Source - โพสต์ ทูเดย์ (Th) Monday, June 29, 2015 05:03 โชคชัย สีนิลแท้ เพราะกรุงเทพฯ ไม่ใช่ประเทศไทย โจทย์สำคัญในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของ ซี.พี.แลนด์ ภายใต้การนำทัพเจ้าสัว ธนินท์ เจียรวนนท์ จึงไม่ได้เน้น อยู่แค่ศูนย์กลางของประเทศ แต่ต้องกระจายไปสู่ระดับภูมิภาค รวมไปถึงกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านเมื่อโอกาสมาถึง สุนทร อรุณานนท์ชัย ประธานคณะผู้บริหาร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซี.พี.แลนด์ กลุ่มธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เครือเจริญโภคภัณฑ์ เปิดเผยว่า กลุ่ม ซี.พี.แลนด์ มีประสบการณ์ในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์มานานกว่า 33 ปี พัฒนาทั้งอสังหาริมทรัพย์เพื่อขายประเภทที่อยู่อาศัยและเพื่อเช่า ได้แก่ อาคารสำนักงาน และงานบริหารอาคาร ครอบคลุมจังหวัด หัวเมืองสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นกรุงเทพฯ เชียงใหม่ อุดรธานี ขอนแก่น นครราช สีมา หาดใหญ่ นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี พิษณุโลก เนื่องจากเห็นศักยภาพของจังหวัดต่างๆ ในภูมิภาคที่เป็นศูนย์กลางย่านเศรษฐกิจที่มีการเจริญเติบโตความต้องการอาคารสำนักงานให้เช่าและที่อยู่อาศัยจึงมีมากขึ้นตามไปด้วย "ประเทศไทยมี 77 จังหวัด ทุกจังหวัดนั้นมีศักยภาพทั้งนั้น นโยบายการพัฒนาโครงการของเราจึงเน้นกระจายไม่กระจุกเฉพาะอยู่ในตัวเมือง แต่เราจะต้องเลือกไปจังหวัดที่มีความพร้อมก่อน จังหวัดที่มีความพร้อมนั้นเขาจะใช้ชีวิตเหมือน คนเมือง วัดได้จากปริมาณการใช้สมาร์ทโฟน การรับประทานอาหารฟาสต์ฟู้ด ขณะที่จุดเริ่มต้นของบริษัทนั้นเริ่มจากพัฒนาที่อยู่อาศัย จากนั้นจึงพัฒนาอาคารสำนักงานให้เช่าเริ่มจาก ซี.พี.ทาวเวอร์ จากนั้นก็ขยายไปยังต่างจังหวัดอย่าง จ.ขอนแก่น จนปัจจุบันมีอาคาร ซี.พี.ทาวเวอร์ 3 อาคารแล้ว เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้น ปัจจุบันบริษัทมีอาคารสำนักงานให้เช่าแล้ว 30อาคารในปีนี้จะขยายเพิ่มอีก9 อาคาร" สุนทร  กล่าว นอกจากนี้ ยังเป็นปีแรกที่บริษัทได้ขยายการลงทุนในต่างประเทศ เน้นการลงทุนที่สร้างรายได้ระยะยาว โดยมีแผนที่จะเข้าไปซื้อกิจการโรงแรมระดับ 3-4 ดาว ขนาด 250-400 ห้อง ในแถบยุโรปกลาง อาทิ ประเทศโครเอเชีย เพราะมองว่าเป็นตลาดที่ใหม่ที่คนไทยเริ่มไป ท่องเที่ยว ค่าครองชีพและราคาที่พักอาศัยยังไม่สูงมากนัก ขณะนี้อยู่ในระหว่างการศึกษาข้อมูลและเจรจากับนักลงทุนท้องถิ่นหลายราย คาดว่าจะใช้เงินลงทุน 1,000 ล้านบาท จะใช้แบรนด์เมอร์เคียว ฟอร์จูน เข้าไปบริหาร นอกจากนี้ยังสนใจลงทุนในประเทศนิวซีแลนด์และออสเตรเลียด้วย ขณะนี้อยู่ในระหว่างการศึกษาข้อมูล ทั้งนี้ เพื่อรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ได้เข้าไปเจรจาซื้อสิทธิการเช่าสำนักงานของหน่วยงานราชการในกรุงย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา เป็นอาคารสูง 8 ชั้น พื้นที่ 6,000 ตารางเมตร โดยสัญญาเช่า 50 ปี ต่อสัญญา 10 ปี ได้ 2 ครั้ง คาดว่า จะสรุปได้ในปลายปีนี้ และจะใช้เงินลงทุน 500 ล้านบาท อัตราค่าเช่าใหม่จะอยู่ที่ประมาณ 1,800-2,400 บาท/ตารางเมตร/เดือน ขณะเดียวกันมีกลุ่มทุนต่างชาติสนใจที่จะเข้ามาร่วมทุนกับ ซี.พี.แลนด์ อยู่ระหว่างการเจราจา ทั้งจีน ที่สนใจร่วมทุนในธุรกิจรับเหมาก่อสร้างและนิคมอุตสาหกรรม นอกจากนี้ยังมีกลุ่มทุนจากญี่ปุ่นและสิงคโปร์ แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ "ซี.พี.