ใช้ชีวิตไม่เคยซ้ำตามสไตล์ Multiculture ใจกลางสุขุมวิท ใกล้ BTS พร้อมพงษ์ และ ดิ เอ็ม ดิสทริก ที่ Noble Around Sukhumvit 33

หากนึกถึงเจ้าพ่อแห่งคอนโดใจกลางเมือง ที่มีรูปแบบงานดีไซน์เป็นเอกลักษณ์ ตามสไตล์ Minimalismหนึ่งในชื่อที่คุณคิดขึ้นมาในหัว คงต้องยกให้กับแบรนด์ Noble เป็นลำดับต้นๆ ซึ่งในปีนี้ Noble ก็มีแผนเปิดตัวแบรนด์คอนโดใหม่ ภายใต้ชื่อ Noble Around โดยตอนแรกแบรนด์นี้ว่าจะเปิดที่อารีย์ แต่เปลี่ยนใจมาเปิดที่ Sukhumvit 33 แทน ภายใต้ชื่อ Noble Around Sukhumvit 33 (โนเบิล อราวน์ สุขุมวิท 33) ที่ตั้งอยู่ติดกับที่ดินของโครงการ Noble BE33 ซึ่งมีจุดขายเป็นห้องใหญ่ ขายแบบ Fully Furnished สำหรับคนทำงานใจกลางเมือง ส่วน Noble Around Sukhumvit 33 เป็นแบรนด์ที่ค่อนข้างไฮเอนด์ ทำเลเยี่ยม แต่มีราคาไม่สูงมากนัก ที่น่าจะเป็น Flagship Brand ของโนเบิลในยุคถัดไป มาพร้อมกับการขายแบบ Fully Fitted เน้นห้องเล็กกว่า Noble BE33 สร้างจุดขายที่แตกต่าง ด้วยราคาต่อตารางเมตรที่ถูกลง แต่ยังคง concept การเป็นคอนโดใจกลางเมือง ที่ถือว่าอยู่ใกล้ The EM District ย่านใจกลางเมืองแบบของแท้ ในระยะเพียง 530 เมตร

คลิกเพื่ออ่าน จะดีแค่ไหนถ้า Mid-Sukhumvit Lifestyle อยู่รอบตัวคุณ กับคอนโดมิเนียมใหม่ล่าสุด Noble AROUND Sukhumvit 33

ย่านสุขุมวิท 33 หรือ ย่านพร้อมพงษ์ เป็นย่านที่ได้รับการยอมรับจากชาวต่างชาติค่อนข้างมากและได้รับการยอมรับมาอย่างช้านาน โดยเฉพาะชาวญี่ปุ่น ซึ่งที่ผ่านมาคอนโดในย่านพร้อมพงษ์มักจะมีราคาขายที่สูง เพราะนอกจากทำเลที่เป็นที่ยอมรับจากชาวต่างชาติแล้ว การมี EMPORIUM แล้วยังเปิดตัว EMQUARTIER EMSPHERE และยกระดับย่านดังกล่าวเป็น The Em District ก็ทำให้โครงการที่เกาะอยู่แถวนี้ได้อานิสงค์ตามไปหมด ซึ่งส่วนใหญ่แล้วคอนโดที่เปิดตัวและเคลมว่าอยู่ในย่าน The Em District มักจะอยู่ในซอยสุขุมวิท 24 และซอยสุขุมวิท 39 ซะส่วนใหญ่ แต่ในซอย 33 มีโครงการคอนโด High Rise ใหม่ แค่ 2 ตัว คือ Noble BE 33 และ Noble Around Sukhumvit 33 ซอยนี้จึงมีศักยภาพไม่แพ้ซอย 24 หรือ 39 เพราะนอกจากอยู่ใกล้ย่าน The EM District แล้ว พื้นที่โดยรอบ ตั้งแต่ปากซอย 33 ล้วนรายล้อมด้วย ห้าง ร้าน supermarket ที่ครบครัน ยังเป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่เดินทางได้อย่างสะดวกสบาย เพราะรายล้อมไปด้วยถนนเส้นหลักของใจกลางเมือง และมีทางเลือกในการเดินทางหลากหลาย เหมาะสำหรับการใช้ชีวิตกลางเมืองเป็นที่สุด เนื่องจากซอยสุขุมวิท 33 เป็นซอยที่เชื่อมกับซอยสุขุมวิท 39 และ 49 ทะลุถนนทองหล่อ หรือ ซอยทองหล่อ 13 ได้

