หากมนุษย์เราเลือกที่จะกำหนดชะตาชีวิตในแบบที่ตัวเองต้องการได้ แน่นอนว่าทุกคนก็คงอยากที่จะใช้ชีวิตอย่างหรูหรา เป็นนิรันดร์ อยู่บนจุดที่สูงที่สุดของอารยธรรมอันสมบูรณ์แบบที่สุดเท่าที่มนุษย์เคยมีมา…การเลือกใช้ชีวิตบนเมืองลอยฟ้าอย่างคอนโดมิเนียมก็เช่นกัน ‘สุนทรียะแห่งการอยู่อาศัย’ คือสิ่งที่ผู้ใช้ชีวิตเหนือระดับบนคอนโดทุกคนถวิลหา

“The Alpha and Omega” คือวลีที่บ่งบอกความเป็นสัจจะและแก่นแท้ซึ่งเป็นนิรันด์ เป็นสัญญะของจุดสูงสุด เหนือสิ่งอื่นใด เป็นจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดของทุกสรรพสิ่ง (The First and The Last)

ด้วยความก้าวล้ำทางเทคโนโลยีการออกแบบและก่อสร้างที่ถูกพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว บรรดาสถาปนิก และนักออกแบบภูมิสถาปัตยกรรม ที่ประสบความสำเร็จในแต่ละยุคสมัยล้วนมีแนวคิดใหม่ๆ ที่สามารถก้าวข้ามอุปสรรคของงานทางด้านสถาปัตยกรรม จนนำมาซึ่งความโดดเด่นอันเป็นนิรันดร์ของสิ่งก่อสร้างนั้นๆ ตึกระฟ้าที่มีงานดีไซน์และโครงสร้างที่ดูแล้วไม่น่าจะเป็นไปได้ในทางวิศวกรรมหลายแห่ง ถูกรังสรรค์ขึ้นมาเพื่อเป็น landmark อยู่ตามหัวเมืองใหญ่ทั่วโลก นับตั้งแต่ นิวยอร์ค ลอนดอน ดูไบ สิงค์โปร์ จนถึงประเทศไทย ตึกระฟ้าเหล่านี้ล้วนมีคุณค่า และมูลค่าที่สูงขึ้นตามกาลเวลาที่ผันผ่าน แต่เหนือสิ่งอื่นใดโครงการเหล่านั้นต้องมอบความภูมิใจสูงสุดแก่ผู้ที่ได้ครอบครอง ได้สัมผัสถึงประสบการณ์ใหม่ของการอยู่อาศัย ซึ่งไม่เคยมีใครค้นพบมาก่อน

Ashton Asoke – Rama 9 (แอชตัน อโศก – พระราม 9) ตั้งอยู่บนที่ดินที่นับได้ว่าเป็นหนึ่งในแปลงหัวมุมถนนที่มีขนาดใหญ่ที่สุด ณ จุดตัดสี่แยก อโศก-พระราม 9 เป็น Residential Landmark แห่งแรกและแห่งเดียวในมหานครกรุงเทพฯ ที่จะเป็นจุดเริ่มต้นอนาคตของศูนย์กลางธุรกิจแห่งใหม่ ซึ่งเต็มไปด้วยศักยภาพในการพัฒนาและโอกาสในการเติบโตที่ขยายอย่างไร้ขอบเขต

โครงการ Ashton Asoke – Rama 9 ยังเต็มเปี่ยมไปด้วยอัตลักษณ์อันเป็นนิรันดร์ ตามคอนเซปท์แห่งความเป็น The First and The Last ที่ถูกถ่ายทอดออกมาทั้งด้านดีไซน์ และทำเลที่ตั้ง

The First Luxury Condo in Rama 9 – นับตั้งแต่อนันดาฯเริ่มพัฒนาโครงการคอนโดระดับพรีเมียม อย่าง Ideo Mobi Rama 9 ขึ้นมาเป็นโครงการแรกบนแยกอโศก-พระราม 9 ทำเลนี้ก็เรียกได้ว่าเป็นย่าน Vertical Residences อย่างแท้จริง แต่กลับไม่มีคอนโดที่อยู่ในระดับ Luxury ขึ้นไปในย่านนี้เลย ซึ่งโครงการ Ashton Asoke – Rama 9 พร้อมแล้วที่จะเป็นโครงการ Luxury Iconic Residences แห่งแรกและแห่งเดียวในแยกนี้

The First Urban Oasis on Rama 9 – จาก Passion ของอนันดาฯ  ที่ต้องการสร้างสรรค์พื้นที่กรุงเทพให้เป็นที่ๆน่าอยู่เหมือนอย่าง มหานครต่างๆในของโลก ดังนั้น โครงการนี้จะเป็นโครงการแรกในพระราม 9 ที่ทางอนันดาฯร่วมกับทาง T.R.O.P ออกแบบ Landscape ของโครงการ ให้ มีพื้นที่สวนมากกว่า 1 ไร่  ใจกลางสี่แยก อโศก-พระราม 9 นับเป็นอีกหนึ่งความคิดสร้างสรรค์ ที่จะช่วยสร้างทัศนียภาพที่สวยงามในกรุงเทพ ได้มีพื้นที่สีเขียวร่มรื่นที่จะหาได้ยากแล้วใจบนทำเล CBD พร้อมดีไซน์ที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร

