PropStat Exclusive: ส่องตลาดตลาดคอนโดมิเนียมในชะอำ หัวหิน และปราณบุรี หลังจบ Q1/2019

wipawan khampuwiang 09 May, 2019 at 00.00 am

ประกาศที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา


ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าใครๆ ก็อยากมีบ้านพักตากอากาศที่อยู่ในเมืองท่องเที่ยวและถ้าหากอยู่ใกล้ทะเลก็คงจะดีไม่น้อย เพราะที่พักที่อยู่ติดกับทะเลมีผลต่อการพักผ่อนอย่างมีคุณภาพของคนกรุงเทพฯ เป็นอย่างมาก เอาไว้เวลาเบื่อๆ ที่อยากจะหนีจากความวุ่นวาย และปัญหามลพิษในกรุงเทพ แค่ขับรถเพียง 2-3 ชั่วโมง ก็ได้สูดอากาศบริสุทธิ์จากทะเลภูเขาก็สามารถชดเชยเวลาจากการทำงานมาเหนื่อยๆ ได้ ซึ่งทะเลใต้ก็มีความสวยงามเป็นอย่างมาก เป็นทั้งสวรรค์ของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่จะมาชมความงามของน้ำทะเลใสๆ หาดทรายสวยๆ และยังเป็นที่ชื่นชอบของคนไทยด้วยเช่นกัน อย่าง ภูเก็ต กระบี่ ก็จะมีนักท่องเที่ยวอยู่ตลอดไม่ว่าจะเป็นช่วง High Season หรือ Low Season ก็ตาม

 

ในขณะที่ทะเลที่อยู่ทางฝั่งภาคตะวันออกของไทยก็สวยงามไม่แพ้กันสะดวกคนละแบบกับทางภาคใต้ อย่าง ชลบุรี บางแสน พัทยา ทะเลที่นี่ในช่วงวันหยุดคนจะแน่นเป็นพิเศษเพราะทะเลในภาคตะวันออกนี้ใกล้กับกรุงเทพมากกว่าภาคใต้ ใช้เวลาขับรถเพียงไม่ 3- 4 ชั่วโมงก็ถึง ต่างกับภาคใต้ที่อาจใช้เวลาขับรถเป็นวันๆ จึงทำให้ฝั่งตะวันออกดูจะวุ่นวายกว่า อย่างพัทยาจมีชาวต่างชาติอย่างรัสเซีย จีน เยอะ ต่างกับฝั่งประจวบฯ หัวหินที่ส่วนใหญ่เป็นชาวยุโรป มาพักผ่อนจริงๆ ในระยะยาวช่วงหลังเกษียณจึงมีความเงียบสงบมากกว่า

 

หากใครที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศก็ลองมาที่ทะเลแถวประจวบฯดูบ้างว่าจะมีความแตกต่างจากพัทยา บางแสน ระยอง ขนาดไหน เพราะพื้นที่แถวชะอำ หัวหิน และปราณบุรีได้มีการพัฒนาขึ้นอย่างมาก มีที่พักให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะมาแบบคู่รัก กลุ่มเพื่อน หรือครอบครัวใหญ่ ก็สามารถหาที่พักที่ต้องกับความต้องการได้ อีกทั้งยังมีโรงแรมระดับห้าดาว, ศูนย์การค้า, Community mall, Outlet mall, ร้านอาหาร, สถานที่ท่องเที่ยวในท้องถิ่นเช่น วัด สถานีรถไฟ ตลาดพื้นเมือง รวมไปถึงสถานที่ท่องเที่ยวสมัยใหม่ในรูปแบบ Theme park ที่สร้างขึ้นมากมาย เพื่อเติมเต็มความต้องการของคนเมือง อย่างเช่น สวนน้ำวานา นาวา (Vana Nava) สวนน้ำขึ้นชื่อของหัวหินมีพื้นที่ใจกลางเมืองหัวหินถึง 20 ไร่ พร้อมเครื่องเล่นมาตรฐานระดับโลกทั้งหมด 20 รายการ รวมถึงที่พัก ร้านค้า ร้านอาหาร และบริการต่างๆ ภายในสวนน้ำที่คอยบริการให้กับลูกค้า

ภาพจาก : https://www.vananavahuahin.com/th/

Santorini Park Cha-Am สวนสนุกและแหล่งชอปปิ้งบนพื้นที่กว่า 60 ไร่ ได้แรงบันดาลใจจากเกาะซานโตรินี ประเทศกรีซ

Air Space Hua Hin คาเฟ่และร้านอาหารตั้งอยู่ที่เขาตะเกียบ ซึ่งการตกแต่งร้านก็ได้แรงบันดาลใจมากจากโรงเก็บเครื่องพร้อมของตกแต่งภายในร้านก็เกี่ยวกับการบินทั้งหมด ร้านมีเมนูคาวหวานให้เลือกอย่างมากมาย รวมทั้งใครอยากนั่งห้องแอร์เย็นก็มีโซนในร้านให้เลือกได้ตามสบาย ส่วนใครที่อยากชมวิวหรือสูดอากาศก็มีโต๊ะโซนข้างนอกจัดไว้ให้

ภาพจาก : https://huahin.town/eat-drink/air-space-hua-hin/

Bluport Hua Hin รีสอร์ทมอลล์แห่งแรกในไทยที่เปิดตัวเมื่อปี 2016 หลากหลายไปด้วยร้านอาหาร ร้านเสื้อผ้ามากมาย อยากเปลี่ยนบรรยากาศจากกินอาหารทะเลก็มากินอาหารในห้างได้

