ศุภาลัย ลอฟท์ ประชาธิปก – วงเวียนใหญ่ คอนโดสูงแห่งเดียวบนย่านชุมชนเมืองดั้งเดิม

ฝั่งธนฯ เป็นทำเลของย่านที่อยู่อาศัยมาเนิ่นนานตั้งแต่อดีตกาล ภาพรวมของพื้นที่โดยส่วนใหญ่เต็มไปด้วยโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบ ในอดีตหลายคนอาจมองว่าฝั่งธนฯเป็นทำเลที่ไกล เดินทางลำบาก เพราะในอดีตพื้นที่ฝั่งธนฯ และฝั่งพระนครเชื่อมกันด้วยสะพานเพียงไม่กี่สะพาน และโดยเฉพาะการเชื่อมเข้าสู่ inner city และแหล่งงานหลักของกรุงเทพฯ อย่าง เกาะรัตนโกสินทร์ เยาวราช บางรัก สีลม สาทร แล้วหล่ะก็ มีเพียงสะพานข้ามแม่น้ำ 3 สะพาน นั่นคือ สะพานพุทธฯ สะพานพระปกเกล้าฯ และสะพานตากสินฯ (สะพานสาทร) เท่านั้น

จึงทำให้ทำเลบนถนนหลักที่เชื่อมสู่สะพานเพื่อข้ามไปฝั่งพระนคร เป็นที่จับตามองของนักพัฒนาอสังหาฯ เหมือนปรากฎการณ์ของถนนกรุงธนบุรี ที่เชื่อมขึ้นสะพานตากสินฯ (สะพานสาทร) จนทำให้เกิดเทรนด์ในการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยแนวสูง ที่เกาะไปตามแนวรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย ในช่วงสาทร ตากสิน ถึงแม้ปัจจัยหนึ่งคือมีรถไฟฟ้าวิ่งผ่าน แต่อีกปัจจัยและเหตุผลหลัก ก็คือ ข้ามสู่พื้นที่ฝั่งสาทร สีลม และเมืองชั้นในได้โดยง่าย แม้ว่าจะรถติดมากในชั่วโมงเร่งด่วน แต่ก็เป็นเส้นทางที่ใกล้ที่สุดที่เข้าถึง CBD สาทรได้โดยง่าย รวมทั้งองค์ประกอบของที่ดิน ที่พร้อมให้พัฒนา ทำให้หลายปีที่ผ่านมาเราเห็นคอนโดฯกระจุกตัว อยู่ตลอดเส้นถนนกรุงธนบุรี จนแน่นตลอดสองฝั่งถนน

ย่านฝั่งธนฯถูกปลุกกระแสความคึกคักขึ้นมาอีกครั้ง จากเดิมที่ย่านนี้เป็นเพียงที่พักอาศัยแห่งที่สองของผู้คนที่ทำงานรวมถึงเจ้าของกิจการในฝั่งพระนคร ด้วยการก่อสร้าง Mega Projects 2 โครงการคือ ICONSIAM และรถไฟฟ้าสายสีทอง ที่ดูแล้วมี Impact กับทำเลฝั่งธนฯชั้นในมากกว่าเส้นทางเดินรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายซะอีก ICONSIAM คือ Mega project ริมแม่น้ำเจ้าพระยา แห่งเดียวบนทำเลฝั่งธนฯ ที่พร้อมเปิดตัวต้นปีหน้า นี่คือโครงการ Mix-used ขนาดใหญ่ที่ครบครันทั้ง shopping mall, lifestyle, โรงแรม, ที่พักอาศัย, หอชมเมือง และกิจกรรมสันทนาการริมแม่น้ำ ชนิดที่ชาตินี้คงจะไม่มีโอกาสได้เห็นโครงการริมแม่น้ำแห่งใดยิ่งใหญ่เท่านี้อีก ICONSIAM ยังมาพร้อมกับเส้นทางคมนาคมรถไฟฟ้าสายสีทอง ที่เชื่อม ICONSIAM กับสถานีกรุงธนบุรี และพื้นที่ตลอดสองฝั่งถนนเจริญนคร คลองสาน ถนนประชาธิปก ได้ง่ายดายมากขึ้น ทำให้เกิดการพัฒนาย่านฝั่งธนฯในแบบปฎิกิริยาลูกโซ่ โดยเฉพาะโครงการคอนโดต่างๆที่เกาะกระแสการพัฒนาของ ICONSIAM

นอกจากนี้ยังมีแผนการพัฒนารถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ ที่เชื่อมจากเตาปูน เข้าสู่พื้นที่ฝั่งธนฯแบบทุกอณูในพื้นที่ โดยมีจุดตัดกับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย หัวลำโพง -ท่าพระ ที่สถานีวังบูรพา ก่อนจะข้ามมายังพื้นที่ฝั่งธนฯ ที่สถานีสะพานพุทธ และตัดกับรถไฟฟ้าสายสีแดงและเชื่อมต่อกับสายสีเขียวที่สถานีวงเวียนใหญ่ และวิ่งยาวบนถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน ไปจนถึงครุใน ซึ่งที่ผ่านมาย่านฝั่งธนฯ ไม่เคยมีการพัฒนาที่สร้างการเปลี่ยนแปลงอย่างมากขนาดนี้มาก่อน

