มหานครลอนดอน คือเมืองหนึ่งที่เป็นศูนย์กลางทางธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ปัจจุบันมีการพัฒนาทางอสังหาริมทรัพย์มาอย่างต่อเนื่อง

Ballymore  กลุ่มบริษัทพัฒนาและลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ระดับโลก ซึ่งรับผิดชอบบรรดาโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยสุดหรูของลอนดอน และหนึ่งในนั่นก็คือโครงการ London City Island เฟส 2 ตั้งอยู่ในพื้นที่สไตล์เกาะอันโดดเด่นบน Leamouth Peninsula มีทั้งทาวน์เฮาส์ อะพาร์ตเมนต์ ห้องชุด และศูนย์กลางทางวัฒนธรรม ตอบโจทย์กับ lifestyle ชีวิตแบบใหม่ในลอนดอน

London City Island เป็นโครงการร่วมทุนระหว่าง EcoWorld กับ Ballymore ซึ่งเคยร่วมงานกันมาหลายโครงการแล้ว ได้แก่ Embassy Gardens และ Wardian London

ภาพ London City Island จาก https://www.ecoworldballymore.com/

London City Island เป็นย่านใหม่ที่ตั้งอยู่ในบริเวณที่มีเส้นทางคมนาคมสะดวกสบายมากเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางด้วยรถยนต์ รถไฟ และเครื่องบิน

ออกแบบโครงการมาเพื่อเติมเต็มย่านธุรกิจที่ตั้งอยู่ใกล้เคียงให้สมบูรณ์แบบด้วยที่อยู่อาศัยระดับพรีเมียม สามารถสัมผัสได้ถึงชีวิตที่ผ่อนคลายมากขึ้นในใจกลางลอนดอนตะวันออกด้วยวัฒนธรรมและความโดดเด่นของสถาปัตยกรรมที่ถูกถ่ายทอดความสวยงามไว้ได้อย่างมีระดับ สะท้อนออกมาให้เห็นถึงวัฒนธรรมต่างๆของพื้นที่แห่งนี้

ภาพจาก https://www.scmp.com/presented/business/topics/invest-overseas-properties/article/3011669/townhouses-london-city-island

เฟส 1 พัฒนาเสร็จสมบูรณ์ในย่าน Leamouth Peninsula และต้อนรับผู้อยู่อาศัยกลุ่มแรกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในปัจจุบันเฟส 2 กำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้างและจะสร้างทาวน์เฮ้าส์ใหม่ 7 หลังถัดจาก English Nation Ballet ซึ่งจะเปิดในปลายปีนี้

London City Island กำลังจะกลายเป็นที่ตั้งของโรงเรียนฝึกสอนและผลิตการแสดงบัลเลต์ English National Ballet และ London Film School อีกทั้งยังมี Gallery และพื้นที่สร้างสรรค์ผลงานมากมาย ถือเป็นศูนย์กลางของไลฟ์สไตล์สำหรับคนเมืองยุคใหม่ที่เปี่ยมไปด้วยสัมผัสแห่งศิลปะและวัฒนธรรมของลอนดอน มีทั้งร้านอาหารที่เน้นศิลปะและร้านค้าแบรนด์ดังมากมายที่ทุกคนสามารถเลือกช้อปได้อย่างอิสระที่ Canary Wharf

English Nation Ballet

London City Island ได้รับการขนานนามว่า “micro-Manhattan” เพราะสีสันหลักที่โดดเด่นของโครงการ The Townhouses สะท้อนให้เห็นถึงรูปแบบที่เป็นอมตะคลาสสิคของที่อยู่อาศัยใน New York และ Chicago ที่มีความเป็นมาอย่างยาวนาน

ด้วยทำเลที่ตั้งอยู่ในย่าน Leamouth Peninsula ซึ่งเป็นเกาะ จึงเรียกกันว่า Micro Manhattan

งานออกแบบผสมผสานระหว่างงานอิฐที่สื่อให้เห็นถึงรูปแบบ Industrial Style ในอดีตของลอนดอนตะวันออกบวกกับงานโลหะที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก Trinity Buoy Wharf ซึ่งเป็นประภาคารเพียงแห่งเดียวในกรุงลอนดอน

ภาพ exterior design ภายนอกของโครงการ The Townhouses ในช่วงกลางคืน

ภาพจาก https://www.amosandamos.co.uk/projects/residential/the-townhouses-at-lci-ballymore