ภาพจาก : http://www.thansettakij.com/content/104333

และยังมีพระราชนิเวศน์มฤคทายวัน ตลาดน้ำ ฟาร์มสัตว์น่ารักต่างๆ อีกหลายสถานที่ที่รอให้คุณได้ไปถ่ายรูป เช็คอินอวดเพื่อน ไม่เพียงเท่านั้นในแถบประจวบก็มีการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในชะอำ-หัวหิน มาอย่างต่อเนื่อง ทำเลการพัฒนาที่เกิดขึ้นก็เริ่มตั้งแต่กลางเมืองหัวหินไปจนสุดเขาตะเกียบ เนื่องจากเป็นพื้นที่เจริญเป็นระยะแรกๆ และพัฒนาเรื่อยขึ้นมายังหาดชะอำและไกลออกไปถึงปราณบุรี โดยมีทั้งพัฒนาเป็นบ้าน คอนโด โรงแรม และห้างสรรพสินค้า อย่างไรก็ดี Prime Area ที่สุดยังคงอยู่ที่บริเวณชายหาดชะอำ-หัวหินเนื่องจากเป็นหาดต่อเนื่องแนวยาว แต่เมื่อมองดูจริงๆ แล้ว พื้นที่แถวนั้นที่ติดกับถนนเส้นหลักก็ถูกพัฒนาขึ้นเกือบเต็มพื้นที่แล้ว ที่ดินใกล้ทะเลหรือสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญก็ถูกจับจองกันไปหมด ถือได้ว่าที่ดินแถวนั้นมีความต้องการจาก Developer สูง เนื่องจากสามารถนำมาพัฒนาเป็นโครงการได้หลายรูปแบบและยังอยู่ในเมืองท่องเที่ยวที่คนแวะเวียนไปพักผ่อนอยู่ตลอด อีกทั้งยังมีโครงการที่กำลังจะเกิดขึ้นอย่าง รถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ – หัวหินและมอเตอร์เวย์นครปฐม-ชะอำ (ท่ายาง) คาดแล้วเสร็จและพร้อมเปิดให้บริการในปี 2565 ยิ่งทำให้เดินทางสะดวกมากขึ้น

 

ถ้าพูดถึงเรื่องของตลาดคอนโดมิเนียมในชะอำ หัวหิน และปราณบุรีนั้น มีการขยายตัวมากขึ้นแบบชัดเจนตั้งแต่ปี พ.ศ.2555 เป็นต้นมาหรือตั้งแต่เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมในกรุงเทพมหานครและจังหวัดในภาคกลางในปี พ.ศ.2554 จนมีผลให้คนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมจำเป็นต้องหาที่อยู่ชั่วคราวสำหรับผู้สูงอายุหรือเด็ก คนป่วยที่อยู่ในบ้าน คนกรุงเทพฯส่วนหนึ่งมาหาที่พักอาศัยชั่วคราวในชะอำ และหัวหิน มีดีเวลลอปเปอร์หลายรายเปิดขายโครงการคอนโดมิเนียมในพื้นที่ทั้ง 2 อำเภอ และมีหลายโครงการที่ได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีจากคนกรุงเทพฯซึ่งเป็นกลุ่มผู้ซื้อหลักในพื้นที่นี้ เนื่องจากการเดินทางจากกรุงเทพมหานครที่สะดวกมากใช้เวลาในการขับรถไม่นานประมาณ 2 ชั่วโมงเท่านั้น ชะอำและหัวหินจึงเป็นทำเลยอดนิยมของคนกรุงเทพมหานครมานานแล้วโดยเฉพาะในกลุ่มคนที่ต้องการสถานที่พักผ่อนในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์โดยเฉพาะคนที่ต้องการพาครอบครัวหาที่พักผ่อนในต่างจังหวัดมักเลือกมาที่ชะอำหรือหัวหิน

 

จากจุดพีคสุด กลับสู่ความสมดุลของตลาด

คอนโดมิเนียมที่เปิดขายในชะอำ หัวหินและปราณบุรีแล้วยังเหลือขายอยู่ในตลาดนั้นเริ่มเปิดขายมากขึ้นในปี พ.ศ.2554 จากโครงการเดียวคือ “ดิ เอนเนอร์จี้ หัวหิน” ที่มีจำนวนยูนิตเกือบ 6,000 ยูนิตส่งผลให้ตลาดคอนโดมิเนียมในชะอำดู Over Supply ไม่เป็นไปตามกลไกตลาดแบบทั่วไป อีกทั้งโครงการนี้ยังสร้างความกังวลหรือมีผลต่อภาพรวมของตลาดคอนโดมิเนียมในชะอำ เพราะยูนิตเหลือขายในพื้นที่ที่สูงมากนั้นอยู่ในโครงการนี้ซะเป็นส่วนใหญ่

 

The Energy Hua Hin (ดิ เอนเนอร์จี้ หัวหิน)

โครงการ THE ENERGY เจ้าของโครงการคือ บริษัท บ้านราชประสงค์ จำกัด (มหาชน) มีพื้นที่รวมประมาณ 180 ไร่ โดยเป็นพื้นที่ตั้งของอาคารพักอาศัย 34 อาคาร ความสูง 8 ชั้น แบ่งออกเป็น 2 เฟส เนื้อที่รวมประมาณ 144 ไร่ ที่ดินส่วนที่เหลือเป็น Facilities ที่ทางโครงการมอบให้สมาชิกได้ใช้บริการอย่าง สระว่ายน้ำระบบโอโซนขนาดใหญ่ พร้อมสระเด็ก, สระ Jacuzzi, ลานพักผ่อน, สวนส่วนกลางขนาดใหญ่, ประตู Key card, รปภ. และ CCTV โดยห้องมีให้เลือกทั้งแบบ 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ, แบบ 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ, แบบ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ และแบบ DUPLEX 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ห้องชุดตกแต่งพร้อมเข้าที่มาพร้อมกับเครื่องปรับอากาศ, เครื่องทำน้ำอุ่น, ตู้เย็น, ทีวี LED และเตาไมโครเวฟ ในราคาเริ่มต้นเพียง 1.8 ล้านบาท พร้อมสิทธิพิเศษที่มอบให้เฉพาะเจ้าของห้องชุด ในการเป็นสมาชิกสปอร์ตเซ็นเตอร์ขนาดใหญ่และฟิตเนสครบวงจร ฟรีตลอดชีพ เจ้าของห้องชุดจะได้รับสิทธิเป็นสมาชิกตลอดชีพของ THE ENERGY ที่ให้สิทธิสมาชิกใช้บริการต่างๆ ทั้ง THE ENERGY COMPLEX และกิจกรรมกีฬาหลากหลายชนิดที่สปอร์ตคอมเพล็กซ์ได้ฟรีตลอดชีพ ไม่มีค่าใช้จ่าย และใช้ THE ENERGY POINT แลกใช้บริการต่างๆ ในส่วนของโรงแรมระดับหกดาว เรียกได้ว่าคุ้มสุดคุ้ม