(ที่มา : http://www.realist.co.th/blog/รถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้/ )

แต่ถ้าพูดถึงทำเลฝั่งธนฯ ที่เชื่อมเข้าสู่ย่านเก่าฝั่งพระนคร อย่างแหล่งงาน ย่านพระนครชั้นใน ทั้งหน่วยงานราชการ มหาวิทยาลัย สำนักงานทรัพย์สิน ฯลฯ  และย่านธุรกิจการค้าอย่างเยาวราช วังบูรพา บ้านหม้อ พื้นที่ที่ใกล้สุดในการเดินทาง ก็จะเป็นย่านปิ่นเกล้า ที่เดินทางสะดวกผ่านสะพานพระปิ่นเกล้า และย่านวงเวียนใหญ่ ที่เดินทางได้ทั้งจากสะพานพุทธฯ และสะพานพระปกเกล้าฯ อีกทั้งยังเป็นทำเลที่เชื่อมย่านพักอาศัยเก่าฝั่งธนฯ กับแหล่งวัฒนธรรมเก่าแก่ฝั่งพระนคร ได้อย่างไร้รอยต่อ ซึ่งคนที่ทำงานในพื้นที่ฝั่งพระนครชั้นใน ส่วนใหญ่ก็มักเลือกซื้อที่อยู่อาศัยฝั่งธนฯ ในพื้นที่ที่กล่าวมา เพราะปัจจัยของพื้นที่ในพระนครชั้นใน ย่านประวัติศาสตร์เมืองกรุงเทพฯ ที่ส่วนใหญ่เป็นวัด วัง สถานที่ราชการ และเป็นที่ของเจ้านายชั้นสูง จะพัฒนาอะไรก็แทบไม่ได้ แถมส่วนใหญ่ยังเป็นพื้นที่ Leasehold ส่วนพื้นที่ใกล้เคียงก็เป็นย่านพาณิชยกรรมหนาแน่น อย่างพาหุรัด สำเพ็ง จึงเป็นเหตุผลเชิงพื้นที่ที่ทำให้คนทำงาน เลือกที่จะอยู่อาศัยในพื้นที่ฝั่งธนฯ ซึ่งที่ผ่านมาส่วนใหญ่ก็เป็นย่านปิ่นเกล้า สี่แยกบ้านแขก วงเวียนใหญ่ ที่มีทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ รวมทั้งคอนโด ที่พัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว

แต่ถ้าพูดถึงทำเลบนถนนสะพานพุทธฯและสะพานพระปกเกล้าฯ ยังถือว่ามีการพัฒนาค่อนข้างน้อย โดยเฉพาะคอนโดฯ ส่วนใหญ่กระจุกตัวตามแนวรถไฟฟ้าบริเวณวงเวียนใหญ่ และบริเวณสี่แยกบ้านแขก ที่ใกล้รถไฟฟ้าสายสีทอง ที่ส่วนใหญ่ได้กลุ่มชาวไทยเชื้อสายซิกข์ ที่เป็นเจ้าของห้างร้านอยู่ฝั่งพาหุรัดเข้ามาอาศัยอยู่ เพราะการเดินทางที่ใกล้และสะดวก ซึ่งจะเห็นได้ว่าการพัฒนาค่อนข้างกระจุกตัวอยู่แยกใดแยกหนึ่ง ซึ่งพื้นที่ระหว่างแยกบ้านแขก กับแยกวงเวียนใหญ่ หรือเรียกถนนที่เชื่อม 2 แยกนี้ว่า ถนนประชาธิปก ยังไม่มีการพัฒนาโครงการคอนโดเลยบนพื้นที่ถนนเส้นนี้ ทั้งๆที่การเดินทางสู่ฝั่งพระนคร ไม่ว่าจะเข้าสู่เกาะรัตนโกสินทร์ หรือค้าขายบนถนนเยาวราช ก็สามารถเลือกเดินทางได้จากสะพานข้ามแม่น้ำทั้งสะพานพุทธฯ และสะพานพระปกเกล้าฯ หรือจะใช้บริการรถไฟฟ้าที่สถานีวงเวียนใหญ่ ก็เชื่อมตรงด้วยถนนเพียงเส้นเดียว แถมยังอยู่ใจกลางของการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าสถานีเปลี่ยนถ่ายทั้งฝั่งธนฯและฝั่งพระนครฯอีกด้วย

ด้วยศักยภาพทำเล และด้วยความเชี่ยวชาญพื้นที่ด้านฝั่งธนฯของศุภาลัย ที่ได้รับเสียงตอบรับจากโครงการล่าสุด ศุภาลัย พรีเมียร์ เจริญนคร เป็นอย่างดี ศุภาลัย จึงจับทำเลฝั่งธนฯอีกครั้ง กับโครงการแรกบนถนนประชาธิปกที่ ศุภาลัย ลอฟท์ ประชาธิปก-วงเวียนใหญ่

