใช้จ่ายรายเดือนของคอนโดที่เราซื้อไว้นะครับ เช่น ค่าส่วนกลาง ค่า sinking fund ค่าที่จอดรถ (บางแห่งคิด) และที่สำคัญคือค่าผ่อนธนาคารครับ…ที่ต้องรู้ก็เพราะว่าเราจะได้เอาค่าใช้จ่ายพวกนี้มาคิดเป็น rental yield นะครับ ว่าผลตอบแทนจากค่าเช่ารายปีที่เราได้มันจะได่กี่เปอร์เซนต์ คุ้มค่ากว่าการลงทุนในด้านอื่นๆหรือเปล่า?

Example

ผมซื้อคอนโดในระดับ mid grade โดยมีราคาต่อตารางเมตรอยู่ที่ 85,000 บาท ห้องขนาด 30 ตรม. ราคา 2,550,000 บาท

Additional Cost มีดังนี้ครับ

  • Sinking fund 500 บาทต่อตรม.จ่ายครั้งเดียว               = 15,000 บาท
  • ค่าโอน 1% (ใครได้โปรฟรีโอนไปก็สบายครับ)             = 25,500 บาท
  • ค่าเฟอร์ฯ (ห้องใครได้เฟอร์ครบก้ดีไปครับ)                 = 100,000 บาท
  • ค่าเครื่องใช้ไฟฟ้า (ใครได้ครบหมดก็ไม่ต้องปวดหัว)      = 50,000 บาท
  • ค่าโอนมิเตอร์น้ำ ไฟ อากรแสตมป์ ฯลฯ                     = 6,000 บาท
  • ค่าส่วนกลางตารางเมตรละ 45 บาท หรือคิดเป็นเดือนละ = 1,350 บาท

จากข้อมูลข้างบนต้นทุนของคอนโดเราจะอยู่ที่ 2,746,500 บาท โดยที่ยังไม่รวมค่าส่วนกลางลงไปในนี้…ถามต่อว่าแล้วจะปล่อยเช่าเท่าไหร่ดีล่ะ? Owner หลายๆคนมักจะคิดไม่ครบถึงค่าใช้จ่ายทั้งหมดนี้ครับ ส่วนใหญ่จะจบแค่ราคาที่ซื้อคอนโดมาเท่านั้น และ owner หลายๆก้มักจะคิดราคาค่าเช่าโดยไปเปรียบเทียบกับตึกเก่าๆแบบเกือบสิบปีแล้ว ซึ่งมันเป็นคนละต้นทุนกันเลยครับ สมัยสิบปีที่แล้วคอนโดกลางเมืองบางแห่งยังตารางเมตรไม่ถึงห้าหมื่นก็มีนะครับ หรือบางคนก้จะไปคิดค่าเช่าโดย base จากรายจ่ายรายเดือน ที่ตัวเองต้องเสียไป >>> เหล่านี้คือวิธีคิดที่ไม่ค่อยจะถูกต้องตาม logic เท่าไหร่ครับ ซึ่งวิธีการที่ ถูกต้องก็คือ คิดโดยเปรียบเทียบกับการลงทุนในรูปแบบอื่นๆครับ ซึ่ง ณ ตอนนี้ไม่ว่าจะในตลาดไทย หรือเพื่อนบ้านอย่างสิงค์โปร์ อัตราผลตอบแทนที่จัดว่าโอเคก็คือประมาณ 5.5% ต่อปีครับ ถ้าอยู่ในขั้นดี ก็จะประมาณไม่เกิน 7.5% เท่านั้นครับ… ว่าแล้วเราก็มาคิด yield กันดีกว่าครับ เอาเป็นว่าผมอยากได้ผลตอบแทนสัก 6% ก้แล้วกันครับ วิธีคิดตามหลักสากลง่ายๆก็คือ เอาราคาต้นทุนคอนโดของเรา 2,746,500 บาท มาคูณด้วย 6% แล้วหารด้วย 12 เดือนครับ ก็จะตกเดือนละ 13,732 บาท แต่ยังไม่จบนะครับ!!! เราต้องอย่าลืมบวกค่าส่วนกลางไปด้วยครับ ดังนั้นหากเราอยากได้ผลตอบแทนที่ 6% เราต้องคิดค่าเช่าที่ 15,082 บาทต่อเดือนนะครับ (ไม่รวมค่าน้ำ ค่าไฟ)

