เอโทล บาหลี บีช มอเตอร์เวย์–ลาดกระบัง บ้านใหญ่กว่าก็มอบความสุขได้มากกว่า พบแบบบ้านซีรีส์ใหม่ที่เติมเต็มความสุขได้มากกว่าเดิม
หนึ่งในปัจจัยหลักที่ส่งผลให้ผู้คนจำนวนมากตัดสินใจเลือกซื้อโครงการแนวราบทั้งบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮม แทนที่จะเป็นคอนโดใจกลางเมือง ก็คือเรื่องของขนาดพื้นที่ใช้สอย และพื้นที่ดิน ที่ตอบรับกับความต้องการในการอยู่อาศัย โดยเฉพาะความต้องการในการอยู่อาศัยแบบครอบครัวอยู่อาศัยกันหลายๆคน ไม่ว่าจะเป็นความต้องการมีพื้นที่สวนข้างบ้าน มีพื้นที่จอดรถที่เพียงพอ และมีราคาขายที่ค่อนข้างคุ้มค่ากว่าหากเทียบกับพื้นที่ที่ได้รับ โดยเฉพาะโครงการบ้านที่พัฒนาขึ้นบนทำเลเมืองส่วนต่อขยาย หรือบริเวณชานเมืองของกรุงเทพมหานคร ฝั่งตะวันออกต่อเนื่องไปจังหวัดสมุทรปราการ อย่างในบริเวณลาดกระบัง – หลวงแพ่ง ซึ่งนับว่าเป็นทำเลที่ได้เปรียบในเรื่องความใกล้ศูนย์กลางคมนาคมและแหล่งงานอย่างในย่านสุวรรณภูมิ นอกจากนี้ยังมีแหล่งอำนวยความสะดวก แหล่งช้อปปิ้งอย่างครบครัน จึงไม่เป็นเรื่องแปลกที่พื้นที่ในย่านนี้จะมีโครงการบ้านจัดสรรเข้าพัฒนาอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งบ้านจัดสรรที่จะพบในย่านนี้ส่วนใหญ่จะเป็นโครงการที่มีราคาขายที่ค่อนข้างสูง คือมากกว่า 6 ล้านบาท*เป็นต้นไป
แต่โครงการที่เราจะแนะนำในบทความนี้ เป็นโครงการที่มอบองค์ประกอบที่สำคัญต่อการใช้ชีวิตของครอบครัว ในย่านลาดกระบัง – หลวงแพ่ง ด้วย 3 ไฮไลต์องค์ประกอบสำคัญ คือ 1) การดีไซน์พื้นที่ที่กว้างกว่าเดิม 2) ทำเลใจกลางแหล่งชุมชน ตั้งอยู่ติดถนนใหญ่ที่รายล้อมไปด้วยแหล่งไลฟ์สไตล์ชั้นนำ และ 3) มีความสะดวกสบายในการเดินทาง ให้คุณสามารถเดินทางไปยังแหล่งงานสำคัญของย่านนี้ได้สะดวก ทำให้คุณมีเวลาเหลือไปใช้เวลาคุณภาพกับครอบครัวได้ในทุกวัน โดยมาพร้อมกับราคาเริ่มต้นเพียงแค่ 2.39 – 6 ลบ.เท่านั้น กับ โครงการ เอโทล บาหลี บีช มอเตอร์เวย์ – ลาดกระบัง จากบริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)
สำหรับบริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นผู้นำในการพัฒนาที่อยู่อาศัยทั้งแนวสูง อย่างคอนโดมิเนียมใกล้รถไฟฟ้า จนหลายๆคนอาจจะนึกว่าอนันดาทำแต่คอนโดมิเนียมรึเปล่า แต่จริงๆแล้วอนันดา ก็มีการพัฒนาบ้านแนวราบบนทำเลต่างๆในพื้นที่กรุงเทพมหานครหลายโครงการ ไม่ว่าจะเป็นโครงการในรูปแบบบ้านเดี่ยวหรือทาวน์โฮม ซึ่งจะมีจุดเด่นในเรื่องของการออกแบบและการดีไซน์ ที่เน้นตอบโจทย์การใช้งานของคนรุ่นใหม่ได้จริง เช่นเดียวกับมีความทันสมัยสะท้อนความเป็นเอกลักษณ์ของเจ้าของ