ศุภาลัย ลอฟท์ ประชาธิปก-วงเวียนใหญ่ ตั้งอยู่บนถนนประชาธิปก ซึ่งถือว่าเป็นคอนโดใหม่ ที่อยู่ใกล้ฝั่งพระนครมากที่สุด และในอนาคตจะใกล้รถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ที่สถานีสะพานพุทธมากที่สุด

บนพื้นที่ขนาดประมาณ 2 ไร่ เป็นอาคารสูง 30 ชั้น เป็นที่พักอาศัยจำนวน 363 ยูนิต และร้านค้าอีก 2 ยูนิต

ตัวอาคารวางตั้งฉากแนวถนน เป็นรูปตัว L ทิศแนวเหนือ-ใต้ ทำให้ความร้อนกระทบอาคารน้อย ทำให้อาคารประหยัดพลังงาน  โดยโครงการใช้กระจกเขียวตัดแสงในส่วนของห้องพัก  และใช้สีอาคารเป็นสี Earth Tone น้ำตาล เทา ให้ความรู้สึก สุขุม เข้มแข็ง แต่โดดเด่นด้วยเส้นสายสีขาวที่มั่นคง ตัดกับสีเทาของตัวอาคาร และโครงการใช้หลอดไฟ LED ทั่วทั้งโครงการ เพื่อลดการใช้พลังงานและประหยัดไฟอีกด้วย

ศุภาลัย ลอฟท์ ประชาธิปก-วงเวียนใหญ่ มีขนาดห้องถึง 3 ขนาด คือ Studio, 1Bedroom, 1 Bedroom Plus และ 2Bedroom

ชั้น 7 เป็นพื้นที่ส่วนกลางหลักอย่างสระว่ายน้ำ ฟิตเนส พร้อมห้องพักอาศัยจำนวน 14 ยูนิต

ชั้น 8 – 27 เป็น Typical Floor Plan ซึ่งชั้น 28 – 30 จะเป็นโซน Presidential

โดย Studio หรือ Loft suite มีขนาด 29 Sq.m. เป็นห้องมาตรฐาน แบ่งพื้นที่ติดทางเข้าเป็นครัวและห้องน้ำ ด้านในเป็นพื้นที่พักผ่อน มีที่ชั้น 7-27 ชั้นละ2 ห้อง

ห้อง 1 Bedroom มี 3 ขนาด คือ Executive suite และ Executive suite(s) 35 Sq.m. 1 Bedroom ครัวปิด ติดระเบียง และมีพื้นที่ living area และห้องนอนแบ่งพื้นที่เท่าๆกัน มีที่ชั้น 7-27 ชั้นละ 3 ห้อง

Deluxe Suite (a) 48 Sq.m. และ Deluxe Suite (b) 48 Sq.m.

หรือห้อง 1 Bedroom Plus ที่มีพื้นที่ห้องอเนกประสงค์เพิ่มขึ้นมา 1 ห้อง ติดระเบียง และมีพื้นที่ living area เชื่อมต่อกับครัวที่ค่อนข้างกว้าง มีที่ชั้น 7-27 ชั้น 7 มี 2 ห้องและที่ชั้น 8-27 มีชั้นละ 3 ห้อง

Deluxe Suite (c) 47 Sq.m. ห้อง 1 Bedroom Plus ขนาดเล็ก มีพื้นที่ห้องอเนกประสงค์เพิ่มขึ้นมา 1 ห้อง ติดระเบียง และมีพื้นที่ living area เชื่อมต่อกับครัวที่ค่อนข้างกว้าง มีที่ชั้น 7-27 ชั้นละ 1 ห้อง

2 Bedroom มี 4 ขนาด คือ Premier Suite(a) 48 Sq.m. ห้องหน้ากว้าง ทุกห้องติดอากาศ แบ่งพื้นที่เป็น 3 ส่วน คือห้องนอน 2 ห้องที่ปีกซ้ายและขวา และห้อง living room ที่ตรงกลางห้อง มีที่ชั้น 7-27 ชั้นละ2 ห้อง

Premier Suite (b) 54.5 Sq.m. ห้องมุมมีชั้นละ 1 ห้อง ทุกพื้นที่ของห้องติดอากาศ มีพื้นที่ living ยาวติดระเบียงขนาดใหญ่ ได้ครัวปิด และห้องนอนเข้ามุมทั้ง 2 ห้อง

Family Suite (a) 62.5 Sq.m. 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ห้องสุดทางเดิน มีพื้นที่ living ยาวจรดระเบียง และห้องนอนติดอากาศ ห้องนอนใหญ่มีห้องน้ำในตัว

Family Suite (b) 64.5 Sq.m. 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ห้องมุม มีชั้นละ 1 ห้อง มีพื้นที่ครัวปิด เชื่อมกับ living area ติดระเบียงแนวกว้าง ด้านในสุดของห้องเป็นห้องนอน 2 ห้อง ห้องนอนใหญ่มีห้องน้ำในตัว

Family Suite (c) 67 Sq.m. 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ สุดทางเดิน ชั้นละ 1 ห้อง ที่มีห้อง living กว้าง เชื่อมกับระเบียงกว้างที่สามารถเข้าออกได้ทั้งจากห้อง living และครัว ที่เป็นครัวปิด ห้องนอนใหญ่มีห้องน้ำในตัว และมีระเบียงแยกส่วนตัว

Family Suite (d) 70.5 Sq.m. 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ สุดทางเดิน ชั้นละ 1 ห้อง มีครัวปิด ห้องliving ลึก แบ่งพื้นที่เป็นห้องนอนซ้ายขวา ห้องนอนใหญ่มีห้องน้ำในตัว และมีทางออกระเบียง ที่เป็นระเบียงยาวเชื่อมกับห้องนั่งเล่น

โดยห้องตัวอย่างที่โครงการนำมาตกแต่งให้ชมเป็นห้อง 1 Bedroom plus Deluxe Suite (a) 48 Sq.m. และ Family Suite (b) 64.5 Sq.m.