ภาพจาก : https://pantip.com/topic/34938392

ภาพจาก : https://www.theenergy.co.th/

 

ตอนนี้ทางโครงการมี Promotion เอาห้องมาปล่อยประมูลออนไลน์ ในแคมเปญ “โอกาสสุดคุ้ม! “A – auction X The Energy e-Bidding” การประมูลคอนโดหลุดดาวน์ โครงการใหญ่ติดทะเล ราคาเริ่มต้น 0 บาท” เป็นการเปิดประมูลห้องวิวสวยหลุดดาวน์ ด้วยราคาเริ่มต้น 0 บาท เสนอราคาขั้นต่ำเพียงครั้งละ 10,000 บาท โดยมีรายการเข้าร่วมประมูลทั้งหมด 41 รายการ 43 ยูนิต พร้อมรูปแบบห้องให้เลือกกว่า 12 แบบ

 

ตัวอย่างรายละเอียดของห้องที่เข้าร่วมการประมูล

คอนโดมิเนียมที่ยังเปิดขายอยู่ในปัจจุบันสะสมในชะอำ หัวหิน และปราณบุรีแยกตามปีที่เปิดขาย

คอนโดมิเนียมที่เปิดขายอยู่ในชะอำ หัวหิน และปราณบุรีในปัจจุบันมีทั้งหมด 19,080 ยูนิต โดยที่กว่า 31% ของจำนวนนี้มาจากโครงการเดียวในชะอำ “ดิ เอเนอร์จี้ หัวหิน” ซึ่งถ้าตัดโครงการนี้ออกโครงการคอนโดมิเนียมที่เปิดขายใหม่ในชะอำก็ยังคงมีจำนวนรวมมากที่สุดเมื่อเทียบกับพื้นที่อื่นๆ อยู่ดี เพราะมีคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่เฉลี่ยประมาณ 915 ยูนิตต่อปีถ้าพิจารณาตั้งแต่ปีพ.ศ.2555 เป็นต้นมา ในขณะที่พื้นที่อื่นๆ มีคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่เฉลี่ยไม่เกิน 300 ยูนิตต่อปี ปราณบุรีเป็นพื้นที่ที่มีคอนโดมิเนียมรวมประมาณ 493 ยูนิตเท่านั้น เพราะไกลจากสิ่งอำนวยความสะดวกหลายๆ อย่าง อีกทั้งต้องใช้เวลาในการเดินทางไกลกว่าชะอำ และหัวหิน จำนวนนักท่องเที่ยวจึงน้อยกว่าชะอำและหัวหินรวมไปถึงคนที่ต้องการซื้อคอนโดมิเนียมด้วย

คอนโดมิเนียมที่ยังเปิดขายอยู่ในปัจจุบันสะสมในชะอำ หัวหิน และปราณบุรีแยกตามทำเลที่ตั้งโครงการ

คอนโดมิเนียมที่เปิดขายอยู่ในปัจจุบันจำนวน 19,080 ยูนิตในชะอำ หัวหิน และปราณบุรี อยู่ในชะอำมากถึง 13,902 ยูนิตหรือประมาณ 73% ของจำนวนคอนโดมิเนียมทั้งหมด ซึ่งมากกว่าจำนวนคอนโดมิเนียมในพื้นที่หัวหิน และปราณบุรีแบบเห็นได้ชัด พื้นที่หัวหินแม้ว่าจะเป็นพื้นที่ยอดนิยมสำหรับคนที่เดินทางมาท่องเที่ยวมากกว่าชะอำ แต่เพราะเป็นพื้นที่ที่ได้รับความนิยมมายาวนานมากตั้งแต่อดีตจึงส่งผลให้มีการพัฒนาโครงการรูปแบบต่างๆ โดยเฉพาะโรงแรม รีสอร์ทจนเต็มพื้นที่แล้ว มีที่ดินเหลือให้พัฒนาน้อยมากในปัจจุบัน ผู้พัฒนาคอนโดจึงต้องเลือกซื้อที่ดินที่อยู่ในชะอำ หรือบริเวณรอยต่อระหว่างชะอำและหัวหินเพื่อพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม รวมไปถึงพื้นที่ทางทิศใต้ของหัวหิน เช่น เขาตะเกียบ เขาเต่า หรือเลยไปปราณบุรี นอกจากนี้พื้นที่ในฝั่งตะวันตกของถนนเพชรเกษมที่ไม่ได้ติดทะเลก็เป็นพื้นที่ที่ได้รับความสนใจจากผู้พัฒนาในการเข้าไปพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมมากขึ้น เพราะมีที่ดินเหลืออยู่มาก อีกทั้งราคาที่ดินก็ต่ำกว่าฝั่งตะวันออกของถนนเพชรเกษมหรือฝั่งที่ไม่ไกลจากทะเลค่อนข้างมาก  สามารถเลือกซื้อที่ดินเพื่อพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมราคาต่ำกว่าโครงการติดทะเลได้

 

อีกหนึ่งโครงการชั้นนำที่อยู่ในช่วงชะอำ-หัวหิน ก็คือ โครงการทิวทะเลเอสเตท ที่ประกอบไปด้วยโครงการบีชฟร้อนท์คอนโดมิเนียม 3 โครงการ, โรงแรมหรูระดับห้าดาว, Branded Residence BaBa Beach Club ซึ่งอยู่ภายใต้การบริหารของศรีพันวาโรงแรมชื่อดังในภูเก็ต ที่ใครๆ ต่างก็อยากหาโอกาสไปพักให้ได้สักครั้ง และยังมีร้านอาหารสุดโรแมนติกริมทะเล และ Community Mall บนเนื้อที่มากกว่า 110 ไร่ โดยมี บริษัท ร่วมอิสสระ จำกัด เป็นเจ้าของโครงการ

Baba Beach Club หัวหิน

ภาพจาก : https://www.bababeachclub.com/th/huahin

 

คอนโดมิเนียมที่ยังเปิดขายอยู่ในปัจจุบันสะสมในชะอำ หัวหิน และปราณบุรีแยกตามทำเลที่ตั้งโครงการ

