Modern แอพลิเคชั่นควบคุมการแชร์ที่พักอาศัย จะมีการเติบโตของตลาดสูงถึง 2 พันล้านเหรียญภายในปี 2022

ผู้พักอาศัยกำลังพักผ่อนที่ The Zolo Cosmos ในเมือง Bangalore ประเทศอินเดีย (ภาพบรรยากาศของ The Zolo)

มุมไบ – สำหรับกลุ่ม Gen M ชาวอินเดียแล้ว บ้านคือที่ที่มีแอพลิเคชั่นต่าง ๆกับพวกเขา พลเมืองและการลงทุนจำนวนมหาศาล กำลังเบนความสนใจให้กับสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัย การแชร์ที่พักอาศัยที่ผู้พักสามารถแชร์ห้องครัว, ห้องน้ำและพื้นที่ห้องนั่งเล่นในขณะที่เจ้าของบ้านมีการเสนอการบริการที่หลากหลายผ่านซอฟต์แวร์บนสมาร์ทโฟน

ธุรกิจการแชร์ที่พักอาศัยกำลังเริ่มต้นขึ้นเนื่องจากมีการย้ายถิ่นฐานไปยังตัวเมืองมีจำนวนสูงขึ้น ราคาของอสังหาริมทรัพย์เพิ่มสูงขึ้นและคนรุ่นใหม่ต่างพากันออกจากบ้านเพื่อเช่าที่พักอาศัยแทนการซื้อ ภายในปี 2022 มีการคาดการณ์ว่าตลาดจะมีมูลค่ามากกว่า 2พันล้านเหรียญสหรัฐ “ด้วยการร่วมรับการสนับสนุนที่ดีในการขับเคลื่อนทั้งด้านอุปสงค์และอุปทาน” อ้างอิงจากบันทึกของ Red Seer Consulting

หนึ่งในรายชื่อผู้ลงทุนที่ใหญ่ที่สุดของโลกได้เข้ามาในตลาด รวมทั้ง Goldman Sacha และ Warburg Pincus

Anish Saraf กรรมการผู้จัดการของ Warburg Pincus India กล่าวกับ The Nikkei Asian Review ว่า ในขณะที่แนวคิดการใช้ชีวิตร่วมกันมีความแพร่หลายมากแล้วในประเทศอินเดีย เมื่อพูดถึงการมอบสิ่งอำนวยความสะดวกแก่เหล่าผู้พักโดยเจ้าของพื้นที่นั้น พื้นที่ต่าง ๆเหล่านี้ก็ไม่ได้เป็นไปตามที่เหล่าประชากรวัยรุ่นคาดหวังไว้

“พวกเราถูกดึงดูดโดยโอกาสทางการตลาดขนาดใหญ่ในประเทศอินเดียในการมอบพื้นที่พักอาศัยที่มีคุณภาพสูง ทันสมัยและอยู่ในราคาที่จับต้องได้สำหรับกลุ่มเป้าหมายที่เป็นนักศึกษาและผู้ประกอบอาชีพที่อายุน้อยอยู่” Saraf กล่าว “และเรายังมองเห็นอีกว่าพื้นที่การตลาดนี้เติบโตได้รวดเร็วมาหในหลาย ๆ ตลาดของเอเชีย รวมถึงประเทศจีน”

หนึ่งในอสังหาริมทรัพย์ใน Pune ที่มีการจัดการโดย Zolo Stays ที่ทำการระดมทุนได้มากถึง 30 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ ในการระดมทุนครั้งล่าสุดจากเหล่านักลงทุนต่าง ๆ รวมทั้ง Mirae Asset ของเกาหลีใต้ (ภาพบรรยากาศของ Zolo Stays)

ในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา บริษัทหุ้นเอกชนในนิวยอร์กประกาศร่วมทุนกับบริษัท Lemon Tree Hotels ในประเทศอินเดีย สำหรับการลงทุนเป็นจำนวนมากถึง 3 หมื่นล้านรูปี (420 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ) ในการพัฒนาที่พักอาศัยแบบบริการเต็มรูปแบบสำหรับเหล่านักท่องเที่ยวและผู้ประกอบอาชีพรุ่นใหม่

กิจการอื่น ๆมากมายกำลังมีการงอกเงยขึ้น ธุรกิจ Startups เริ่มมีมากขึ้นอย่าง NestAway, NoBroker และ StanzaLiving ทำให้จำนวนเจียงมีเพิ่มมากขึ้นเป็นสองเท่า ด้วยจำนวนประมาณ 50,000 ในปี 2018 อ้างอิงจาก Red Seer และตัวเลขดังกล่าวมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มขึ้นอีกอย่างทวีคูณ

