เกิดอะไรขึ้นกับหุ้น LPN ขาลงติดต่อกัน 2 ปี

นเรศ เหล่าพรรณราย 18 December, 2016 at 11.02 am

ประกาศที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา


หากกล่าวถึงแบรนด์คอนโดมิเนียมที่มีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับมายาวนาน ชื่อของแอล.พี.เอ็น เป็นหนึ่งในนั้นอย่างแน่นอน โดยชูความเป็นผู้เชี่ยวชาญในที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดมิเนียม โดยไม่แทบขายอย่างอื่นเลย

 

ทั้งนี้หลายปีที่ผ่านมา แอล.พี.เอ็น ได้สูญเสียความเป็นผู้นำในตลาดคอนโดมิเนียมไปค่อนข้างมาก โดยเฉพาะตลาดหลักคือคอนโดมิเนียมระดับล่างถึงกลาง ที่มีคู่แข่งหน้าใหม่เกิดขึ้นจำนวนมาก

 

ปี 2559 นี้ถือว่าแทบไม่มีความเคลื่อนไหวทางธุรกิจออกมาจากแอลพีเอ็นมากนัก นอกเหนือจากแคมเปญ “ซ้อมอยู่” ก่อนซื้อจริง จ่ายเดือนละ 2,000 บาท ถึง 4,000 บาท เพื่อช่วยลูกค้าที่ต้องการซื้อบ้านแต่อาจจะไม่พร้อมหรือลังเล หรือต้องการระยะเวลาในการได้รับพิจารณาสินเชื่อจากสถาบันการเงิน

 

สาเหตุที่ออกแคมเปญนี้ออกมา เนื่องจากปีนี้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ค่อนข้างเงียบเหงา โดยเฉพาะกลุ่มชนชั้นกลางถึงล่างที่มีกำลังซื้อน้อยลง รวมถึงยอดปฎิเสธสินเชื่อบ้านที่พุ่งสูงขึ้น ข้อมูลจากสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทยเปิดเผยว่า สถิติผู้ขอกู้ไม่ผ่านทั้งอุตสาหกรรมขยับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับกว่า 30% จากปีก่อนอยู่ที่ 20% โดยเฉพาะโครงการที่อยู่อาศัยที่ราคาขายต่ำกว่า 3 ล้านบาท 

รวมถึงหนี้สินภาครัวเรือนของไทยปรับตัวสูงขึ้นแตะระดับ 81% ของจีดีพี ทั้งหมดนี้ส่งผลกระทบต่อยอดขายของ แอล.พี.เอ็น พอสมควร

 

หากพิจารณาจากกำไรสุทธิในรอบหลายปีหลัง ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2555  เป็นต้นมา เห็นได้ว่าไม่ได้เติบโตโดดเด่นนัก บางปีเติบโตลดลงด้วยซ้ำ

ขณะที่ผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปีนี้ มีกำไรสุทธิ 309.51 ล้านบาท ลดลง 69% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1.01 พันล้านบาท เนื่องจากบริษัทมีรายได้จากการขายลดลง หลังไม่มีโครงการที่สร้างเสร็จพร้อมส่งมอบมีเพียงรับรู้รายได้จากโครงการที่สร้างเสร็จใน 6 เดือนแรกของปี 2559

 

ขณะที่ผลการดำเนินงานช่วง 9 เดือนแรกมีกำไรสุทธิ 1.89 พันล้านบาท ลดลง 11% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 2.13 พันล้านบาท

 

โอภาส ศรีพยัคฆ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล.พี.เอ็น ดีเวลลอปเมนท์ ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่าการที่บริษัทเน้นพัฒนาโครงการที่อยู่รอบนอกตัวเมือง ราคาขายอยู่ที่ 40,000-50,000 บาทต่อตารางเมตร เนื่องจากราคาที่ดินในตัวเมืองแพงขึ้นมาก ซึ่งกลุ่มลูกค้าหลักคือชนชั้นกลางที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ทำให้ยอดขายของบริษัทพลาดเป้าไป โดยไตรมาสสี่นี้ บริษัทไม่มีการเปิดขายโครงการใหม่เลย

 

มาดูที่ราคาหุ้น LPN เห็นได้ว่านับตั้งแต่จุดสุงสุดที่ราคา 24.70 บาทในวันที่ 2 ธันวาคม 2557 มาถึงวันนี้หุ้น LPN เป็นขาลงมาตลอดสองปี ล่าสุดซื้อขายอยู่ที่ระดับประมาณ 10 บาท เท่านั้น เท่ากับว่าผู้ที่ซื้อหุ้นในราคาเมื่อสองปีที่แล้ว จะขาดทุนเป็นอย่างมาก 

ด้านอัตราส่วนการเงิน หุ้น LPN เคยเทรดที่ค่า P/E สูงสุด 27 เท่าเมื่อสองปีที่แล้ว และปัจจุบันเทรดที่ ค่า P/E แค่ 6.76 เท่า เท่านั้น ซึ่งถือว่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ยทั่วไปในอุตสาหกรรม และอัตราส่วนเงินปันผล หรือ Dividend Yield ล่าสุดสูงถึง 9%  ถือว่าราคาหุ้นลงมาต่ำค่อนข้างมาก

