“ไม่มีใครเคยคาดการณ์มาก่อนว่าโควิด-19 เข้ามา Fast Forward ชีวิตของเราได้มากขนาดนี้”  นลินรัตน์ เจริญสุพงษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เน็กซัส พรอพเพอร์ตี้ จำกัด ได้กล่าวไว้เมื่อสถานการณ์โควิด-19 ที่เกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อต้นปี 2563

“แต่ในสถานการณ์โควิด-19 ก็ยังมีข้อดี เพราะทำให้ได้รู้ว่าจริงๆ แล้วเราทำอะไรได้บ้าง บางอย่างที่เคยคิดไว้ แต่ยังไม่ได้ลงมือทำ ก็ได้ทำ ที่สำคัญทำให้รู้ว่าเรามีทีมเวิร์คที่ดี ที่ทำให้วันนี้เน็กซัสยังไปต่อด้วยกันอย่างแข็งแกร่ง” คงไม่ใช่นลินรัตน์คนเดียวที่รู้สึกแบบนี้ เราทุกคนก็คงรู้สึกและรับสถานการณ์เช่นเดียวกัน ในภาคธุรกิจเอกชน การบริหารงานเพื่อให้องค์กร “ไปต่อ” นับเป็นสิ่งท้าทายยิ่ง

เมื่อกล่าวถึงธุรกิจในวงการอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจที่ปรึกษาทั้งด้านงานขาย งานบริหารโครงการ งานด้านการตลาด เรียกได้ว่าเบอร์ต้นๆ ในไทยมีไม่เกิน 10 ราย “เน็กซัส” คือ หนึ่งในนั้น

และเมื่อโควิด-19 ทำให้เราต้องอยู่กับสถานการณ์ Work from home ปิดเมือง มีกฎจากทางภาครัฐออกมามากมาย เช่น  ห้ามเดินทาง ห้ามรวมกลุ่ม เพื่อไม่ให้มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ประเทศถอยหลังลงอย่างรวดเร็ว ในช่วงเวลานั้น เน็กซัสนับเป็นที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์รายแรก ที่ลุกขึ้นมาจัดแคมเปญเพื่อช่วยการขายคอนโดมิเนียม ภายใต้แคมเปญที่ชื่อว่า “รวมพล ซี่รี่ย์” ซึ่งมีทั้งสิ้น 3 ซีรี่ย์ โดยเริ่มจาก “รวมพลคอนโดหั่นราคาต่ำกว่าทุน” ในเดือนพฤษภาคม 2563 ต่อมาในช่วงต้นเดือนมิถุนายน 2563 ก็ปล่อยแคมเปญ “รวมพลคนรักลาดพร้าว” และปล่อยอีก 1 แคมเปญในช่วงปลายเดือนมิถุนายน 2563 คือ  “รวมพลคนอยู่กลางเมือง ตอน Catzila แมวบุกเมือง” 

ซึ่ง นลินรัตน์ เผยถึงการปล่อยแคมเปญต่างๆ ดังกล่าวว่า “อย่างน้อยเราต้องมีรายได้เข้าบริษัท เพื่อนเราในวง Eco-System เดียวกันกับเราต้องมียอดขาย เราต้องลุกขึ้นมาทำ ไม่ใช่แค่ตัวเราเอง แต่เพื่อคนเน็กซัส และคู่ค้าเราทุกคน” จากความไม่ยอมแพ้ทำให้เธอสามารถสร้างยอดขายในช่วงนั้นได้มากถึง 300 ล้านบาท และมีผู้ประกอบการเข้าร่วมในแคมเปญกว่า 30 ราย

ในปี 2564 นี้ ที่ทุกอย่างกำลังจะไปได้สวย แต่ด้วยโควิด-19 ระลอกใหม่เข้ามาทำให้ ต้องเริ่มรับมือกันอีกครั้ง เน็กซัส กลับมาพร้อมแคมเปญใหม่ คือ “Luxury House Grand Sale”  ภายใต้การบริหารงานของผู้บริหารสาวเก่งคนเดิม ซึ่ง นลินรัตน์ เผยว่า “จากสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมา ทำให้พฤติกรรมผู้บริโภคหันมาเลือกซื้อ “บ้าน” มากขึ้น เราจึงมองเห็นโอกาสในการทำการตลาด และการขาย ”บ้าน” โดยเฉพาะบ้านระดับลักชัวรี่ ด้วยบ้านระดับนี้จะสามารถตอบโจทย์ทุกด้านในสภาวการณ์ปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความเป็นส่วนตัว พื้นที่ใช้สอย ความปลอดภัย และสิ่งที่สำคัญ คือ กลุ่มลูกค้าในระดับนี้ ยังมีสภาพคล่องในด้านการเงิน ประกอบกับเน็กซัส เรามีความเชี่ยวชาญในการวิเคราะห์ตลาด และการขายบ้านระดับลักชัวรี่เป็นทุนเดิม ทำให้การลุกขึ้นมาทำแคมเปญดังกล่าว ให้เกิดขึ้นจริง โดยนอกจากจะสามารถสร้างโอกาสให้กับองค์กรแล้ว ยังเป็นการสร้างความคุ้มค่าให้กับผู้บริโภค ในแง่ของโปรโมชั่น ราคา ที่มาพร้อมส่วนลดสูงสุด ในบ้านระดับลักชัวรี่ ซึ่งไม่ได้มีมาให้เห็นกันบ่อยๆ”

“Luxury House Grand Sale” เป็นแคมเปญที่กลับมาพร้อมกับโควิด-19 ระลอกใหม่ เราคงต้องมาลุ้นกันว่า นักการตลาด นักแสวงหาโอกาสแบบเน็กซัส จะสามารถสร้างความฮือฮา และความสำเร็จกับแคมเปญนี้ได้ในระดับไหน

แต่ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น สิ่งที่เป็นเครื่องพิสูจน์อย่างหนึ่งคือ องค์กรที่ไม่ย่อท้อ ย่อมมีทางไปต่อ “เน็กซัส พรอพเพอร์ตี้” ในยุคที่ต้องฝันฝ่าวิกฤติโควิด-19 ที่แม้ไม่ได้มีสินค้าของตัวเองไว้เพื่อขาย แต่วันนี้เน็กซัสก็ได้ “ไปต่อ” อย่างไม่มีข้อสงสัย ภายใต้การบริหารงานของหญิงแกร่งที่ชื่อ “นลินรัตน์ เจริญสุพงษ์”