ทีนี้เนี่ยผมขอยืนยันเลยครับ ว่าการจะปล่อยเช่าเนี่ยผมคิดว่ายังไงมันก็เหมาะกับคนที่มีเงินสดในการซื้อคอนโดแบบไม่ต้องกู้แบงค์นะครับ เพราะว่าอะไรหากเป็นการกู้แบงค์ สมมติว่าคุณกู้ 100% เลย โดยคร่าวๆแล้วอัตราการผ่อนแบงค์จะอยู่ประมาณล้านละ 7,000 บาทต่อเดือน ดังนั้นห้องนี้ต้องมีผ่อนแบงค์อย่างต่ำก็ 15,000 บาทต่อเดือนแล้วอ่ะครับ คิดยังไงมันก็ไม่คุ้มอ่ะครับ อย่าคิดหลอกตัวเองโดยฝืนตลาด ว่าจะต้องปล่อยเช่าให้ได้เดือนละ 30,000 บาทนะครับ คุณอย่าลืมว่านอกจากคุณจะต้องแข่งกับตึกข้างเคียงแล้ว คุณยังจะต้องแข่งกับห้องอื่นๆในตึกเดียวกันกับคุณเช่นกัน ++++อ้อ ผมลืมบอกไป หากใครที่ใช้บริการของนายหน้าในการปล่อยเช่า เค้าจะคิดค่าบริการที่ 1 เดือนสำหรับสัญญา 1 ปีนะครับ ซึ่งมันก้จะดีกว่าตรงที่คุณไม่ต้องมาลำบากในการดีลตรงกับผู้เช่า ซึ่งมันเหนื่อยมากนะครับ น้ำไม่ไหล ไฟดับ กุญแจหาย เข้าห้องไม่ได้ ตอนตีหนึ่งตีสอง ตรวจดูความเรียบร้อยของห้อง สารพัดปัญหาการเช่าเนี่ยมันเกิดขึ้นเป็นประจำนะครับ ผมคิดว่ามันคุ้มค่ากว่าเยอะ แนะนำว่าให้ทำสัญญายาวไปเลย 2 ปีเพราะว่าคุรจะเสียค่าคอมมิชชั่นแค่ 1.5 เดือนเองครับ ประหยัดไปครึ่งเดือน!!!!

เอาล่ะครับ เมื่อเรารู้แล้วว่าควรจะเริ่มต้นคิดจากตรงไหนถึงจะเหมาะสม เราก็ควรที่จะมาพิจารณาถึงอุปสรรคอื่นๆที่เกิดขึ้นในปัจจุบันที่มันส่งผลกระทบโดยตรงต่อตลาดเช่านะครับ

ขนาดห้องที่เล็กลง แต่มันกลับอยู่ได้จริงๆอ่ะ!!!

  • คุณผู้อ่านก็คงจะทราบกันดีนะครับ ว่าปัจจุบันนี้ developer ผลิตคอนโด size เล็กลงเรื่อยๆ (ซึ่งตามกฎหมายยังไงก็คงเล็กเกินกว่า 20 ตรม. ไม่ได้) ตอนนี้ห้องขนาด 21 ตรม. สามารถนำมากั้นห้องเป็นขนาด 1 ห้องนอนก็ยังได้ครับ ยิ่งขนาดห้องเล็กลงถึงราคาต่อตารางเมตรจะแพงขึ้นเรื่อยๆ แต่ราคาโดยรวมแล้วก้ยังถูกกว่าคอนโดที่มีขนาดห้องใหญ่กว่า จริงไหมครับ? แล้วทีนี้หากคนไหนไม่รู้ไปคิดค่าเช่าโดย based จากราคาเปรียบเทียบของห้อง 1 นอน size 30 ตารางเมตร ของตึกข้างๆกัน มันก็ดูจะขี้โกงยังไงไม่รู้ใช่ไหมครับ?  Owner ตึกข้างๆก็คงจะงอนว่ามีอย่างที่ไหนห้องฉันขนาดใหญ่กว่าปล่อยเช่าได้เดือนละ 15,000 แต่ห้องแกเล็กนิดเดียว ดันมาปล่อยเช่าในราคาเท่ากันซะนี่!!!! ปัญหาเหล่านี้คงจะไม่เกิดขึ้นนะครับ ถ้าคุณคิดค่าเช่าโดย base จาก expected yield >> และถ้าคุณคนที่จะซื้อลงทุนปล่อยเช่าทั้งหลาย คิดถึงจุดนี้ก่อนที่จะหลงคารมณ์ของเซลล์แล้วคุณก็จะรู้ว่าโครงการที่คุณกำลังจะตัดสินใจซื้อนั้น มันคุ้มค่ากับการลงทุนหรือเปล่าน่ะครับ อย่ามัวแต่หลงคิดว่าเออราคารวมๆมันก็ถูกกว่าตึกข้างๆนะ แต่ในชีวิตจริงคุณไม่มีทางปล่อยห้องสตูดิโอขนาด 21 ตารางเมตรได้ในราคาเดือนละ 22,000 บาท up ครับ และยิ่งถ้าคุณต้องแข่งกันตัดราคากับคู่แข่งจำนวนเกือบพันยูนิตในโครงการเดียวกันอีก โอ้ย ไม่อยากจะคิดว่าขาดทุนเท่าไหร่ครับ อย่าลืมว่าไม่ว่าคุณจะลงทุนปล่อยเช่า หรือปล่อยขาย… คุณจำเป็นต้องคำนวณเป็นราคาต่อตารางเมตรนะครับ ตราบใดที่คอนโดส่วนใหญ่ในตลาดไม่ได้มีขนาดมาตรฐานเท่านี้

