ลูกค้ามากกว่า 600 ล้านรายในตลาดกระตุ้นให้การสร้างที่พักอาศัยมีการเจริญเติบโตมากขึ้น

นักพัฒนาคอนโดมิเนี่ยมชาวญี่ปุ่นมีบทบาทในเมืองต่างๆของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างเช่นกรุงเทพฯ ซึ่งการเจริญเติบโตของรายได้จะเป็นตัวกระตุ้นความต้องการในที่พักอาศัยแบบลักซ์ชัวรี่มากขึ้น © Reuters

มะนิลา/โตเกียว – นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และนักสร้างบ้านชาวญี่ปุ่นกำลังตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นของลักซ์ชัวรี่คอนโดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตลาดที่มีผู้บริโภคที่ร่ำรวยขึ้นเรื่อยๆ มากกว่า 600 ล้านคน

จากการอ้างอิงของการคำนวณของคุณ Nikkei, บริษัทญี่ปุ่นได้มีการสร้างที่พักอาศัยมากถึง 30,000 ยูนิต ในภูมิภาคนี้ใน 5 ปีที่ผ่านมาและกำลังมีการวางแผนที่จะพัฒนาเพิ่มอีกจำนวน 80,000 ยูนิต ในอีก 5 ปีข้างหน้า.

นอกจากการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจในภูมิภาคที่เป็นตัวยกระดับความต้องการที่พักอาศัยในระดับไฮเอนด์แล้ว กลุ่มผู้ซื้อที่คล้ายคลึงกับชาวญี่ปุ่นช่วยให้ตลาดสามารถดึงดูดผู้ซื้อชาวญี่ปุ่นได้ดีทีเดียว หลักการและข้อกำหนดในการออกแบบหลายอย่างที่นักพัฒนาคอนโดชาวญี่ปุ่นใช้ในประเทศญี่ปุ่นนั้นก็นำมาใช้ทำงานได้ดีในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

หลังจากมีการทำแบบสอบถามมากกว่า 100 ครั้ง ทาง Nomura Real Estate Development ก็มีการเปิดตัวหัวตัวอย่างของโครงการดูเพล็กซ์ในกรุงมะนิลา โดยมีเป้าหมายที่จะทำการส่งมอบให้กับลูกบ้านในปี 2023, อ้างอิงจากทางบริษัท

Nomura Real Estate ได้จับมือร่วมงานกับ Isetan Mitsukoshi Holdings, ผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้าญี่ปุ่น, ร่วมกับผู้พัฒนาโครงการของท้องถิ่น Federal Land, บริษัทลูกของ GT Capital Holdings, ในการสร้างที่พักอาศัยและก้างสรรพสินค้า ด้วยคอนโดไฮไรส์จำนวน 4 ตึกในย่านพื้นที่ที่พักอาศัยที่ถูกพัฒนาขึ้นมาใหม่ในแถวชานเมืองของกรุงมะนิลา

“ความต้องการที่มีมากกว่าอุปทานในตลาดที่พักอาศัยของกรุงมะนิลามีต้นเหตุมาจากการเพิ่มขึ้นของผู้บริโภคระดับกลาง,” เจ้าหน้าที่ของ Nomura Real Estate กล่าว.

ที่พักอาศัยและห้างสรรพสินค้าเป็นเพียงหนึ่งในโครงการหรูหลายดครงการที่ผู้สร้างชาวญี่ปุ่นมีส่วนร่วมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

Naoki Nishioka, เจ้าหน้าที่บริหารอาวุสโสของบริษัทสร้างบ้าน Daiwa House Industry, กล่าวว่าลูกค้าท้องถิ่นต่างชื่นชมการติดตั้งและคุณสมบัติของที่อยู่อาศัยที่มีการออกแบบมาเพื่อให้ตรงตามมาตรฐานคุณภาพของชาวญี่ปุ่น อย่างเช่นการแบ่งกั้นพื้นที่โซนเปียก – ห้องอาบน้ำและห้องครัว Daiwa House กำลังทำการสร้างโครงการคอนโดมิเนียมที่มีจำนวน 2300 ยูนิต ในเมืองโฮจิมินร่วมกับ Nomura Real Estate.