Zolo Stays บริษัทในเมืองบังกาลอร์ หรือเป็นที่รู้จักในชื่อ Bengaluru กล่าวว่าทางบริษัทมีการเพิ่มจำนวนเตียงขึ้น 800% เป็น 16,000 จากจำนวน 2,000 ในปี 2017 และมีการคาดการณ์ว่าจะทะลุจำนวน 50,000 เตียง ปลายปีนี้

จากรอบการระดมทุนครั้งล่าสุดของทางบริษัทเมื่อวันที่ 8 มกราคมที่ผ่านมา มีการระดมทุนได้มากถึง 30 ล้านเหรียญดอลลาร์จาก Mirae Asset ของเกาหลีใต้และบริษัทเอกชนของอินเดีย IDFC Alternatives และ Nexus Venture Partners

NestAway ผู้รวบรวมรายการบ้านเช่าต่าง ๆที่ยังมีสำนักงานใหญ่ในบังกาลอร์ ได้รับเงินทุนจำนวน 51 ล้านเหรียญดอลลาร์จาก Goldman Sachs ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา Stanza Living ผู้ก่อตั้งที่พักอาศัยสำหรับนักศึกษาในนิวเดลี มีการระดมทุนได้ 10 ล้านเหรียญดอลลาร์ในเดือนกันยายนจากบริษัท Sequoia Capital ของสหรัฐอเมริกา

สิ่งอำนวยความสะดวกในการพักอาศัยร่วมกันโดยทั่วไปจะมาพร้อมการให้บริการเฟอร์นิเจอร์, Wi-Fi, การทำความสะอาดและรักาความปลอดภัย การบริการต่าง ๆเหล่านี้มีการจัดการผ่านแอพลิเคชั่น ที่ผู้เช่าสามารถชำระค่าเช่าของพวกเขาเช่นเดียวกับการร้องขอหรือร้องเรียนเรื่องต่าง ๆไปยังผู้ประกอบการ และเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ในชุมชน ผู้ประกอบการที่พักอาศัยก็มีการจัดกิจกรรมต่าง ๆสำหรับผู้เช่าอีกด้วย

การเคลื่อนไหวที่คล้ายกันนี้ก็กำลังมีขึ้นในประเทศจีนแผ่นดินใหญ่, ฮ่องกงและสหรัฐอเมริกา ส่วนในประเทศอินเดีย Sandeep Singhal กรรมการผู้จัดการของ Zolo Stays ซึ่งเป็นนักลงทุนของ Nexus Venture Partners กล่าวว่าการพักอาศัยอยู่ร่วมกันนั้นจะสามารถสร้างโอกาสที่จะสร้างมาตรฐานใหกับตลาดการเช่าที่พักอาศัย “ทุกคนที่กำลังมองหาพื้นที่ดังกล่าวก็มีแนวโน้มที่จะเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกัน”

บริษัทหน้าใหม่ที่ได้รับการสนับสนุนจาก SoftBank อย่าง Oyo Rooms ได้เข้าร่วมในตลาดการแชร์ที่พักอาศัยภายใต้แบรนด์ Oyo Living ของพวกเขาในบังกาลอร์ เขตเมืองหลวง บริเวณรอบ ๆ นิวเดลีและปูน มีการให้บริการที่พักมากกว่า 35 แห่ง ด้วยจำนวนเตียงถึง 2,000 เตียง WeWork มีการรายงานว่ามีผู้ให้บริการใช้สำนักงานร่วมกันกำลังพิจารณาที่จะเข้าร่วมทุนกับ WeLive ในประเทศอินเดีย

ผู้ร่วมก่อตั้งธุรกิจการแชร์ที่พักอาศัยชาวอินเดียจำนวนมากทำตามรูปแบบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่มีการเข้าถึงน้อย โดยการเก็บค่าธรรมเนียมกับผู้เช่าสำหรับเตียงและการจัดการสถานที่ แต่การใช้กลยุทธ์เหล่านี้ก็แตกต่างกันไปในแต่ละบริษัท

ตัวอย่างเช่น Zolo Stays นำอพาร์ทเม้นต์ออกมาปล่อยเช่าด้วยการล็อคไว้เพื่อการเช่าแบบระยะยาวให้แก่ผู้เช่าพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกและการให้บริการต่าง ๆ อย่างไฟฟ้า, บริการทำความสะอาดและอาหาร ทางบริษัทที่ในขณะนี้ทำธุรกิจในเมืองอื่นอีก 6 เมือง มีความตั้งใจที่จะขยายธุรกิจไปยังอีก 4 เมือง รวมถึงมุมไบ ภายในปีนี้ พวกเขายังจะมีการเจาะตลาดโฮสเทลสำหรับนักศึกษาเนื่องจากความต้องการสูงขึ้นเรื่อย ๆ อ้างอิงจากผู้ร่วมก่อตั้งและผู้บริหารระดับสูง Nikhil Sikri