เรามาชมห้องแรก 1 Bedroom plus Deluxe Suite 48 (a) Sq.m. ห้อง 1 bed plus ที่ใหญ่ที่สุดในตลาด เพราะปกติทั่วไป 1 Bed plus จะอยู่ 30 Sq.m.ปลายๆ แต่ที่นี่กว้างถึง 48 Sq.m.

ภายในห้องโซนด้านหน้าติดทางเข้า เป็นห้อง living area ยาวไปจรดประตูห้อง plus และเชื่อมออกสู่ระเบียงด้านนอก

ที่ห้อง living area สามารถวางชุดโซฟาสำหรับ 2-3 ท่าน พร้อมโต๊ะกลางตัวเล็ก ได้ที่ผนังทึบด้านขวาติดทางเข้า

ผนังฝั่งตรงข้าม สามารถ built-in เป็นชั้นวางโทรทัศน์

ชั้นวางของ หรือชั้นเก็บของได้ยาวจรดประตูห้อง Plus

สุดผนังทึบสำหรับวางชุดโซฟา เป็นพื้นที่ living area ที่หักเป็นมุมรูปตัว L เป็นพื้นที่ครัวเปิด และห้องน้ำ

ที่พื้นที่ครัว เป็นครัวสำหรับ 1 Bedroom ที่ค่อนข้างกว้างมาก กว้างพอให้มีเคาท์เตอร์บาร์ กั้นการใช้งานระหว่างพื้นที่พักผ่อนดูทีวี กับพื้นที่ครัวและทางเข้าห้องน้ำ

ติดผนังด้านในเป็น built-in ครัวยาวเต็มผนัง สูงจากพื้นจรดเพดาน

สามารถเจาะช่องวางตู้เย็นแบบ 2 บานเปิดบนล่าง ที่ด้านซ้าย

ติดกันเป็นเคาท์เตอร์ครัว ฝั่งอ่างล่างจาน และ เตาไฟฟ้าแบบ 2 หัว

ด้านบนติดที่ดูดอากาศและชั้นเก็บอุปกรณ์ทำครัว พร้อมเจาะช่องสำหรับวางไมโครเวฟ

ส่วนชั้นล่างเป็นลิ้นชักเก็บอุปกรณ์ทานอาหาร แบบแยกบานเปิด

ติดเคาท์เตอร์ครัว มีพื้นที่พอให้วางเครื่องซักผ้าและชั้นเก็บอุปกรณ์ซักผ้าแยกเป็นสัดส่วน

ติดกันเป็นทางเข้าห้องน้ำ ที่มีพื้นกั้นยกสูงจากขอบประตูด้านล่าง

ภายในห้องน้ำแบ่งพื้นที่ส่วนเปียกและส่วนแห้ง ที่ซ้ายและขวา กั้นด้วย Shower glass

พื้นที่ส่วนแห้งติดประตูทางเข้าที่ด้านขวา โครงการให้โถสุขภัณฑ์วางเข้ามุม และอ่างล้างหน้าแบบลอยตัวพร้อมกระจกติดผนัง

ที่ส่วนเปียก มีพื้นที่เข้ามุมสำหรับวางอุปกรณ์อาบน้ำ

ติดครัว เป็นทางเข้าห้องนอน กั้นด้วยกระจกบานเลื่อน

ภายในสามารถ built-in ตู้เสื้อผ้าไว้ที่มุมขวาติดประตูทางเข้า

และ โต๊ะเครื่องแป้ง และชั้นวางทีวี ชั้นวางของ ได้ยาวเต็มผนังด้านซ้าย

ตรงกลางห้อง สามารถวางเตียง Queen size พร้อมโต๊ะหัวเตียง 1 ข้าง

และมีพื้นที่ติดกระจกเข้ามุม

ที่สามารถวางเตียง day bed และโต๊ะทำงานตัวเล็ก สำหรับนั่งทำงาน เช็คอีเมล์ได้ที่มุมนี้

ส่วน Hi-Light ของห้อง type นี้คือ ห้อง Plus กั้นด้วยประตูกระตกบานเลื่อน ที่สามารถปรับเปลี่ยนตาม function การใช้งานของแต่ละคนได้

ภายในห้อง ไม่เล็กไม่ใหญ่

ที่ห้องตัวอย่าง โครงการตกแต่งเป็นห้องทำงาน

สามารถ built-in โต๊ะและชั้นวางของที่ผนังด้านซ้าย

ภายในห้องมีประตูบานเลื่อนเชื่อมพื้นที่ติดระเบียง

ระเบียงมีขนาดกะทัดรัด แบ่งพื้นที่ไว้วางคอมฯแอร์ที่ด้านซ้าย และมีพื้นที่เหลือพอให้วางชั้นวางต้นไม้ หรือใช้งานได้