ที่จอดรถ มันสำคัญรึเปล่าอ่ะ?

  • เคยมีเซลล์หลายๆคนตอบคำถามผม เวลาที่ผมถามถึงอัตราที่จอดรถในตึกว่ามีจำนวนกี่เปอร์เซนต์ ว่าไม่ต้องห่วงค่ะ คอนโดเราส่วนมากคนที่ซื้อมักจะไม่ใช้รถเพราะอยู่ติดกับรถไฟฟ้าเลย หรือบอกว่าอ๋อที่นี่เน้นปล่อยเช่าคนต่างชาติค่ะ เพราะฉะนั้นเค้ามักจะใช้รถไฟฟ้ากันค่ะ ที่จอดรถมีเท่านี้ถือว่าเยอะเลยระคะสำหรับคอนโดติดรถไฟฟ้า!!!! ผมล่ะอยากจะย้อนถามกลับไปจริงๆว่า แล้วคุณเซลล์ได้เคยอยู่คอนโด หรือเคยซื้อคอนโดในกรุงเทพหรือเปล่าครับ? ถ้าจะให้ผมเดาก็คงคิดว่าไม่เคยสินะครับ ถึงไม่รู้ว่าจริงอยู่เค้าใช้รถไฟฟ้ากัน แต่เค้าจอดรถทิ้งไว้ในคอนโดเพื่อไปต่อรถไฟฟ้าเฟ้ยยยย…ต้องบอกว่าที่จอดรถเนี่ยมันเป็นจุดขาย ที่ขายได้เสมอนะครับ สำหรับการขายคอนโดในประเทศที่ระบบขนส่งสาธารณะนั้นมันแย่ทั้งการบริการ และแย่ทั้งการครอบคลุมพื้นที่นะครับ…ประเทศเรามันไม่เหมือนกับ ญี่ปุ่น เกาหลี สิงค์โปร์ ฮ่องกง ที่คนเค้าไม่อยากจะใช้รถส่วนตัวกัน เพราะระบบขนส่งสาธารณะแต่ละแห่งมันช่าง superb ซะเหลือเกินครับ ยิ่งนโยบายของรัฐบาลก้สนับสนุนให้คนซื้อรถส่วนตัวกันมากขึ้น แล้วมันจะจอดกันที่ไหนล่ะครับ ในเมื่อท้องถนนยังมีไม่พอให้ขับ ที่จอดรถข้างทางก้ไม่มี ที่จอดรถสาธารณะก็ไม่ปลอดภัยแถมคิดเงินแพงอีก…แปลกนะครับที่บรรดาแบบสอบถาม จากสถาบันต่างๆหรือจากบริษัทต่างๆไม่สอบถามกันถึงสาเหตุที่คนซื้อคอนโดกัน โดยเพิ่ม choice ที่ว่า ซื้อเพื่อไว้จอดรถ เห็นมีแต่ไว้อยู่เอง ไว้ลงทุน ไว้ให้ลูกหลาน ฯลฯ ลองเพิ่ม choice นี้ดูสิครับ แล้วคุณจะรู้ว่าปัจจัยนี้มันสำคัญต่อยอดขายมาก ในบางคอนโดมีคนหาเช่าที่จอดรถจากสิทธิ์ของห้องอื่นกันให้ควั่ก ยิ่งคอนโดที่มีที่จอดรถ 100% เนี่ย จะได้กลุ่มผู้เช่าที่ต้องการเฉพาะแค่จอดรถเพิ่มเข้ามานะครับ

คอนโดที่มีบริการแบบโรงแรมมันดีจังเลย น่าจะปล่อยเช่าได้ง่ายนะ?