โครงการคอนโดมิเนียมที่อยู่ในฝั่งทะเลจำนวนไม่น้อยไม่ติดทะเลทั้งในชะอำ และหัวหิน ส่วนโครงการในปราณบุรีอาจจะพออนุโลมได้ว่าติดทะเลเพราะมีเพียงถนนเลียบชายหาดกั้นระหว่างโครงการและชายหาดเท่านั้น โดยโครงการคอนโดมิเนียมในฝั่งภูเขาหรือฝั่งที่ไม่ติดทะเลถ้าเอาถนนเพชรเกษมเป็นเส้นแบ่งนั้นมีจำนวนที่ไม่น้อยมากกว่าจำนวนคอนโดมิเนียมในฝั่งทะเลของพื้นที่หัวหินซะอีก เพราะด้วยความขาดแคลนที่ดินในพื้นที่หัวหินฝั่งทะเล พื้นที่หัวหินฝั่งภูเขาจึงเริ่มได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในช่วง 2 – 3 ปีที่ผ่านมา เพราะราคาที่ดินที่ต่ำกว่า อีกทั้งการที่คนกรุงเทพมหานครเป็นกลุ่มลูกค้าหลักซึ่งพวกเขาอาจจะไม่ได้ต้องการไปพักผ่อนที่ชายหาดบ่อย การมีโครงการคอนโดมิเนียมที่มีพื้นที่ส่วนกลางสวยงามและเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจได้ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจกว่าการมีคอนโดมิเนียมติดชายหาดแต่ราคาขายสูงกว่ามาก อีกทั้งคนไทยไม่ได้ชอบนอนตากแดดให้ผิวเข้มแบบชาวต่างชาติ ดังนั้น ไม่จำเป็นที่บ้านพักตากอากาศของคนไทยจะต้องติดชายหาด โครงการคอนโดมิเนียมในฝั่งที่ไม่ติดทะเลจึงได้รับความนิยมทั้งจากผู้พัฒนาและผู้ซื้อ แต่ต้องเป็นโครงการที่ออกแบบได้สวยงามรวมไปถึงต้องมีพื้นที่ส่วนกลางที่สวยสะดุดตาเหมาะกับการเป็นที่พักผ่อนในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์

 

อีกหนึ่งโครงการที่ดังที่สุดของหัวหินฝั่งภูเขาก็คือโครงการ Mahasamutr Villa (มหาสมุทร วิลล่า) ภายใต้การบริหารของ Pace Development ซึ่งเป็นบ้านพักตากอากาศ จำนวน 80 หลัง ขนาดพื้นที่โครงการทั้งหมด 55 ไร่ วิลล่ามีทั้งหมด 4 ดีไซน์ มีขนาดพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 447 ตร.ม. – 587 ตร.ม. ประกอบด้วย 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ และที่จอดรถ 3 คัน จุดเด่นของโครงการคือ การเนรมิต Crystal Lagoon ขนาดใหญ่ขึ้นมาทดแทนทะเล ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียด้วยความยาวกว่า 800 เมตร และมีความลึกสูงสุดถึง 2.5 เมตร มีหาดทรายที่สวยสะอาดและน้ำสีฟ้าใส พร้อมกับไพรเวทคลับแห่งแรกในเมืองหัวหินในชื่อว่า มหาสมุทร คันทรี่ คลับ บนพื้นที่กว่า 75 ไร่ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกระดับไฮเอนด์ตอบโจทย์ทุกรูปแบบของการพักผ่อน

ซึ่งหากเป็นโครงการที่ตั้งอยู่ในเขตหัวหินชั้นใน การมีทำเลที่ไม่ติดชายหาดก็มีข้อดีอยู่หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น ใกล้ห้าง ใกล้โรงพยาบาล มีร้านอาหาร ตลาดเยอะ โดยหากจะเดินไปที่หาดก็สามารถทำได้โดยการข้ามถนนก็จะได้เห็นทะเลแบบเต็มตา ส่วนใหญ่ผู้ที่พักอาศัยที่เลือกโครงการไม่ติดหาดก็จะชอบความสะดวกสบายในด้านอื่นมากกว่า โดยโครงการที่ไม่ติดหาดแต่อยู่ใจกลางเมืองหัวหิน ที่เรายกตัวอย่างมาให้ชมมีดังนี้  

 

La Casita (ลา กาซิตา)

โครงการ La Casita คอนโด Low Rise 4 อาคาร A-D จำนวนยูนิตทั้งหมด 705 ยูนิต บนเนื้อที่ดินประมาณ 6 ไร่ มีห้อง 2 แบบ คือ แบบ 1 Bedroom 26.50 – 37.50 ตร.ม. และแบบ 2 Bedroom 48.25 – 91 ตร.ม. เพดานสูง 2.5 ม. ขายแบบ Fully Furnished รูปแบบโครงการออกแบบมาในแนว Spanish และเน้นพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่กว่า 4,000 ตร.ม. สระว่ายน้ำความยาวกว่า 100 ม. คอนโดตากอากาศที่มีกลิ่นอายสถาปัตยกรรมสเปนแห่งนี้ ตั้งอยู่ใกล้กับโรงพยาบาลกรุงเทพหัวหิน และขนาบข้างไปด้วย Bluport และ Market Village

จุดเด่นของโครงการคือ การตกแต่งเน้นสีพาสเทลที่ออกเทา-น้ำตาลเป็นหลัก ตึก A เป็นแบบ Single Loaded Corridor มีความส่วนเป็นตัวสูง และตึก A เป็นตึกเดียวที่มี Lobby และสูงถึง 2 ชั้น ทำเลดีที่สุด

ขนาด 1 ห้องนอน 35 ตร.ม. วิวด้านใน ปลอดภัยจากการโดนบล็อควิววิวนอกในอนาคต และรู้สึกเงียบสงบกว่า ไม่เพียงเท่านั้นยังได้วิวสระแนวยาวที่เป็นขนาด 1 ห้องนอน ซึ่งทั้งโครงการมีเพียง 6 ห้อง เหมาะสำหรับการลงทุน โดยทางแสนสิริ ให้ทางบริษัท Hostmaker ทำการบริหารเรื่องปล่อยเช่า

La Habana Hua Hin (ลา ฮาบาน่า หัวหิน)

