จับตาทิศทางการพัฒนาอสังหาฯในอนาคต Real Demand กลุ่มใหม่ที่มาพร้อม Mega Trends & New Normal ดันกระแสบ้านพักตากอากาศบูม
จากมาตรการคุ้มเข้มเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของ COVID-19 ส่งผลให้โรงแรม รีสอร์ท ที่อยู่ในเมืองท่องเที่ยวได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก เนื่องจากไม่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาพัก แต่ก็มีคนไทยอีกจำนวนหนึ่งเลือกไปพักผ่อนเก็บตัวระยะยาวที่ต่างจังหวัด ตั้งแต่ช่วงก่อนไวรัสระบาดหนัก ถือได้ว่าเป็นการ Work from Home และเปลี่ยนบรรยากาศของการอยู่บ้านไปในตัวด้วย แต่การที่จะไปอยู่ต่างถิ่นให้สบายใจ สบายกระเป๋าเป็นเวลานานๆนั้น อันดับแรกก็ต้องมีคอนโด หรือบ้านพักตากอากาศที่จังหวัดหัวเมืองท่องเที่ยวก่อน หรือใครที่มีงบประมาณในการซื้อบ้านที่มากขึ้นมาหน่อย ก็มักจะมองตัวเลือกในส่วนของการซื้อคอนโด ที่ให้บริการแบบเดียวกับโรงแรมหรูที่ตัวเองคุ้นเคย เพื่อที่จะได้เข้าพักได้อย่างสะดวกและได้รับการบริการที่ดีเยี่ยมไม่แพ้กับการเข้าพักที่โรงแรม โดยวิถีชีวิตแบบ New Normal หรือความปกติในรูปแบบใหม่ที่มาเปลี่ยนพฤติกรรมในการใช้ชีวิตประจำวันของเราให้ต่างจากเดิม ก็มีส่วนช่วยให้ใครหลายๆคน เริ่มที่จะมองหาบ้านหลังที่สองที่เมืองตากอากาศ อย่างหัวหิน ที่มอบความเป็นส่วนตัว อากาศบริสุทธิ์ และให้พื้นที่ในการใช้ชีวิตเพิ่มขึ้นด้วยขนาดห้องที่มีขนาดใหญ่กว่าปกติ แต่ก็ยังมี Service ที่พร้อมสรรพ สามารถทำงานแบบ Work from Home ได้สบาย มีครบทุกอย่างในที่เดียว ตอบโจทย์กำลังซื้อที่เป็นเจ้าของกิจการ หรือกลุ่มที่ไม่จำเป็นต้องทำงานประจำที่ออฟฟิศในเมือง เนื่องจากคอนโดส่วนใหญ่ในกรุงเทพฯมักจะมีห้องขนาดที่ไม่ใหญ่มากและแออัดไปด้วยผู้คนในแต่ละอาคาร
เหตุผลในการซื้อบ้านหรือคอนโดหลังที่สองที่เมืองชายทะเลตากอากาศอย่างหัวหินนั้น ก็เนื่องจากมีการเดินทางไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ใช้เวลาในการขับรถประมาณ 2 ชั่วโมงก็ถึง จึงทำให้แถวชะอำและหัวหินเป็นทำเลยอดนิยมของคนกรุงเทพฯ มานานแล้ว โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่ต้องการสถานที่พักผ่อนในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์กับครอบครัว โดยหากเป็นกลุ่มผู้เข้าพักที่มีกำลังซื้อสูงส่วนใหญ่ก็เลือกมาพักที่โรงแรมหรูเพราะสะดวกสบายกว่าคอนโด เนื่องจากมีบริการที่ตรงกับความต้องการ ทั้งการทำความสะอาด อาหาร หรือเซอร์วิสต่างๆ โดยที่ไม่ต้องลงมือทำเอง ไม่ต้องห่วงเรื่องการดูแลห้องเวลาที่ไม่อยู่ ดังนั้นหากจะมีคอนโดประเภทไหนที่ตอบโจทย์คนกลุ่มนี้มากที่สุดก็น่าจะเป็นคอนโดประเภท Hotel Branded Residence ที่ได้ทั้งบริการครบครันตามมาตรฐานโรงแรมหรู และยังมีโอกาสได้รับผลตอบแทนจากการปล่อยเช่าที่ดีมากกว่าคอนโดอื่นๆ
