วิธีการดูแลป้องกันตนเอง เมื่ออยู่ในคอนโดที่มีผู้ติดเชื้อโควิด-19
นางสาวนฤมล อาภรณ์ธนกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายบริหารอาคารที่พักอาศัย
บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (www.plus.co.th)
สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกล่าสุด ดูเหมือนว่าจะค่อนข้างรุนแรงและอยู่ใกล้ตัวมากกว่าระลอกที่ผ่านมา โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในคอนโดกลางเมืองในโซนที่ใกล้คลัสเตอร์การแพร่ระบาดรอบใหม่ หลายโครงการมีการประกาศจากทีมนิติบุคคลเพื่อแจ้งข้อมูลผู้ติดเชื้อโควิด-19 ของเจ้าของร่วมหรือผู้พักอาศัยในคอนโดแห่งนั้น ซึ่งอาจจะทำให้เกิดความไม่สบายใจกับท่านที่อาศัยอยู่ในคอนโดเดียวกัน แต่อย่างไรก็ตาม แม้การอยู่ในคอนโดอาจมีความเสี่ยงเพราะมีการใช้ลิฟต์และพื้นที่ส่วนกลางร่วมกัน แต่เราก็ยังสามารถป้องกันตนเองให้ปลอดภัยจากโควิด-19 ได้ โดยทีมบริหารนิติบุคคลในโครงการถือเป็นทีมหลักในการดูแลป้องกัน ออกมาตรการดูแลควบคุมการแพร่ระบาด ซึ่งหากพบว่าคอนโดของเรามีผู้ติดเชื้อ ข้อแนะนำเบื้องต้นในการดูแลป้องกันตนเอง มีดังนี้
– ใส่หน้ากากอนามัยให้รัดกุมทุกครั้งที่ออกจากห้อง งดการใช้พื้นที่ส่วนกลาง
– หมั่นล้างมือด้วยเจลหรือสเปรย์แอลกอฮอล์ และทำความสะอาดทุกครั้งที่ใช้มือสัมผัสสิ่งของในพื้นที่ส่วนกลาง
– ติดตามประกาศ สอบถามข้อมูล จากทีมนิติบุคคลถึงข้อมูลผู้ติดเชื้อในส่วนที่กระทบกับผู้อื่น เช่น Timeline การใช้ลิฟต์ พื้นที่ส่วนกลาง เพื่อตรวจสอบว่ามีการใช้งานในช่วงเวลาเดียวกันกับเราหรือไม่ และปฏิบัติตามแนวทางคำแนะนำของกรมควบคุมโรค
– งดใช้พื้นที่ส่วนกลาง และหลีกเลี่ยงการไปในสถานที่คนแออัด เพื่อลดความเสี่ยง
– เว้นระยะห่างทางสังคม เช่น การใช้ลิฟต์ในโครงการควรหลีกเลี่ยงการสนทนา ไม่ใช้ลิฟต์พร้อมกันทีละหลายคน เลี่ยงการสัมผัสปุ่มลิฟต์โดยตรง หรือทำความสะอาดมือที่สัมผัสด้วยเจลสเปรย์แอลกอฮอล์ทุกครั้งหลังสัมผัส และไม่ยืนพิงลิฟต์
– ดูแลสุขภาพให้แข็งแรง สังเกตร่างกายตนเอง หากมีอาการป่วยหรือมีความผิดปกติที่เข้าข่ายเสี่ยง ควรรีบพบแพทย์และแจ้งทีมนิติบุคคลให้รับทราบ
จากสถานการณ์ผู้ติดเชื้อที่ยังมีจำนวนมากอย่างต่อเนื่อง อาจจะทำให้ผู้ที่อยู่อาศัยในโซนพื้นที่ที่พบผู้ติดเชื้อเกิดความกังวลถึงความเสี่ยงของตนเอง โดยเฉพาะหากเป็นคอนโดที่พบผู้ติดเชื้อที่อยู่ในโครงการเดียวกัน อย่างไรก็ตามจากข้อมูลของกรมควบคุมโรคได้ใช้หลักเกณฑ์ในการกำหนดกลุ่มผู้มีความเสี่ยง ดังนี้
– ผู้เสี่ยงสูง คือผู้ที่ไม่ใส่หน้ากากอนามัยและอยู่ใกล้กับผู้ป่วยในระยะที่พูดคุยกันใกล้ๆ เกิน 5 นาที หรือไม่ได้พูดคุยกันแต่อยู่ในที่ปิดร่วมกันในระยะ 1 เมตร เกิน 15 นาที เป็นผู้ที่ควรตรวจหาเชื้อและกักตัวเอง 14 วัน
– ผู้เสี่ยงต่ำ คือผู้ที่ใส่หน้ากากอนามัยป้องกัน แต่อยู่ใกล้ผู้ป่วย (เช่น การใช้ลิฟต์ร่วมกัน) โดยผู้ที่เสี่ยงต่ำ ไม่ต้องกักตัว ไม่ต้องตรวจ แต่สังเกตอาการ 14 วัน หากมีอาการผิดปกติให้รีบพบแพทย์ (อย่างไรก็ตามควรหลีกเลี่ยงการไปในสถานที่แออัด)
– ผู้ไม่เสี่ยง คือผู้ที่อยู่ไกลกับผู้ป่วยมากๆ เช่น อยู่คนละห้อง คนละชั้นกับผู้ป่วย