จากกรณีของแอชตัน อโศก ที่กลายเป็น TALK OF THE TOWN ของวงการอสังหาฯ ไปเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ที่หลายคนต้องออกมาติดแฮชแท็ก #SaveAshtonAsoke เพื่อรับรู้ถึงความเคลื่อนไหวในเรื่องราวของโครงการคอนโดมิเนียมภายใต้การบริหารงานของ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ที่ถูกคำพิพากษาศาลปกครองกลาง เพิกถอนใบอนุญาตก่อสร้าง โดยโครงการแอซตัน อโศก (Ashton Asoke) เป็นโครงการห้องชุดพักอาศัย High Rise สูง 50 ชั้น ตั้งอยู่บนถนนอโศกมนตรี แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร มีจำนวนห้องชุดทั้งสิ้น 783 ยูนิต ซึ่งมูลค่าโครงการรวมทั้งสิ้นมากกว่า 6,700 ล้านบาท ปัจจุบันนี้ ลูกบ้านโครงการแอชตัน อโศกจำนวนมากกว่า 600 ครอบครัวและสมาชิกมากกว่า 1,000 คนซึ่งมีทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศที่มาจาก 20 ประเทศจากทั่วทุกมุมโลกได้เข้าทำการพักอาศัยในห้องชุดโครงการดังกล่าว

เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2564 ศาลปกครองกลางได้มีคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำที่ ส. 53/2559 คดีหมายเลขแดงที่ ส. 19/2564 ให้เพิกถอนใบรับหนังสือแจ้งความประสงค์จะก่อสร้าง ดัดแปลง รื้อถอน หรือเคลื่อนย้ายอาคาร หรือเปลี่ยนการใช้อาคารโดยไม่ยื่นคำขอรับใบอนุญาต ตามมาตรา 39 ทวิ และมาตรา 39 ตรี แห่ง พ.ร.บ. ควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 ที่ออกให้แก่บริษัท อนันดา เอ็มเอฟ เอเชีย อโศก จำกัดโดยให้มีผลย้อนหลังถึงวันที่ออกหนังสือแจ้งความประสงค์ดังกล่าวทุกฉบับ

ร้อนถึงลูกบ้านภายในโครงการที่มีการโอนเข้าอยู่ไปแล้วถึง 85% ที่ยังหาคำตอบไม่ได้ว่าจะทำยังไงต่อไปดี เพราะอาศัยอยู่ที่คอนโดนี้มาได้กว่า 2 ปีแล้ว และเมื่อมารู้ข่าวว่าคอนโดถูกเพิกถอนใบอนุญาตการก่อสร้างก็ยังไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร เนื่องจากตนได้ทำการซื้อห้องมาอย่างถูกต้องถามกฎหมาย โดยส่วนใหญ่เป็นการกู้ซื้อผ่านธนาคาร และในวันที่ไปโอนกรรมสิทธิ์ ทางกรมที่ดินก็เป็นผู้ออกโฉนดห้องให้ ทำตามกระบวนการถูกต้องทุกอย่าง โดยก่อนที่จะทำการซื้อ ลูกบ้านได้มีการเช็คข้อมูลต่างๆ ของโครงการว่าเป็นอย่างไร และทางด้านอนันดาฯ ก็ได้ออกมาชี้แจงว่าการก่อสร้างผ่านขั้นตอนตามกฎหมายอย่างถูกต้องทั้งหมด ไม่ว่าเป็น การผ่านอนุมัติจาก 8 หน่วยงาน ได้ใบอนุญาต 9 ฉบับ ขอความเห็นก่อนการดำเนินงาน 7 หน่วยงาน ผ่านคณะกรรมการ 5 คณะกรรมการ แล้วโครงการก็ผ่านขั้นตอนการขอ EIA เรียบร้อย