The First of Ashton New Design – ฉีกกฎทุกการออกแบบ เพื่อสร้างมาตรฐานใหม่ของแบรนด์ Ashton ด้วยการวางตัวอาคารเป็นตึกคู่  ที่มีพื้นที่ส่วนกลางอยู่ที่ชั้นบน นับเป็นโครงการแรกที่มีส่วนกลางอยู่บนชั้น สูงที่สุดในย่าน ของทั้งสองอาคาร และห้องพักทุกห้องได้มีการออกแบบให้เป็นห้องมุมทุกห้อง เพื่อเปิดมุมมองของทุกห้องพักสู่ทิวทัศน์เมืองภายนอกให้ได้มากที่สุด มาพร้อม Bay Window ทำให้ได้  Function ห้องพิเศษ 2 Style  “SKY LIVING ROOM ”  และ “SKY BEDROOM “ พร้อมมุมมองเปิดแบบ PANORAMIC  VIEW สูงสุด 270 องศา กับห้องมุมหน้ากว้างสูงสุด 13.5 เมตร นอกจากนี้ยังมี Open Atrium โถงโล่งต่อเนื่องกันทุกทุก 10 ชั้น นี่คือโครงการภายใต้แบรนด์ Ashton ที่มีความโดดเด่นที่สุด มอบ ‘สุนทรียะแห่งการอยู่อาศัย’ มากที่สุดเท่าที่อนันดาฯเคยสร้างมา

The Last Land – ลักษณะที่โดดเด่นของที่ตั้งโครงการที่ไม่ใช่เพียงแค่อยู่บน  NEW CBD  “อโศก -พระราม 9” หรือตั้งอยู่ใกล้รถไฟฟ้าเท่านั้น  แต่ที่สำคัญและเหนือกว่าใครคือ  อยู่บนที่ดินที่เป็นที่แปลงหัวมุม แปลงใหญ่ บนถนนสายหลักของกรุงเทพ  ที่ได้ทั้ง Exposure อันโดดเด่นที่สุด เชื่อว่าจะเป็นอีกหนึ่ง Landmark ที่ทุกคนจับตามอง ซึ่งหากนับเฉพาะที่ดินหัวมุม ใกล้รถไฟฟ้าในย่าน CBD ของกรุงเทพฯ ไม่ว่าจะเป็น อโศก เพลินจิต ราชเทวี สามย่าน ชิดลม วิทยุ จนถึงพระราม 9 ที่นี่คือ Best Land with super prime CORNER ที่ดินหัวมุมแปลงสุดท้ายของกรุงเทพฯ

แนวทางการสื่อสารด้วยวลี “The Alpha & Omega” ยังถูกคิดเพื่อสะท้อนถึงอัตลักษณ์ที่เป็นหนึ่งของ Ashton Asoke – Rama 9 ที่เป็นตึกคู่ที่ตั้งขนานขนาบกัน ทั้งยังเป็นแนวคิดที่บ่งบอกถึงความเป็นนิรันด์ของตึกทั้งสองที่สื่อถึงจุดเริ่มต้น และจุดสิ้นสุด ประกอบกับการนำภาพคนคู่ซึ่งถ่ายโดย Rodney Smith ศิลปินสัญชาติอเมริกัน ผู้เป็นที่รู้จักในการถ่ายภาพเชิง Conceptual ที่ประณีตในการถ่ายทอดความหมายอันลึกซึ้งผ่านองค์ประกอบศิลป์ที่เล่นกับพื้นที่และกาลเวลา ซึ่งเป็นอีกครั้งที่ภาพของ Rodney Smith ถูกนำมาใช้กับแบรนด์ Ashton เหมือนทุกโครงการที่ผ่านมา เพื่อสะท้อนถึงความคลาสสิกและรสนิยมในความเรียบง่ายแต่ทรงคุณค่าของผู้อยู่อาศัยที่โครงการ Ashton Asoke – Rama 9 ดังที่แสดงออกมาในภาพถ่ายของเขา

Ashton Asoke – Rama 9 จึงเป็นทั้งประสบการณ์ใหม่ ที่นำพาให้คุณประจักษ์กับขอบเขตใหม่ของการอยู่อาศัยที่เป็นแก่นแท้อันเป็นที่สุด ซึ่งไม่เคยมีใครค้นพบมาก่อนนอกจากคุณ

ลงทะเบียนเพื่อรับทราบข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://goo.gl/ThZ9eK