โดยในปัจจุบันจะมีอยู่ 6 แบรนด์หลัก คือ ARTALE, AIRI, ATOLL, URBANIO MEZZ, UNIO TOWN และ ANDA เป็นต้นโดยอย่างแบรนด์ ARTALE ก็จะมีแนวคิด Penthouse one ground หรือวิลล่าสุดหรูที่สะท้อนสุทรียภาพของผู้ครอบครอง หรือแบรนด์ AIRI ที่เป็นบ้านแสนเรียบง่าย แต่มีรายละเอียดที่ไม่ธรรมดา โดยปัจจุบันแบรนด์ AIRI ได้มีการอัพเกรดรูปแบบการพัฒนาโครงการให้ไปสู่อีกระดับ เพื่อให้สอดรับกับเทรนด์การใช้ชีวิตของกลุ่มเป้าหมายในปัจจุบัน ทั้งในด้านของงานดีไซน์ ภายใน ภายนอก บนคอนเซปต์ My Place, My Attitude ที่ให้ความหมายว่า “บ้านเพื่อทุกความเป็นตัวเอง” ที่จะให้คุณได้เลือกที่อยู่อาศัยที่เหมาะและตรงใจของคุณมากที่สุด
และแบรนด์ ATOLL ที่ถ่ายทอดเรื่องราวของบุคคลชาญฉลาดและรักความก้าวหน้าในชีวิต…เริ่มต้นบทใหม่กับการสร้างชีวิตครอบครัวที่ดี ซึ่งแบรนด์ ATOLL จะเป็นแบรนด์ที่เน้นการพัฒนาโครงการในย่านส่วนต่อขยายของเมือง โดยในปัจจุบันจะมีการพัฒนาโครงการอยู่ 2 แห่ง 2 ทำเล คือ เอโทล วงแหวนฯ-ลำลูกกา และ เอโทล บาหลี บีช มอเตอร์เวย์–ลาดกระบัง
โดยโครงการเอโทล บาหลี บีช มอเตอร์เวย์ – ลาดกระบัง ที่จะแนะนำในวันนี้ก็เป็นโครงการที่สะท้อนถึงการเริ่มต้นบทใหม่กับการสร้างชีวิตครอบครัว ในราคาขายที่เป็นเจ้าของได้ง่าย โดยมีการพัฒนาผ่าน 3 คอนเซปท์สำคัญ ที่ถูกค้นพบมาจากความต้องการของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายในย่านนี้ ได้แก่
คอนเซปท์แรก EVERYDAY IS A HAPPY DAY
ทำเลลาดกระบัง – หลวงแพ่ง เป็นทำเลส่วนต่อขยาย ฝั่งตะวันออกของกรุงเทพมหานครที่ในปัจจุบันมีการเติบโตขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในส่วนของแหล่งงาน ส่งผลทำให้เกิดการพัฒนาที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก ซึ่งที่ตั้งของโครงการ เอโทล บาหลี บีช จะตั้งอยู่ติดกับถนนหลวงแพ่ง สามารถเดินทางเชื่อมต่อไปยังถนนเส้นอื่นๆได้สะดวก พร้อมทั้งยังใกล้กับเส้นมอเตอร์เวย์ กรุงเทพ-ชลบุรี (สายใหม่) ง่ายต่อการเดินทางไปภาคตะวันออก และที่สำคัญใครที่ต้องเดินทางด้วยเครื่องบินบ่อยๆก็ยิ่งสะดวก เพราะตัวโครงการยังห่างจากสนามบินสุวรรณภูมิเพียง 25 นาทีเท่านั้น
นอกจากนี้รอบโครงการยังมีแหล่งจับจ่ายใช้สอย และสถานที่แฮงค์เอ้าท์มากมาย ทั้งห้างสรรพสินค้า เช่น Siam Premium outlet , โรบินสัน ลาดกระบัง, โลตัสหลวงแพ่งลาดกระบัง, เมกาบางนา, พาซิโอ มอลล์ ลาดกระบัง จนไปถึง Central Village และ King Power ศรีวารี
ในส่วนสถานศึกษา โรงเรียน มหาวิทยาลัย ก็มีหลายแห่ง เช่น รร.สารสาสน์ร่มเกล้า, รร.เทพศิรินทร์ร่มเกล้า และมหาวิทยาลัยเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ในส่วนโรงพยาบาลชั้นนำ เช่น รพ.ลาดกระบัง และรพ.จุฬารัตน์ เป็นต้น ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการเป็นทำเลที่มีศักยภาพมีสิ่งอำนวยความสะดวกรองรับครบครัน
