แม้ว่าการลงทุนในที่ดินเสมือนหรือ Land ใน Metaverse เราอาจไม่ได้ที่ดินที่สามารถจับตองและอยู่อาศัยได้จริงเหมือนกับการซื้อที่ดินจริงๆ แต่เราสามารถที่จะใช้หลักการเดียวกับการตัดสินใจเลือกลงทุนในอสังหาริมทรัพย์มาปรับใช้กับการลงทุนซื้อที่ดินใน Metaverse ได้เช่นกัน โดยจะมีหลักการพิจารณาหลักๆอยู่ด้วยกัน 3 ข้อดังนี้

เลือกแพลตฟอร์มที่มีศักยภาพ

จุดเริ่มต้นของการเลือกลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ก็คือการเลือกประเทศเจ้าของที่ดินหรือท้องที่ในภาพใหญ่ก่อนถึงจะเลือกลงทุนในแปลงที่ดิน ถ้าหากเลือกลงทุนในประเทศที่มีแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ดี มีจำนวนประชากรอาศัยจำนวนมาก ทรัพยากรธรรมชาติที่ดีและมีสภาพแวดล้อมที่ดีอย่างเช่นมีพื้นที่ติดทะเล โอกาสที่มูลค่าของการลงทุนจะเพิ่มสูงขึ้นก็ย่อมมีมากกว่าประเทศที่ไม่มีผู้คนอยู่อาศัยและไม่มีจุดขายใดๆ

การเลือกลงทุนใน Land ของ Metaverse ก็เช่นกัน สิ่งสำคัญคือจะต้องเลือกแพลตฟอร์มหรือโปรเจกต์ที่มีศักยภาพเพื่อเพิ่มโอกาสที่จะทำให้มูลค่าของ Land นั้นๆเพิ่มขึ้นในอนาคต โดยหลักการคัดเลือกแพลตฟอร์ม Metaverse ที่มีศักยภาพมีหลักเกณฑ์ดังนี้

ข้อแรก..มีความมั่นคงสูง โดยดูได้จากผู้ถือหุ้นหรือนักลงทุนที่อยู่เบื้องหลังโปรเจกต์นั้นๆว่ามีความมั่นคงเพียงใดเช่น มีนักลงทุนสถาบัน กองทุนวีซี ถือหุ้นหรือไม่รวมถึงประสบการณ์ของนักพัฒนาว่าก่อตั้งมานานเพียงใด รวมถึงการมีแบรนด์ดังและบุคคลมีชื่อเสียงคอยสนับสนุนหรือไม่

ข้อสอง..มีจุดเด่นในตัวเอง อย่างเช่นการออกแบบดีไซน์โลกเสมือนที่โดดเด่น การวางโพสิชั่นการตลาดที่ชัดเจนเช่น เปิดเป็นพื้นที่สำหรับการจัดอีเว้นท์ออนไลน์ หรือจะมุ่งเน้นไปที่กลุ่มของนักเล่นเกมส์

แพลตฟอร์ม Metaverse ในปัจจุบันที่มีความมั่นคงสูงและมีจุดเด่นในตัวเองหลักๆคือ The Sandbox ที่มีกองทุน Vision Fund ของ Softbank เป็นผู้ลงทุนและ Decentraland ที่มีแบรนด์ดังๆอย่าง Samsung JPMorgan ฯลฯ เข้าไปทำการตลาดภายใน

Facility ที่แพลตฟอร์มนั้นๆมีให้

นอกเหนือจากศักยภาพของทรัพยากรต่างๆที่แต่ละประเทศหรือท้องที่มีอยู่ อีกหนึ่งประเด็นที่ต้องให้ความสำคัญคือสิ่งอำนวยความสะดวกหรือ Facility ต่างๆที่มีให้กับผู้ที่ถือครอง Land สามารถนำมาใช้ให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจต่อได้ เหมือนกับการลงทุนซื้อห้องว่างในห้างสรรพสินค้าเพื่อเปิดร้านจะต้องพิจารณาว่าตัวห้างมี Facility อะไรให้กับผู้เป็นเจ้าของรวมถึงเพื่อดึงดูดให้มีผู้ใช้งานเข้ามา

ในแพลตฟอร์ม Metaverse เองก็มีความจำเป็นที่จะต้องพิจารณาเรื่องของ Facility ที่ให้กับผู้ซื้อ Land เช่นกัน โดยมี Check List ที่ต้องพิจารณาดังนี้

