ซีคอนเสริมความแข็งแกร่งด้วยกลยุทธ์ SEACON FAST FORWARD เดินหน้าธุรกิจอย่างยั่งยืน ต่อยอดการเติบโตแบบฉีกกรอบธุรกิจรับสร้างบ้านไทยทั้งกลุ่ม B2B และ B2C
มั่นใจปี 67 โต 10-15% ด้วยการขยายโรงงานผลิตโครงสร้างแห่งที่ 2 รองรับความต้องการของตลาด เปิดตัวร่วมมือกับ Partner Brand ชั้นนำในภาคธุรกิจอสังหาฯ ยืนยันคุณภาพด้วยประสบการณ์กว่า 63 ปี และเผยโฉมแบบบ้านใหม่ซีรีย์ Greenery SEACON มอบไลฟ์สไตล์ชีวิตเมืองที่สัมผัสธรรมชาติได้ในทุกวัน
ซีคอนสานต่อความเป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจรับสร้างบ้านที่ได้รับความนิยมสูงสุดของไทยมากว่า 63 ปี ดึงแนวคิด ESG เข้ามาใช้สร้างสรรค์แผนธุรกิจในปี 2567 เพื่อปูทางสู่ความยั่งยืน ประกาศพลิกโฉมธุรกิจด้วยกลยุทธ์ SEACON FAST FORWARD ให้เป็นได้ยิ่งกว่าธุรกิจรับสร้างบ้านแบบ Beyond Thinking ติดปีกต่อยอดเพิ่มโอกาสในการขยายธุรกิจให้เติบโตกว่าตลาดอย่างมั่นคงและยั่งยืน
นายมนู ตระกูลวัฒนะกิจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีคอน จำกัด เปิดเผยว่า กลยุทธ์ SEACON FAST FORWARD ที่ซีคอนจะให้เป็นแกนหลักในการดำเนินธุรกิจในปีนี้นั้น ผสานไปด้วยมิติต่างๆ ที่จะนำสู่ความสำเร็จ ได้แก่ มิติการขับเคลื่อยองค์กรสู่ความยั่งยืนด้วยแนวคิด E-S-G มิติการนำความเชี่ยวชาญในฐานะผู้บุกเบิกธุรกิจรับสร้างบ้านของไทยมาต่อยอดสู่การพัฒนาธุรกิจใหม่เพื่อเติมเต็มความต้องการของตลาด และมิติในการพัฒนาศักยภาพทีมซีคอนให้พร้อมสู่การขับเคลื่อนองค์กรที่รวดเร็วยิ่งขึ้น ให้พร้อมส่งมอบบริการอันเป็นเลิศแก่ลูกค้า ซึ่งทุกมิติจะถูกดำเนินการไปพร้อมๆ กัน เพื่อสร้างให้ซีคอนเป็นได้มากกว่าบริษัทรับสร้างบ้าน สอดรับกับบริบทของสังคมและความต้องการของผู้บริโภคทั้งกลุ่ม B2C และ B2B ที่เปลี่ยนไปในปัจจุบัน
ยังคงสานต่อ 3 กลยุทธ์การดำเนินธุรกิจจากปี 2566 สู่ปี 2567
ซีคอนยังคงยึด 3 กลยุทธ์หลักเพื่อใช้ในการขับเคลื่อนธุรกิจในปี 2567 ประกอบด้วย กลยุทธ์ด้านความยั่งยืน (Sustainability) ภายใต้แนวคิด E-S-G, กลยุทธ์การแสวงหาฐานลูกค้ากลุ่มใหม่รวมทั้งพัฒนาโปรดักส์ใหม่เพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ และกลยุทธ์ด้านการตลาดยุคใหม่ที่ผสานความสมดุลระหว่างออนไลน์และออฟไลน์อย่างลงตัว เพื่อคงฐานลูกค้ากลุ่มเก่าไว้ในขณะเดียวกับก็สามารถเจาะเข้าถึงฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ได้ในเวลาเดียวกัน โดยทั้ง 3 กลยุทธ์ดังกล่าวนี้ ซีคอนได้เริ่มใช้ตั้งแต่ปีที่ผ่านมา และได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าสามารถสร้างความแข็งแกร่งให้แก่องค์กรได้อย่างแท้จริง แม้ภาพรวมเศรษฐกิจที่หลายฝ่ายเชื่อว่าอยู่ในช่วงขาลง แต่ซีคอนก็ยังสามารถดำเนินธุรกิจได้ใกล้เคียงเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้อย่างดี โดยสร้างยอดขายได้ประมาณ 2,000 ล้านบาทในปีที่ผ่านมา
เจาะลึก 3 ปัจจัยในปี 2567 มาพร้อมพัฒนาการที่เหนือกว่า ที่จะทำให้ซีคอนเติบโตกว่าตลาดรวมในแบบ Beyond Thinking ให้อนาคตเป็นตัวกำหนดปัจจุบัน
ในปี 2567 ซีคอน ตั้งเป้าอัตราการเติบโตไว้ประมาณ 10-15% ซึ่งปัจจัยแรกที่ทำให้เติบโตคือการเพิ่มความเข้มข้นในเรื่องการพัฒนาเพื่อให้เกิดความยั่งยืนของธุรกิจ (Business Sustainability) ด้วยกลยุทธ์ ESG ที่องค์กรต้องคำนึงถึงการดำเนินธุรกิจอย่างรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม (E-Environment) และสังคม (S-Social) รวมถึงการวางระบบ
กำกับกิจการที่ดี (G-Governance) ตลอดจนการนำเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) โดยคำนึงถึงการบริหารงานตามหลักธรรมาภิบาล ผลกระทบทั้งเชิงบวกและเชิงลบต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม และพร้อมที่จะแก้ไขปัญหาต่างๆ แบบองค์รวม ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ความไว้ใจ และความสามารถในการประกอบการกิจการในฐานะที่เป็นบริษัทผู้บุกเบิกธุรกิจรับสร้างบ้านรายแรกของประเทศไทย พร้อมกับประสบการณ์ที่มีมากกว่า 63 ปี สร้างบ้านมากกว่า 25,000 หลัง ทั้งยังเป็นบริษัทรับสร้างบ้านรายเดียวที่ยืน 1 ในเรื่องของการสร้างบ้านที่มีคุณภาพมาโดยตลอด อีกทั้งยังสร้างบ้านจากความฝันของลูกค้าให้กลายมาเป็นบ้านจริงที่สมบูรณ์แบบได้ ด้วยเหตุผลทั้งหมดทั้งมวลจึงเป็นการสร้างความมั่นใจในเรื่องของ branding ได้เป็นอย่างดี