สำหรับห้องนี้ เหมาะสำหรับอยู่ 1-2 คน ที่ต้องการมีพื้นที่ใช้งานแยกส่วน หรือ สำหรับครอบครัวขนาดเล็ก ที่มีห้องสำรองสำหรับสมาชิกใหม่ รวมทั้งน่าจะเหมาะสำหรับคนที่ชอบใช้งานพื้นที่ living กว้างๆ ครัวใหญ่ๆ ห้องนี้น่าจะตอบโจทย์นี้

อีกห้องเป็นห้อง Family Suite (b) 64.5 Sq.m.

ภายในห้องมีพื้นที่ living area หน้ากว้าง เชื่อมเข้ากับครัวปิดที่ด้านขวาของทางเข้า

ที่ห้อง living เข้ามาจะพบกับผนังทึบ ที่สามารถตกแต่งหรือ built-in เป็นมุมตั้งโชว์พร้อมเก็บของได้

ตรงกลางห้องกว้างพอให้วางโต๊ะทานอาหารสำหรับ 4 ที่นั่ง

และมีพื้นที่เข้ามุม ติดทางออกระเบียง ที่แยกเป็นพื้นที่พักผ่อน สำหรับนั่งดูหนัง ชมวิวพื้นที่ฝั่งธนฯ แบบกึ่งๆแยกส่วนจากพื้นที่ทานอาหาร

พื้นที่มุมนี้ กว้างพอให้วางชุกโซฟาสำหรับ 3-4 ที่นั่งพร้อมโต๊ะกลางและเก้าอี้ล้อมตัวเล็ก

ที่ผนังฝั่งตรงข้ามเหมาะสำหรับ built-in เป็นชั้นวางทีวีขนาดใหญ่ เป็นพื้นที่พักผ่อนของทุกคนในครอบครัว

ที่สามารถเปิดประตูเชื่อมกับพื้นที่ระเบียงด้านนอก รับลมและรับแสงได้ตลอดทั้งวัน

ที่ระเบียง แบ่งพื้นที่ด้านขวาไว้สำหรับวางคอมฯแอร์

และมีพื้นที่เหลือพอให้ใช้งาน ไม่ว่าจะปลูกต้นไม้ ตากผ้า หรือวางเก้าอี้ตัวเล็กไว้นั่งกินลมชมวิว

ส่วนที่ครัวด้านขวาของห้อง เป็นครัวปิด กั้นด้วยประตูบานเลื่อนบานใหญ่ ยาวเต็มแนวผนัง

พื้นที่ครัวสามารถ built-in ชุดครัวได้เต็มแนวผนัง พร้อมแบ่งส่วนสำหรับพื้นที่ซักล้าง

ที่ห้องตัวอย่าง โครงการแบ่งพื้นที่มุมในสุด ไว้วางเครื่องซักผ้าและชั้นวางอุปกรณ์ซักล้าง

ถัดมาเป็นที่วางตู้เย็นไซต์ใหญ่ เชื่อมกับพื้นที่เคาท์เตอร์ครัว

เคาท์เตอร์ครัว ฝั่งอ่างล่างจาน และ เตาไฟฟ้าแบบ 2 หัว

ด้านบนติดที่ดูดอากาศและชั้นเก็บอุปกรณ์ทำครัว พร้อมเจาะช่องสำหรับวางไมโครเวฟ และชั้นวางอุปกรณ์ทำครัว

ส่วนชั้นล่างเป็นลิ้นชักเก็บอุปกรณ์ทานอาหาร แบบแยกบานเปิด

โซนด้านในสุดของห้อง แบ่่งพื้นที่ space สำหรับเป็นมุมเข้าออก ห้องนอนที่วางตัวอยู่ด้านซ้ายและขวา และห้องน้ำ ระหว่างทางเข้าห้องนอนทั้งสองห้อง

ที่ห้องน้ำ ภายในแบ่งพื้นที่ส่วนเปียกและส่วนแห้ง ที่ซ้ายและขวา กั้นด้วย Shower glass

พื้นที่ส่วนแห้งติดประตูทางเข้าที่ด้านขวา โครงการให้โถสุขภัณฑ์วางเข้ามุม และอ่างล้างหน้าแบบลอยตัวพร้อมกระจกติดผนัง

ที่ส่วนเปียกเข้ามุม สามารถติดเครื่องทำน้ำอุ่น และที่วางอุปกรณ์อาบน้ำที่มุมห้องได้

ด้านซ้ายเป็นห้องนอนเล็ก เข้ามุม

ติดทางเข้าสามารถ built-in โต๊ะเครื่องแป้ง พร้อมตู้เสื้อผ้าไว้ที่ผนัง ยาวเต็มแนวผนัง