สำหรับสภาพตลาดคอนโดที่หัวหินนั้น ต้องบอกว่าคอนโดใจกลางเมืองติดชายหาด ในรูปแบบ Hotel Branded Residences นั้นหาได้ยากมากในขณะนี้ เนื่องจากหัวหินมีที่ดินติดหาดแปลงใหญ่เหลือให้พัฒนาน้อยมาก เพราะมีการพัฒนาโครงการรูปแบบต่างๆ โดยเฉพาะโรงแรม รีสอร์ทจนเต็มพื้นที่แล้ว และที่พักอาศัยแบบ Hotel Branded Residences ก็กำลังเป็นที่นิยมกันอย่างมากในกลุ่มตลาดคอนโดทั่วโลก เนื่องจากเป็นที่พักอาศัยที่ดูแลโดยเชนโรงแรมที่มีชื่อเสียงที่มาพร้อมการบริการพิเศษภายใต้มาตรฐานระดับโลก เหมือนกับการได้กรรมสิทธิ์เป็นเจ้าของห้องพักโรงแรมดังที่เราชื่นชอบ แถมยังพ่วงมากับบริการชั้นเยี่ยมจากทางโครงการ และสิทธิพิเศษจากโรงแรมในเครือ
อีกทั้งบางแห่งยังได้รับผลตอบแทนในด้านของการปล่อยเช่าที่ดี รวมถึงสิทธิ์ในการเข้าพักกับทางโครงการหรือโรงแรมในเครือทั้งในและต่างประเทศได้ แตกต่างจากโรงแรมที่ไม่ได้อยู่ในรูปแบบ Hotel Branded Residences อย่างที่ได้กล่าวมาก่อนหน้านี้
ภาพจาก : https://bit.ly/2M527B1
จาก Consumer Trigger ในเรื่องของการเป็นเจ้าของคอนโดตากอากาศที่พ่วงบริการแบบโรงแรม ในรูปแบบ Hotel Branded Residences ดังกล่าว ทำให้ในช่วงที่ผ่านมา แม้ว่าหลายๆ โครงการในกรุงเทพฯจะมียอด Walk-in เข้ามาชมโครงการที่ต่ำลง แต่ที่หัวหินกลับไม่เป็นเช่นนั้น โดยโครงการ “อินเตอร์คอนติเนนตัล เรสซิเดนเซส หัวหิน” (InterContinental Residences Hua Hin) คอนโดสุดหรูริมหาดใจกลางเมืองหัวหิน กลายเป็นโครงการที่น่าจับตามองมากทีเดียว เนื่องจากมีจำนวนคนเข้าชมโครงการและยอดขายที่มากขึ้นสวนกระแส เห็นได้ชัดจากจำนวนคนที่ตัดสินใจซื้อโครงการ เทียบสัดส่วนจากจำนวนคนที่เข้ามาชมโครงการ จากช่วงก่อนโควิด-19 อยู่ที่ 10-20% แต่ในเดือนที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นเป็น 40-50% นั่นคือเกือบครึ่งหนึ่งที่เข้ามาชมโครงการแล้วตัดสินใจซื้อทันที สะท้อนให้เห็นว่ากลุ่ม Real Demand ของ Intercontinental มีความแตกต่างจาก โครงการอื่นๆ และโครงการฯมีการพัฒนารูปแบบโครงการที่ตอบโจทย์ Mega Trends ที่มี New Normal เป็นตัวเร่งให้เกิดเร็วขึ้น ซึ่งพราว เรียล เอสเตท ก็ได้คาดการณ์เมกะเทรนด์ที่จะเกิดขึ้นอย่างชัดเจนจากนี้ไว้ 3 ด้านคือ
สมาร์ทซิตี้ (Smart Cities) ระบบคมนาคมที่กำลังจะเกิดขึ้น ที่มีทั้งรถไฟความเร็วสูง และโครงการที่ถูกพัฒนาจากภาครัฐ จะทำให้คนเดินทางข้ามจังหวัดกันได้สะดวกมากขึ้น และเกิดเป็นเมืองหลักแห่งใหม่ที่ไม่จำกัดแค่อยู่ในกรุงเทพฯ เท่านั้น อีกทั้งการทำงานในปัจจุบันที่มีการ Work from Home เพิ่มขึ้น ที่สามารถทำงานจากที่ไหนก็ได้โดยไม่จำเป็นต้องเข้าออฟฟิศทุกวัน และในช่วงไวรัสระบาดที่ทำให้รายจ่ายภายในประเทศลดลง ก็จะทำให้ภาครัฐเร่งสร้างโครงการต่างๆ และมีโครงการที่จะผลักดันภาคการท่องเที่ยว จึงทำให้เมืองที่เป็น Resort Destination ได้รับความสนใจมากยิ่งขึ้น รวมถึงการผลักดันในด้านอื่นๆ ควบคู่ไปด้วย
