กระแสของ Web3 ได้รับความสนใจจากองค์กรธุรกิจและแบรนด์ชั้นนำทั่วโลกโดยเฉพาะยักษ์ใหญ่ทางด้านไอทีและอินเทอร์เนตของโลกที่กำลังมุ่งหน้าลงทุนเทคโนโลยีดังกล่าวอย่างเต็มที่ เราไปดูกันว่าตอนนี้มีรายใดแล้วบ้างที่กระโดดเข้าสู่ Web3

Web3 คืออะไร??

Web2 หรืออินเทอร์เนตในยุคปัจจุบัน ผู้ที่เป็นเจ้าของแพลตฟอร์มอย่างเช่นแอปพลิเคชั่นหรือ Social Media จะสามารถจัดการทุกอย่างของผู้ใช้งานได้ไม่ว่าจะเป็นคอนเทนท์ที่สร้างหรือทรัพย์สินที่นำมาฝากไว้ แต่ Web3 หรืออินเทอร์เนตในยุคต่อไปจะเปลี่ยนมาเป็นการกระจายอำนาจให้กับผู้ใช้งานโดยที่แพลตฟอร์มทำหน้าที่เป็นตัวกลางจะไม่สามารถควบคุมทุกอย่างได้อีกต่อไป ทำให้ผู้ใช้งานสามารถถือครองทรัพย์สินต่างๆในโลกดิจิทัลด้วยตัวเองรวมถึงมีความเป็นส่วนบุคคลและความปลอดภัยสูง

Google

ยักษ์ใหญ่ไอทีของโลกเป็นอีกรายที่เดินหน้าเข้าสู่ Web3 ด้วยการใช้เงินลงทุน 1,506 ล้านดอลลาร์ตั้งแต่เดือนสิงหาคมปีที่แล้วจนถึงกลางปี 2022 กับการลงทุนในบริษัทด้านบล็อกเชนเพื่อนำเทคโนโลยีมาใช้กับตัวเอง โดยลงทุนใน Fireblocks, Dapper Labs, Voltage และ Digital Currency Group

นอกจากเข้าลงทุนแล้ว Google ยังใช้บริษัทลูกอย่าง Google Cloud เปิดตัวฟีเจอร์ที่เกี่ยวข้องกับ Web3 อย่าง Cloud’s Blockchain Node Engine เพื่อสนับสนุนนักพัฒนาสาย Web3 ที่จะสร้างโปรดักต์ที่มีบล็อกเชนเป็นโครงสร้างพื้นฐาน

นอกจากนี้ยังได้ทำงานร่วมกับ Etherscan ในการแสดงผล Wallet ของ Ethereum ในการค้นหาผ่าน Google รวมถึงการทำงานร่วมกับ Near Protocol ในการสนับสนุนโปรเจกต์สตาร์ทอัพที่เกี่ยวกับ dApps ต่างๆ

ถือได้ว่าเป็นการกลับตัวทางด้านนโยบายที่มีต่อบล็อกเชนของ Google จากเดิมที่มีนโยบายการปิดกั้นการเข้าถึงโฆษณาที่เกี่ยวกับบล็อกเชนมาก่อนหน้านี้และเริ่มเปิดรับเทคโนโลยีใหม่มากขึ้น

Facebook และ Instagram 

Meta ได้รุกเข้าสู่เทคโนโลยี Web3 ต่อจากการประกาศลงทุนใน Metaverse ด้วยการเปิดให้ผู้ใช้งาน Facebook สามารถนำ NFT ที่ถือครองอยู่มาแสดงเป็น Profile Picture ได้

ขณะที่ Instagram ได้เปิดตัวฟีเจอร์ในการที่จะนำไฟล์ดิจิทัลของแปลงเป็น NFT ผ่านทาง Instagram ได้โดยตรงและยังสามารถซื้อขาย NFT ผ่านทางแพลตฟอร์มได้ทันที ถือเป็นการท้าทายแพลตฟอร์ม NFT ระดับโลกอย่าง Opensea ที่ครองตลาดเป็นอันดับหนึ่งในเวลานี้และยัสามารถเก็บค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมต่างๆเป็นรายได้อีกทางหนึ่งด้วย

Line

Line ถือเป็นยักษ์ใหญ่ทางด้านอินเทอร์เนตที่เข้าสู่ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลมาตั้งแต่ปี 2018 โดยการเปิดตัวโทเคน LINK ของตัวเองรวมถึงแพลฟอร์ม Exchange ในชื่อ Bitbox อย่างไรก็ตามล่าสุด Line ได้ประกาศปิดตัว Exchange ของตัวที่มีชื่อว่า Bitfront แต่ยังคงเดินหน้าลงทุนในเทคโนโลยีสินทรัพย์ดิจิทัลอื่นต่อไป