กลางห้องสามารถวางเตียง 1 ที่นอนพอดีมุมผนังทึบที่หัวเตียง

ปลายเตียงสามารถติดทีวีแบบแขวนผนังเพื่อประหยัดพื้นที่ได้

และมีพื้นที่พอให้วาง daybed เข้ามุม ติดริมหน้าต่าง

ส่วนที่ห้องนอนใหญ่

ผนังติดทางเข้าสามารถ built-in โต๊ะเครื่องแป้ง และตู้เสื้อผ้าได้เต็มแนวผนัง

ติดกัน บริเวณกลางห้องสามารถวางเตียง queen size

พร้อมโต๊ะหัวเตียงไว้นั่งทำงาน วางของติดริมหน้าต่างได้

ปลายเตียงสามารถ built-in ชั้นและติดทีวีแบบแขวนผนัง

ติดผนังวางทีวี เป็นทางเข้าห้องน้ำสำหรับห้องนอนใหญ่

ภายในห้องน้ำ แบ่งพื้นที่ส่วนเปียกและส่วนแห้ง กั้นด้วย Shower glass

พื้นที่ส่วนแห้งติดประตูทางเข้าที่ด้านซ้าย โครงการให้โถสุขภัณฑ์ และอ่างล้างหน้าแบบลอยตัวพร้อมกระจกติดผนัง

ที่ส่วนเปียก อยู่ด้านในสุด พื้นมีขอบกันน้ำยกสูง และมีหน้าต่างระบายอากาศที่มุมห้องด้านใน

ห้องนี้เหมาะสำหรับครอบครัวขนาดกลาง อยู่กัน 3-4 คน เหมาะสำหรับคนชอบการใช้งานพื้นที่ที่เป็นสัดส่วน โดยเฉพาะครัวปิด และการมีพื้นที่ living area หน้ากว้าง สามารถปรับเปลี่ยนโซนการใช้งานได้หลากหลาย

นอกจากนี้ยังมีพื้นที่ส่วนกลาง ทั้งพื้นที่จอดรถกว่า 57% ไม่รวมซ้อนคัน และทางเข้าโครงการที่เปิดต้อนรับและมี pattern ที่เป็นเอกลักษณ๋เฉพาะของโครงการฯ

CO-working Space เชื่อมต่อพื้นที่กับ LOBBY มีฟังก์ชั่นเป็น Library และ Meeting Room

CO-Living Space ทำเป็นชั้นลอยแยกส่วน

สระว่ายน้ำระบบเกลือ

Fitness Sauna ที่ชั้น 7

และ Roof garden Sky Lounge

Sky Garden ที่ชั้นดาดฟ้ากับสวน 2 ระดับ ที่ชั้น 28 และ 30 ที่สามารถเห็นวิวได้รอบด้าน

ในวันแถลงข่าวเปิดตัวโครงการเมื่อวันที่ 13 มิย. 2561 ที่ผ่านมา มีประโยคหนึ่งที่หลุดมาจากปากของคุณไตรเตชะ ตั้งมติธรรม ว่าสำหรับโครงการ ศุภาลัย ลอฟท์ ประชาธิปก – วงเวียนใหญ่ นั้นมีข้อเสียอยู่เพียงข้อเดียวในมุมมองของคุณเต ตัวผมเองนั้นก็ได้แต่ชะเง้อหูฟังอย่างตั้งใจว่าอะไรคือข้อเสียของโครงการนี้ และมันจะเหมือนกับที่ผมคิดไว้ในใจหรือไม่…แต่พลันที่คุณเตเฉลยออกมาว่าข้อเสียนั้นคือ โครงการนี้มันเล็กเกินไป ที่ดินเพียงแค่ 2 ไร่ มีจำนวนยูนิตเพียงแค่ 363 ยูนิตเอง ผมต้องขอโทษล่วงหน้าที่โครงการนี้คงจะมียูนิตไม่พอขายอีกแล้ว ผมอยากจะให้มียูนิตมากกว่านี้ แต่ก็ทำไม่ได้!!! พระเจ้าช่วย ผมอุทานในใจพลางคิดว่านี่ถ้าเป็นผม หรือเป็นดีเวลลอปเปอร์อื่น ถ้าผู้บริหารมีความมั่นใจในทำเล และพลานุภาพของ Nostalgic Marketing ที่มีต่อคนติดถิ่นในย่านเมืองเก่าที่กำลังวิวัฒน์ถึงขีดสุดมากขนาดนี้ ถึงแม้จะมีจำนวนยูนิตเพียงแค่ 363 ยูนิต ผมและพวกดีเวลลอปเปอร์รายอื่นๆก็คงจะเนรมิตรความเว่อวัง อลังการ หรูหรา signature of me ให้บังเกิดขึ้นกับโครงการนี้ เพื่อที่จะได้ขายในราคาแพงๆ ไม่ปล่อยให้นักลงทุนรายย่อยทำกำไรจาก capital gain ได้เกินหน้าเกินตาผู้พัฒนาแต่อย่างไร

