ตัวอย่างองค์ประกอบที่น่าสนใจใน เดอะ ฟอเรสเทียส์ ที่ส่งเสริมการใช้ชีวิตที่มีสุขภาพที่ดียิ่งขึ้น และมีความสุขมากขึ้น อาทิ
– การออกแบบ และผสมผสานโครงการที่อยู่อาศัยหลากหลายรูปแบบที่ส่งเสริมให้สมาชิกในครอบครัวจากหลากหลายเจเนอเรชั่นได้กลับมาอยู่ใกล้ชิดกัน ซึ่งสอดรับกับผลการวิจัยที่ระบุชัดเจนว่า หนึ่งในปัจจัยของความสุขของคนเรา คือการได้อยู่ใกล้ชิดกับครอบครัวและคนที่เรารัก – ภายในโครงการ เดอะ ฟอเรสเทียส์ ประกอบไปด้วยโครงการที่พักอาศัยทั้งบ้านและคอนโดมิเนียมหลากหลายรูปแบบ ตอบโจทย์ความต้องการของคนแต่ละช่วงวัยโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นวัยเริ่มต้นทำงาน คู่สมรสใหม่ วัยสร้างครอบครัว หรือพ่อแม่สูงวัย โดยแต่ละช่วงวัยสามารถใช้ชีวิตของตัวเองได้อย่างมีอิสระและมีพื้นที่ส่วนตัว แต่ในขณะเดียวกัน พื้นที่ต่างๆ หรือโครงการต่างๆ ของคนทุกช่วงวัย จะสามารถเชื่อมโยงถึงกันได้อย่างกลมกลืนและปลอดภัย
– พื้นที่สำหรับการอยู่อาศัยซึ่งถูกออกแบบขึ้นมาโดยเฉพาะที่ส่งเสริมให้สมาชิกในครอบครัวจากทุกเจเนอเรชั่นไม่ว่าจะเป็นลูกหลาน พ่อแม่ ปู่ย่าตายาย สามารถใกล้ชิด ดูแลซึ่งกันและกันได้เป็นอย่างดี สอดคล้องกับความสุขที่แท้จริงอย่างหนึ่งของชีวิต คือการได้อยู่ใกล้ชิด ดูแล และส่งต่อความรักจากรุ่นสู่รุ่น เพราะในโครงการ เดอะ ฟอเรสเทียส์ นอกจากจะมีพื้นที่สำหรับคนทุกช่วงวัยแล้ว ยังมีพื้นที่เฉพาะซึ่งผู้สูงวัยจะสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปลอดภัยและสะดวกสบายยิ่งกว่าที่เคย รวมทั้งมีสิ่งอำนวยความสะดวกเฉพาะทางสำหรับกิจกรรมต่างๆ ในแต่ละวัน คลับเฮาส์ และผู้ดูแลที่ผ่านการฝึกอบรมมาเป็นอย่างดี ถือเป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบสำคัญในโครงการ เดอะ ฟอเรสเทียส์ ที่ไม่เคยมีในโครงการอสังหาริมทรัพย์แห่งไหนในประเทศไทยมาก่อน
– ผืนป่าขนาดใหญ่ พื้นที่ 30 ไร่ ที่เริ่มปลูกตั้งแต่เป็นเมล็ดและต้นกล้า จะสร้างความความอุดมสมบูรณ์ให้แก่ระบบนิเวศน์ และมีวิวัฒนาการตามธรรมชาติต่อไปได้อีกเรื่อยๆ เป็นการนำธรรมชาติกลับคืนสู่ชุมชนและพื้นที่ที่เป็นเมืองอย่างแท้จริง ตอบโจทย์ความเชื่อที่ว่า การได้อยู่ใกล้ชิดกับความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ เป็นปัจจัยที่ทำให้คนเรารู้สึกสบาย ผ่อนคลาย และมีความสุข – ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในโลกที่ผืนป่าขนาดใหญ่เช่นนี้ถูกนำมาหลอมรวมเป็นส่วนหนึ่งของโครงการเมือง
– ทางเดินยกระดับความยาวกว่า 6 กิโลเมตร ซึ่งรวมทางเดินที่เชื่อมโยงไปยังพื้นที่ต่างๆ และองค์ประกอบหลายๆ ส่วนในโครงการ และทางเดินที่ทอดตัวอยู่เหนือผืนป่าซึ่งอยู่บริเวณใจกลางโครงการ มอบเป็นเส้นทางเดินเท้าท่ามกลางธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ส่งเสริมการออกกำลังกาย และการได้อยู่ใกล้ชิดกับธรรมชาติ
– ทางเดินเท้า กว้าง 2 เมตร และ 3 เมตร ที่ออกแบบจัดวางผังอย่างละเอียดรอบคอบ โดยคำนึงถึงความสะดวกสบายและความปลอดภัยขั้นสูงสุดของผู้ใช้ทางเดินเท้าทุกวัย และทุกความต้องการ โดยทางเดินเท้าถูกออกแบบให้มีความกว้างที่เหมาะสมสำหรับกิจกรรมประเภทต่างๆ ไม่ว่าจะเดิน วิ่ง หรือปั่นจักรยาน โดยได้จัดสรรเส้นทางและการใช้งานให้มีความลงตัวและหลีกเลี่ยงการรบกวนซึ่งกันและกัน โดยตลอดเส้นทางจะปกคลุมไปด้วยร่มเงาของพืชพรรณตามธรรมชาติ นอกจากนั้นในช่วงที่เป็นทางม้าลาย ถนนจะถูกยกระดับขึ้นมาให้เป็นระนาบเดียวกันกับทางเท้า เพื่อให้การเดินข้ามเป็นไปอย่างสะดวกสบายสำหรับคนทุกวัย รวมถึงผู้ที่ต้องใช้รถเข็นเด็กและวีลแชร์ ในขณะเดียวกัน จะเป็นการช่วยให้รถจำเป็นต้องชะลอความเร็วไปในตัว เพิ่มความปลอดภัยให้กับทั้งผู้ใช้รถและผู้เดินเท้า