อีกทางหนึ่ง NestAway มีการโฟกัสไปยังรายชื่อของบ้านพักอาศัยแบบแชร์หรือห้องพักแบบเดี่ยว ๆ และช่วยเหลือลูกค้าในการดำเนินการเช่าโดยไม่มีการหักค่าธรรมเนียมนายหน้าจากเหล่าผู้คนที่กำลังตามหาอพาร์ทเม้นต์ เมื่อไม่นานมานี้มีการเริ่มให้เช่าอพาร์ทเม้นต์ของพวกเขาเองและมีการจัดการด้วยตัวเอง แต่ในอนาคตนั้นมีการวางแผนที่จะให้บริการแก่เจ้าบ้านด้วยการสมัครสมาชิก รวมทั้งให้บริการเฟอร์นิเจอร์, การรับส่งไปยังที่ทำงาน และประกันทรัพย์สิน

“พวกเราวางแผนที่จะเปลี่ยนจากการเป็นที่พักอาศัยแบบบริการไปสู่การใช้ชีวิตแบบบริการครบวงจร” Amarendra Sahu ผู้ร่วมก่อตั้งและผู้บริหารระดับสูงของ NestAway กล่าว “มันจะคล้ายๆกับการสั่งพิซซ่า ที่คุณสามารถเลือกการบริการแบบที่คุณต้องการและชำระเงินตามที่สั่ง”

หนึ่งในอุปสรรคที่ธุรกิจการแชร์ที่พักอาศัยต้องเผชิญ อ้างอิงจาก Saraf จาก Warburg Pincus คืออัตราผลการตอบแทนของที่พักอาศัยในประเทศอินเดียโยทั่วไปมีกำลังที่ต่ำ เขากล่าวว่าสิ่งนี้จะทำให้มีความจำเป็นที่จะต้องใช้พื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด ในขณะที่กำลังมอบประสบการณ์ที่ไม่ยุ่งยากมากนัก

ที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ของ Knight Frank สามารถมองเห็นช่องทางสำหรับอัตราผลตอบแทนที่ดีกว่า บริษัทที่มีการคาดการณ์ว่าภาคหน่วยของการแชร์ที่พักอาศัยมีการนำเสนอระดับสินทรัพย์แนวใหม่สำหรับนักลงทุนเพื่อการกระจายความเสี่ยงให้ห่างจากมูลค่าจำนวน 3 หมื่น 2 พัน ล้านเหรียญดอลลาร์ของตลาดการเช่าที่พักอาศัย ภาคหน่วยดังกล่าวกำลังอยู่ในระยะเริ่มต้นและด้วยอุปสรรคที่ยังมีไม่มากนักที่จะสามารถเข้าสู่ระยะที่จะได้อัตราผลตอบแทนที่สูงกว่าจาก 10% ให้ถึง 13% เขากล่าว

ความท้าทายอีกอย่างหนึ่งคือกำลังการใช้เงินของลูกค้ากับสภาพการตลาดอย่างฮ่องกงกับจีน และเช่นเดียวกันกับผู้ให้บริหารวินมอร์เตอร์ไซต์อย่าง Ola และ Uber การเริ่มต้นธุรกิจการแชร์ที่พักอาศัยจึงจำเป็นต้องมีความมั่นใจในความปลอดภัยและการรักษาความปลอดภัย Singhal จาก Nexus Venture Partner กล่าว

สำหรับผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดวัย 25 ปี Swarna Vishwanathan คิดว่าการใช้ชีวิตในที่ที่มีการจัดการใช้พื้นที่ส่วนกลางร่วมกันหมายความว่าเธอจะไม่จำเป็นที่จะต้องรับมือกับเจ้าของที่เรื่องมาก, ค่ามัดจำที่แพงและการทำความสะอาดภายในที่พักอาศัยเพียงลำพัง

“ฉันจ่ายเพียง 10,000 รูปี ในตอนนี้เมื่อเปรียบเทียบกับ 15,000 รูปี ที่ฉันเคยจ่ายเมื่อก่อน” เธอกล่าว “หากฉันมีความจำเป็นที่จะซ่อมของบางอย่าง ฉันเพียงแค่ออกคำสั่งไปยังแอพของ NestAway และการซ่อมต่าง ๆ ก็เรียบร้อยในทันที”

ที่มา : https://asia.nikkei.com/Business/Startups/Indian-millennials-spark-co-living-investment-boom