แต่ศุภาลัยก็คือศุภาลัย ผู้ซึ่งเน้นการพัฒนาโครงการเพื่อให้กลุ่มเป้าหมายที่อยากอยู่ต้องได้อยู่ ในราคาที่สมเหตุสมผลกับต้นทุนที่ได้มา ที่นี่จึงได้กลายเป็น ศุภาลัย ลอฟท์ ประชาธิปก วงเวียนใหญ่ ที่มีราคาเริ่มต้นต่อตรม.เพียงแค่ 71,900 ไม่ได้มีการตะบี้ตะบันเอาแบรนด์อย่างพรีเมียร์ หรือเอลีท มาจับยัดลงไปเพื่อให้ขายได้ราคาแพงๆแต่อย่างใด ทั้งๆที่ศุภาลัยเองก็ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม ในการสร้างประวัติศาสตร์ให้ศุภาลัย พรีเมียร์ เจริญนคร กลายเป็นคอนโดยุคใหม่ตัวแรกในย่านฝั่งธนที่ขายหมด Sold Out ไปตั้งแต่วันแรกอย่างหน้าตาเฉย…สิ่งนี้อาจมองได้เป็น 2 เหตุผลคือ 1 ทำเลนี้ถึงแม้ว่าจะค่อนข้างใกล้กับโครงการศุภาลัย พรีเมียร์ เจริญนคร เหมือนกัน (ราวๆ 1.5 กม.) แต่ด้วยการที่มันไม่ได้มีสถานีรถไฟฟ้าผ่านหน้าโครงการ หรือมีก็ไม่ใช่สายสีทอง ก็อาจจะทำให้ศักดิ์ศรีของทำเลดูดรอปลงมาในสายตาของคนที่มองหาคอนโดย่านเจริญนครใกล้ ICONSIAM เป็นลำดับแรก

และข้อสองคือทางศุภาลัยต้องการที่จะปั้นให้แบรนด์ลอฟท์กลายเป็นแบรนด์ที่ติดตลาดของผู้ซื้อในย่านฝั่งธนฯ เนื่องจากที่ผ่านมานับตั้งแต่มีการเปิดตัวแบรนด์ลอฟท์ ที่มีภาพลักษณ์ของความทันสมัย อ่อนวัย ดูจับต้องได้สำหรับคนรุ่นใหม่กว่าแบรนด์อื่นๆของศุภาลัย ทางศุภาลัยก็ใช้ทำเลฝั่งธนฯนี่ล่ะเป็นจุดศูนย์กลางของแบรนด์ลอฟท์ ไล่เรียงมาจาก ตลาดพลู แยกไฟฉาย จนมาถึงตัวนี้ ซึ่งดูจากบริบท ต้นทุนในการพัฒนาโครงการและการกำหนดราคาขายแล้ว ศุภาลัย ลอฟท์ ประชาธิปก – วงเวียนใหญ่ ดูจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด

สำหรับผมแล้วความน่าซื้อของที่นี่ มันอยู่ที่วัตถุประสงค์ในการซื้อของคุณเองว่าคุณจะซื้อไปเพื่ออะไรครับ เมื่อดูจากทำเลโดยรวมแล้ว ที่นี่มันก็ใกล้รถไฟฟ้าสายใหม่ถึง 2 สาย ไม่ว่าจะเป็นสายสีม่วงใต้ที่สถานีสะพานพุทธ หรือสายสีทองที่สถานีประชาธิปก แถมยังมาใกล้กับสายสีน้ำเงินสถานีวังบูรพา และอิสรภาพด้วยซ้ำไป ยิ่งจากสถิติในการพัฒนามันบ่งบอกว่าในรอบหลายสิบปีให้หลังมานี้ แทบจะไม่มีโครงการคอนโดสูงแห่งไหน ขึ้นมาใกล้ชิดกับฝั่งพระนครมากเท่านี้มาก่อน มันก็ยิ่งช่วยตอกย้ำถึงความหายากของโครงการพอสมควรทีเดียว

หากคุณเป็นคนที่มีกิจการอยู่ในย่านพาหุรัด สำเพ็ง บ้านหม้อ เยาวราช ซึ่งมีบ้านพักอาศัยอยู่ในบริเวณสี่แยกบ้านแขก – วงเวียนใหญ่ อยู่แล้ว การมองหาคอนโดสักห้องเพื่อขยับขยายให้กับสมาชิกใหม่ของครอบครัวให้เป็นทางเลือกมากขึ้น ก็ดูจะเป็นเรื่องที่โอเค เพราะไหนๆคุณเองก็ไม่สามารถไปหาซื้อโครงการใดๆในแบบ Freehold ในฝั่งพระนครฯย่านดังกล่าวได้อยู่แล้ว เดินทางด้วยรถไปข้ามสะพานพุทธฯ หรือปกเกล้ายังไงก็ใกล้และรถติดน้อยกว่าสะพานอื่นๆ

หรือถ้าคุณมีลูกหลานเรียนอยู่ที่โรงเรียนชั้นนำโดยรอบอย่างซางตาครูส คอนแวนต์ ศึกษานารี สวนกุหลาบ และราชินี ที่นี่ก็ดูจะเป็นตัวเลือกที่ใกล้โรงเรียน และดูสะดวก ประหยัดกว่าการไปซื้อคอนโดริมแม่น้ำในย่านเจริญนคร หรือริมรถไฟฟ้าบนถนนกรุงธนบุรี ยาวไปจนถึงวุฒากาศมากกว่าเยอะ