ด้านผู้บริหาร แอล.พี.เอ็น ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า แผนปีหน้า จะหันกลับมาจับตลาดกลาง-บน มากขึ้น โดยมีราคาขายอยู่ที 100,000-150,000 บาทต่อตารางเมตร คาดว่าจะเปิดขายได้ 5 โครงการ โดยโครงการแรกจะมีทำเลอยู่ที่ย่านมักกะสัน ที่จะเปิดตัวต้นปีหน้า เลื่อนมาจากไตรมาสสี่ปีนี้ ภาพรวมของการเปิดโครงการใหม่ในปีหน้า คาดว่าจะอยู่ที่ 8-10 โครงการ นอกจากนี้ยังจะปรับแผนธุรกิจของบริษัทลูกอย่าง บริษัท ลุมพินี โปรเจค มาเนจเมนท์เซอร์วิส ให้หันมาเน้นรับงานก่อสร้างจากภายนอกมากขึ้นรวมถึงการรับบริหารชุมชนที่ไม่ใช่โครงการของ แอล.พี.เอ็น เอง

 

ส่วนยอด Backlog สิ้นสุด 30 กันยายน อยู่ที่ 3,828 ล้านบาท เป็นของช่วงที่เหลือของปีนี้ 2,444 ล้านบาท และรอรับรู้รายได้ปีหน้า 1,384 ล้านบาท

 

ขณะที่ บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์กิมเอ็ง ออกบทวิเคราะห์หุ้น LPN ว่าปี 2560 ยังคงมีความเสี่ยงในแง่การเติบโตของบริษัท เนื่องจากมีมูลค่าโครงการที่สร้างเสร็จและเปิดขายแล้วเพียง 9,200 ล้านบาท แต่มียอดรอบรับรู้รายได้เพียง 7-10% จึงให้ราคาเป้าหมายไว้ที่ 14 บาท แนะให้ถือลงทุนเพื่อรอรับเงินปันผล นอกจากนี้ยังต้องมีการออกโปรดักต์ใหม่เพื่อกระตุ้นตลาดและเปิดโครงการใหม่ให้มากกว่านี้ ธุรกิจถึงจะสามารถเทิร์นอะราวนด์ 

 

แล้วนักลงทุนควรตัดสินใจอย่างไร?

 

ในแง่ราคาหุ้น ถือว่าลงมาเยอะพอสมควร หากวิเคราะห์ด้วยปัจจัยทางเทคนิค หุ้นตัวนี้ยังไม่น่าสนใจในการลงทุน เพราะยังไม่มี Indicator ใดๆที่บอกว่าหุ้นจะกลับมาเป็นขาขึ้นได้ แต่หากวิเคราะห์ด้วยปัจจัยพื้นฐาน หุ้นตัวนี้น่าสนใจในแง่ของเงินปันผลที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วไปของตลาด

 

แต่หากวิเคราะห์ในเชิงกลยุทธ์ธุรกิจ ถึงตอนนี้ยังไม่เห็นการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์หรือสร้างความฮือฮาใหม่ๆแต่อย่างไร และปี 2559 ยังเป็นปีที่แอลพีเอ็นแทบไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆเลย จึงเป็นการยากที่จะมองว่าผลประกอบการของบริษัทจะเติบโตได้โดดเด่นอีกครั้งในปีหน้า

 

สรุป ขึ้นอยู่กับว่าเป็นนักลงทุนแนวไหน ถ้าเป็นนักลงทุนระยะยาว หุ้น LPN ก็มีความน่าสนใจในการลงทุนในแง่เงินปันผล แต่ถ้าเป็นนักเก็งกำไร หุ้นตัวนี้อาจไม่ใช่คำตอบ ส่วน แอล.พี.เอ็น จะกลับขึ้นมาเป็นผู้นำในตลอดคอนโดมิเนียมได้อีกครั้งหรือไม่ ต้องติดตามกันต่อไป

นเรศ เหล่าพรรณราย

นเรศ เหล่าพรรณราย

นเรศ เหล่าพรรณราย FB:Gap Theory Twitter:@Nares_sd28 Chief Operation Officer Stock Quadrant (Thailand) Co.Ltd กรรมการ สมาคมฟินเทคประเทศไทย คนสื่อที่มีประสบการณ์ในแวดวงข่าวเศรษฐกิจโดยเฉพาะวงการตลาดหุ้นนานกว่า10ปี อยู่เบื้องหลังหนังสือด้านการลงทุนและธุรกิจมามากกว่าสิบเล่ม เคยทำงานหนังสือพิมพ์เศรษฐกิจอันดับหนึ่ง ปัจจุบันทำงานในบริษัทสื่อที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ มีความเชื่อว่าการเงินไม่ใช่เรื่องไกลตัวและทุกคนต้องรู้

เว็บไซต์

ศุภาลัย พรีเมียร์ สามเสน-ราชวัตร

โซลเลซ พหลฯ-ประดิพัทธ์

นิว เวิร์ส กรุงเทพกรีฑา

ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมาต้องบอกว่าย่านกรุงเทพกรีฑาตัดใหม...

28 February, 2024

นิว ซี-สแควร์ สวนหลวง สเตชั่น

ซึ่งวันนี้เราจะพาคุณผู้อ่านมาพบกับโครงการคอนโดพร้อมอ...

30 January, 2024

ริธึ่ม เจริญนคร ไอคอนิค

วันนี้จะมาเล่าเรื่องเกี่ยวกับคอนโดมิเนียมสุดฮอตชื่อโ...

29 January, 2024

วิสซ์ดอม คราฟท์ สามย่าน

Whizdom Craftz Samyan คือโครงการที่มอบ 5 องค์ประกอบพ...

4 December, 2023

สอบถามโครงการ

ได้รับข้อมูลเรียบร้อยแล้ว
ขอบคุณอย่างยิ่งที่สนใจครับ
จะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับไปนะครับ

ขออภัย
ไม่สามารถส่งข้อมูลได้
กรุณาลองใหม่อีกครั้ง