ถอดรหัสการปั้นแบรนด์ใหม่ล่าสุด “PARK ORIGIN” A Perfect Living Platform รูปแบบการอยู่อาศัยใหม่ ที่เป็นมากกว่า “ที่พักอาศัย” แต่คือการ “ใช้ชีวิต’’

เกริก บุณยโยธิน 30 August, 2018 at 04.36 am

ประกาศที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา


ถ้าถามว่าในสนามการแข่งขันช่วงชิงความเป็นที่หนึ่งของตลาดคอนโดใจกลางเมืองในเซกเมนท์ใด ที่มีการแข่งขันรุนแรงมากที่สุดในรอบปีที่ผ่านมา ก็คงต้องบอกว่าเป็นคอนโดที่อยู่ในเซกเมนท์ Luxury ขึ้นไป คอนโดหรูที่มีระดับราคาต่อตรม.มากกว่าสองแสนห้าหมื่นบาทขึ้นไปนี้เป็นกลุ่มที่ทุกดีเวลอปเปอร์ล้วนแต่มองว่า นี่คือกลุ่มที่ยังไม่ได้รับผลกระทบอะไรกับสภาพเศรษฐกิจ หนี้ครัวเรือน และก็ไม่ได้ยี่หระอะไรกับราคาที่ดินที่พุ่งสูงขึ้นจนทำให้ราคาขายคอนโดดีดตัวขึ้นสูงสุดจนถึงตรม.ละหกแสนกว่าก็มีให้เห็นและยังขายได้ดีในตลาด แต่เนื่องจากปริมาณผู้ซื้อที่มีจำกัดสมดั่งการเป็นกลุ่ม Top of Pyramid ดีเวลลอปเปอร์แต่ละรายจึงต้องทุ่มเทพัฒนาโครงการ โดยการเจาะลึกเข้าไปถึง mindset & journey ของกลุ่มผู้บริโภคกลุ่มนี้อย่างเต็มที่ เพื่อที่จะล้วงเอาความต้องการในแบบ insight ออกมา แต่การทุ่มเทให้กับการทำ R & D ก็ไม่ได้หมายความว่าทุกโครงการจะถูกจริตผู้บริโภคที่ถูกวาดภาพว่าจะต้องเป็นกลุ่มเป้าหมายเสมอไป เพราะดีเวลลอปเปอร์ทุกรายต่างก็มีชุดข้อมูลบน insight แบบเดียวกันไปหมด ว่าลูกค้าในแต่ละเซกเมนท์นั้นต้องการอะไร ในหลายๆครั้ง Benefit ที่จับต้องได้ในเชิง Functional และการสร้าง Emotional Benefit จนเกิดเป็นมายาคติขึ้นในจิตใจของผู้บริโภคดูจะเป็นเรื่องที่ถูกนำมา Reuse ฉายซ้ำ วนเวียนอยู่ในแคมเปญงานโฆษณาเสมอมา จนแทบจะไม่มีแบรนด์ไหนกล้าฉีกตัวเองออกจากขนบธรรมเนียมของตลาด

 