แต่ละยูนิต ที่มีการเสนอขายเป็นจำนวน 3 ชุด มีการขายที่ดีทีเดียว เมื่อปีที่แล้วนั้น ห้องพักชุดแรกจำนวน 320 ยูนิตถูกขายหมดภายใน 3 ชั่วโมง ดึงดูดผู้ซื้อที่มีศักยภาพประมาณ 1000 ราย จำนวนยูนิตทั้งหมดที่นำออกมาขายในตลาดถูกขายหมดภายใน 1 วัน “เราไม่ค่อยได้เห็นการขายคอนโดที่มีการขายได้รวดเร็วเช่นนี้ที่ญี่ปุ่นในปัจจุบัน,” Nishioka กล่าว

โครงการระดับไฮเอนด์นี้มียิมเป็นของตัวเองและสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ ด้วยขนาดพื้นที่เฉลี่ยถึง 100 ตารางเมตร จึงมีราคาขายเริ่มต้นที่ 260 000 เหรียญดอลล่าร์ ผู้ซื้อทั่วไปส่วนมากเป็นเจ้าของธุรกิจหรือผู้บริหารองค์กรในวัย 40 และ 50 ปี ที่มีรายได้เฉลี่ยมากกว่า 30 000 เหรียญดอลล่าร์ และส่วนมากพวกเขาจะจ่ายด้วยเงินสดทั้งนั้น

การผลักดันบริษัทญี่ปุ่นเข้าสู้ตลาดที่พักอาศัยของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เริ่มต้นขึ้นในช่วงต้นปี 2010 โดยมีผู้พัฒนารายใหญ่ๆอย่าง Mitsui Fudosan และ Mitsubishi Estate เป็นผู้นำร่องในการทำโครงการคอนโดในประเทศไทยและสิงคโปร์ ที่ๆการขยายตัวของเมืองเริ่มต้นขึ้นค่อนข้างเร็ว มีนักพัฒนาอีกหลายๆเจ้าที่กำลังตามเข้ามาในตลาดเช่นกัน โดยในจำนวนนั้น ผู้พัฒนารายย่อยอย่าง Nomura และ Tokyo Tatemono, เช่นเดียวกันกับหน่วยงานธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของผู้ประกอบการรถไฟและการซื้อขายบ้าน

หลังจากที่มีการขยายตัวไปยังประเทศเพื่อนบ้านอย่างเวียดนามและฟิลิปปินส์ ด้วยการแข่งขันที่เข้มข้นขึ้นและราคาที่ดินที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จึงทำให้เป็นเรื่องที่ยากขึ้นในการซื้อที่ดินและขายคอนโดในประเทศไทย

ประเทศอินโดนิเซียที่เศรษฐกิจกำลังมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องนั้นก็มีการดึงดูดนักสร้างคอนโดชาวญี่ปุ่นเช่นกัน  Tokyu Land มีการวางแผนที่จะสร้างที่พักจำนวนมากกว่า 4000 ยูนิต ในประเทศนี้ในปีที่กำลังมาถึง ทางบริษัทกำลังทำการพัฒนาการสร้างโครงการคอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์ชื่อว่า Branz ในทางตอนใต้ของกรุงจาการ์ตา

Tokyu ได้ทำการเลือกบริษัทผู้รับเหมาก่อสร้างสัญชาติญี่ปุ่นแทนผู้รับเหมาท้องถิ่น เพื่อความมั่นใจทางด้านคุณภาพ ทาง Tokyu ยังเป็นผู้ดูแลกระบวนการก่อสร้างอย่างเข้มงวดเพื่อที่จะสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าและพวกเขาก็ยังมีแผนที่จะให้บริการในเรื่องของการบำรุงรักษาและดูแลการจัดการทรัพย์สินในแบบฉบับของชาวญี่ปุ่นด้วยคามพิถีพิถันอีกด้วย