  • คือสมัยนี้หลายๆโครงการเค้าใช้จุดขายตรงที่มี service แบบโรงแรม ประเภท laundry, maid, shutter bus, concierge, ticket reservation อะไรเทือกนี้น่ะครับ คนที่คิดจะซื้อเพื่อปล่อยเช่าก็คงคิดว่าเออดีอ่ะ แต่ในความเป็นจริงแล้วบริการพวกนี้มันคิด extra cost หมดเลยนะครับ และตรรกะอีกอย่างนึงที่สำคัญก็คือ developer ที่นิยมทำบริการแบบนี้ มักจะมีประสบการณ์ในด้านการทำธุรกิจโรงแรม ธุรกิจ service apartment ปล่อยเช่ามาก่อน และถ้าเค้าเคยทำมาแล้ว มีหรือครับว่าเค้าจะไม่เก็บห้องส่วนหนึ่งเอาไว้ ในกรณีที่ขายไม่หมด เพื่อเอามาทำปล่อยเช่าเอง ในราคาที่ถูกกว่าคุณปล่อย แถม synergy บริการต่างๆเอาไว้ให้ฟรี!!!

 ปล่อยเช่าระยะสั้นเก็บค่าเช่าได้แพงกว่า!!!

  • เรื่องนี้ผมเคยพูดเอาไว้เมื่อหลายเดือนก่อนแล้วครับว่า เดี๋ยวนี้เวปไซต์อย่าง airbnb (เห็นว่าตอนนี้โดนแบนในนิวยอร์ก โทษฐานที่ไปทำลายธุรกิจที่พักของทั้งโรงแรมและ hostel เค้าซะหมด ซึ่งเดี่ยวผมจะลงเนื้อหาข่าวนี้ให้ในตอนท้ายเพื่อเป็น case study ครับ) นั้นเป็นที่นิยมกันมากทั้งในหมู่ owner ที่ต้องการทำเงินจากค่าเช่าระยะสั้นโดยไม่สนใจ detail อะไรมากมาย และในหมู่นักท่องเที่ยวที่มองว่าการอยู่คอนโดมันดีกว่าอยู่โรงแรม และ hostel (แหงล่ะคืนละสามพันก็ได้อยู่คอนโด facilities จัดเต็มอย่าง The River ได้แล้ว หรือแค่คืนละสองพันนิดๆก็ได้อยู่คอนโด The Address Asoke ที่ผมอยู่ได้แล้ว) คือมุมมองส่วนตัวของผมรูปแบบธุรกิจนี้ผมว่าค่อนข้างจะไม่คำนึงถึงเพื่อนบ้านโดยรวมที่เค้าจ่ายค่าส่วนกลางกันตามปกติ แต่กลับไม่ได้ใช้บริการใดๆในส่วนกลางเลย เพราะว่าต้องมาแบ่งให้กับผู้เช่ารายวันที่แบคแพคมาพักกันทีสามสี่คน ซึ่งแน่นอนว่าคนพวกนี้ก็ใช้ส่วนกลางกันราวกับว่าวันนี้เป็น the end of the world พรุ่งนี้ข้าก็ไปแล้ว จะทำยังไงก้ได้ กรูไม่สนเฟ้ยยย แถมบางทีเข้ามาในล้อบบี้ก็เจอแต่คนแปลกหน้าแบคแพคน่ากลัวๆเข้ามานั่งออกันเต็มไปหมด….เอาเหอะ แต่มันก็จริงนะครับว่า หากเราเอาห้องเราไปปล่อยเช่าระยะสั้น สมมติว่าได้วันละสามพัน แต่กลายเป็นห้องเราเกิดฮิตขึ้นมาคนเข้าพักเดือนนึงที่ 20 วัน มันก็ได้เดือนละ 60,000 บาทแล้วนะครับ ในขณะที่เราปล่อยเช่าสัญญาตามปกติมันได้แค่เดือนละ 30,000 บาทเอง…ผมว่ามันก็เป็นแนวทางธุรกิจที่น่าสนใจนะครับ แต่ผมไม่เห็นด้วยและต่อต้านด้วยซำไป ยกเว้นแต่ว่าจะมีระเบียบข้อบังคับจากนิติบุคคลที่ช่วยปกป้องรักษาสิทธิของ owner คนอื่นๆตามแบบที่ควรจะเป็นครับ