– โรงผลิตพลังงานสำหรับสาธารณูปโภคส่วนกลาง (Central Utility Plant: CUP) ซึ่งเป็นที่มาของตัวอย่างหนึ่งที่ว่า แม้เกิดไฟฟ้าดับในกรุงเทพฯ แต่ที่พักอาศัยต่างๆ ภายในโครงการ เดอะฟอเรสเทียส์ จะยังได้รับความเย็นจากเครื่องปรับอากาศ – โดย CUP เป็นแนวคิดหนึ่งในการสร้างเมืองอัจฉริยะ และเป็นวีธีการหนึ่งของการลดการใช้พลังงานและการรักษาสิ่งแวดล้อมให้แก่โครงการเมือง โดยจะทำหน้าที่ศูนย์กลางของโครงข่ายระบบน้ำเย็นที่จะกระจายไปสร้างความเย็นทั่วทั้งโครงการ ซึ่งจะช่วยลดการใช้พลังงานและทำให้การใช้พลังงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
– ระบบบริหารจัดการแสงสว่างภายในโครงการ ให้มีแสงสว่างเพียงพอต่อความสะดวกสบาย ความปลอดภัย แต่ก็ยังคงมีความสบายตา และลดแสงไฟส่วนเกินที่ไม่จำเป็นให้มีปริมาณน้อยที่สุด เพื่อไม่ให้รบกวนแสงธรรมชาติหรือเบียดเบียนระบบนิเวศน์และสิ่งมีชีวิตในธรรมชาติ อีกทั้งจะไม่ส่งผลกระทบต่อทัศนียภาพอันงดงามของท้องฟ้าในยามค่ำคืน
– ระบบการป้องกันน้ำท่วม ประกอบด้วยพื้นที่กักเก็บน้ำทิ้งขนาดใหญ่ ซึ่งสามารถรองรับน้ำได้มากกว่า 10 ล้านลิตร และสามารถป้องกันไม่ให้โครงการเกิดน้ำท่วมแม้ต้องเผชิญกับพายุฝนครั้งใหญ่ก็ตาม โดย เดอะ ฟอเรสเทียส์ ได้ทุ่มงบประมาณก้อนใหญ่กับการสร้างพื้นที่กักเก็บน้ำเหล่านี้ แทนที่จะปล่อยให้น้ำฝนไหลออกจากโครงการและระบายออกไปในพื้นที่อื่น สร้างประโยชน์ให้ทั้งกับโครงการเอง และช่วยเหลือเกื้อกูลเพื่อนบ้านที่อยู่ในชุมชนโดยรอบ
– ระบบพลังงานที่ล้ำสมัย ซึ่งจะช่วยให้ผู้อยู่อาศัยและผู้มาทำกิจกรรมต่างๆ ใน เดอะ ฟอเรสเทียส์ สามารถช่วยกันลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้เป็นปริมาณมหาศาล ซึ่งปริมาณการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกโดยเทียบเป็นการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ถึง 30,000 ตันต่อปี เทียบเท่ากับปริมาณที่พื้นที่ปลูกต้นไม้ขนาด 30,000 ไร่ โดยจะดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ ส่งผลดีต่อสภาพอากาศในโครงการ และยังสะท้อนให้เห็นถึงความเป็นโครงการที่แสดงความเป็นมิตรต่อโลกใบนี้

โครงการ เดอะ ฟอเรสเทียส์ โดย บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC) คือโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย มูลค่า 125,000 ล้านบาท ตั้งอยู่บนที่ดินขนาด 398 ไร่ บนถนนบางนา-ตราด กม. 7 ประกอบด้วยโครงการที่พักอาศัยหลากหลายรูปแบบ อาทิ คอนโดมิเนียมแบรนด์ ‘วิสซ์ดอม’ คอนโดมิเนียมแบรนด์ ‘มัลเบอร์รี โกรฟ’ ที่อยู่อาศัยแบรนด์ ‘มัลเบอร์รี โกรฟ วิลล่า’ ที่อยู่อาศัยแบรนด์ ‘ดิ แอสเพน ทรี’ ที่อยู่อาศัยแบรนด์ ‘ซิกส์เซนส์’ และโรงแรมแบรนด์ ‘ซิกส์เซนส์’ นอกจากนี้ ยังมีศูนย์การแพทย์และสุขภาพขนาดใหญ่ที่ครบครันไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกและเครื่องมือที่ทันสมัยที่สุด พื้นที่เชิงธุรกิจสำหรับสำนักงาน สปอร์ตคอมเพล็กซ์ กิจกรรมไลฟ์สไตล์ต่างๆ ร้านค้าปลีก ร้านอาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงพื้นที่ Family Center สำหรับกิจกรรมสร้างสรรค์ของครอบครัว และพื้นที่ Town Center สำหรับกิจกรรมชุมชนและกิจกรรมทางวัฒนธรรมต่างๆ โรงละคร อีเว้นต์ฮอลล์ ตลาด

ผู้สนใจ สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.mqdc.com/th/our-business/theme-project/theforestias