“The Whale” สวรรค์ของคนรักวาฬที่ห้ามพลาดบนเกาะ Andøya ที่นอร์เวย์ โดย Dorte Mandrup
จุดชมวิวที่เด็ดที่สุดและพลาดไม่ได้สำหรับคนหลงรักวาฬที่นอร์เวย์ เมื่อนึกถึงประเทศนอร์เวย์ เรามักคิดถึงภาพวาฬยักษ์ตัวเป้งวนว่ายทั่วท้องทะเล วัฒนธรรมล่าวาฬอันเลื่องชื่อ และการรักษาธรรมชาติให้สมบูรณ์ซึ่งทั้งหมดนี้รวมกันเป็นเอกลักษณ์ของประเทศนอร์เวย์ที่เป็นจุดขายเด่นไม่แพ้ชาติใดในโลก ด้วยเหตุนี้จึงไม่น่าแปลกใจที่ Dorte Mandrup เป็นหนึ่งในบริษัทที่ได้รับมอบหมายให้สร้าง “The Whale” แลนด์มาร์กใหม่รูปร่างคล้ายวาฬยักษ์ที่มีจุดมุ่งหมายส่งเสริมการท่องเที่ยวให้ประเทศนอร์เวย์ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ชมธรรมชาติที่สมบูรณ์ทั้งจากด้านในและด้านนอกอาคารจากจุดชมวิวดีไซน์เก๋คล้ายหางวาฬที่จงใจออกแบบให้กลมกลืนไปกับธรรมชาติของนอร์เวย์อย่างเพอร์เฟค “The Whale” ตั้งอยู่บริเวณเกาะ Andøya ที่อยู่ห่างจากอาร์กติกเซอร์เคิล 300 กม. ซึ่งเป็นพิกัดสำคัญที่พวกวาฬและสัตว์น้ำต่างๆจะอพยบผ่านเส้นทางนี้กันเป็นประจำจึงกลายเป็นจุดชมวิวที่ดีที่สุดของนอร์เวย์ที่จะได้ชื่นชมและสังเกตุการฝูงวาฬได้อย่างจุใจและคุ้มค่าที่สุด กว่าจะได้หางวาฬสวยๆเท่ห์ๆแบบนี้มาก็เล่นเอาต้องใช้ทีมครีเอทีฟระดับเทพๆทั้งนั้น ได้แก่ Marianne Levinsen Landskab, JAC Studio, Thornton Tomasetti, AT Plan & Arkitektur, Nils øien, และ Anders Kold มาร่วมมือกันเพื่อพัฒนาให้แหล่งท่องเที่ยวของที่นี่ออกสู่นานาชาติได้อย่างภาคภูมิ อย่างไรก็ตาม การได้มาสร้างโปรเจคนี้ก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเสมอไป เพราะก่อนที่จะได้เป็นผู้ดูแลโปรเจคก็ต้องส่งผลงานดีไซน์เข้าประกวดกันอย่างดุเดือดจนในที่สุดก็ได้ผู้ชนะอย่าง Dorte Mandrup มาร่วมทีม
ภาพจำลองภายนอกจากมุมด้านทางเข้าอาคาร(ภาพจาก www.dortemandrup.dk)
พื้นที่บนหลังคาหรือบริเวณบนหางของ “The Whale” ออกแบบให้เป็นจุดชมวิวแบบ Outdoor ให้ได้ชมวิว เพลิดเพลินกับการเฝ้าสังเกตุวาฬไปพร้อมๆกับการได้สูดอากาศบริสุทธิ์และกลิ่นทะเลอย่างเต็มปอด ประโยชน์ของการชมวิวแบบนี้ทำให้ได้อารมณ์การมาเที่ยวอย่างจุใจและยังได้เก็บเรื่องราวความประทับใจจากที่นี่ไปเล่าต่อให้เพื่อนๆฟังถึงประสบการณ์แปลกใหม่นี้ได้เต็มปาก เพราะที่นี่เป็นจุดชมวิวที่พลาดไม่ได้จริงๆ อีกอย่างหนึ่งที่ไม่น่าพลาด คือ การเฝ้าดูพระอาทิตย์เที่ยงคืนของนอร์เวย์ที่จะทอแสงผ่านเส้นขอบฟ้า หรือแม้แต่ตามล่าหาแสงเหนือที่นี่ก็มีให้ดู เรียกว่ามาที่เดียวก็เก็บภาพความทรงจำนี้ไปอีกนานเลยทีเดียว
ภาพบรรยากาศจำลองทัศนียภาพภาพนอกอาคาร (ภาพจาก www.designboom.com/architecture/dorte-mandrup-whale-visitor-attraction-arctic-circle-norway-11-04-2019)
ส่วนจุดชมวิว Indoor ก็เด็ดไม่แพ้กันกับ Outdoor เพราะ Interior ก็เน้นให้กลมกลืนไปกับธรรมชาติด้วยเช่นกัน อย่างกระจกที่หันหน้าออกสู่มหาสมุทรนั้นเป็นหน้าต่างบานทั้งหมด 100% แฝงด้วยดีเทลของกระจกที่มองไกลๆจะเห็นได้ชัดเจนว่าคล้ายกับหยดน้ำทะเลที่ไหลลงมาจากหางของวาฬขณะที่สบัดหางว่ายน้ำเพื่อมุ่งหน้าอพยบผ่านจุดยุทธศาสตร์นี้ด้วย สมกับความตั้งใจที่อยากให้สิ่งก่อสร้างกลมกลืนไปกับธรรมชาติของ Dorte Mandrup จริงๆ ส่วนการบริการก็มีพร้อมทั้ง คาเฟ่ ร้านค้าของที่นะลึก และออฟฟิศเล็กๆตั้งอยู่อีก นอกจากจะได้เห็นวาฬอย่างเต็มตาแล้ว ยังได้จิบเครื่องดื่มสไตด์นอร์เวย์ไปพร้อมๆกันอีกด้วย
ภาพบบรรยากาศจำลองด้านในอาคาร (ภาพจาก www.designboom.com/architecture/dorte-mandrup-whale-visitor-attraction-arctic-circle-norway-11-04-2019)
เนื่องจากตัวอาคารสร้างทับพื้นผิวขรุขระของหินขนาดยักษ์ริมทะเลจึงไม่แปลกที่จะเจอบางส่วนของหินพวกนี้ด้านในอาคาร ทำให้นักท่องเที่ยวได้เชื่อมต่ออารมณ์กับบรรยากาศด้านนอกได้สมบูรณ์แบบ เพิ่มเติมอีกอย่าหนึ่ง คือ ส่วนเว้าโค้งของกระจกที่ทำให้เห็นวิวด้านนอกได้กว้างกว่ากระจกแบนๆทั่วไปที่ยังคงความสวยงามไว้อย่างชาญฉลาด ด้วยเหตุผลนี้ส่งผลให้การมองผ่านกระจกจากจุดชมวิวได้ทั่วถึงในแนวกว้างจนทำให้เห็นวิวได้ทั่วจากทุกมุมห้อง
Prop Alert: “The Whale” เพิ่งเริ่มดำเนินการก่อสร้างเมื่อ 1 พ.ย. 2562 ที่ผ่านมานี้เอง และมีกำหนดการสร้างเสร็จภายในปี 2022 อดใจรออีกแค่ 2 ปี เดี๊ยวเราก็ได้เที่ยวแล้วล่ะ