เดิมที Donald Trump ก็เป็นนักธุรกิจที่มีทรัพย์สินมากมายอยู่แล้ว แต่เมื่อเข้ามารับตำแหน่งประธานาธิบดีแล้วแหล่งข่าวต่างๆ ก็จึงอดไม่ได้ที่จะทำการสำรวจที่ซุกหัวนอนของประธานาธิบดีคนนี้เสียหน่อยว่ามีที่ไหนบ้าง เรามาดูกัน

TRUMP TOWER PENTHOUSE ที่ NEW YORK CITY

เริ่มจากที่พักในนิวยอร์คของทรัมป์ เพนท์เฮ้าส์กินพื้นที่ 3 ชั้น บนตึกสูงระฟ้า 66 ชั้นทรัมป์ทาวเวอร์ที่ 725 Fifth Avenue (บารอน ลูกชายวัย 13 ปีของเขาบอกว่ามีหนึ่งชั้นที่เป็นของเขาทั้งหมด) สำนักงานประธานาธิบดีก็ตั้งอยู่ในตึกนี้เช่นเดียวกัน ดังนั้นการอยู่อาศัยและทำงานในสถานที่เดียวกันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่สำหรับเขาเมื่อย้ายไปอยู่ที่ 1600 Pennsylvania Avenue

การแต่งตกของทำเนียบขาวอาจดูเรียบง่ายไปเลยเมื่อเทียบกับเพนท์เฮ้าส์ที่ถูกถอดแบบมาจากพระราชวังแวร์ซายอันมีการแต่งแต่งแบบโรโกโกและเต็มไปด้วยทอง

ทรัมป์เคยให้นิตยสาร Forbes เข้าชมเพ้นเฮ้าส์ของตัวเองระหว่างที่ลงเลือกตั้งประธานาธิบดีและบอกต่อสาธารณะชนว่านี่คืออะพาร์ตเมนต์ที่ดีที่สุดที่เคยสร้างมา พร้อมทั้งโม้ถึงพื้นที่ขนาด 33,000 ตารางฟุตว่ามีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐของเพนท์เฮ้าส์หลังนี้ (6,247 ล้านบาท) แต่จริงๆ แล้วที่พักนี้มีขนาด 10,996 ตารางฟุตและมีมูลค่า 64 ล้านดอลล่าร์สหรัฐเท่านั้น (2,000 ล้านบาท)

MAR-A-LAGO ที่ PALM BEACH

Mar-a-lago เป็นแมนชั่นขนาด 128 ห้อง สร้างโดยทายาทนักธุรกิจหญิง Marjorie Merriweather Post ในปี 1927 เป็นสมบัติที่ดีที่สุดใน Palm Beach เขาเรียกมันว่าทำเนียบขาวฤดูหนาว แม้ว่าความจริงแล้วจะไม่ได้เป็นทรัพย์สินสาธารณะก็ตาม

น่าสนใจที่ว่าจริงๆ แล้วนี่คือสิ่งที่ Post อยากให้ Mar-a-lago เป็นมาโดยตลอด เธอได้บริจาคคฤหาสน์นี้ให้แก่รัฐบาลสหรัฐเมื่อเธอเสียชีวิต แต่ในปี 1980 มันได้หวนคืนมาเป็นของลูกสาวเธอเพราะค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาถึง 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี (31ล้านบาท) ต่อมาในปี 1985 ทรัมป์ใช้เงิน 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (156 ล้านบาท) ในการซื้อที่ดิน 17 เอเคอร์นี้มาเป็นของตัวเองและเปลี่ยนมันเป็นคลับส่วนตัวในสิบปีถัดมา เขาเพิ่มห้องเต้นรำขนาด 20,000 ตารางฟุต มูลค่า 7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (218 ล้านบาท) และใช้เงิน 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ (3 ล้านบาท) ไปกับอ่างชุบทอง

ทุกวันนี้การเข้าเป็นสมาชิกพิเศษของคลับมีค่าธรรมเนียมแรกเข้า 200,000 ดอลลาร์สหรัฐ (6 ล้านบาท) แพงขึ้นจากก่อนการเลือกตั้งที่เคยอยู่ที่ 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ (3 ล้านบาท) บวกกับค่าธรรมเนียมรายปี 14,000 ดอลลาร์สหรัฐ (437,000 บาท) และค่าอาหารรายปีขั้นต่ำ 2,000 ดอลลาร์สหรัฐ (62,000 บาท) ทรัมป์สามารถทำรายได้จากคลับได้ถึง 15.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (487 ล้านบาท) ในปี 2004

SEVEN SPRINGS ที่ BEDFORD, NEW YORK

อีกหนึ่งในที่ซุกหัวนอนของทรัมป์นี้มีขนาด 60 ห้อง เป็นห้องนอนไป 15 ห้อง มีลานโบว์ลิ่ง มีสระว่ายน้ำ 3 สระ เขาใช้เงิน 7.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (234 ล้านบาท) ซื้อมันมาเมื่อปี 1996 และวางแผนจะทำเป็นสนามกอล์ฟแต่ก็ยังคงเป็นบ้านพักส่วนตัวจนถึงทุกวันนี้ (อาจเป็นเพราะการขัดแย้งอย่างรุนแรงกับผู้ที่อยู่อาศัยในท้องถิ่น)