โครงการหรูหรานี้มีคุณสมบัติในเรื่องการใช้ประตูอิเลคทรอนิคและการใช้เครื่องกรองน้ำ นอกจากการตั้งราคาไว้ประมาณ 350,000 เหรียญดอลล่าร์สำหรับยูนิตขนาด 120 ตารางเมตรแล้ว ในอัตรายูนิตที่มีในตอนนี้ถูกขายไปแล้วทั้งสิ้น 70%

ผู้ที่มีส่วนร่วมในความเจริญเติบโตของคอนโดหรูในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้รับการเปลี่ยนแปลงความนิยมในหมู่กลุ่มลูกค้าที่มีศักยภาพสูงที่มาจากการมีบ้านในแถวชานเมืองสู่การชิมรสชาติของคอนโดในใจกลางเมือง, อ้างอิงจาก Daisuke Fukushima, กรรมการผู้จัดการของ Nomura Securities. “มีการขาดแคลนคอนโดที่มีคุณภาพสูง” ในภูมิภาคนี้, เขากล่าว

ผู้พัฒนาท้องถิ่นต่างก็ต้องการที่จะร่วมมือทำงานกับชาวญี่ปุ่นที่มีความเชี่ยวชาญและมีกำลังในการจัดหาเงินทุนที่จำเป็นในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับสูง, อ้างอิงจาก Mitsubishi Estate.

ตั้งแต่เหล่าลูกค้าในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีความคล้ายคลึงกับชาวญี่ปุ่น ทั้งในแง่มุมของวิถีชีวิตและลักษณะทางกายภาพต่างๆ จึงทำให้เหล่านักพัฒนาชาวญี่ปุ่นสามารถนำข้อมูลจำเพาะที่ใช้ในญี่ปุ่นมาทำการปรับแต่งเพียงเล็กน้อยเพื่อใช้กับอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่ได้, พนักงานของ Mitsui Fudosan กล่าว

นักพัฒนาชาวญี่ปุ่นมีการมุ่งเน้นไปที่ตลาดที่มีความไฮเอนด์เพิ่มขึ้นไปอีก ด้วยการตั้งราคายูนิตให้มากกว่า 880 000 เหรียญดอลล่าร์ ทาง Tokyo Tatemono กำลังทำการสร้างคอนโดหรูจำนวน 24 ชั้นในย่านกลุงจาการ์ตา เมื่อสร้างเสร็จในปี 2021, ยูนิตที่มีขนาด 250 ตารางเมตรจะมีราคาอยู่ที่ 1.8 ล้านถึง 2.6 ล้านเหรียญดอลล่าร์

อย่างไรก็ตาม คุณ Fukushima จาก Nomura Securities, มองเห็นปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในภายภาคหน้าของนักพัฒนาคอนโดชาวญี่ปุ่น “รู้สึกว่าจะมีอุปทานที่ล้นตลาดอยู่แล้วในกรุงเทพฯ” เขากล่าว ด้วยราคาคอนโดที่เพิ่มขึ้นในวงกว้าง “ความต้องการอาจจะปะทุขึ้นหากราคาเพิ่มสูงขึ้นมากกว่าระดับกำลังการซื้อของลูกค้าท้องถิ่น” เขาเตือนไว้

นอกจากนี้ยังมีการมองเห็นถึงความต้องการจากนักลงทุนชาวจีน มีคอนโดหรูหราหลายแห่งในภูมิภาคถูกซื้อไปโดยนักเก็งกำไรชาวจีน ทางรัฐบาลของจีนมีการพยายามที่จะจำกัดการไหลออกของเงินทุนที่สามารถยับยั้งความต้องการจากไตรมาสนั้น นักพัฒนาชาวญี่ปุ่นจึงจำเป็นต้องติดตามการเคลื่อนไหวของเหล่านักลงทุนชาวจีนอย่างใกล้ชิด, คุณ Fukushima กล่าว

ที่มา : https://asia.nikkei.com/Business/Real-Estate/Japanese-developers-fuel-Southeast-Asia-s-luxury-condo-boom