เอาละครับพูดมาก้เยอะแล้ว ผมคิดว่าวิธีการที่ดีที่สุดในจะทำให้ตลาดเช่าคอนโดกลับมาทำกำไรได้ในแบบที่ควรจะเป้นอีกครั้ง มันก็ควรที่จะเริ่มต้นจาก owner ด้วยกันเองนี่ล่ะครับ อย่าไปลดราคา อย่าไปตัดราคา พยายามคุยกันกับบรรดา owner ทั้งตึกว่าค่าเช่าที่ควรจะเป็นมันควรเท่าไหร่ ระหว่าง 6-7% ก็ว่ากันไปนะครับ อย่าตัดช่องน้อยแต่พอตัว ไม่งั้นมันจะเจ๊งกันทั้งตลาดนะครับ

เอาละครับเวลาหมด หมดเวลา ไว้เจอกันใหม่เดือนหน้านะครับ หากใครอยากจะคุยอะไรกับผมก็เมลมาหาตามอีเมลนี้นะครับ kirk.bu@gmail.com ผมอาจจะตอบช้าไปหน่อยนะครับ หวังว่าคงไม่ว่ากันนะคร้าบบบ

บทความโดย เกริก บุณยโยธิน

****ข่าวเสริมเพื่ออ้างอิงจาก ASTV ผู้จัดการออนไลน์****

ห้าม “ชาวเมืองนิวยอร์ก”ดัดแปลงที่พักเป็น “เกสต์เฮาส์” – เวปไซต์รวมรายชื่อที่พักเรท 35 ดอลลาร์โดนหนัก “ถูกทางการรีดดูฐานข้อมูล”

Source – ASTV ผู้จัดการออนไลน์ (Th)

Wednesday, October 16, 2013  18:40

เอเจนซีส์/เอพี – เจ้าหน้าที่เมืองนิวยอร์กซิตีสั่งให้เวปไซต์ Airbnb.com ส่งรายชื่อผู้ใช้ใช้บริการเวปไซต์ในการประกาศโฆษณาห้องพักราคาถูกที่ถูกดัดแปลงมาจากที่อยู่อาศัยของพวกเขาให้เป็นเกสต์เฮาส์นักท่องเที่ยวราคาถูกที่สามารถหาได้ตั้งแต่ 35 ดอลลาร์ต่อคืนให้กับนักท่องเที่ยวในเมืองที่มีค่าใช้จ่ายสูงที่สุดในสหรัฐฯ ในขณะที่ห้องพักตามโรงแรมทั่วไปในเมืองนิวยอร์ก ซิตี ตกอยู่ที่ 275 ดอลลาร์ต่อคืน โดยเฉลี่ย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่เมืองอ้างว่าชาวเมืองทำผิดกฏหมายรัฐในการดัดแปลงที่อยู่อาศัยเพื่อธุรกิจ และ ยังทำให้ผู้เข้าพักไม่ปลอดภัย รวมถึงเป็นการทำลายอุตสาหกรรมธุรกิจโรงแรมในเมืองนี้อีกด้วย

เจ้าหน้าที่เมืองนิวยอร์กซิตีทลายเวปไซต์ Airbnb.com ซึ่งเป็นเสมือนสวรรค์ของนักท่องเที่ยวที่มีงบจำกัดในการหาที่พักในเมืองที่มีค่าใช้จ่ายสูงที่สุดในสหรัฐฯแห่งนี้ โดยทางเมืองต้องการให้ทางเวปไซต์ส่งรายชื่อข้อมูลผู้ใช้บริการชาวเมืองนิวยอร์กที่เปิดที่พักของพวกเขาเป็นเกสต์เฮาส์เพื่อให้บริการแก่นักท่องเที่ยวในราคาถูก ซึ่งมีสนนราคาตั้งแต่ 35 ดอลลาร์ต่อคืน