แลนด์ มีแผนที่จะเข้าตลาดหลักทรัพย์ในปี 2560 ปัจจัยสำคัญคือ เพื่อเปิดกว้างและรองรับการขยายธุรกิจในอนาคต สร้างการเติบโตแบบก้าวกระโดด และสร้างความน่าเชื่อถือในการดำเนินธุรกิจ เพราะในแง่การลงทุนบริษัทมีความแข็งแกร่งด้านเงินทุนอยู่แล้ว เช่น หากจะลงทุนหมื่นล้านบริษัทสามารถตัดสินใจได้เลย ทั้งนี้ หลังเข้าตลาดจะมีการเพิ่มทุนจดทะเบียนอีก จากปัจจุบันที่มีทุนจดทะเบียน 3,630 ล้านบาท" สุนทร กล่าว สำหรับแผนการลงทุนในประเทศของ ซี.พี.แลนด์ ยังเดินหน้าตามแผนที่วางไว้ บริษัทมีที่ดินพร้อมรองรับการขยายโครงการได้ใน 2-3 ปีนี้อยู่แล้ว ซึ่งในระยะ 3 ปีนี้ (2557-2559) ที่วางไว้ว่าจะลงทุนมูลค่า 3 หมื่นล้านบาท ปัจจุบันใช้เงินลงทุนไปแล้วกว่า 2 หมื่นล้านบาท อาทิ นิคมอุตสาหกรรม ซี.พี.อินดัสเทรียล เอสเตท จ.ระยอง มูลค่า 7,700 ล้านบาท พร้อมโรงไฟฟ้าเอสพีพี มูลค่า 6,000 ล้านบาท คลังสินค้าและศูนย์กระจายสินค้าในจังหวัดเศรษฐกิจพิเศษ 5 เขต โรงแรม ภายใต้แบรนด์เมอร์เคียว ฟอร์จูน และแบรนด์เนสท์ ที่อยู่อาศัย ทั้งแนวราบและคอนโดมิเนียม และอาคารสำนักงานให้เช่า ในหัวเมืองหลัก โดยจะลงทุนอาคารสำนักงานซี.พี.ทาวเวอร์ 4 นอร์ทปาร์ค มูลค่า 1,000ล้านบาทและมีแผนจะขยายอาคารสำนักงานแห่งที่ 4 ที่ จ.ขอนแก่น โดยล่าสุดบริษัทได้เปิดอาคารสำนักงานแห่งแรกของบริษัท ซี.พี.ทาวเวอร์ ที่ จ.พิษณุโลก ขนาด 6,880 ตารางเมตร พื้นที่ 6 ไร่ อัตราค่าเช่าเฉลี่ย 500 บาท/ตารางเมตร รองรับการขยายตัวในจังหวัด "ที่ผ่านมา ซี.พี.แลนด์ พัฒนาโครงการคอนโดมากว่า 6,500 ยูนิต มูลค่ากว่า 1 หมื่นล้านบาท ในปีนี้จะเปิดโครงการใหม่อีกกว่า 3,000 ยูนิต แต่จากที่ภาวะเศรษฐกิจยัง ไม่ฟื้นตัวดีนัก ทำให้ปีหน้าจะต้องเริ่มแตะเบรกการพัฒนาโครงการ คอนโดลงเหลือ 1,600 ยูนิต/ปี เฉลี่ยราคาขาย 1.6 ล้านบาท/ยูนิต กระจายอยู่ในส่วนภูมิภาค เนื่องจากก็ต้องศึกษาตลาดให้ดีว่าบริเวณใดความต้องการที่อยู่อาศัยมีมากน้อยเพียงใด" สุนทร กล่าว อย่างไรก็ตาม ในปีนี้บริษัท คาดว่าจะมีรายได้ใกล้เคียงกับปี ที่ผ่านมาที่ 3,000 ล้านบาท ส่วน ปีหน้าคาดว่าจะมีรายได้เติบโตก้าวกระโดดไม่ต่ำกว่า 6,000 ล้านบาท สุนทร กล่าวว่า ทางกลุ่ม ซี.พี.แลนด์ ยังสนใจที่จะเข้าไปร่วมลงทุนระบบรางและโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะในเส้นทางด้านภาค ตะวันออก เนื่องจากจะเชื่อมต่อกับแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ยังใกล้กับนิคมอุตสาหกรรมสำคัญหลายแห่งและจะเกิดที่อยู่อาศัย และอาคารสำนักงานตามมา ซึ่งจะเป็นโครงการที่เชื่อมต่อไปกับระบบคมนาคม แต่ทั้งนี้ยังคงต้องรอความชัดเจนของรัฐบาลก่อนว่าจะเป็นอย่างไร แม้ว่าภาพรวมเศรษฐกิจขณะนี้ยังไม่ฟื้นตัวดีนัก สะท้อนจากตัวเลขเศรษฐกิจออกมาไม่ค่อยดี สถาบันการเงินระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อให้กับผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ดังนั้น ช่วงที่เหลือ 6 เดือนขึ้นอยู่กับ กำลังซื้อว่าจะฟื้นหรือไม่ โดยแรงขับเคลื่อนสำคัญ คือ การเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐ หากทำได้ตามแผนที่วางไว้จะทำให้ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ เหมือนกับเป็นการเติมเชื้อเพลิงให้กับเศรษฐกิจอาจเห็นการเติบโตเศรษฐกิจ (จีดีพี) ปีนี้ที่ 3% ซึ่งถือว่าไม่สูง เพราะปีที่ผ่านมาเศรษฐกิจก็เติบโตไม่มากนัก ขณะนี้ภาคเอกชนต้องปรับตัวรองรับเศรษฐกิจ เห็นบางธุรกิจเริ่มมีการลดคนงาน ธุรกิจค้าปลีกมีการแข่งขันจัดโปรโมชั่นรุนแรงขึ้น นี่คือกลยุทธ์ของ ซี.พี.แลนด์ ที่เน้นกระจายลงทุนหลากหลายรับเศรษฐกิจผันผวน