คอนโดรีสอร์ทแห่งใหม่จากดีเวลลอปเปอร์ชื่อดังอย่างแสนสิริ ติดซิเคด้า มาร์เก็ต ราคาเริ่มต้น 2.19 ล้านบาท คอนโดขนาด 8 ชั้น จำนวน 3 อาคาร และ 2 ชั้น อีก 1 อาคาร จำนวน 652 ยูนิต มีห้องให้เลือกทั้งหมด 4 แบบ คือ 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาด 25.00-28.25 ตร.ม., 1 ห้องนอน (M) 1 ห้องน้ำ ขนาด 32.75-40.25 ตร.ม., 2 ห้องนอน (M) 1 ห้องน้ำ ขนาด 49.50-57.00 ตร.ม. และ 2 ห้องนอน (L) 2 ห้องน้ำ ขนาด 61.00-98.75 ตร.ม. พื้นที่โครงการทั้งหมดประมาณ 6 ไร่ ใกล้ทะเล แวดล้อมไปด้วยโรงแรมชั้นนําระดับ 5 ดาว และใกล้กับแหล่งกิน ดื่ม เที่ยว ชื่อดังอย่าง Cicada Market และ Tamarind Market พร้อมกับความโดนเด่นทางด้านสถาปัตยกรรมโคโลเนียลสเปน และได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบอันน่าทึ่งของคิวบาภายในออกแบบโดยเน้นความประณีตจากการเลือกใช้วัสดุและผสมผสานสีสันสดใสของกระเบื้องมาใช้ภายในส่วนต่างๆ ของโครงการ  พร้อมด้วย Facilities อย่าง สระว่ายน้ำขนาดใหญ่เกือบ 1,000 ตร.ม. รวมถึงพื้นที่ส่วนกลางกว่า 4,000 ตร.ม. โครงการแล้วเสร็จภายในไตรมาส 4 ปี 2563

ภาพจาก : https://www.sansiri.com/en/condominium/la-habana-hua-hin/

MARVEST HUA HIN มาร์เวสท์ หัวหิน

โครงการ Marvest Hua Hin คอนโดใหม่ใจกลางเมืองหัวหิน ของ Major Development เป็นคอนโด 8 ชั้น 2 อาคาร จำนวน 336 ยูนิต บนพื้นที่ทั้งหมด 3 ไร่ โดยมีห้อง 3 Type คือ Type A ขนาด 30 ตร.ม., Type B ขนาด 39-40 ตร.ม. และ Type C ขนาด 60 ตร.ม. เพดานสูง 2.4 ม. ที่มาพร้อมกับ Facilities ต่างๆ ภายในโครงการอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น สระว่ายน้ำ ขนาด 50 ม., ม่านน้ำตก,  สวนร่มรื่นและสนามเด็กเล่น, อ่างจากุซซี่, ห้องฟิตเนส และ CCTV

โดดเด่นด้วยออกแบบสไตล์ Modern Coastal ที่มีกลิ่นอายของชายทะเล ให้ผู้ที่เข้าพักรู้สึกถึงการพักผ่อนในบ้านพักติดทะเลที่แท้จริง และเน้นการโอบล้อมด้วยธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นความร่มรื่นของต้นไม้และสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ ที่จะสร้างความผ่อนคลายเมื่อมาเข้าพัก ราคาเริ่มต้นที่ 2.3 ล้านบาท คาดโครงการแล้วเสร็จเดือนธันวาคม 2562

ภาพจาก : https://marvesthuahin.mj-one.net/?channel_id=2379&utm_source=google&gclid=CjwKCAjwzPXlBRAjEiwAj_XTEaVttPAnzL68QQKGckvf26Baj6cee9hl_lbRb-XhWrJtD-3GhwWkJBoCg_QQAvD_BwE

 

และด้วยการที่เป็นคอนโดที่ไม่ติดหาด สิ่งที่ได้รับทดแทนก็คือราคาขายที่ไม่สูงมาก โดยคอนโดติดหาดทั่วไปก็จะมีราคาต่อตรมที่เกินหนึ่งแสนบาทจนถึงหนึ่งแสนห้าหมื่นบาท แต่หากเป็นฝั่งตรงข้ามก็จะมีราคาไม่ถึงตรมละแสน ซึ่งโครงการเหล่านี้ก็จะสร้าง Value Added เพิ่มเติมโดย เน้นบรรยากาศพื้นที่ส่วนกลางใหญ่ ร่มรื่น สระว่ายน้ำน่าว่าย ช่วยสร้าง Value ในระยะยาวให้กับเจ้าของ ซึ่งห้องที่เห็นวิวของพื้นที่ส่วนกลางก็มักจะแพงกว่าห้องวิวถนนด้านนอก ส่วนอีกรูปแบบนึงก็คือ การพ่วงการบริหารจัดการในแบบโรงแรม เพื่อให้เจ้าของห้องหมดห่วงหากว่าไม่ได้มาใช้งานในช่วงวันปกติ เพราะต้องทำงานอยู่กรุงเทพ การมีบริษัทที่สามารถบริหารจัดการการปล่อยเช่า หรือดูแลทำความสะอาดห้อง บางแห่งมีการทำ Guarantee Yield ก็น่าจะจุดขายที่น่าสนใจ อย่างเช่น DUSIT D2 RESIDENCES หัวหิน (ดุสิต ดี ทู เรสซิเดนเซส หัวหิน)

 

โครงการ Dusit D2 Residences Hua Hin เป็นคอนโด Low rise 8 ชั้น 2 อาคาร (A, B) จำนวนทั้งหมด 364 ยูนิต ภายใต้การพัฒนาของบริษัท เอ็นริช สเตทส์ จำกัด ตั้งอยู่บนพื้นที่ขนาด 3-1-63 ไร่ วางผังเป็นรูปตัวแอลสลับข้างล้อมพื้นที่สวนและสระว่ายน้ำที่อยู่ตรงกลาง โครงการอยู่ในทำเลใจกลางหัวหินใกล้กับ Bluport Shopping Mall เพียง 400 ม. และใกล้กับท่าเรือเฟอร์รี่ พร้อม Facilities หลายรายการ อย่าง Infinity Edge Pool, Grand panoramic lobby, Semi-outdoor lobby, Exclusive Co – working space, Fitness, Exclusive service และ Mobile Key Access