สำหรับคนที่ทำงานฝั่งเพชรบุรี ก็สามารถใช้ซอยเพชรบุรี 38/1 เชื่อมเข้าสู่โครงการได้

และทางหลักอีกทางก็คือเส้นสุขุมวิท ที่เข้าออกได้จาก สุขุมวิท 33 ไม่ว่าจะทางรถยนต์ หรือออกไปสถานีรถไฟฟ้าบริเวณหน้าปากซอย ที่สามารถเปลี่ยนไปรถไฟฟ้าใต้ดินเพียง 1 สถานี

โดยตัวโครงการอยู่ลึกจากปากซอยสุขุมวิท 33 เพียง 350 เมตร มีร้านรวงสไตล์ญี่ปุ่น อยู่ทั้งสองฝั่งถนน

Noble Around Sukhumvit 33 ตั้งอยู่บนที่ดิน 1-2-95.8 ไร่ เป็นตัวอาคารที่พักอาศัย จำนวน 1 อาคาร รวมจำนวนห้องพักอาศัย 268 ยูนิต สูง 25 ชั้น มีชั้นใต้ดิน 3 ชั้น

ด้านหน้าอาคาร ทิศตะวันออก ติดซอยสุขุมวิท 33 วิวด้านทองหล่อ

ด้านหลังโครงการ ทิศตะวันตก ติดอาคารที่พักอาศัย สูง 2 ชั้น วิวด้านอโศก

ทิศเหนือ ติดอาคารเอกชนสูง 2 ชั้น วิวด้านถนนเพชรบุรี

ตัวอาคารแบ่งเป็นพื้นที่จอดรถที่ชั้นใต้ดิน 3 ชั้น และบนอาคาร 2 ชั้น คือชั้น 2-3 รวม 53% (ไม่รวมซ้อนคัน) ส่วนที่ชั้น 1 พื้นที่หลักเป็น Lobby สำนักงานนิติบุคคล  และห้องงานระบบต่างๆ

ที่พักอาศัย เริ่มที่ชั้น 4-24

โดยที่ชั้น 4-20 Floor plan จะเป็นรูปตัว L ล้อมคอร์ทสวนที่ชั้น 4 และมีสวนแทรกระหว่างชั้น ที่ชั้น 14

ส่วนชั้น 21-24  Floor plan เป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า รูปแบบมาตรฐาน แต่มีพื้นที่สวนที่ระหว่างชั้น 21 – 22

และพื้นที่ส่วนกลางหลักอย่าง Sky Pool และ Maroon Gym ที่ชั้น 25

จาก Floor plan จะเห็นว่ามีพื้นที่สวนที่เป็นลูกเล่นแทรกอยู่ในแต่ละชั้น เพราะ Noble Around Sukhumvit 33 มากับ Concept สวนป่าเขา หรือ Forest on the hill ที่ใช้การออกแบบแบบเล่นระดับของสวนที่แตกต่างกันในแต่ละชั้น ที่จะทำให้คุณรู้สึกได้ถึงมุมมองของเมืองที่แตกต่างไปจากเดิม

ผสานกับ Concept การออกแบบอาคาร Contrast is The New Exquisiteness คือการออกแบบที่เน้นโทนสีที่ตัดกัน ด้วยโทนสีน้ำตาล สีขาว รวมทั้งการใช้วัสดุที่ทำให้เกิดสีสันที่แตกต่าง เช่น หินอ่อนสีแดง และ Metal สีทอง ที่ทำให้เกิดจังหวะและมิติ ที่เป็น Style เฉพาะตัว มีเอกลักษณ์ ในแบบ Noble Around Sukhumvit 33

รูปแบบห้อง อย่างที่กล่าวไปข้างต้น คือ Noble Around Sukhumvit 33 เน้น ยูนิตเล็ก จึงเน้น 1 ห้องนอน มีด้วยกัน 3 ขนาดคือ

1 Bedroom (S) ขนาดประมาณ 27 Sq.m. มี 70 ยูนิต ชั้นละ 3-4 ยูนิต ด้านทิศตะวันตก

1 Bedroom (M) ขนาดประมาณ 34-35 Sq.m. มี 63 ยูนิต ชั้นละประมาณ 3-4 ยูนิต กระจายสลับกับห้อง Type อื่นๆ มีห้อง 1 Bedroom Type นี้เป็นห้องหัวมุม ชั้นละ 1 ห้อง

