ในขณะที่นายหน้าอสังหาริมทรัพย์ขาวอเมริกันจะใช้จุดเด่นอย่างความปลอดภัย ทำเลใกล้โรงเรียนชั้นนำ และแสงสว่างจากธรรมชาติเป็นปัจจัยหลักในการเพิ่มมูลค่าทรัพย์สิน แต่องค์ประกอบใหม่ๆกลับมีส่วนสำคัญพอกันในปัจจุบันเช่น บันไดไม่ตรงกับประตู เตาไม่อยู่ใกล้ห้องนอนใหญ่ และห้องน้ำไม่อยู่กลางตัวบ้าน ต้องขอบคุณปริมาณความต้องการอสังหาริมทรัพย์ที่เพิ่มขึ้นในหมู่ชาวจีนในสหรัฐอเมริกา บ้านที่จัดแต่งตรงตามหลักฮวงจุ้ยกำลังมีมูลค่าสูงและกำลังขับเคลื่อนนายหน้าค้าบ้าน บริษัทพัฒนาโครงการและที่ปรึกษาด้านออกแบบในวงการอสังหาริมทรัพย์สหรัฐฯให้เรียนรู้ฮวงจุ้ย

ผลการสำรวจล่าสุดโดย Better Homes and Gardens Real Estate และ AREAA พบว่า การออกแบบตามหลักฮวงจุ้ยมีบทบาทในการเลือกซื้อบ้านของชาวจีน-อเมริกันส่วนใหญ่ หลักการนี้แปลชื่อตรงตัวได้ว่า “ลมและน้ำ” ฮวงจุ้ยเน้นความเป็นหนึ่งเดียวกับสิ่งแวดล้อม และเป็นหลักการวางแผนแนวทาง สถาปัตยกรรมและการตกแต่งภายในอาคารของจีนมาแต่เดิม จากชาวจีน-อเมริกัน 500 คนที่เข้าร่วมการสำรวจ มีจำนวนสูงถึง 86 เปอร์เซนต์ที่กล่าวว่าฮวงจุ้ย จะเป็นส่วนสำคัญในการเลือกซื้ออสังหาริมทรัพย์ในอนาคตของพวกเขา และ 76 เปอร์เซนต์ กล่าวว่าพวกเขาคุ้นเคยกับหลักฮวงจุ้ย ขณะที่กว่าครึ่งของคนที่คุ้นเคยบอกว่าพวกเขายึดหลัก ฮวงจุ้ยในชีวิตประจำวันด้วย จากผลการสำรวจผู้ที่มีบ้านเป็นของตัวเอง 81 เปอร์เซนต์บอกว่า ฮวงจุ้ยมีส่วนในการเลือกซื้อบ้านหลังปัจจุบัน

The Ritz-Carlton Residences ที่หาดไมอามี่เรียกตัวผู้เชี่ยวชาญฮวงจุ้ยจากฮ่องกงมาให้ คำปรึกษาด้านออกแบบ (ภาพจากwww.theresidencesmiamibeach.com)

ผลที่ตามมาคือ ฮวงจุ้ยมีอิทธิผลอย่างใหญ่หลวงต่อการออกแบบบ้านแนวหรูหราในอเมริกา ณ เมือง อาร์คาเดีย รัฐแคลิฟอร์เนีย ย่านระดับสูงในลอสแองเจลิสที่เรียกชื่อเล่นกันว่า “เบเวอร์ลีย์ฮิลล์จีน” เพราะมีจำนวนประชากรจีนจำนวนมาก เหล่าบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ พากันซื้อบ้านเก่าๆที่ออกแบบผิดหลักฮวงจุ้ยมารื้อทิ้งและสร้างโครงการใหม่ที่ยึดหลักการไหล เวียนของพลัง ชี่ หรือ พลังงานที่มองไม่เห็นซึ่งควบคุมทั้งจักรวาลตามแนวปรัชญาฮวงจุ้ย หลักนี้นอกจากจะรวมถึงแปลนบ้านและการจัดวางแล้ว ยังรวมถึงตำแหน่งบ้านด้วย บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์จะเลือกบ้านที่ตำแหน่งอยู่กลางที่แปลงดิน หันหน้าไปทางใต้เป็นหลัก ขณะที่บ้านหัวมุมจะไม่ค่อยน่าสนใจ