โครงการมีห้องทั้งหมด 4 Type คือ ห้อง Studio ขนาด 26 ตร.ม., ห้อง 1 Bedroom ขนาด 29 ตร.ม., ห้อง 1 Bedroom Corner ขนาด 33 ตร.ม. และห้อง 1 Bedroom Suite ขนาด 41 ตร.ม. โดยการออกแบบจะเน้นไปทางสีขาวและโทนสีสว่างเพื่อความเรียบหรู สะอาดตา และเน้นพื้นที่สีเขียวรอบโครงการที่ให้ความรู้สึกถึงธรรมชาติเมื่อได้พักผ่อน

แต่ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาก็มีคอนโดเปิดใหม่ติดหาดเช่นกัน ซึ่งก็ไม่ใช่คอนโดธรรมดา แต่เป็นคอนโดที่พ่วงด้วยการบริหารจัดการแบบโรงแรม และมีสไตล์การออกแบบที่โดดเด่น เปิดตัวในช่วงชายหาดเขาตะเกียบนั้นคือ Veranda Residence Hua Hin (วีรันดา เรสซิเดนซ์ หัวหิน) คอนโด Low Rise 5 อาคาร สูง 3-7 ชั้น จำนวน 270 ยูนิต มีพื้นที่โครงการทั้งหมด 11-0-81 ไร่ มีห้องให้เลือก 4 แบบด้วยกัน คือ แบบ 1 ห้องนอน, แบบ 2 ห้องนอน, แบบ 3 ห้องนอน (มีให้เลือก 2 ห้องน้ำและ 3 ห้องน้ำ) และแบบ Sky Penthouse

 

โครงการถูกออกแบบในแนว Modern Contemporary ซึ่งเป็นสไตล์การออกแบบของวีรันดาอยู่แล้ว ที่ออกแนวบูทีคโฮเทลและเน้นไปที่การตกแต่งภายในให้มีความทันสมัย รวมไปถึงการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่มีดีไซน์เฉพาะเพื่อให้เข้ากับการตกแต่งภายในของห้องด้วย

ภาพจาก : http://www.verandaresidencehuahin.com/?gclid=CjwKCAjw7_rlBRBaEiwAc23rhk-eqYycwvwGRl5VfnutuG2ECLkJd4mmb5PLoy5qNJ4L_nRqAZnjDhoC3t4QAvD_BwE

 

คอนโดมิเนียมที่ยังเปิดขายอยู่ในปัจจุบันสะสมในชะอำ หัวหิน และปราณบุรีแยกตามทำเลที่ตั้งและราคาขาย

 

ชะอำมีจำนวนคอนโดมิเนียมสะสมในตลาดมากที่สุด ดังนั้น จึงมีคอนโดมิเนียมในแต่ละระดับราคาค่อนข้างมากเมื่อเทียบกับพื้นที่อื่นๆ โดยอยู่ในระดับราคา 3 – 5 ล้านบาทต่อยูนิตมากที่สุด  ในขณะที่คอนโดมิเนียมในพื้นที่หัวหินนั้นมีสัดส่วนมากที่สุดอยู่ในช่วงระดับราคา 2 – 3 ล้านบาทต่อยูนิต เพราะหลายโครงการที่เปิดขายใหม่ในพื้นที่นี้อยู่ไกลออกไปจากชายทะเลราคาขายจึงไม่สูงมากนัก

 

เปิดข้อมูลสถิติ ห้องแบบไหน ราคาเท่าไหร่ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด

ถ้าพิจารณาเฉพาะห้องแบบ 1 ห้องนอนที่มีจำนวนมากที่สุดหรือประมาณ 65% ของจำนวนคอนโดมิเนียมทั้งหมดในตลาดเพียงอย่างเดียวนั้น พบว่าคอนโดมิเนียมแบบ 1 ห้องนอนขายในระดับราคา 80,000 – 100,000 บาทต่อตารางเมตรมากที่สุดโดยมีสัดส่วนอยู่ที่ประมาณ 58% ของจำนวนคอนโดมิเนียมแบบ  1 ห้องนอนทั้งหมดในตลาด โครงการที่คอนโดมิเนียมที่อยู่ในฝั่งทะเลมีราคาขายที่สูงกว่าฝั่งตะวันตกของถนนเพชรเกษมหรือฝั่งภูเขาค่อนข้างชัดเจน

ราคาขายเฉลี่ยของคอนโดมิเนียมที่ยังเปิดขายอยู่ในปัจจุบันสะสมในชะอำ หัวหิน และปราณบุรีแยกตามทำเลที่ตั้ง

คอนโดมิเนียมที่เปิดขายในพื้นที่ฝั่งทะเลมีราคาขายสูงกว่าฝั่งภูเขาชัดเจนโดยราคาขายเฉลี่ยของฝั่งทะเลสูงกว่าฝั่งภูเขามากถึง 40% ขึ้นไป เพราะราคาที่ดินที่สูงกว่าเป็นตัวแปรสำคัญในการตั้งราคาขายคอนโดมิเนียมในพื้นที่นี้ ในขณะที่โครงการคอนโดมิเนียมในพื้นที่ฝั่งภูเขานั้นค่อนข้างมีราคาขายที่ไม่สูงมาก แต่บางโครงการของผู้ประกอบการรายใหญ่ก็มีการเปิดขายในราคาที่สูงกว่าโครงการอื่นๆ ในพื้นที่ เนื่องจากพวกเขาพัฒนาโครงการให้มีรูปแบบที่สวยงาม แปลกไปจากโครงการคอนโดมิเนียมอื่นๆ ในพื้นที่เพิ่มความน่าสนใจมีพื้นที่ส่วนกลางที่สวยงาม เหมาะแก่การเป็นที่พักตากอากาศมากขึ้น หรือบางโครงการอยู่ติดกับสวนน้ำซึ่งเป็น 1 ในสถานที่ยอดนิยมของครอบครัวจากกรุงเทพฯส่งผลให้โครงการที่มีที่ตั้งอยู่ในพื้นที่รอบๆ สวนน้ำมีราคาขายที่ค่อนข้างสูงและอัตราการขายก็สูงกว่าโครงการอื่นๆ ด้วยเช่นกัน

Bella Costa Hua Hin (เบลล่า คอสต้า หัวหิน)