1 Bedroom (L) ขนาดประมาณ 43-51 Sq.m. มี 82 ยูนิต ชั้นละประมาณ 3-5 ยูนิต ส่วนใหญ่วิวด้านทิศตะวันออกและทิศเหนือ ห้อง 1 Bedroom Type นี้เป็นห้องหัวมุม ชั้นละ 1 ห้อง

และ มี 2 Bedroom ขนาดประมาณ 54-65 Sq.m.  มี 53 ยูนิตอยู่ชั้นละประมาณ 1-3 ยูนิต ห้องมีอยู่เกือบทุกทิศของโครงการ

ห้องตัวอย่างที่โครงการตกแต่งให้ชมมี 2 ห้อง คือห้อง 1 Bedroom(S) ขนาด 27 Sq.m. และ 1 Bedroom(L) ขนาด 45.80 Sq.m. โดยโครงการขายแบบ Fully Fitted

เริ่มชมกันที่ ห้องแรก 1 Bedroom(S) ขนาด 27 Sq.m.

โครงการ ให้ประตู ลายไม้บานสูง กว่า 2.4 m

ระบบล็อกแบบ Electronic Door Lock ของ Yale หรือเทียบเท่า

ภายในห้อง พื้นห้องปูด้วยลามิเนตผิวสัมผัสและโทนสีแบบไม้จริง หนา 10 มิลฯ นำเข้าจากเยอรมัน ตั้งแต่บริเวณหน้าประตูยาวไปจรดห้องนอน ด้วยโทนสีไม้ที่ดูสว่างตา ประกอบกับปลายสุดของห้องเป็นประตูกระจกบานสูงถึง 2.90 เมตร เปิดรับแสง และยังได้ความสูงของห้องกว่า 2.75 m (floor to ceiling) มาช่วยเสริม ทำให้ห้อง 27 Sq.m. ดูกว้างกว่าขนาดจริงมากขึ้นไปอีก

เมื่อเข้าสู่ภายในห้อง ด้านขวามือเป็นชุดครัว full height Built-in ติดประตูทางเข้า ของจริงจะเป็นชั้นทึบ ติดกันเว้นช่องไว้สำหรับวางตู้เย็น

ถัดมาเป็นเคาท์เตอร์ครัว ท็อปหินสังเคราะห์สีขาว มีอ่างล้างจาน และ เตาไฟฟ้า 2 หัว ฝังเคาท์เตอร์ ด้านบนเป็นเครื่องดูดควันของ Franke พร้อมช่องวางไมโครเวฟ ด้านล่างเว้นช่องสำหรับวางเครื่องซักผ้าฝาหน้า และชั้นเก็บของ อุปกรณ์ทำครัว

ฝั่งตรงข้ามของจริงเป็นผนังทึบมีพื้นที่พอให้วางโต๊ะทานอาหารสำหรับ 2-3 ที่นั่ง

ถัดจากห้องครัว มีประตูบานเลื่อนแบบ3ตอน กั้นครัวและพื้นที่ห้องนอน

โครงการวางระบบสำหรับ Home Automation ที่สามารถควบคุมระบบเปิด ปิด ไฟ และแอร์ ภายในห้องผ่านapplicationได้

ภายในพื้นที่ห้องนอน กว้างพอให้วางเตียง Queen Size พร้อมโต๊ะหัวเตียง ติดริมประตูบานเลื่อนออกระเบียง ที่สูงจรดฝ้า 2.90 เมตร

และสามารถวางชั้นวางทีวี และโต๊ะโซฟาตัวเล็ก ไว้ที่บริเวณปลายเตียง

ติดกับเตียงนอน เป็นทางเข้าห้องน้ำ ที่มีตู้เสื้อผ้า Built-in สูงจรดเพดาน ยาวขนานกำแพงไปจรดประตูห้องน้ำ ซึ่งของจริงก็จะได้ spec ของตู้เสื้อผ้าใกล้เคียงตามนี้

ภายในห้องน้ำ ปูด้วยกระเบื้องเซรามิคลายหินทั้งพื้นและผนัง  แบ่งส่วนแห้งติดประตูทางเข้า เป็นโถสุขภัณฑ์ลอยตัว และอ่างล้างหน้าฝังเคาท์เตอร์ พร้อมกระจกเต็มบาน

พื้นที่ส่วนเปียก กั้นด้วยกระจกประตูบานเปิด ภายในโครงการให้ Rain Shower และ Hand Shower ของ Kohler หรือเทียบเท่า