โดยทางเมืองร่วมกับการท่องเที่ยวของนิวยอร์กได้เผยผ่านแถลงการว่า “การกระทำที่ผิดกฏหมายในการแอบดัดแปลงที่พักอาศัยเพื่อการค้าโดยไม่ได้รับการอนุญาตนั้นเปรีบเสมือนการเลี่ยงภาษีกิจการโรงแรมที่ต้องจ่ายให้รัฐ และยังละเมิดกฏหมายรัฐว่าด้วยการเช่าช่วงรวมถึงละเมิดกฏหมายว่าด้วยความปลอดภัยสาธารณสุข นอกจากนี้สถานประกอบการโรงแรมที่ผิดฏกหมายเหล่านี้ยังไม่มีระบบรักษาความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวยามเมื่อเกิดเพลิงไหม้ ”

โดยเหตุการณ์นี้เริ่มมาจากที่สำนักงานนายกเทศมนตรีของเมืองนิวยอร์กได้ตรวจสอบการทำธุรกิจที่พักให้เช่าระยะเวลาสั้นในปี 2006 และพบว่ามีคำร้องยื่นเข้ามาจำนวน 3,000 ราย ระบุถึงบรรดาธุรกิจที่พักให้เช่าระยะเวลาสั้นนั้นมีการละเมิดกฏหมายต่างๆจำนวนเกือบจะ 6,000 ข้อกล่าวหา รวมถึงความปลอดภัยด้านต่างๆ

ทางด้านชาวเมืองนิวยอร์กที่ดัดแปลงที่พักเป็นห้องให้เช่าราคาถูกในระยะสั้นนั้นต่างกล่าวว่า พวกเขาได้ให้บริการแก่ผู้เข้าพักอย่างเหมาะสม และการแบ่งให้เช่าที่พักแก่นักท่องเที่ยวถือเป็นรายได้ที่จะมาช่วยแบ่งเบาภาระค่าเช่าที่อยู่อาศัยของชาวเมืองนิวยอร์กที่ตกโดยเฉลี่ยตกอยู่ที่ 3,000 ต่อเดือน แต่ถ้าหากอยู่ในทำเลทองจะมีอัตราที่สูงถึง 6,000 ดอลลาร์ ต่อเดือน เมื่อเปรียบเทียบกับอัตราเฉลี่ยของที่พักในเขตชานเมืองในรัฐอื่น เช่น แคลิฟอร์เนีย อัตราค่าเช่าต่อเดือนโดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ 700 ดอลลาร์ต่อเดือน เป็นต้น

และหนึ่งในชาวเมืองที่ได้แบ่งที่พักของเธอให้เป็นห้องพักสำหรับนักท่องเที่ยว มิสเชลล์ แฟเรอร์ วัย 32 ปี อดีตสิบเอกแห่งกองทัพบกสหรัฐฯกล่าวว่า “ดิฉันใช้เวปไซต์ Airbnb.com เป็นแหล่งหารายได้เสริม และเงินก้อนนี้ทำให้ดิฉันสามารถกลับเข้าไปเรียนต่อได้” โดยแฟเรอร์ได้ประกาศผ่านAirbnb.com ให้นักท่องเที่ยวเข้าพักที่เธอได้ไปเช่าทิ้งไว้เพื่อทำธุรกิจนี้ในราคา 60 ดอลลาร์ หรือ 70 ดอลลาร์ ต่อคืน ขึ้นอยู่กับฤดูการท่องเที่ยว และแฟเรอร์ยังย้ำว่า เธอสามารถนำเงินที่มาจากรายได้ของการดัดแปลงที่พักเพื่อให้เช่านั้นสามาถช่วยสมทบจำนวนเงินสำหรับค่าเช่าห้องของเธอเองได้ถึงครึ่งหนึ่ง

จากรายงานพบว่าเวปไซต์ Airbnb.com นั้นเริ่มเมื่อ 5 ปีก่อนในเมืองซานฟรานซิสโก โดยเริ่มมาจากผู้เช่า 2 รายที่ไม่สามารถหาเงินพอจ่ายค่าเช่าของตัวเองได้ พวกเขาจึงได้เริ่มให้นักท่องเที่ยวเข้ามาพัก และในขณะนี้เวปไซต์ Airbnb.comมีชุมชนทั่วโลกกว่า 35,000 ชุมชน และจำนวนประกาศที่พักราคาประหยัดอีกกว่า 500,000 แห่ง นับว่าเป็นบริษัทจัดหาที่พักระยะเวลาสั้นที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยทางบริษัทจะคิดค่าบริการโดยหักราว 6%-7% ของการตกลงการเช่าแต่ละครั้ง