ปกติแล้วดีเวลอปเปอร์ส่วนใหญ่ในไทยมักจะไม่ค่อยให้ความสำคัญกับการสร้างแบรนด์ให้กับ แบรนด์ลูกที่เป็นโครงการแต่ละแห่ง ด้วยเหตุผลหลักที่เป็นคลาสสิคเคสหลายอย่าง ที่มาจาก Internal Discussion ไม่ว่าจะเป็น กลัวว่าเดี๋ยวจะจดจำแบรนด์ลูกได้มากกว่าแบรนด์ Corporate, กลัวว่าเดี๋ยวแบรนด์ลูกอื่นๆที่ไม่ได้สร้างแบรนด์จะขายไม่ได้, กลัวว่าเดี๋ยวหากมีอะไรผิดพลาดกับแบรนด์ลูกจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อ Corporate, กลัวว่าถ้าสร้างแล้วก็จะเป็นงานที่ไม่สิ้นสุดต้องคอย Rejuvenate ใหม่เมื่อผ่านไปสักระยะ ฯลฯ แต่เหนือสิ่งอื่นใดผมเชื่อว่าคำตอบที่ชัดเจนมากที่สุดก็คงจะเป็นการสิ้นเปลืองงบประมาณไปโดยไม่จำเป็น หากต้องทำ Branding จริง สู้ทุ่มเทงบประมาณไปให้กับแบรนด์ Corporate จะดีกว่า สามารถแตกเป็นแคมเปญได้ทุกปีโดยที่ไม่ต้องรอ Feedback ยอดขาย ดังนั้นสิ่งที่เรามักจะเห็นกันก็คือ เมื่อใดก็ตามที่มีการเปิดตัวโครงการใหม่ เราก็จะได้เห็นภาพของ Communication Materials ที่เน้นขายของ อัด Feature Highlights ให้มากที่สุด และเอาเงินไปทุ่มให้กับการสร้าง Story Telling เพื่อ support แบรนด์นั้นๆในแบบเหวี่ยงแห เทกระจาด ไม่ดู Brand Platform หรือ Code of Expression อะไรเลยว่า แบบไหนที่ควรทำ หรือแบบไหนที่ไม่ควรทำ ซึ่งในความเป็นจริงแล้วการพยายามปั้ม Product Campaign ออกมาทุกๆครั้งที่โครงการใหม่ออกขาย (แน่นอนว่าบางแบรนด์เปิดขายมากกว่าปีละ 4-5 ครั้ง) ไม่ได้ส่งผลดีต่อแบรนด์เสมอไป โดยเฉพาะในเรื่องของ Perception ในหมู่ลูกค้าและ Personality ที่มีหลายบทบาทมากเกินไป บางแบรนด์เริ่มต้นจากภาพของวัยทำงานรุ่นใหม่ กลายมาเป็นนักธุรกิจผู้ประสบความสำเร็จ ผู้ค้นพบตัวเอง และหลุดมายังโลกของการผจญภัย จนกลุ่มผู้ซื้อเริ่มสับสนแล้วว่าเอ๊ะนี่เราเป็นอะไรกันแน่…นี่คือผลพวงของการทำงานแบบ Product Driven ที่คนในสาย Brand Strategic Planner อย่างผมไม่ค่อยจะโอเคเท่าไหร่เลย

 

ถ้านับกันเฉพาะปีนี้จะพบว่ามีการเปิดตัวแบรนด์คอนโดใหม่หลายแบรนด์เลยทีเดียว  แต่ถ้านับกันจริงๆแล้วมีแค่ 4 รายเท่านั้นที่ทุ่มเทให้กับการปั้น Product Brand แบบจริงจัง มุ่งเน้นไปที่การสร้างจุดเชื่อมโยงที่มีคุณค่าของแบรนด์ไปสู่สายสัมพันธ์ที่ดีของกลุ่มเป้าหมาย (Relevancy) มากกว่าการโชว์ภาพตึก ส่วนกลาง แบบขายของตรงๆ หนึ่งในนั้นก็คือแบรนด์ PARK Origin (พาร์ค ออริจิ้น) โดยบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ผู้พัฒนาอสังหาฯที่ผมเองก็ไม่คิดว่าเค้าจะลุกขึ้นมาสร้าง Product Branding เพราะที่ผ่านๆมาก็เห็นว่าเพิ่งลงทุนหลักร้อยล้านบาทเพื่อดันแบรนด์แม่ “ออริจิ้น” ให้มีภาพลักษณ์ที่สามารถก้าวขึ้นไปทาบชั้นผู้นำตลาดระดับพรีเมียม แมส ผ่านแคมเปญ My Life. MyOrigin…ชีวิตในฝัน แบบที่เป็นคุณ” ด้วยการดึงเอาณเดชน์ คูกิมิยะ มาเป็น Brand Ambassador ของแคมเปญหลัก และยังถือโอกาสต่อยอดไปยังการโปรโมตแบรนด์ลูกอื่นๆในเครือให้มีความชัดเจนในเรื่องของ Personality มากขึ้น เพราะณเดชน์สะท้อนภาพแบบกินรวบได้ตั้งแต่คอนโดมิเนียมแบรนด์เท่แบบเรียบหรูอย่างไนท์บริดจ์ แบรนด์ที่มีความทันสมัยหรือโมเดิร์นอย่างนอต-ติ้ง ฮิลล์ และแบรนด์เท่แบบลุยๆ อย่างเคนซิงตัน