ที่ประตูระเบียงเป็นประตูกระจกบานเลื่อนแบบกันความร้อน Low-E Glass Installation คือ กระจกที่ช่วยลดความร้อนที่เข้ามาภายในห้อง แต่ยังคงรักษาแสงสว่างจากธรรมชาติให้เข้าสู่ห้องได้อยู่ ทำให้ภายในห้องมีแสงส่องถึงทั่วทั้งบริเวณ

ที่ระเบียง เป็นสไตล์ Noble คือ ระเบียงแคบ แต่ยาวเต็มความกว้างห้อง ปูด้วยกระเบื้องโมเสคสีดำ แบ่งพื้นที่เป็นที่วาง compressor air พร้อมกริลกั้นเพื่อความสวยงาม และแบ่งพื้นที่การใช้งาน

ห้องที่สอง 1 Bedroom(L) ขนาด 45.80 Sq.m.

เข้ามาภายในห้อง มีพื้นที่เว้นระยะด้านหน้าทางเข้า เป็นแนวผนังยาว ด้านหลังประตูทางเข้าเป็น Built-in ที่วางรองเท้า และที่เก็บของเต็มผนัง โดยส่วนนี้ทางโครงการตกแต่งให้เป็นตัวอย่างเท่านั้น

ภายในพื้นที่ห้อง แบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลักๆ คือ  พื้นที่ครัวและห้องนั่งเล่น ด้านซ้ายถัดจากประตูทางเข้า และห้องน้ำห้องนอนที่ด้านขวาของห้อง

บริเวณครัว ของจริงทางโครงการก็จะให้ครัวแบบ full-height Built-in ยาวเต็มผนัง แต่เนื่องด้วยโครงสร้างของอาคารให้ทำให้ห้องตัวอย่างห้องนี้ไม่สามารถตกแต่งให้เป็น full-height ได้

มีเว้นที่วางตู้เย็น ถัดมาเป็นเคาท์เตอร์ครัว ท็อปหินสังเคราะห์สีขาว มีอ่างล้างจาน และ เตาไฟฟ้า 2 หัว ฝังเคาท์เตอร์ ด้านบนเป็นเครื่องดูดควันของ Franke หรือเทียบเท่าพร้อมช่องวางไมโครเวฟ เว้นช่องสำหรับวางเครื่องซักผ้าฝาหน้า

ด้านหน้าเคาท์เตอร์ครัว สามารถวางโต๊ะทานอาคารสำหรับ 4 ที่ได้แบบมีพื้นที่ทางเดินเหลือไว้ยืนทำครัว และเดินเข้าออก

ถัดจากครัวเป็นพื้นที่นั่งเล่นติดประตูออกระเบียงบานใหญ่

พื้นที่นั่งเล่นสามารถวางโซฟาขนาดใหญ่ได้ พร้อมโต๊ะกลางตัวเล็ก และชั้นวางทีวีที่ผนังฝั่งตรงข้าม ซึ่งถ้าติดทีวีที่ฝาผนัง ก็จะทำให้มีพื้นที่ใช้งานเพิ่มมากขึ้น

ติดชั้นวางทีวี เป็นทางเข้าห้องนอน

พื้นที่ส่วนของห้องนอนใหญ่มากเลยทีเดียว แบ่งเป็นพื้นที่แต่งตัวและห้องน้ำที่ด้านขวาของทางเข้า

โครงการให้ตู้เสื้อผ้า Full-height Built-in โดยตำแหน่งของตู้เสื้อผ้าก็จะแตกต่างกันไปในแต่ละ layout โดยห้องตัวอย่างมีการทำเพิ่มขึ้นจนยาวตลอดแนวผนัง

ภายในห้องน้ำ แบ่งส่วนแห้งติดประตูทางเข้า เป็นโถสุขภัณฑ์ลอยตัว และอ่างล้างหน้าฝังเคาท์เตอร์ พร้อมกระจกเต็มบาน

พื้นที่ส่วนเปียก กั้นด้วยกระจกประตูบานเปิด ภายในโครงการให้ Rain Shower และ Hand Shower ของ Kohler หรือเทียบเท่า โดยผนังรอบนอกของห้องน้ำ ของจริงเป็นผนังทึบ ไม่ได้เป็นกระจกแบบห้องตัวอย่าง

ด้านซ้ายของทางเข้าห้องนอน กว้าง(มาก)พอให้วางเตียง King size พร้อมโต๊ะหัวเตียง ชั้นวางทีวีปลายเตียง

