ในทุกวันนี้พวกเราทุกคนคงเคยได้ยินกระแส การรักษาสิ่งแวดล้อม การลดคาร์บอน หรือ ความเป็นกลางทาคาร์บอน(Carbon Neutrality) เกิดขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปี 2020 ที่ผ่านมา รัฐบาลประเทศญี่ปุ่นประกาศว่า ประเทศต้องบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2050 ด้วยเหตุดังกล่าวจึงมีแผนงานสู่สังคมที่ช่วยลดคาร์บอน และมีหลายโครงการที่กำลังดำเนินการอยู่ รวมถึงโครงการ “YOYOGI SANGUBASHI TERRACE”

Yoyogi Sangubashi Terrace สร้างเสร็จในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2023 ที่ผ่านมา เป็นโครงการห้องพักอาศัยให้เช่า (Rental Housing) มีจุดมุ่งหมายที่จะเพิ่มคุณค่าให้กับตัวอาคารตามนโยบายที่ภาครัฐได้กล่าวไว้ นอกจากเป้าหมายการลดคาร์บอนแล้ว ยูนิตพักอาศัยยังต้องมีการส่งเสริมการออกแบบพื้นที่สีเขียวที่ตอบโจทย์ความสบายในการอยู่อาศัยรวมถึงรองรับไลฟ์สไตล์ที่มีความหลากหลาย

รายละเอียดตัวโครงการ

โครงการ Yoyogi Sangubashi Terrace ตั้งอยู่ห่างจากสถานีรถไฟ Sangubashi (Odakyu Line) ด้วยการเดินเท้าเพียง 5 นาที และห่างจากสถานีรถไฟ Hatsudai (Keio New Line) ด้วยการเดินเท้าเพียง 7 นาที โดยอาคารพักอาศัยจะมีความสูง 4 ชั้น และมีจำนวนยูนิตทั้งหมด 86 ยูนิต โดยที่ดินเดิมของพื้นที่บริเวณนี้เป็นพื้นที่หอพักของบริษัท Takenaka Corporation มาก่อน

ซึ่งสิ่งแรกที่ทางโครงการให้ความสำคัญ คือ การลดคาร์บอน และการเป็นที่อยู่อาศัยที่ดีต่อสุขภาพ ซึ่งสิ่งที่บ่งชี้การลดคาร์บอน คือ “ZEH” หรือย่อมาจาก Net Zero Energy ซึ่ง ZEH ก็มีอยู่หลายประเภทโดยจะขึ้นอยู่กับรูปแบบของลักษณะอาคาร เช่น บ้านเดี่ยว อพาร์ทเม้นท์ รวมถึงทำเลที่ตั้งด้วย แต่สำหรับโครงการ Yoyogi Sangubashi Terrace เป็นโครงการอพาร์ทเม้นท์ปล่อยเช่าขนาดใหญ่โครงการแรกในญี่ปุ่นที่ได้รับ ZEH-M certification โดยตัวโครงการมีการสร้างสมดุลระหว่างพลังงานที่ใช้ในบ้าน กับพลังงานที่เกิดจากการผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ จึงสามารถช่วยลดปริมาณการใช้พลังงานใน 1 ปีได้

ซึ่งอาคาร Yoyogi Sangubashi Terrace ยังมีการเลือกใช้วัสดุ Insulation และเคลือบกระจก 2 ชั้น (Double-glazed glass) เพื่อป้องความร้อนในฤดูร้อน และความเย็นในฤดูหนาว นอกจากนี้ยังมีการใช้วัสดุไม้ที่ทำให้รู้สึกอบอุ่นด้วย ซึ่งมีไม่มากนักที่โครงการปล่อยเช่า(Rental Housing) จะใช้วัสดุเหล่านี้ อีกหนึ่งสิ่งที่มีความน่าสนใจในการช่วยประหยัดพลังงาน คือ ระบบ “Ecocute” เป็นระบบที่มีความ Unique ใช้ในการปรับเปลี่ยนพลังงานเพื่อให้เกิดความ Eco-friendly เนื่องจากจะมีการใช้ไฟในการต้มน้ำช่วงกลางคืน ทำให้ค่าพลังงานมีราคาถูก

พื้นที่ลานขนาดใหญ่(Courtyard) และทางเดินลอยฟ้า(Flying Corridor)

มาดูกันต่อในส่วนของพื้นที่ลานภายในของโครงการ Yoyogi Sangubashi Terrace พื้นที่สีเขียวไม่เพียงแค่มีในบริเวณชั้น 1 เท่านั้นแต่พื้นที่สีเขียวยังกระจายขึ้นไปบนชั้น 2 จนถึงชั้น 4 ด้วย ซึ่งเมื่อมองจากภายนอกอาคารจะสัมผัสได้ถึงความแตกต่างจากรูปแบบของที่พักอาศัยปล่อยเช่าโดยทั่วไป

