Fitbit OS 5.1 เฟิร์มแวร์ใหม่ล่าสุดที่ช่วยอัพเกรดความสามารถในการดูแลสุขภาพ พร้อมเพิ่มฟีเจอร์ให้ผู้ใช้ Fitbit Sense และ Versa 3 สะดวกสบายยิ่งขึ้น
Fitbit (NYSE: FIT) เปิดให้ผู้ใช้งานสามารถดาวน์โหลดซอฟท์แวร์ OS 5.1 ได้แล้ว เพื่อเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการดูแลสุขภาพ และเพิ่มฟีเจอร์ให้ผู้ใช้ Fitbit SenseTM และ Fitbit Versa 3TM ได้รับความสะดวกมากยิ่งขึ้น การอัพเดตครั้งนี้ได้เพิ่มวิธีแทรค SpO2 ที่หลากหลายยิ่งขึ้น และยังมาพร้อมการสั่งงานด้วยเสียงที่ตัวเครื่อง รองรับการโทรศัพท์ผ่านบลูทูธⓇ และการโต้ตอบโดยใช้เสียงผ่าน Alexa
“นอกจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 (COVID-19) ที่ยังคงดำเนินต่อไป และยังเข้าสู่ฤดูหนาวซึ่งจะทำให้พบผู้ป่วยที่มีอาการไข้หวัดได้ง่ายยิ่งขึ้น ทำให้การดูแลสุขภาพและการตรวจเช็คสุขภาพในทุกวันมีความสำคัญมากยิ่งขึ้น” เจมส์ พาร์ค ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานกรรมการบริหารของฟิตบิทกล่าวว่า “Fitbit Sense และ Fitbit Versa 3 คือสมาร์ทวอทช์ที่ทันสมัยที่สุดที่ฟิตบิทมีมา และเป็นส่วนสำคัญในการช่วยให้ผู้ใช้งานเข้าถึงข้อมูลทางกายภาพ จิตใจ และสุขภาพโดยรวมได้ทุกที่ทุกเวลา ซึ่งเรามุ่งมั่นที่จะช่วยส่งต่อข้อมูลเหล่านี้เพื่อให้คุณเข้าใจและดูแลในสุขภาพและความเป็นอยู่ได้ดียิ่งขึ้น”
การเรียกดูค่า SpO2 บนแผงหน้าปัดวัดค่าสุขภาพอาจช่วยให้คุณทราบถึงการเปลี่ยนแปลงด้านร่างกายและสุขภาพได้ทันท่วงที อย่างความเครียดหรืออาการเหนื่อยล้าที่มากขึ้น สัญญาณบ่งบอกถึงปัญหาในระบบทางเดินหายใจ หรือแม้กระทั่งสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป เช่น การอยู่ในที่สูงหรือคุณภาพอากาศผิดปกติ ทำให้ผู้ใช้งานได้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงด้านสุขภาพผ่านค่า SpO2 ได้ตลอดเวลา
ฟิตบิทได้ยกระดับการใช้งาน SpO2 ให้ครอบคลุมมากขึ้น โดยผู้ใช้ Fitbit Sense และ Fitbit Versa 3 ที่สมัครสมาชิก Fitbit Premium สามารถเข้าถึงข้อมูลระดับออกซิเจนในเลือดขณะนอนหลับผ่านแอป Fitbit โดยที่ไม่จำเป็นต้องตั้งค่าใช้งานหน้าปัด SpO21 และยังสามารถเรียกดูข้อมูลอย่างรวดเร็วผ่านหน้าปัดนาฬิกา พร้อมยังมีการเพิ่มหน้าปัด SpO2 อีก 7 หน้าปัดในแอปแกลเลอรีภายในปี 2563 ซึ่งผู้ใช้งานกว่าล้านคนสามารถดาวน์โหลดหน้าปัด SpO2 ได้จากแอปแกลเลอรีนับตั้งแต่เดือนกันยายนที่ผ่านมา