โดยได้ทำการเปิด LINE NFT กระดานซื้อขาย NFT โดยเริ่มในประเทศญี่ปุ่นเป็นที่แรก โดยสามารถแลหเปลี่ยนซื้อขาย NFT ผ่านทางแพลตฟอร์ม Line ได้รวมถึงมีการสร้างกระเป๋าเงินอีเล็กทรอนิกส์ที่สามาถจัดเก็บ NFT ได้ในชื่อ LINE BITMAX Wallet โดยนำจุดขายที่มีการเชิญศิลปินนักออกแบบอนิเมะชื่อดังมาร่วมสร้างคอลเลคชั่นเพื่อดึงลูกค้า

Telegram

แอปแชทชื่อดังอีกรายหนึ่งที่ประกาศเข้าสู่เทคโนโลยี Web3 โดยจะมีการสร้างกระเป๋าเงินอีเล็กทรอนิกส์ประเภท non custodial wallets รวมถึงสร้าง decentralized exchanges หรือ DEX เป็นของตัวเอง โดยผู้ก่อตั้งมีความเห็นว่าผู้ใช้งานควรเป็นผู้ดูแลจัดการทรัพย์สินในโลกออนไลน์ของตัวเองจากที่เคยต้องตกอยู่ในอำนาจของคนเพียงไม่กี่คน

ก่อนหน้านี้ Telegram ได้เปิดตัวแพลตฟอร์มที่ชื่อ Fragment ซึ่งทำหน้าที่ประมูลชื่อ Username ที่ใช้บน Telegram ในรูปแบบของการกระจายอำนาจมาแล้วและสามารถสร้างรายได้ถึง 50 ล้านดอลลาร์

Twitter

ยุคที่ Jack Dorsey ซึ่งเป็นอดีตผู้ก่อตั้ง Twitter เขาได้มีความคิดที่จะสร้างให้แพลตฟอร์มของเขามีการกระจายอำนาจและใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนเข้ามาเป็นโครงสร้างพื้นฐาน โดยเริ่มจากการเปิดให้ผู้ใช้งานสามารถโอน Bitcoin และ NFT หากันได้ด้วย Twitter

แต่หลังจากที่ Elon Musk เข้ามาเทคโอเวอร์ Twitter เขายังมีความคิดที่จะทำให้ Twitter เข้ามาอยู่ในเทคโลยี Web3 ด้วยการเปิดให้ผู้ใช้งาน Twitter มีเสรีในการนำเสนอความคิดรวมถึงไม่มีการปิดกั้นหรือแบนผู้ใช้งานอีกต่อไป โดยนักวิเคราะห์มองว่า Twitter อาจจะกลายเป็นบริการทางการเงินแบบกระจายอำนาจในอนาคตก็เป็นได้

 Spotify

แพลตฟอร์มฟังดนตรีทางออนไลน์ชื่อดังได้เริ่มต้นเข้าสู่ Web3 ด้วยการเปิดตัว Spotify Island บน Roblox  ซึ่งมีการนำ NFT เข้ามาเป็นสิทธิประโยชน์พิเศษให้กับผู้ถือโดยมีศิลปินบางรายที่เข้าร่วมแล้ว นอกจากนียังมีการประกาศรับสมัครพนักงานที่มีความเชี่ยวชาญด้าน Web3 มาร่วมทีม

แม้จะยังไม่ได้เข้ามาใน Web3 อย่างเต็มตัวแต่ถือว่า Spotify ให้ความสนใจในการเข้ามาในเทคโนโลยีดังกล่าวแล้ว อนาคตเราอาจจะได้เห็นการเกิดขึ้นของ Music NFT ได้เช่นกัน

Shopify

แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซจากสหรัฐฯรายนี้ได้เริ่มต้นเข้าสู่ Web3 ด้วยการเพิ่มรูปแบบการชำระเงินด้วย Bitcoin ผ่าน Lightning Network และล่าสุดได้เปิดให้สามารถซื้อขายและ Mint NFT โดยผ่านแอปพลิเคชั่น NFT Minter ผ่านบล็อกเชนของ Polygon ถือเป็นก้าวสำคัญของธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่จะเข้าสู่ Web3

ทั้งหมดนี้คือความคืบหน้าล่าสุดของยักษ์ใหญ่ทางด้านไอทีและอินเทอร์เนตที่อยู่ในโลกของ Web2 และกำลังปรับตัวเองเข้าสู่โลกของ Web3 โดยอนาคตคาดว่าจะได้เห็นพัฒนาการที่มีความชัดเจนขึ้นรวมถึงยักษ์ใหญ่ทางด้านอินเทอร์เนตรายอื่นที่จะกระโดดเข้ามาในโลกของ Web3 ด้วยเช่นกัน