ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ทีพีจี (TPG) และ เคเคอาร์ (KKR) เดินหน้าอัดฉีดเงินทุน เสริมความแข็งแกร่งในการรักษาตำแหน่งผู้นำในตลาด รวมไปถึงด้านกลยุทธ์ และผลประกอบการของเครือพร็อพเพอร์ตี้กูรู

พร็อพเพอร์ตี้กูรูกรุ๊ป กลุ่มบริษัทด้านเทคโนโลยีอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของเอเชียและเป็นบริษัทแม่ของดีดีพร็อพเพอร์ตี้จากประเทศสิงคโปร์ ประกาศในวันนี้ว่าได้รับเงินลงทุนเพิ่มเติมรวมทั้งสิ้นเกือบ 7 พันล้านบาทหรือ 300 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ (ประมาณ 220 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) จากการระดมทุนล่าสุดจากกลุ่มทุนระดับโลกทีพีจี (TPG) และเคเคอาร์ (KKR) (ผ่านทางกองทุน KKR Asian Fund III)

เงินทุนที่ทางพร็อพเพอร์ตี้กูรูได้รับรอบล่าสุดนี้ นับเป็นช่วงเวลาที่เหมาะเจาะ เนื่องจากบริษัทเพิ่งเปิดเผยผลประกอบการล่าสุดที่เติบโตถึง 24% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ซึ่งนับว่าเติบโตเกินเป้าที่คาดการณ์ไว้ในปี 2562 รวมทั้งความสามารถในการรักษาตำแหน่งผู้นำตลาดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่บริษัทครองส่วนแบ่งตลาดถึง 57% (มากกว่าคู่แข่งอันดับที่สองถึง 4 เท่า) ปัจจุบันพร็อพเพอร์ตี้กูรูมีเว็บไซต์มาร์เก็ตเพลสด้านอสังหาฯ ที่ให้บริการใน 5 ประเทศ ประกอบด้วย PropertyGuru ในประเทศสิงคโปร์ และ มาเลเซีย, Batdongsan.com.vn ในประเทศเวียดนาม, DDproperty.com ในประเทศไทย รวมทั้ง  Rumah.com และ  RumahDijual.com ในประเทศอินโดนีเซีย นอกจากนี้ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมายังมีการเติบโตทางธุรกิจและผลประกอบการด้านการเงินที่แข็งแกร่งมากในตลาดหลัก ๆ ที่บริษัทเข้าไปดำเนินธุรกิจ

การได้รับการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องจากทั้ง ทีพีจี (ยาวนานกว่า 5 ปี) และ เคเคอาร์ (ยาวนานกว่า 2 ปี) เป็นการเสริมความแข็งแกร่งที่สำคัญให้กับพร็อพเพอร์ตี้กูรูในฐานะบริษัทด้านเทคโนโลยีชั้นนำที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็วในภูมิภาค โดยบริษัทจะนำเงินทุนดังกล่าวมาต่อยอดการลงทุนพัฒนาเพื่อตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในระบบนิเวศของอสังหาริมทรัพย์และเร่งการเติบโตของพร็อพเพอร์ตี้กูรูให้ครอบคลุมทั้งภูมิภาค ซึ่งรวมไปถึงการเดินหน้าพัฒนา PropertyGuru Finance มาร์เก็ตเพลสสำหรับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยที่เปิดตัวในปีนี้อย่างเต็มพิกัด และต่อยอด PropertyGuru FastKey โซลูชั่นการขายแบบ end-to-end สำหรับผู้พัฒนาโครงการอสังหาฯ  และความสามารถด้านข้อมูลเพื่อช่วยให้ผู้ค้นหาอสังหาฯ ทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สามารถ “ค้นหา เข้าถึงบริการด้านการเงิน และได้เป็นเจ้าของ” อสังหาฯ ที่ใช่ที่สุดสำหรับตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

มร. โอลิเวียร์ ลิม ประธานกรรมการบริหาร พร็อพเพอร์ตี้กูรูกรุ๊ป กล่าวว่า “นับตั้งแต่เริ่มก่อตั้งเมื่อปี 2550 พร็อพเพอร์ตี้กูรูรักษาความเป็นผู้นำด้วยการส่งมอบคุณค่าที่มากยิ่งขึ้นให้กับลูกค้าและผู้ใช้ทุกคนอย่างต่อเนื่อง เราได้ขยายบริการอย่างรวดเร็วทั่วทั้งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วยการคาดการณ์แนวโน้มและตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค ด้วยกลยุทธ์ที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลซึ่งสนับสนุนโดยทีม “กูรู” ที่มีความสามารถ ในปีนี้ท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงไป ความแข็งแกร่งที่พิสูจน์ได้ของแพล็ตฟอร์มเราสะท้อนให้เห็นถึงความเป็นผู้นำตลาด และการสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ เพื่อเร่งการเติบโต รวมทั้งยกระดับองค์กรและเทคโนโลยีด้วยการลงทุนใหม่ ๆ การได้รับการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องจากทั้งทีพีจีและเคเคอาร์ในครั้งนี้จึงเป็นข้อพิสูจน์ที่แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจของเรา และการสนับสนุนจากทั้งทีมผู้บริหาร รวมถึงกลยุทธ์ที่พวกเขาใช้เพื่อปลดล็อกโอกาสในการทำธุรกิจที่แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่จะก้าวเป็นผู้นำของกลุ่มในภูมิภาคต่อไป”