แต่ก็ถูกศาลปกครองกลางตัดสินย้อนหลังว่าโครงการที่มีลูกบ้านเข้าอยู่มากว่า 2 ปี ถูกเพิกถอนใบอนุญาตในการก่อสร้าง! และคนที่ได้รับผลกระทบทั้งในด้านของจิตใจ ความมั่นคงในชีวิต และการเงิน ในตอนนี้ก็คงจะเป็นลูกบ้านที่เสียเงินซื้อห้องจนย้ายเข้าไปอยู่ในโครงการแล้ว ซึ่งลูกบ้านไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแต่กลับได้รับผลกระทบมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของ การโดนธนาคารปฏิเสธการรีไฟแนนซ์ เนื่องจากคอนโดถูกระงับใบอนุญาตก่อสร้าง, ในเรื่องของความมั่นคงที่ไม่สามารถโอนต่อไปยังบุคคลในครอบครัวได้, กระทบต่อการเงิน เพราะไม่สามารถขายห้องเพื่อนำเงินส่วนนี้มารักษาสภาพคล่องของรายได้ตนเองได้ และไม่สามารถทำนิติกรรมต่างๆ กับห้องที่ซื้อในโครงการนี้ได้เลย และที่สำคัญอีกหนึ่งอย่างก็คือ กลุ่มลูกบ้านชาวต่างชาติที่ทำงานในไทยและซื้อห้องของแอชตัน อโศก เมื่อโครงการประสบกับปัญหานี้อยู่ ก็มีความกังวลว่าตึกจะถูกทุบทิ้งหรือไม่ เสี่ยงสูญเงินที่จ่ายค่าห้องไป โดยยังไม่มีใครให้คำตอบเกี่ยวกับปัญหานี้ได้เลย

โดยปัญหาที่เกิดขึ้นนี้จะสะท้อนไปที่ความเชื่อมั่นของตลาดอสังหาฯ ในไทย ความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อทางภาครัฐ และทางลูกบ้านของแอชตัน อโศก กังวลมากที่สุดคือ การผ่อนแบงค์ต่อไปในอนาคตจะสูญเปล่าหรือไม่ ค่าส่วนกลางที่ทางโครงการได้ทำการเก็บไปก่อนหน้านี้จะเพียงพอต่อการแก้ไขปัญหานี้ไหม เพราะที่ผ่านมาลูกบ้านไม่ได้รับทราบถึงข้อมูลใดๆ จากทางโครงการเลยจนมีข่าวออกมา ลูกบ้านจึงตัดสินใจว่าจ้างที่ปรึกษาทางด้านกฎหมายที่จะเป็นตัวแทนเพื่อเข้าไปฟังปัญหาและเป็นปากเสียงลูกบ้านทั้งหมด

สุดท้ายลูกบ้านแอชตัน อโศก ที่ได้รับผลกระทบ จึงใคร่ขอเรียกร้องให้บุคคลที่เกี่ยวข้องและหน่วยงานราชการดำเนินการแก้ไขเยียวยาดังต่อไปนี้

1. ขอให้ทางผู้พัฒนาโครงการและสถาบันการเงินให้ความช่วยเหลือในการพิจารณาคำขอรีไฟแนนซ์ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของสถาบันการเงินโดยเร่งด่วน

2. ขอให้หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องกับการอนุญาตก่อสร้างหรือตามกฎหมายควบคุมอาคารพิจารณาแก้ไขปัญหาและอุปสรรคอันสืบเนื่องมาจากการบังคับใช้กฎหมายควบคุมอาคารที่ไม่สอดคล้องสภาพเศรษฐกิจและสังคมที่เปลี่ยนแปลงไปในปัจจุบัน โดยให้เสนอมีการแก้ไขกฎกระทรวงที่เกี่ยวข้องให้สอดคล้องกับการพัฒนาตามความเจริญของชุมชนเมืองให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อป้องกันมิให้โครงการห้องชุดพักอาศัยที่อยู่ในแนวรถไฟฟ้าใต้ดินกว่า 100 โครงการที่มีความสูงตั้งแต่ 8 ชั้นขึ้นไปได้รับผลกระทบเช่นเดียวกันกับโครงการของเรา

3. ขอให้คณะกรรมาธิการคุ้มครองผู้บริโภคและคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชนในสภาผู้แทนราษฎรทำการพิจารณาศึกษาปัญหาและอุปสรรคอันสืบเนื่องมาจากการบังคับใช้กฎหมายควบคุมอาคารที่ไม่สอดคล้องสภาพเศรษฐกิจและสังคมที่เปลี่ยนแปลงไปในปัจจุบัน และเสนอแนวทางเยียวยาแก่กลุ่มลูกบ้านชาวแอซตันอโศกที่ได้รับผลกระทบ

คำแถลงการณ์ของลูกบ้านที่อยู่ในแอซตัน อโศก ขอขอบพระคุณสื่อมวลชนทุกท่านที่ได้ให้ความสนใจการรับฟังคำแถลงการณ์ของพวกเราในวันนี้ ซึ่งพวกเราจะติดตามเหตุการณ์ที่พัฒนาต่อไปอย่างใกล้ชิดและจะดำเนินการเพื่อปกป้องสิทธิเรียกร้องของพวกเราที่มีตามกฎหมายต่อไป