แต่ในปีนี้เห็นทีว่าแค่ความแรงของณเดชน์ ก็คงจะไม่เพียงพอในการสร้างความแตกต่างให้กับแบรนด์ที่อยู่บน Top of Hierarchy ของออริจิ้น อย่างแบรนด์ PARK (พาร์ค) ซึ่งในปีที่แล้วไปรวบมาจากพราวด์ เรสซิเดนซ์ ผู้พัฒนาโครงการพาร์ค24 (Park24) และถือว่าเป็น Game Changer สำคัญในการปักธงในตลาดคอนโดระดับ Luxury ขึ้นไปของออริจิ้น ด้วยความได้เปรียบของแบรนด์พาร์คที่มี Awareness แข็งแรงในหมู่คนต่างชาติอยู่แล้ว เงินทุนมหาศาลจากพาร์ทเนอร์โนมุระ เรียล เอสเตท  ดีเวลล็อปเมนท์ และการมองภาพอนาคตของพี่โด่ง พีระพงศ์ จรูญเอก ที่มีความฝันอยู่เสมอว่าสักวันจะต้องนำเอาสิ่งที่ตัวเองชอบเป็นทุนเดิมอย่างธุรกิจ Hospitality มาควบรวมเข้ากับการพัฒนาโครงการคอนโด ที่พ่วงเอา Service ตามแบบอย่างมาตรฐานโรงแรมชั้นนำของโลกให้ได้ (ไม่ใช่แค่เสนอ Service เป็น Option เสริมรายโครงการ แต่ต้องสร้าง Engagement Platform ในระยะยาว จนออกมาเป็นแบรนด์ใหม่) จึงเกิดมาเป็นแบรนด์ใหม่ที่มีชื่อว่า PARK Origin (พาร์ค ออริจิ้น)

“สำหรับการพัฒนาอสังหาฯ เราเกิดมาจากดิน เราเกิดมากับธรรมชาติ ทุกครั้งที่เราสร้างเราทำลายความเป็นธรรมชาติ แต่นี่ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องสร้างธรรมชาติให้กลับคืนมา ถ้าที่ดินมันล้านกว่า สองล้านกว่าต่อตารางวา ผมว่าเราต้องคิดให้มากกว่านี้ ไม่มีการเสร็จงาน งานนี้จะทำต่อไปเรื่อยๆ สิ่งที่จะปรับไปกับเทรนด์การอยู่อาศัยของทุก Generation”…แนวคิดนี้ถูกถ่ายทอดออกมาโดยพี่โด่งในวันแถลงข่าวเปิดตัวแบรนด์ PARK Origin เมื่อช่วงต้นเดือนสค.ที่ผ่านมา ซึ่งนี่คือแกนหลักในการสร้างแบรนด์ PARK Origin แบรนด์อสังหาฯใหม่ที่ สร้างมาตรฐานรูปแบบ “ที่อยู่อาศัยใหม่” ที่เป็นมากกว่า “ที่อยู่อาศัย” แต่มันคือการ “ใช้ชีวิต” ซึ่งPLATFORM นี้ ประกอบไปด้วย 3 แกนคือ NATURE & TECHNOLOGY & COMMUNITY  ที่จะสร้างคุณค่าในแง่ Living Economy ที่มีทั้งธรรมชาติ คอมมูนิตี้การอยู่อาศัยและ เทคโนโลยี ที่เข้ามาทำให้เกิดเป็นรูปแบบที่อยู่อาศัยที่สมบูรณ์แบบที่สุด พร้อม คุณภาพชีวิตที่ดี ดั่ง Brand Idea ที่วาดเอาไว้คือ  A Perfect Living Platform 