ระบบเศรษฐกิจภายในแพลตฟอร์มหรือ Tokenomic ไม่ว่าจะเป็นโทเคนหรือเหรียญประจำแพลตฟอร์ม (ตัวอย่างเช่น The Sandbox ที่มีเหรียญ SAND) ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นสกุลเงินที่ใช้ภายในแพลตฟอร์มว่ามี Use Case อะไรบ้างและเอื้อต่อการที่ผู้ซื้อที่ดินจะนำมาใช้ทำกิจกรรมต่างๆหรือไม่รวมถึงระบบการจัดการเหรียญมีความมั่นคงหรือไม่ เพราะถ้าไม่มีการนำเหรียญนั้นๆไปใช้งานต่อ ผู้ที่ได้มาก็จะมีแต่เล็งขายทำให้ราคาตและมูลค่าของ Land ก็จะลดลง

ฟีเจอร์ต่างๆที่สนับสนุนกิจกรรมภายในแพลตฟอร์ม อย่างเช่น NFT Marketplaces ที่เปิดให้สามารถซื้อขายไอเท็มต่างๆเพื่อนำไปต่อยอดให้ Land ของเรามีมูลค่าเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ตัวละคร Avatar ไอเท็มเพื่อใช้เล่นเกมส์ ฯลฯ ถ้าหากแพลตฟอร์ม Metaverse มีการจัดการที่ดีก็จะเป็นการจูงใจผู้เล่นให้เข้ามาใช้งานมากขึ้น

กิจกรรมการตลาดต่างๆเพื่อดึงดูดผู้ใช้งาน แพลตฟอร์ม Metaverse ก็เหมือนกับห้างสรรพสินค้าที่ต้องทำกิจกรรมการตลาดเพื่อดึงคนเข้าห้างไม่ว่าจะเป็นอีเว้นท์พิเศษต่างๆรวมถึงแคมเปญส่วนลดต่างๆ หากแพลตฟอร์มใดมีการจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่องก็จะสามารถดึงผู้ใช้งานเข้ามาได้มากขึ้น

ทำเล ทำเล และก็ทำเล

ถ้าหากเป็นการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์แล้ว สิ่งสำคัญที่สุดย่อมหนีไม่พ้นเรื่องของทำเลที่ตั้ง (Locations) โดยในโลก Metaverse ก็มีประเด็นเรื่องของทำเลเข้ามาเกี่ยวข้องเหมือนกัน โดยหลักการเดียวกับการเลือกซื้อที่ดินทั่วไปคือทำเลที่อยู่บริเวณใจกลางแพลตฟอร์มซึ่งมีโอกาสที่ผู้เล่นจะมองเห็นพื้นที่ของเราสูงกว่าทำเลอื่นๆก็จะมีราคาที่สูงกว่าทำเลที่อยู่ที่อยู่ส่วนนอก

แม้ว่าจะต้องจ่ายค่า Land ในราคาที่สูงแต่การที่ทำเลที่ตั้งมีศักยภาพก็มีโอกาสที่จะขาย Land ต่อในตลาดรองในราคาที่สูงขึ้นได้ โดยเฉพาะหากมีแบรนด์ขนาดใหญ่เข้ามาขอซื้อต่อเพื่อนำไปใช้ทำกิจกรรมภายในแพลตฟอร์ม

ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น

ไม่ว่าจะเป็นตลาดอสังหาริมทรัพย์จริงหรือใน Metavesre ต่างมีปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตามเช่นกัน โดยในโลกแห่งความจริงจะมีประเด็นเรื่องของภาวะเศรษฐกิจที่หากชะลอตัวลงก็อาจจะส่งผลต่อราคาอสังหาริมทรัพย์ที่ลดลง

หากเป็น Metaverse ก็จะต้องพิจารณาถึงภาวะตลาดคริปโตเคอร์เรซีซึ่งจะส่งผลมาถึงราคาเหรียญของแพลตฟอร์มที่มีการซื้อขายอยู่ในกระดาน Exchange ถ้าหากราคาเหรียญตกลงก็จะส่งผลต่อกำลังซื้อของผู้ใช้งานใน Metaverse รวมถึงราคา Land

นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงในเชิงเทคนิคเช่นการถูกแฮ็ค การถูกโจมตีทางไซเบอร์ซึ่งจะส่งผลต่อความเชื่อมั่นของผู้ใช้งานแพลตฟอร์มและมูลค่าของโปรเจกต์ไปด้วย

ทั้งนี้ทั้งนั้น Metaverse ยังอยู่ในช่วงแรกของการพัฒนาเท่านั้นและยังต้องใช้เวลาเพื่อให้เกิดการใช้งานในวงกว้างหรือ Mass Adoption การลงทุน Land ใน Metaverse จึงควรมองเป็นภาพในระยะยาวเท่านั้นและต้องทำใจรับกับความผันผวนของราคมที่สูงกว่าราคาที่ดินจริงค่อนข้างมาก แต่หากมั่นใจในการเติบโตของ Web3 ก็น่าจะพิจารณาเลือกลงทุน Land ในแพลตฟอร์มที่มีศักยภาพสูงไว้ได้เช่นกัน