และสามารถวางโต๊ะทำงานตัวเล็กไว้นั่งคิดงานได้ หรือจริงๆใครมีเสื้อผ้าเยอะ ยังสามารถ Built-in ตู้เสื้อผ้าไว้อีกมุมหนึ่งได้เลย เพราะพื้นที่ห้องนอนใหญ่จริงๆ

มาถึงพื้นที่ส่วนกลาง เริ่มกันที่ Lobby ขนาดใหญ่ ที่มีเอกลักษณ์ ด้วยการผสานเส้นโค้งลงบนผนังยาวจากพื้นจรดเพดาน ลดทอนเหลี่ยมมุมของห้อง และเกิดเป็นมิติและสัมผัสใหม่ของการพักอาศัย

นอกจากนี้อย่างที่กล่าวไปตั้งแต่ต้นๆ ว่า Noble Around Sukhumvit 33 มีจุดเด่นที่ Concept สวนป่าเขา หรือ Forest on the hill ที่ใช้การออกแบบแบบเล่นระดับของสวนที่แตกต่างกันในแต่ละชั้น ที่จะทำให้คุณรู้สึกได้ถึงมุมมองของเมืองที่แตกต่างไปจากเดิม

โดยที่ชั้น 1 เป็น Escape Garden พื้นที่หน้าทางเข้าที่เป็นสวนโดยรอบอาคาร โดยยังคงเก็บต้นหางนกยูงใหญ่ทั้งหมดไว้

สวนที่ชั้น 4 เป็น Forest Valley พื้นที่สำหรับนั่งพักผ่อน และทำกิจกรรมที่เกิดจากการออกแบบสวนให้มีมิติ กั้นพื้นที่การใช้งานที่แตกต่างกันได้

ชั้น14 เป็น Party Hill พื้นที่สวนที่เป็น Step ยกขึ้นไป เปิดมุมมองและสัมผัสใหม่ของสวนและวิวเมืองที่ค่อยๆเปลี่ยน ทุกๆจังหวะการก้าวเดิน สามารถรองรับการจัด meeting party BBQ

ชั้น 21-22 เป็น Napping Valley พื้นที่สวนระหว่างชั้น ที่สามารถเชื่อมต่อระหว่าง 2 ชั้น เหมือนการเดินขึ้นลงป่าเขา เหมาะสำหรับเป็นพื้นที่สำหรับการพักผ่อน

มีพื้นที่ Party Lounge ห้องอเนกประสงค์กึ่ง indoor กึ่ง outdoor ผสานระหว่าง Living-DiningและLibrary ที่สามารถเชื่อมจากสวนชั้น 14 ได้

มี infinity edge with shallow pool สระว่ายน้ำที่โอบล้อมด้วยวิวเมือง มีสวนด้านข้างไว้นั่งพักผ่อน

และพื้นที่ฟิตเนสไว้ออกกำลังกาย ท่ามกลางวิวสระ และวิวเมือง

เรียกว่า facility จัดเต็ม และแตกต่าง เหมาะกับย่านพักอาศัยใจกลางเมือง ที่มาพร้อมกับห้องขนาดเล็ก ที่น่าจะเหมาะกับคนยุคใหม่ เจ้าของธุรกิจรายใหม่ ที่กำลังเติบโต และต้องการพื้นที่พักอาศัยยูนิตน้อย ห้องเล็ก ใจกลางเมือง แต่คงความครบครันของการพักอาศัย ณ Noble Around Sukhumvit 33