ด้าน มร. แฮรี่ วี คริชนัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ พร็อพเพอร์ตี้กูรูกรุ๊ป กล่าวว่า “ผลการดำเนินงานและผลประกอบการที่แข็งแกร่งของเราในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาทำให้เราสามารถลงทุนได้อย่างคล่องตัวและชาญฉลาดเพื่อสร้างแพล็ตฟอร์มที่ตอบสนองความต้องการการใช้งานในระบบนิเวศของธุรกิจนี้ รวมทั้งการพัฒนาเทคโนโลยีให้ล้ำหน้าคู่แข่ง ซึ่งทำให้เราคว้าโอกาสธุรกิจสำคัญ ๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้อยู่เสมอ

การได้รับเงินทุนเพิ่มจากทีพีจีและเคเคอาร์ในครั้งนี้ยังช่วยให้บริษัทสามารถต่อยอดการพัฒนาแพล็ตฟอร์มด้านอสังหาฯ ที่มีประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือได้ดียิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้บริษัทสามารถเดินหน้าแข่งขันในตลาดอย่างมาเลเซียและเวียดนามได้เต็มที่ยิ่งขึ้น สิ่งที่เรายึดมั่นคือการช่วยให้คนหาบ้านทั่วภูมิภาคได้ค้นหา เข้าถึงบริการด้านการเงิน และได้เป็นเจ้าของบ้านที่พวกเขาต้องการ และเงินทุนที่ได้รับในครั้งนี้จะช่วยให้เราเดินหน้าแผนพัฒนาเพื่อรับการเติบโตที่เราคาดการณ์ไว้ตามแนวโน้มของผู้บริโภคและลูกค้าที่หันมาใช้ดิจิทัลเพื่อการซื้อ-ขายอสังหาฯ กันมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ตลอด 13 ปีที่ผ่านมา เราได้ยกระดับอุตสาหกรรมอสังหาฯ ด้วยเทคโนโลยีสู่การเป็นพร็อพเทค และในฐานะผู้นำของตลาด เรายังคงมุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมเพื่อรับกับแนวโน้มการดำเนินธุรกิจในอุตสาหกรรมนี้ที่จะปรับเปลี่ยนสู่ความเป็นดิจิทัลยิ่ง ๆ ขึ้นไป”

นวัตกรรมและบริการใหม่ที่เกิดขึ้นในปี 2563 นี้

พร็อพเพอร์ตี้กูรูเชื่อมั่นว่าเทคโนโลยีนั้นเป็นทั้งตัวกลางที่เชื่อมต่อ และโซลูชั่นที่เข้ามาแก้ปัญหาให้กับคนที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัย จึงมุ่งมั่นลงทุนและขยายบริการเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคผ่านการลงทุนในข้อมูล (data) และพัฒนาเครื่องมือดิจิทัลเพื่อสร้างความโปร่งใสในระบบนิเวศของธุรกิจอสังหาฯ ไม่ว่าจะเป็นทางฝั่งผู้บริโภค บริษัทผู้พัฒนาโครงการอสังหาฯ ไปจนถึงฝั่งของเอเจนท์อสังหาฯ ทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ในปีนี้พร็อพเพอร์ตี้กูรูยังได้ต่อยอดธุรกิจด้วยการเปิดตัวมาร์เก็ตเพลสสำหรับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยในประเทศสิงคโปร์ ที่รู้จักกันในชื่อ PropertyGuru Finance’ รวมทั้งปรับโฉมเว็บไซต์ใน เวียดนาม เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ที่กำลังมองหาบ้านในตลาดนั้นได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ บริษัทยังได้เดินหน้านำเสนอข้อมูลเชิงลึกที่ได้จากการวิเคราะห์จากฐานข้อมูลของบริษัท รวมไปถึงเปิดตัวโซลูชั่นเพิ่มเติมเพื่อขยายโอกาสสร้างรายได้ให้กับบรรดาเอเจนท์ พาร์ทเนอร์ ในส่วนของโซลูชั่นสำหรับบริษัทผู้พัฒนาโครงการอสังหาฯ บริษัทได้เดินหน้าเปิดฟีเจอร์ใหม่ใน PropertyGuru FastKey ได้แก่ PropertyGuru FastKey – StoryTeller ฟีเจอร์นำชมโครงการ ยูนิต และทิวทัศน์รอบโครงการแบบ 360 องศา เพื่อให้ผู้ที่ต้องการชมโครงการสามารถสำรวจทุกซอกทุกมุมได้แบบเรียลไทม์ ปลอดภัย สะดวกสบาย ผ่านหน้าจอดีไวซ์ของตัวเอง ซึ่งโซลูชั่นดังกล่าวช่วยให้บริษัทผู้พัฒนาโครงการอสังหาฯ สามารถเดินเกมการตลาดได้เร็วขึ้นผ่านระบบดิจิทัล แม้ว่าจะยังไม่มีห้องหรือบ้านตัวอย่างก็ตาม

จากพฤติกรรมและความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 สู่พฤติกรรมแบบนิวนอร์มอล การเปลี่ยนแปลงด้านดิจิทัลมีบทบาทที่สำคัญอย่างมาก  โดยรายงานล่าสุดที่จัดทำโดย Bain & Company และ Facebook เผยให้เห็นว่า ภายในสิ้นปีนี้ ผู้คนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เกือบ 70% จะกลายมาเป็นผู้บริโภคบนแพล็ตฟอร์มดิจิทัล ซึ่งแนวโน้มดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงโอกาสการเติบโตใหม่ ๆ ในภูมิภาคที่พร็อพเพอร์ตี้กูรูดำเนินธุรกิจอยู่ และเป็นโอกาสในการพัฒนาประสิทธิภาพ รวมไปถึงขยายบริการที่ครอบคลุมและสอดรับกับความต้องการของทั้งผู้บริโภค เอเจนท์อสังหาฯ ไปจนถึงบริษัทผู้พัฒนาโครงการอสังหาฯ ได้ดียิ่ง ๆ ขึ้นไป