กฎเกณฑ์ดังกล่าวเป็นที่นิยมในโครงการหรูหราทั่วอเมริกา โดยผู้เชี่ยวชาญด้านฮวงจุ้ยจะถูกเรียกตัวมา เพื่อแนะแนวทางให้นักออกแบบว่าจะดึงดูดนักลงทุนวงการอสังหาริมทรัพย์ชาวจีน ให้หลั่งไหลเข้ามาในสหรัฐอเมริกาได้อย่างไร หลังจากที่ชาวจีนมียอดซื้ออสังหาริมทรัพย์ถึง 22 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปีที่แล้ว ณ เมืองควีนส์ รัฐนิวยอร์ก โครงการคอนโดมิเนียมชื่อ The Grand at View Sky Parc จัดทางเข้าให้กั้นกระแสพลังงานแง่ลบ โดยจัดวางหิน ต้นไม้ น้ำและไม้อย่างมีชั้นเชิงบนสวนชั้นดาดฟ้า ขณะเดียวกัน Ritz-Carlton Residences ริมหาด ไมอามี่ก็จ้างผู้เชี่ยวชาญด้านฮวงจุ้ย แพทริค หว่อง มาดูแลการออกแบบและการตกแต่งตัว อาคารและห้องต่างๆซึ่งมีมูลค่าตั้งแต่ 2 ล้านดอลลาร์ถึง 40 ล้านดอลลาร์ให้ตรงตามหลักฮวงจุ้ย

การลงทุนขนานใหญ่กับฮวงจุ้ยอาจนำกำไรก้อนโตมาสู่บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ได้ เนื่องจากผู้เข้าร่วมการสำรวจ 79 เปอร์เซนต์กล่าวว่าพวกเขายอมจ่ายเพิ่มขึ้น 16 เปอร์เซนต์ เพื่อให้ได้บ้านที่ออกแบบอย่างเหมาะสม ระหว่างที่ผู้เข้าร่วมการสำรวจ 90 เปอร์เซนต์เห็นว่า องค์ประกอบตามหลักฮวงจุ้ยจะช่วยเพิ่มมูลค่าบ้านสำหรับขายต่อได้ นายหน้าที่มีความรู้ด้าน ฮวงจุ้ยมีแนวโน้มจะประสบความสำเร็จกับผู้ซื้อชาวจีนเป็นพิเศษ เนื่องจาก 36 เปอร์เซนต์ตอบว่าพวกเขาไม่อยากร่วมงานกับนายหน้าที่ไม่มีความรู้ด้านฮวงจุ้ย

สำหรับผู้กำลังขายบ้านในปัจจุบัน ฮวงจุ้ยที่แย่อาจส่งผลร้าย เพราะผู้ตอบแบบสำรวจส่วนใหญ่มอง องค์ประกอบแง่ลบว่า “ทำลายบรรยากาศ” บ้านที่อยู่ท้ายซอยตันนับว่าแย่ที่สุด และอาจทำให้ 31 เปอร์เซนต์ของผู้ตอบแบบสำรวจไม่เลือกซื้อ ขณะที่ 29 เปอร์เซนต์จะไม่ซื้อบ้านที่บันได หันหน้าตรงกับประตูหรือพื้นที่หลังบ้านลาดเอียง และ 24 เปอร์เซนต์รับไม่ได้ถ้าประตูหน้า กับประตูหลังอยู่ตรงกัน

แน่นอนว่า ฮวงจุ้ย ไม่ใช่จุดขายที่สำคัญเพียงอย่างเดียวในการเลือกซื้อบ้านของชาวจีน ณ เมืองอาร์คาเดีย บ้านแนวใหม่นำเสนอทั้งห้องเก็บไวน์ ทางเข้าบ้านสองด้านปูหินอ่อน ห้องนอนใหญ่ หลายห้องที่เหมาะกับครอบครัวใหญ่ และ “ครัวเตาผัด” ที่อยู่แยกต่างหาก อีกด้วย

Source: jingdaily.com