จากพื้นที่ทางเข้าโครงการพื้นที่บริเวณแรกที่จะพบ คือพื้นที่ลาน Courtyard ขนาดใหญ่ โดยจะมีการปลูกต้นไม้ 2 ฝั่งทางเดิน มีระเบียงทางเดินอยู่ด้านหน้าของตัวอาคาร มีทางเดินลอยฟ้า(flying corridor-style) แบ่งพื้นที่ระหว่างพื้นที่ส่วนตัวและพื้นที่ส่วนกลาง ซึ่งเมื่อมองจากภายนอกตัวอาคารจะดูเหมือนเป็นอาคารเดียวๆขนาดใหญ่ที่มีรูปร่างเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าโดยมีพื้นที่สวนอยู่กึ่งกลาง แต่จริงๆแล้วพื้นที่อาคารจะถูกแบ่งเป็นอาคารพักอาศัย 4 อาคารโดยมีแผ่นพื้น(Rigid slabs) เชื่อมต่อระหว่างตัวอาคาร มีความแข็งแรงสามารถรองรับแผ่นดินไหวได้

ในส่วนของห้องโถง(Atrium) ตั้งอยู่ระหว่างยูนิตพักอาศัยและพื้นที่ทางเดินส่วนกลางที่เรียกว่า flying corridor เป็นการสร้างข้อดี ในด้านการถ่ายเทอากาศ (Ventilation) ในด้านแสงธรรมชาติ (Daylighting) และการป้องกันอาชาญกรรม (Crime Prevention) การแยกทางเดินส่วนกลางและหน้าต่างของห้องพักอาศัยแต่ละห้อง ทำให้มั่นใจในการป้องกันอาชญากรรม และเพิ่มความเป็นส่วนตัว โดยเลือกใช้งานออกแบบที่ไม่มีตะแกรงหน้าต่าง ทำให้ห้องที่แม้จะอยู่ฝั่งทิศเหนือก็สามารถรับแสงจากทิศใต้ได้ และการที่มีหน้าต่างหลายบานช่วยทำให้สามารถระบายอากาศได้ดี

อีกเรื่องที่น่าสนใจของอาคารหลังนี้ คือจะไม่พบไฟดาวน์ไลท์บนฝ้าเพดานของอาคารแม้แต่จุดเดียว แต่จะมีการซ่อนไว้ตามต้นไม้หรือพื้น เพื่อให้ไฟสะท้อนขึ้นเพดาน ซึ่งตอนกลางคืนจะให้อารมณ์ความรู้สึกคล้ายกับการอยู่รีสอร์ท

หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมถึงมีการจัดพื้นสีเขียวเยอะขนาดนี้ ซึ่งเหตุผลที่ทำให้โครงการนี้มีต้นไม้จำนวนมากเนื่องจากอาคารแห่งนี้ต้องการสืบทอดความทรงจำของหอพักในอดีต รวมถึงต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยปรับภูมิทัศน์ของเมืองและคำนึงถึงสถานที่ตั้ง ที่ใกล้กับสวนสาธารณะโยโยกิ ซึ่งเดิมหอพักตั้งอยู่ในพื้นที่นี้มานานกว่า 30 ปี และเป็นเหมือนสวนสาธารณะที่มีต้นไม้รวมถึงต้นซากุระขนาดใหญ่ ดังนั้นเพื่อรักษาความทรงจำนั้น โครงการนี้จึงมีจุดประสงค์ในการปลูกต้นไม้มากกว่า 20 ชนิด เพื่อให้ภูมิทัศน์ของพื้นที่สีเขียวมีความเชื่อมต่อกัน เมื่อคุณเดินผ่านพื้นที่ลานส่วนกลางและขึ้นลงบันได จะสามารถเห็นทิวทัศน์ที่แตกต่างกันไปตามในแต่ละชั้น ซึ่งแต่ละชั้นจะมีเสน่ห์ที่ไม่เหมือนกัน

สุดท้ายพื้นที่ในอาคารยังมีพื้นที่ที่สามารถใช้ร่วมกัน อยู่ 2 ประเภท คือ 1.พื้นที่นั่งพักผ่อนบริเวณทางเข้า เป็นพื้นที่รับแขกที่มีบรรยายกาศสงบมีชั้นหนังสือบนฝาผนัง 2.อีกส่วนหนึ่งเป็นพื้นที่ทำงานด้านหลังตรงข้ามกับทางเข้า โดยบริเวณนี้จะหันเข้าสู่ลานด้านในและมีโต๊ะสามารถนั่งทำงาน และมองวิวของพื้นที่สีเขียวได้ นอกจากนี้ยังมีพื้นที่สำหรับการประชุมออนไลน์ โดยได้รับการออกแบบเพื่อให้มีพื้นที่ใช้สอยที่หลากหลายตามไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกัน ทำให้พื้นที่ของผู้อยู่อาศัยสามารถใช้ชีวิตได้อย่างอิสระในแบบของตัวเอง

อ้างอิง :

https://www.kencorp.com/articles-and-insights/022.html

代々木参宮橋テラス｜2023年2月竣工のZEH基準に対応した高級賃貸マンション (kencorp.co.jp)