สิ่งที่ต้องนำมาพิจารณาก็คือ Noble Around Sukhumvit 33 เป็นโครงการคอนโด High Rise ใหม่เพียง 2 โครงการที่อยู่ในซอยสุขุมวิท 33 (อีกโครงการนึงก็เป็น Noble BE33) ซึ่งก็แน่นอนว่า ทาง Noble ได้สร้างโครงการนี้มาเพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าที่ชอบทำเลในซอย 33 นี้ แต่อาจจะติดขัดด้วยงบประมาณกับเลย์เอ้าท์ห้อง ที่ต้องการห้องที่มีความ compact แต่ได้ฟังก์ชั่นครบในการใช้งานมากกว่า ด้วยจำนวนยูนิตเพียงแค่ 274 ยูนิต บนความสูง 25 ชั้นแต่มีพื้นที่สวนสีเขียวกระจายตัวอยู่หลายชั้นของอาคาร จึงทำให้ผู้อยู่อาศัยได้รู้สึกถึงความเป็น Urban Hideway ที่มอบความผ่อนคลายให้ผู้อยู่อาศัยทุกยูนิตได้อย่างทั่วถึง ช่วงต้นซอยสุขุมวิท 33 อาจจะดูวุ่นวายไปนิดนึง เพราะว่ามีครบทั้งอาคารสำนักงาน Supermarket และยังมีทั้งร้าน Street food สลับกับบาร์ญี่ปุ่น แต่ในบริเวณตั้งแต่โครงการ Noble เป็นต้นไป กลับเป็นศูนย์รวมของอพาร์ทเมนท์ที่จับกลุ่มเป้าหมายเป็นชาวญี่ปุ่น นับว่าเป็นอีกหนึ่ง Residential area ที่นิยมมากสำหรับ Japanese Expat ซึ่งส่วนใหญ่แล้วก็เป็น apartment ที่มีอายุค่อนข้างมาก แต่หากเป็น Serviced Apartment ก็จะสามารถทำราคาค่าเช่าได้เกินตรม.ละ 1,000 บาทขึ้นไป ถ้าเราเอา The Em District เป็นจุดศูนย์กลางของย่านพร้อมพงษ์ ก็น่าจะกล่าวได้ว่าซอยสุขุมวิท 33 มีความใกล้จุดศูนย์กลางแห่งนี้มากกว่า โครงการคอนโดในย่านซอยสุขุมวิท 24 และ 31 เสียอีก ในขณะที่ราคาก็ดูจะ Competitive กว่าด้วยซ้ำ จะมีก็แต่บรรดาคอนโด Super Luxury ที่ตั้งอยู่เรียงรายกันในช่วงต้นซอยสุขุมวิท 39 ที่ผมมองว่าก็น่าจะเป็นคนละกลุ่มเป้าหมายกันกับโครงการ Noble Around Sukhumvit 33 ที่ดูจะตอบโจทย์คนหมู่มากที่จำเป็นที่จะต้องใช้ชีวิตอยู่ในย่านนี้มากกว่า

คอนโดแบรนด์ Around เดิมทีทาง Noble ตั้งใจว่าจะเปิดเป็นโครงการแรกกับ Noble Around Ari แต่กลับพลิกโผมาเลิอกเปิดที่สุขุมวิท 33 ก่อน ถึงแม้ว่าอาจจะขัดใจแฟนคลับโนเบิลในย่านอารีย์ไปบ้าง แต่เชื่อแน่ว่าแบรนด์ใหม่ของ Noble ตัวนี้ น่าจะสร้างชื่อเสียง และเป็น Flagship Brand ให้กับ Noble ในอนาคตได้อย่างไม่ยาก ก็ไม่แน่ว่าโครงการ Around ในทำเลต่อไปจะทำราคาออกมาได้ Competitive ได้ขนาดนี้หรือไม่ กับราคาเปิดตัว เริ่มต้น 5.5 ล้านบาท ที่แลกกับมูลค่าของคอนโดในย่านพร้อมพงษ์ The Em District ก็ดูน่าจะเป็นโอกาสที่ดีสำหรับคนที่กำลังเล็งไว้ เพราะแค่ทำเลใกล้ The EM District และการออกแบบที่ตอบโจทย์การพักอาศัยใจกลางเมือง กับขนาดและส่วนกลางที่ครบครัน ก็น่าจะเป็นตัวเลือกแรกๆ ของคนที่มองหาคอนโดไฮเอนด์แบรนด์คุณภาพในราคาต่ำกว่า 6 ล้านแล้วล่ะครับ อย่าลืมว่าคอนโดหลายๆแท่งในซอยสุขุมวิท 24 ได้รับอานิสงค์จากความดังของ The Em District ในหมู่ชาวจีน ไต้หวัน ฮ่องกง จนสามารถดันราคาทะลุขึ้นไปเยอะมากมาแล้วครับ แล้วด้วยจำนวนยูนิตแค่นี้ แถมยังถูกกว่ารุ่นพี่อย่าง Noble BE33 อีก แบบนี้คนที่มีเงินในกระเป๋าจะยังมัวรีรอ อะไรอยู่เล่า

ใครสนใจ ตอนนี้สำนักงานขายเปิดให้เข้าชม พร้อมลงทะเบียนเพื่อจองสิทธิ์การซื้อในวันพรีเซลแล้ว โดยโครงการจะเปิดพรีเซลล์ในวันที่ 6 ส.ค.นี้ ลงทะเบียนเพื่อรับส่วนลดออนไลน์ 50,000 และข้อมูลอื่นๆเพิ่มเติมได้ที่ https://goo.gl/LRuxdE