บริษัทผู้ให้บริการที่ชาร์จรถพลังงานไฟฟ้าอย่าง Pod Point และ BP Pulse ต่างก็มีแอปพลิเคชันที่ให้ข้อมูลปริมาณการใช้พลังงาน ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นขณะชาร์จ รวมถึงประวัติการชาร์จไฟ
นอกจากภาคเอกชนแล้วทางภาครัฐก็ส่งเสริมการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของการชาร์จรถพลังงานไฟฟ้าภายในบ้านด้วยเช่นกัน เช่นรัฐบาล UK ที่มีกองทุนสนับสนุนการใช้งานอุปกรณ์ชาร์จรถไฟฟ้า Electric Vehicle Homecharge Scheme ที่ให้งบประมาณผู้ใช้รถพลังงานไฟฟ้า 350 ปอนด์ หรือราวๆ 14,000 บาท สำหรับใช้จ่ายสิ่งที่เกี่ยวกับการติดตั้งระบบชาร์จ ไม่นานนี้รัฐบาลยังประกาศขยายระยะเวลาโครงการเพิ่มเติมออกไปอีก
Mike Hawes ประธานบริหาร Society of Motor Manufacturers and Traders กล่าวว่า ด้วยความที่เราพยายามจะยุติการขายรถใหม่ที่ใช้น้ำมันและแก๊สให้ได้ภายในปี 2030 เราจึงจำเป็นต้องเร่งขยายโครงข่ายความพร้อมของรถพลังงานไฟฟ้าซึ่งรวมถึงสิ่งสำคัญก็คือจุดชาร์จ
Peter Tyldesley ประธานบริหาร Centre for Alternative Technology กล่าวว่า พลังงานไฟฟ้าแบบไร้คาร์บอนในอนาคตจะมาจากแผงโซล่าเซลล์เพียงแค่ 10 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ซึ่งนำไปใช้ได้ 15 – 20 เปอร์เซ็นต์ของหลังคาเรือนในสหราชอาณาจักร ซึ่งเทียบกับพลังงานไฟฟ้า 75 เปอร์เซ็นต์ที่มาจากพลังงานลม