เบลล่า คอสต้า หัวหิน คอนโดติดทะเลสไตล์เมดิเตอร์เรเนียน ด้วยแรงบันดาลใจจากทะเลที่แสนโรแมนติก การออกแบบที่ให้บรรยากาศของการพักผ่อนที่แตกต่างทริมทะเลบนชายหาดเขาเต่า โดยในช่วงเขาเต่าดูจะมีความเงียบสงบมากกว่าในตัวเมืองชะอำและหัวหิน ให้บรรยากาศเหมือนชายหาดส่วนตัวที่ไม่มีใครรบกวน และคอนโดที่เปิดตัวในย่านนี้ก็มีไม่มาก แต่โครงการ Bella Costa ที่ขายในราคาเกิน ตร.ม. ละแสนสำหรับห้องแบบ Ocean Front ก็ยังคงได้รับความนิยมในหมู่คนกรุงเทพที่มองหาความสงบในการพักผ่อนชายทะเล

 

และโครงการสร้างความโดดเด่นให้อาคารโดยการตกแต่งเป็นสีสันต่างๆ ตั้งอยู่บนที่ดินขนาด 11-3-13 ไร่ เป็นคอนโด Low Rise ขนาด 7 ชั้น 2 อาคาร และ 4 ชั้น 4 อาคาร รวม 6 อาคาร 323 ยูนิต  พร้อมห้อง 4 ขนาด คือ ห้อง 1 Bedroom ขนาด 45 – 56  ตร.ม., ห้อง MOFF Design ขนาด 62.5 – 81.5  ตร.ม., ห้อง 2 Bedroom ขนาด 60 – 67  ตร.ม. และห้อง 3 Bedroom ขนาด 78 – 96  ตร.ม. และ Facilities ที่ทางโครงการมีให้ อย่าง Pool สระว่ายน้ำ 3 สไตล์ดีไซน์หรู ติดชายหาดเพียงแค่ไม่กี่ก้าว, Romantic Park ดื่มด่ำกับธรรมชาติในสวนสุดโรแมนติค, Jacuzzi ให้วันพักผ่อนสมบูรณ์แบบ และ Playground ให้เด็ก ๆ ได้สนุก ในราคาเริ่มต้น 3.99 ล้านบาท

อัตราการขายเฉลี่ยของคอนโดมิเนียมในชะอำ หัวหิน และปราณบุรีแยกตามระดับราคาขาย

คอนโดมิเนียมที่ยังเปิดขายอยู่ในพื้นที่ชะอำ หัวหิน และปราณบุรีมีอัตราการขายเฉลี่ยที่ประมาณ 72% ยังมีคอนโดมิเนียมเหลือขายในพื้นที่อีก 5,000 กว่ายูนิตซึ่งยูนิตเหลือขายเหล่านี้เป็น 1 ในปัจจัยที่กดดันให้ดีเวลลอปเปอร์จำเป็นต้องเร่งระบายคอนโดมิเนียมเหลือขายที่อยู่ในสต็อกออกไปให้หมดโดยเร็วมีการทำโปรโมชั่นพิเศษ ส่วนลดหรือของแถมพิเศษต่างๆ รวมไปถึงการขายแบบการันตีผลตอบแทน ซึ่งการการันตีผลตอบแทนนั้นส่วนใหญ่จะกำหนดผลตอบแทนอยู่ที่ 6 – 8% ในระยะเวลา 3 ปี

 

เรื่องที่น่าสังเกตคือ คอนโดมิเนียมในระดับราคามากกว่า 10 ล้านบาทต่อยูนิตขึ้นไปที่มีอัตราการขายสูงถึง 83% เพราะว่าบางโครงการเปิดขายมานานหลายปีแล้ว และสร้างเสร็จแล้วอีกทั้งส่วนใหญ่อยู่ติดชายหาดหรือไม่ไกลจากชายหาดในระยะที่เดินได้ นอกจากนี้ยูนิตที่ขายในราคามากกว่า 10 ล้านบาทต่อยูนิตขึ้นไปนั้นเป็นยูนิตขนาดใหญ่ที่มีพื้นที่ตั้งแต่ 64 ตารางเมตรขึ้นไปถึงประมาณ 392 ตารางเมตรตามแต่รูปแบบของแต่ละโครงการ จึงมีผลให้คอนโดมิเนียมในระดับราคานี้น่าสนใจสำหรับคนที่ต้องการที่พักขนาดใหญ่ในชะอำ หัวหิน และปราณบุรี แต่ไม่ต้องการซื้อบ้านที่สวนหรือสระว่ายน้ำที่จะกลายเป็นภาระในการดูแลรักษาในระยะยาว เพราะผู้ซื้อใช้บ้านหรือคอนโดมิเนียมที่นี่เป็นบ้านพักผ่อนในวันหยุดสุดสัปดาห์เท่านั้น ซึ่งคอนโดมิเนียมนั้นตรงกับความต้องการของคนกลุ่มนี้มากกว่าโครงการบ้านจัดสรร

 

อัตราการขายเฉลี่ยของคอนโดมิเนียมในชะอำ หัวหิน และปราณบุรีแยกตามพื้นที่

ที่มา: คุณสุรเชษฐ กองชีพ กรรมการผู้จัดการ บ.ฟินิกซ์พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ แอนด์ คอนซัลแทนซี่ จำกัด

 

คอนโดมิเนียมในปราณบุรีอาจจะมีอัตราการขายที่ต่ำที่สุดในตลาดคอนโดมิเนียมชะอำ หัวหิน และปราณบุรี เพราะอยู่ไกลจากแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมที่คนนิยมมากันซึ่งจะสิ้นสุดที่หัวหินเท่านั้น การที่จะเดินทางเลยมาถึงปราณบุรีนั้นต้องใช้เวลามากขึ้น และหลายๆ อย่างในปราณบุรียังคงด้อยกว่าในพื้นที่หัวหิน แต่ถ้าใครที่ต้องการความสงบ ปราณบุรีก็เป็นอีกพื้นที่ที่น่าสนใจ

 