Bedford อยู่ทางทิศเหนือของนครนิวยอร์คไปประมาณ 72 กิโลเมตร และดูเหมือนว่าครอบของทรัมป์จะใช้พื้นที่ 50,000 ตารางฟุตของคฤหาสน์หลังนี้เป็นบ้านพักทั้งในช่วงสุดสัปดาห์และฤดูร้อน คฤหาสน์นี้สร้างขึ้นเมื่อปี 1919 โดยประธานธนาคารกลางสหรัฐคนเก่า ยูจีน เมเยอร์ ทรัมป์ยังเคยบอก (หรือไม่ก็หลุดปาก) ว่าเขาอนุญาตให้ผู้นำเผด็จการมูอัมมาร์ กัดดาฟี พักอยู่ในเต็นท์ขณะที่มีการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติในปี 2009 เพราะไม่มีโรงแรมไหนให้เขาเข้าพัก

TRUMP NATIONAL GOLF CLUB, BEDMINSTER TOWNSHIP, NEW JERSEY

บ้านหลังหลักถูกใช้เป็นคลับส่วนตัวสำหรับสมาชิก ในรายงานบอกว่ามีราคา 350,000 ดอลลาร์สหรัฐ (10 ล้านบาท) อิวานกา ทรัมป์ บุตรสาวคนโตของเขาแต่งงานกับจาเร็ด คุชเนอร์ในปี 2009 พวกเขาชนะคำร้องขอขยายพื้นที่เป็น 2,200 ตารางฟุตในปี 2015

ทรัมป์รักที่บริเวณนี้มากจนครั้งหนึ่งเคยคิดว่าจะฝังตัวเองที่นี่จากที่เคยตั้งใจจะฝังตัวเองไว้ที่ฟลอริด้า

LE CHÂTEAU DES PALMIERS, ST. MARTIN

ทรัมป์นำที่แห่งนี้เข้าตลาดในราคา 28 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (870 ล้านบาท) แต่ราคาได้ตกลงมาอยู่ที่ 16.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (525 ล้านบาท) ในเวลาต่อมา ทรัมป์ซื้อ Le Château des Palmiers  ในปี 2013 และปล่อยให้เช่าในช่วงแรก ภายในประกอบด้วย 9 ห้องนอน 12 ห้องน้ำ มีบ้านพัก 2 หลัง นอกจากนี้ยังมีสระว่ายน้ำและบ้านของผู้ดูแลอยู่บนพื้นที่ขนาด 5 เอเคอร์ (20,000 ตารางเมตร) ที่พิเศษคือสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ที่ทำน้ำอุ่นได้ พื้นที่ออกกำลังกายทั้งแบบกลางแจ้งและในห้องแอร์ สนามเทนนิส บาร์กลางแจ้ง ห้องบิลเลียดและพื้นที่รับประทานอาหาร

“Greetings from Donald J. Trump. Escape to a place no other” คือข้อความที่ปรากฎอยู่บนแผ่นพับอสังหาฯ วิลล่า 2 หลังเล็กมีราคาค่าเช่าเริ่มต้นที่ 6,000 ดอลลาร์สหรัฐ (18,600 บาท) ต่อคืนในช่วงโลว์ซีซั่นและเพิ่มขึ้นเป็น 28,000 ดอลลาร์สหรัฐ (870,000 บาท) ต่อคืนในช่วงเทศกาลฤดูหนาว

TRUMP WINERY, CHARLOTTESVILLE, VIRGINIA

ทรัมป์ได้คฤหาสน์พื้นที่ขนาด 1,100 เอเคอร์ ซึ่งรวมไร่องุ่นและโรงผลิตไวน์ที่ริเริ่มมาโดยเจ้าของคนก่อนอย่าง Patricia Kluge ผู้ซึ่งผิดนัดการจ่ายหนี้และถูกธนาคารสหรัฐอเมริกายึด หลังนี้มาในราคาเพียง 8.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (264 ล้านบาท) ทั้งที่จริงๆ แล้วมันทำราคาได้ถึง 170 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (5,288 ล้านบาท) ทรัมป์แต่งตั้งให้อีริคลูกชายคนที่สองของเขานั่งเป็นประธานบริหาร Trump Winery แห่งนี้

ทุกวันนี้ตึกหลังหลัก Ablemarle House ขนาด 23,000 ตารางฟุต 45 ห้องกลายเป็นส่วนหนึ่งของแบรนด์ Trump Hotels (การค้นหาล่าสุดแสดงราคาเริ่มต้นที่ 299 ดอลลาร์สหรัฐหรือ 9,300 บาทต่อคืน) ทรัมป์บอกว่าเขาเป็นเจ้าของกิจการทำไวน์ที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา แต่บนเว็บไซต์บอกว่าจดทะเบียนในชื่อของ Eric Trump Wine Manufacturing LLC ซึ่งไม่ได้มีทรัมป์เป็นเจ้าของหรือประกอบกิจการร่วมกันแต่อย่างใด

ปิดท้ายด้วยบ้านหลังแรกที่ทรัมป์อาศัยอยู่ในวัยเด็ก ตั้งอยู่ที่ควีนส์ นิวยอร์ค เป็นบ้านขนาด 2,500 ตารางฟุตที่พ่อเขาสร้างขึ้นในปี 1940 ปัจจุบันเปิดให้เช่าใน Airbnb คืนละ 725 ดอลลาร์สหรัฐ ราวๆ 22,000 บาท

แหล่งข้อมูลและภาพ

https://www.townandcountrymag.com/leisure/real-estate/news/a9285/donald-trump-house-photos/

https://images.app.goo.gl/kgG6jcJWPbBH4HEL6

http://thecontributor.com/opinion/trump-runs-country-just-he-ran-his-failed-businesses

https://www.lechateaudespalmiers.com/the-estate

https://www.trumpwinery.com/our-hotel/

https://www.townandcountrymag.com/leisure/real-estate/news/a9285/donald-trump-house-photos/

https://floridapolitics.com/archives/239659-climate-decision-accelerate-damage-donald-trumps-florida-properties

www.trump.com

https://rita-rosenfeld.blogspot.com/2018/12/entitlements-of-unmitigated-ingrates.html