โดยเฉพาะในเมืองนิวยอร์กซิตี ทางเวปไซต์เปิดเผยว่า ชาวเมืองใช้บริการเวปไซต์มีจำนวนกว่า 15,000รายเพื่อประกาศให้นักท่องเที่ยวเข้าพักที่อยู่ของพวกเขา ซึ่งสนนราคาการเข้าพักตกอยู่ที่ 35 ดอลลาร์ต่อคืน สำหรับห้องพักแบบสตูดิโอในบลุ๊คลิน จนถึง 60 ดอลลาร์ต่อคืนในบริเวณไทม์สแคว์ และ อพาทเมนต์สวนในแถบเรดฮุ๊คที่มีอัตรา 120 ดอลลาร์ต่อคืน ไปจนถึงห้องพักหรูหราแบบแอนทีคที่ทริเบคกา ในอัตราราว 921 ดอลลาร์ต่อคืน

นอกจากนี้ทางเวปไซต์ยังยืนยันว่า 87% ของผู้ให้เช่าในนิวยอร์กนั้นอาศัยอยู่กับนักท่องเที่ยว และกล่าวหาการที่ทางรัฐต้องการรายชื่อลูกค้าที่ใช้บริการของทางเวปไซต์ พร้อมกับยืนยันว่า ผู้ให้เช่าทุกคนมีความรับผิดชอบที่ต้องต้องทำตามกฏหมายที่ประเทศต่างๆได้บัญญัติขึ้น

ในขณะที่เจ้าของตึกอพาทเมนต์และผู้เช่ารายอื่นต่างไม่พอใจธุรกิจประเภทนี้ โดยพวกเขากล่าวว่า รู้สึกกลัวที่เห็นคนแปลกหน้านั่งอยู่ในบริเวณล็อบบี้ของอพาทเมนต์ หรืออยู่ในลิฟท์ ในยามที่พวกเขากลับบ้านหลังเลิกงานในเวลากลางคืน

เกริก บุณยโยธิน

เกริก บุณยโยธิน

ผู้ก่อตั้งเวปไซต์แบ่งปันความรู้ด้านการตลาด และการสร้างแบรนด์ในวงการอสังหาฯ พร็อพฮอลิค ดอทคอม..หลังจากที่ใช้เวลามากกว่า 10 ปี ในการวนเวียน เข้าๆออกๆ ในสายงานด้านการตลาด และวางแผนกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ ของบริษัทอสังหาฯ และเอเยนซีโฆษณาชั้นนำหลายแห่ง (โดยที่ไม่รู้ว่าทำไมต้องจับสลากเจอลูกค้าสายอสังหาฯทุกที)...จนถูกครอบงำโดยจิตใต้สำนึก ให้ถีบตัวเองออกจากกรอบการทำงานแบบเดิมๆ เพื่อออกมาจุดประกายความคิดที่ถูกต้อง และนำเสนอมุมมองใหม่ๆ ให้กับกลุ่มคนที่สนใจในธุรกิจอสังหาฯ

เว็บไซต์

ศุภาลัย พรีเมียร์ สามเสน-ราชวัตร

โซลเลซ พหลฯ-ประดิพัทธ์

นิว เวิร์ส กรุงเทพกรีฑา

ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมาต้องบอกว่าย่านกรุงเทพกรีฑาตัดใหม...

28 February, 2024

นิว ซี-สแควร์ สวนหลวง สเตชั่น

ซึ่งวันนี้เราจะพาคุณผู้อ่านมาพบกับโครงการคอนโดพร้อมอ...

30 January, 2024

ริธึ่ม เจริญนคร ไอคอนิค

วันนี้จะมาเล่าเรื่องเกี่ยวกับคอนโดมิเนียมสุดฮอตชื่อโ...

29 January, 2024

วิสซ์ดอม คราฟท์ สามย่าน

Whizdom Craftz Samyan คือโครงการที่มอบ 5 องค์ประกอบพ...

4 December, 2023

สอบถามโครงการ

ได้รับข้อมูลเรียบร้อยแล้ว
ขอบคุณอย่างยิ่งที่สนใจครับ
จะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับไปนะครับ

ขออภัย
ไม่สามารถส่งข้อมูลได้
กรุณาลองใหม่อีกครั้ง