สำหรับในอนาคตตัวโครงการยังสามารถเชื่อมต่อกับโครงการ Mega Project หลายๆแห่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในย่านนี้ได้ เช่น โครงการ Bangkok mall ศูนย์การค้าแห่งใหม่บนที่ดินกว่า 100ไร่ หรือ MEGA City แนวคิดเมืองใหม่ บนที่ดินกว่า 400 ไร่ และแผนการพัฒนาศักยภาพขยายขีดความสามารถสนามบินสุวรรณภูมิในระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2568-2573) เป็นต้น ทำให้สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตในย่านนี้ได้เป็นอย่างดี ตามคอนเซปท์ ‘EVERYDAY IS A HAPPY DAY’
คอนเซปท์ที่สอง BIG PLACE BIG HAPPINESS
ทางโครงการได้มีการปรับฟังก์ชันแบบบ้านใหม่ให้มีพื้นที่ใหญ่ขึ้น มอบพื้นที่ใช้สอยมากกว่าเดิม โดยเฉพาะรูปแบบบ้านเดี่ยวที่จะมีพื้นที่รอบบ้านให้สามารถทำสวนปลูกต้นไม้ได้ หากใครเลี้ยงสัตว์ ก็ยังมีพื้นที่ให้สัตว์เลี้ยงออกมาวิ่งเล่นได้สบายๆ แม้กระทั่งอยากจะต่อเติมเป็นห้องเก็บของ หรือส่วน Glass House ไว้ทำสารพัดกิจกรรมตามใจชอบก็ทำได้
นอกจากนี้ในส่วนของสไตล์บ้านมีการออกแบบที่ทันสมัยตอบเทรนด์มากยิ่งขึ้น โดยมีตัวเลือกทั้งแบบบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮม อาทิ
บ้านเดี่ยวแบบ JAVA
มาเริ่มต้นดูกันที่แบบแรก บ้านเดี่ยวที่มีชื่อว่า ‘JAVA’ บ้านหลังนี้มีพื้นที่ใช้สอยอยู่ที่ 165 ตารางเมตร เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่มีการปรับพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านให้ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม มีความคุ้มค่ามากขึ้น โดยฟังก์ชันแบ่งออกเป็น 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ห้องนั่งเล่น 2 ที่จอดรถ และเนื้อที่ดินเริ่มต้น 55 ตร.ว. โดยแบบบ้านซีรีส์ใหม่นี้จะมาในสไตล์โมเดิร์น มาพร้อมช่องแสงขนาดใหญ่ ทำให้สามารถรับแสงธรรมชาติ และอากาศหมุนเวียนได้เต็มๆรอบทิศทาง
พื้นที่ชั้น 1 จะมีฟังก์ชันการใช้งานหลักอยู่ 4-5 ฟังก์ชัน เมื่อเข้ามาในบ้านก็จะมีพื้นที่ห้องรับแขก (Living Room) ที่จะเชื่อมต่อกับพื้นที่โต๊ะกินข้าว และพื้นที่ต่อเนื่องกันบริเวณด้านข้างก็สามารถต่อเติมเป็นพื้นที่ห้องครัวได้ โดยจะวางตำแหน่งติดอยู่กับพื้นที่ซักล้าง ในส่วนพื้นที่ด้านหลังสุดของบ้านจะเป็นตำแหน่งของห้องนอนที่สามารถใช้รองรับเป็นห้องนอนผู้สูงอายุได้ ถ้าบ้านใครไม่ได้มีผู้สูงอายุห้องนี้ก็สามารถปรับเปลี่ยนเป็นห้องอเนกประสงค์ใช้งานรูปแบบอื่นๆได้
พื้นที่ชั้น 2 จะเป็นส่วนของพื้นที่พักอาศัยทั้งหมดโดยจะมีห้องนอนทั้งหมด 3 ห้อง โดยในแบบบ้านซีรีส์ใหม่นี้มีการขยายขนาดของห้อง Master Bedroom บริเวณส่วนหน้าบ้านให้ใหญ่มากยิ่งขึ้นด้วย ทำให้สามารถวางเตียงขนาดใหญ่ได้ มีพื้นที่ Walk-In Closet วางติดอยู่กับห้องน้ำ และมีพื้นที่ระเบียงส่วนตัวภายในห้อง สามารถออกไปนั่งพักผ่อนชิลๆได้ รับแสงและวิวได้ถึง 2 ฝั่ง ส่วนตำแหน่งห้องนอน 2 และห้องนอน 3 จะมีตำแหน่งอยู่ฝั่งหลังบ้านมีขนาดเล็กลงมาจากห้องนอนแรก แต่ก็ยังมีพื้นที่เพียงพอวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้