ภาพในช่วงกลางวัน

ภาพจาก https://www.londoncityisland.com/townhouses/

ออกแบบสไตล์ Industrial ให้อารมณ์ของโรงงานอุตสาหกรรมหรือโกดังในอดีต เป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบตกแต่งภายในห้องไม่ว่าจะเป็นผนังกำแพงอิฐบล็อก ห้องครัวที่มีการใช้ก๊อกน้ำจากวัสดุทองเหลือง โต๊ะรับประทานอาหารและพื้นไม้โอ๊ค พื้นที่อยู่อาศัยมีสไตล์ร่วมสมัยมากขึ้น อีกทั้งยังมีการเพิ่มสุนทรียภาพในโลกแห่งศิลปะด้วยแท่นหินอ่อนเพื่อแสดงผลงานศิลปะหรืองานประติมากรรม เรียกได้ว่าดำรงคอนเซปต์ของการพัฒนาอสังหาร่วมกับศิลปะได้อย่างกลมกลืน

ref. https://www.londoncityisland.com/townhouses/

Jaki Amos ผู้ร่วมก่อตั้งทีมออกแบบตกแต่งภายใน Amos & Amos ได้อธิบายว่าได้รับโอกาสจากโครงการ The Townhouses ที่ London City Island ในการสร้างสรรค์พื้นที่นั่งเล่นที่มีดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์และความโดดเด่นที่สะท้อนออกมาคอนเซปต์ต่างๆ ออกมาอย่างชัดเจนบนเกาะเล็กๆ ในกรุงลอนดอนแห่งนี้  ในขณะเดียวกันก็อ้างอิงถึงประวัติศาสตร์ยุคอุตสาหกรรมในอดีตอันยาวนาน นอกจากนี้เขายังตื่นเต้นและรู้สึกคุ้มค่ามากที่ได้ทำงานใกล้ชิดกับ EcoWorld และ Ballymore ในโครงการออกแบบต่างๆ ที่ London City Island โดยเฉพาะโครงการ The Townhouses เป็นสถานที่ที่เขาและทีมงานได้แสดงผลงานการออกแบบใหม่ล่าสุด

ภาพจาก https://www.amosandamos.co.uk/projects/residential/the-townhouses-at-lci-ballymore

การออกแบบ Unit Plan ของโครงการ The Townhouses

Ground floor

1^st floor

2^nd floor

3^rd floor

4^th floor

Terrace

ภาพ plan จาก https://www.londoncityisland.com/townhouses/

ผู้พักอาศัยใน The Townhouses จะเพลิดเพลินไปกับวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของแม่น้ำ Lea ไปจนถึง Canary Wharf, The O2 และเมืองอื่นๆ ผ่านหน้าต่างสไตล์ Crittall ขนาดใหญ่ที่เปิดรับแสงธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ สามารถสัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่แสนรื่นรมย์ บางห้องมีระเบียงขนาดใหญ่หรือระเบียงดาดฟ้าเหมาะสำหรับการรับประทานอาหาร outdoor ดื่มด่ำไปกับบรรยากาศที่เป็นส่วนตัว รับลมเย็นๆ ได้ทั้งตอนกลางวันและกลางคืน

ผู้อาศัยทุกคนจะได้เป็นสมาชิกโดยอัตโนมัติของ City Island Arts Club ไปด้วย ซึ่งความพิเศษคือเป็นคลับสำหรับ exclusive members ที่ให้บริการสิ่งอำนวยความสะดวกสไตล์โรงแรม รวมถึงคลับเฮ้าส์ส่วนตัว สระว่ายน้ำ สปา ห้องออกกำลังกาย ร้านขายอาหาร คาเฟ่และบาร์ และยังมีเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกตลอด 24 ชั่วโมงอีกด้วย

ห้องออกกำลังกายสไตล์ Indutrial Design เพดานสูงโปร่ง

สระว่ายน้ำกระเบื้องสีแดงที่โซน The Clubhouse

คาเฟ่และบาร์

The Grocer ในโซน The Clubhouse

บริการแบบ Full service ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง

โครงการ The Townhouses ตั้งอยู่ติดกับสะพานข้ามแม่น้ำ Lea ที่เชื่อมต่อกับสถานี Canning Town สู่ใจกลางเมืองโดยรถไฟใต้ดินหรือรถไฟ Docklands Light Railway (DLR) และบริการรถไฟครอสส์เรล Elizabeth Line ใหม่ที่จะมาถึง Canary Wharf ในช่วงปี 2020-2021 เพื่อช่วยลดเวลาในการเดินทาง ทำให้การคมนาคมสะดวกสบายมากยิ่งขึ้นและคาดว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้แนวโน้มความต้องการของที่อยู่อาศัยปรับตัวสูงขึ้น

ภาพจาก https://www.londoncityisland.com/location

The Townhouse ที่ London City Island เป็นโครงการที่เหมาะสำหรับนักลงทุนอสังหาริมทรัพย์ที่ต้องการเป็นส่วนหนึ่งของโครงการพัฒนาใหม่ที่หรูหราและน่าอยู่มากที่สุดในช่วงนี้ มีกำหนดแล้วเสร็จในช่วงฤดูร้อนปี 2020

หนึ่งยูนิตมีห้องพัก ­3 ห้องนอน ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 1.45 ล้านปอนด์ หรือเพียงแค่ 55.6 ล้านบาทเท่านั้น

รายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการ The Townhouses สามารถติดตามได้ที่ www.londoncityisland.com