อัตราการขายเฉลี่ยของคอนโดมิเนียมในพื้นที่ในปีพ.ศ.2562 อาจจะไม่ได้แตกต่างจากช่วงสิ้นสุดไตรมาสที่ 1 พ.ศ.2562 เพราะพื้นที่นี้เป็นพื้นที่ที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวพักผ่อนของคนในกรุงเทพมหานครซะเป็นส่วนใหญ่ ที่อยู่อาศัยที่พัฒนาและขายในพื้นที่นี้จึงเน้นไปที่กลุ่มคนที่ต้องการที่พักในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์หรือวันหยุดยาว แม้ว่าจะมีกลุ่มผู้ซื้อจำนวนหนึ่งเป็นคนในพื้นที่หรือคนที่เข้ามาทำงานในพื้นที่แต่ก็ไม่ได้มากมายเท่าใดนัก ดังนั้น การจะตัดสินใจซื้อคอนโดมิเนียมในเมืองท่องเที่ยวของคนในกรุงเทพมหานครหรือคนที่อยู่นอกพื้นที่ชะอำ หัวหิน และปราณบุรี จึงไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน แต่เป็นเรื่องที่อาศัยอารมณ์ ความรู้สึก ความอยากได้มาเป็นองค์ประกอบ ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผู้พัฒนารู้และเข้าใจ จึงพยายามพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมโดยเฉพาะโครงการที่เปิดขายในช่วง 1 ปีที่ผ่านมาให้ออกมาสวยงามแปลกตา มีพื้นที่ส่วนกลางสวยๆ สร้างบรรยากาศและอารมณ์ให้เป็นที่พักอาศัยสำหรับการพักผ่อนหย่อนใจจริงๆ อีกทั้งหลายโครงการที่เปิดขายในช่วง 1 – 2 ปีที่ผ่านมาตั้งอยู่ในพื้นที่ที่ไกลออกไปจากชายหาดจึงจำเป็นต้องมีรูปแบบโครงการที่แตกต่างจากโครงการในกรุงเทพฯเพื่อสร้างความน่าสนใจในการขาย และบางโครงการก็ประสบความสำเร็จมีอัตราการขายหรือว่าปิดการขายได้ในเวลาอันรวดเร็ว

 

ในการเลือกซื้อคอนโดตากอากาศริมทะเล สิ่งสำคัญคือเราควรที่จะมองไปที่ความชอบ และการใช้งานว่าเราชอบไลฟ์สไตล์ในย่านไหน ชอบสีสัน ความเงียบสงบ หรือว่าชอบนอนฟังเสียงคลื่นกระทบฝั่งที่หน้าห้อง เพราะในช่วงชะอำ หัวหิน ปราณบุรีนั้นมีตัวเลือกคอนโดให้เลือกทุกแบบค่อนข้างมาก แต่ละแห่งก็ชูจุดเด่นที่แตกต่างกันไป แต่ยังไงแล้วขึ้นชื่อว่าเป็นคอนโดยังไงก็ต้องการการดูแลรักษาเพื่อไม่ให้ Value ตกลงไป จนทำให้ราคาตก ไม่มีคนมาเช่า การเลือกนิติฯ ที่เข้ามาบริหารจัดการ เข้าใจการใช้ชีวิตในคอนโดตากอากาศได้เป็นสิ่งที่จำเป็น เนื่องจากห้องนั้นสามารถปล่อยเช่าหรือขายทำกำไรได้ในอนาคต

 

ฉะนั้นหากเจ้าของห้องมีความกังวลในการเลือกซื้อคอนโดที่อยู่ในต่างจังหวัดแล้วคิดว่าเราอาจไม่ได้กลับไปดูแล ทำความสะอาดบ่อยนัก ก็ควรเลือกโครงการที่มีการบริหารจากมืออาชีพและสามารถดูแลในเรื่องหลังการขายได้เป็นอย่างดีก็จะช่วยให้เจ้าของห้องหายห่วง และถ้าหากห้องได้รับการดูแลจากมืออาชีพที่เข้าใจในเรื่องของการบริหารแล้วนั้นห้องก็จะมีสภาพดี และยังสามารถทำกำไรในการขายได้อีกด้วย ส่วนใครที่รู้สึกเบื่อๆ จากการซื้อห้องคอนโดในกรุงเทพที่มีราคาตัดกันไปมาแล้วขายไม่ออกสักที ลองเปลี่ยนบรรยากาศไปเลือกลงทุนกับคอนโดตากอากาศในแถบที่กล่าวมาในข้างต้นเพราะเป็นการลงทุนในที่พักอาศัยที่สร้างมูลค่าเพิ่มในระยะยาวได้ และบางโครงการเจ้าของห้องก็สามารถเข้าพักเองได้ตามโควต้า Time Sharing ในแต่ละปีได้อีกด้วย

wipawan khampuwiang

wipawan khampuwiang

จบทางด้านภาษาไทยและชอบงานเขียน ชอบอ่านและดูรูปภาพรีวิวบ้าน คอนโดต่างๆ เบื่อกับการอยู่ห้องทั้งวันแบบไม่มีอะไรทำ ฉะนั้นงานอดิเรกก็เลยชอบหาที่เที่ยวและถ่ายภาพ

เว็บไซต์

โซลเลซ พหลฯ-ประดิพัทธ์

นิว เวิร์ส กรุงเทพกรีฑา

นิว ซี-สแควร์ สวนหลวง สเตชั่น

ซึ่งวันนี้เราจะพาคุณผู้อ่านมาพบกับโครงการคอนโดพร้อมอ...

30 January, 2024

ริธึ่ม เจริญนคร ไอคอนิค

วันนี้จะมาเล่าเรื่องเกี่ยวกับคอนโดมิเนียมสุดฮอตชื่อโ...

29 January, 2024

วิสซ์ดอม คราฟท์ สามย่าน

Whizdom Craftz Samyan คือโครงการที่มอบ 5 องค์ประกอบพ...

4 December, 2023

นาวว์ เมกา

หากจะพูดถึง NOWW MEGA (นาวว์ เมกา) ในพื้นที่ของ Maga...

14 November, 2023

สอบถามโครงการ

ได้รับข้อมูลเรียบร้อยแล้ว
ขอบคุณอย่างยิ่งที่สนใจครับ
จะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับไปนะครับ

ขออภัย
ไม่สามารถส่งข้อมูลได้
กรุณาลองใหม่อีกครั้ง