แหล่งที่มา PricewaterhouseCoopers (PwC) Ernst & Young (EY) และ Frost & Sullivan)
สงคมผู้สูงอายุ (Aging society) ในประเทศไทยมีประชากรที่มีอายุเกิน 60 ปีขี้นไป อาจมากถึง 20% ภายในปี 2581 หรืออีก 20 ปีข้างหน้า โดยในจำนวนนี้กว่า 35% ยังคงทำงานอยู่ ดังนั้น เมื่อเกิด New Normal มาเป็นแรงผลักดัน ทำให้คนกลุ่มนี้เข้าออฟฟิศน้อยลง มีความต้องการด้านอื่นๆ ที่เพิ่มขึ้น ทั้งความพร้อมของสถานพยาบาลที่ใกล้ตัว เมื่อเวลาเกิดเหตุฉุกเฉิน รวมถึงการดูแลสุขภาพที่ต้องมี Facility และการบริการที่พิเศษเพื่ออำนวยความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตมากขึ้น
(อ้างอิงข้อมูลจาก World. People Prospect)
กลุ่ม Gen X Gen Y ที่เพิ่มขึ้น รวมถึงพฤติกรรมและความต้องการที่เปลี่ยนไป ใช้ชีวิตในแบบ work life balance มีเวลาอยู่กับครอบครัวมากขึ้น คนกลุ่มนี้จะเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อหลักในอีกในอนาคตอีก 5-10 ปีข้างหน้า และกลายเป็นกลุ่มลูกค้าหลักของธุรกิจต่างๆ ถือเป็นโจทย์ที่ท้าทาย และเป็นสิ่งสำคัญสำหรับโครงการที่อยู่อาศัย ที่ต้องคำนึงถึงการผสมผสาน ให้ทั้ง 3 กลุ่ม คือ ผู้สูงอายุ กลุ่ม Gen X และ Gen Y ซึ่งมีความต้องการแตกต่างกัน สามารถพักอาศัยอยู่ด้วยกันได้อย่างลงตัว (อ้างอิงข้อมูลจากHootsuite, We are social, Singapore)
จากเมกะเทรนด์ดังกล่าวตอกย้ำว่า อินเตอร์คอนติเนนตัล เรสซิเดนเซส หัวหิน เป็นโครงการที่สามารถตอบโจทย์ New Mega Trend และ Normal เหล่านี้ได้เป็นอย่างดี เนื่องจากเป็นโครงการที่เน้นให้ความเป็นส่วนตัวแก่ผู้พักอาศัยเป็นอย่างมาก ตามแนวคิดหลักในการพัฒนาของบริษัทฯอย่าง “More Than Just Living” ทำให้โครงการมีความเป็นส่วนตัวสูง มีพื้นที่สีเขียวภายในโครงการที่มากถึง 70% รวมถึงมีห้องพักขนาดใหญ่ สามารถตอบโจทย์ความต้องการสำหรับผู้ที่ต้องอยู่แต่ในห้องได้แบบ 24 ชั่วโมง โดยไม่เบื่อ อีกทั้งในเรื่องของสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทางโครงการได้มอบให้กับผู้พักอาศัย ที่ได้ทำการปรับเปลี่ยนเพื่อรองรับการใช้ชีวิตแบบ New Normal ไม่ว่าจะเป็น การเพิ่มพื้นที่ส่วนตัว สำหรับนั่งทำงานนอกสถานที่ในสวนริมหาด, ระบบการรักษาความปลอดภัยแบบไร้การสัมผัส, CCTV ที่สามารถสแกนอุณหภูมิร่างกายได้ และผู้พักอาศัยภายในโครงการยังได้รับสิทธิพิเศษระดับโลก ผ่านการเป็นสมาชิก IHG Spire Elite membership และสิทธิพิเศษครอบคลุมไลฟ์สไตล์ทุกด้านจาก พราว พริวิเลจ อีกด้วย