ในทางกลับกันหากคุณเป็นคนวัยทำงานที่ใช้บริการรถไฟฟ้าไปทำงานในย่าน CBD อื่นๆอย่างอโศก – สาทร – สีลม เป็นหลักที่นี่อาจจะต้องลำบาก และใช้เวลาในการไปต่อรถไฟฟ้าสายสีเขียวสักหน่อย เช่นเดียวกับคนที่มองหาไลฟ์สไตล์ที่มีสีสันยามค่ำคืน มีห้างอยู่หน้าบ้าน มีร้านอาหารอร่อยๆเรียงรายอยู่สองข้างทาง ที่นี่ก็อาจจะยังไม่ตอบโจทย์ของคุณ

สำหรับการซื้อเพื่อลงทุน ผมว่าที่นี่น่าลงทุนนะ แต่คุณจะซื้อได้ไหม เท่านั้นเอง เพราะทางศุภาลัยก็เป็นดีเวลลอปเปอร์ที่ค่อนข้างให้ความสำคัญของคนซื้อเพื่ออยู่เองมาก ซึ่งสิ่งที่ผมคิดว่าที่นี่มีห้องที่น่าซื้อเพื่อทำกำไรในระยะยาวก็มาจากสองเหตุผลหลักคือ ยังคงมีดีมานท์ที่ผิดหวังจากโครงการที่เจริญนครอยู่พอสมควร และผมว่าที่นี่มีวิวที่สวยมาก แถมห้องมุมที่เป็นห้องแบบสองนอนก็ไม่ได้มีราคาที่แพงแต่อย่างใด เข้าตามสูตรของการขายคอนโดยุคปัจจุบันเลยว่าอะไรที่มันอยู่ในเมือง แต่ขายราคาต่ำกว่าตรม.ละแสนนี่มีแต้มต่อความน่าซื้อมาแล้ว 50% ที่นี่มีทั้งห้องวิวสระแนวยาว ที่ฮอตมากที่โครงการเจริญนคร แต่ตัวผมเองนั้นกลับชอบห้องทางฝั่งทิศเหนือมากโดยเฉพาะห้องขนาด 62.5 ตรม. ที่ได้หน้าต่าง 2 ทิศ แถมยังมีลุ้นว่าชั้นสูงๆจะได้เห็นวิวเมือง และมรดกทางวัฒนธรรมเก่าแก่ ทั้งฝั่งธนฯอย่างวัดอรุณฯ เลยไปถึงอีกด้านของแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งปากคลองตลาด…แต่ยังไงก็แล้วแต่ตลาดคอนโดฝั่งธนฯนั้นไม่ง่ายครับ เกือบทุกโครงการมียอดขายที่อืดหมด ต้องดูว่าที่นี่จะได้ผลตอบรับที่ดีมากเหมือนโครงการที่เจริญนครหรือไม่ แต่ดูจากการวางสัดส่วน Unit Mix ที่สะท้อนดีมานท์สองนอนจากโครงการเก่า แต่กลับมีราคาที่ถูกกว่าพอสมควร ก็น่าจะเป็นหลักประกันได้ว่าทางศุภาลัยคงจะมั่นใจในหมากเกมนี้อย่างเต็มที่ ไม่งั้นคงไม่มานั่งบ่นเสียดายว่ามีจำนวนยูนิตน้อยไปแบบนี้แน่ๆครับ

ศุภาลัย ลอฟท์ ประชาธิปก – วงเวียนใหญ่ น่าจะเหมาะสำหรับคนที่ทำงานฝั่งพระนคร มีห้างร้านในย่านพาหุรัด สำเพ็ง เยาวราช เพราะการเดินทางถือว่าสะดวกสบาย ในการเชื่อมสู่ย่านเมืองเก่า ใจกลางมหานคร หรือจะเลือกเป็นพื้นที่พักผ่อน และบ้านหลังที่ 2 ของครอบครัว เพื่อการลงทุนในอนาคต กับการพัฒนารถไฟฟ้าทั้งสายสีทองและสีม่วงใต้ ที่จะพาดผ่านพื้นที่แห่งนี้ และยังมี magnet ขนาดใหญ่อย่าง ICONSIAM ที่กำลังจะเปิดตัว และน่าจะมาพร้อมกับการพัฒนาและผู้คนที่หลากหลายที่เข้าสู่ย่านแห่งนี้ กับตัวเลือกแห่งเดียวบนถนนประชาธิปก ที่มีห้องขนาดใหญ่ให้เลือก

พร้อมห้องไฮไลท์คือห้องแบบ 1 Bed Plus ที่ค่อนข้างใหญ่มากในตลาดคอนโด คือ 48 ตรม. (ที่อื่นประมาณ 32-35 ตรม.) กับราคาต่อตารางเมตรที่ค่อนข้างถูกสำหรับคอนโดเปิดใหม่ ที่ขายตารางเมตรละ 71,900 บาท ซึ่งถือว่าไม่แพงเกินไปสำหรับการลงทุนเพื่อการอยู่อาศัยในอนาคต…ศุภาลัย ลอฟท์ ประชาธิปก – วงเวียนใหญ่ สามารถเข้าชมห้องตัวอย่างกันได้แล้วที่ sale office โดยจะเปิดให้จองวันที่ 13 -15 กค.นี้