พลันที่ได้ยินคำว่าธรรมชาติ ความเป็นนักอนุรักษ์ออกมา ก็มีเสียงวิจารณ์จากหลายฝ่ายว่า ออริจิ้นเนี่ยนะจะอนุรักษ์ธรรมชาติ, การปลูกต้นไม้มันช่วยให้ของดูแพงขึ้นได้อย่างไร หรือบ้างก็ว่าทำไมไม่ไปเน้นจุดขายที่มันดูหรูหรา ไฮเทคเหมือนอย่างคอนโดราคาตารางเมตรละสามแสนที่อื่น…ถ้าความความเห็นผมในแบบที่เป็นกลางที่สุดแล้ว ก็คงต้องบอกเพื่อทำความเข้าใจกันก่อนครับว่านี่คือ product branding ไม่ใช่ Brand Idea ของแบรนด์แม่ออริจิ้น ซึ่งเค้าก็ยังคงเน้นความเท่ห์นำสมัย เข้ากับคนทุกรุ่นได้ในสไตล์ณเดชน์อยู่ และเจตนาของผู้ที่อยู่เบื้องหลังการสร้างบทบาทนี้ให้กับแบรนด์ PARK Origin อย่างพี่ต่อ ฟีโนมีนาธนญชัย ศรศรีวิชัย และพี่โด่งเองก็ต้องการที่จะสร้างความแตกต่างจากแบรนด์อื่นๆที่วนเวียนตกหลุม Consumer Trap จนต้อง Reuse แนวคิดแคมเปญกันไปมาอยู่จุดเดิมๆ และที่สำคัญมากๆก็คือสิ่งที่ผมกำลังจะเล่าต่อไปด้านล่างว่า PARK Origin ทั้ง 3 โครงการนี้ มีความหรูหราและเอกสิทธิ์เฉพาะที่แตกต่างจากที่อื่นอย่างไรบ้างครับ

ภาพยนตร์โฆษณาข้างต้นสะท้อนภาพของแบรนด์ PARK Origin ในการพัฒนาคอนโดมิเนียมให้เป็นมากกว่าที่อยู่อาศัย สร้างสมดุลการใช้ชีวิตของคนเมืองอย่างยั่งยืน พร้อมทั้งให้ความสำคัญกับการรักษาธรรมชาติ เพื่อเติมเต็มชีวิตให้สมบูรณ์แบบกับทำเลใจกลางเมือง โดยในความคิดของผม บทบาทของแบรนด์ PARK Origin จากที่พี่โด่งได้เล่ามาน่าจะอยู่ในธาตุดิน มีความเป็น Mother of Goodness หรือมารดาผู้สร้าง เป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์ตามธรรมชาติและชีวิตที่แทรกซึมอยู่ท่ามกลางความรักและผูกพัน ดุจดั่งสายใยจากแม่สู่ลูก…เพียงแต่ว่าเป็นการถ่ายทอดเรื่องราวในเชิงที่ชี้ให้เห็นถึงผลกระทบในแง่ร้ายที่เกิดขึ้นจากการเป็นผู้พัฒนาอสังหาฯที่เลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องตัดไม้ ทำลายทัศนียภาพของธรรมชาติดั้งเดิมในการที่จะสร้างโครงการใหม่ เพื่อให้เกิดการตระหนักรู้ถึงภัยร้ายนี้ไปในวงกว้าง ซึ่งโฆษณา Teaser ตัวนี้ก็อาจจะ Mislead ไปยังกลุ่ม audience ที่ไม่ทราบที่มาที่ไปของแนวคิดเบื้องหลัง เพราะมันช่างต่างกับแนวทางการสื่อสารของแบรนด์ประเภท Mother Of Goodness ที่มักจะเป็นสไตล์ที่ดูอบอุ่น ห่วงใย มอบสิ่งดีๆให้กับคนที่คุณรักซะเหลือเกิน และก็อาจจะยังไม่ค่อยแตะไปถึงสโลแกน A Perfect Living Platform สักเท่าไหร่ แต่เชื่อว่าเค้าน่าจะมีหนังโฆษณาตัวต่อไปเพื่อเน้นภาพของบทบาทนี้ให้ชัดเจนมากขึ้นครับ อย่างไรก็ตามออริจิ้นก็ไม่ได้หยุดเพียงแค่การทำโฆษณา แต่ยังได้ร่วมมือกับหน่วยงานของกทม.ในการทำ Brand Activation อย่างต่อเนื่องเป็นพันธกิจหลัก โดยมีเป้าหมายในการเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กรุงเทพฯ ด้วยการปลูกต้นไม้เพิ่มอย่างน้อย 1 ต้นต่อที่อยู่อาศัย 1 ยูนิตที่เปิดขายใหม่ของแบรนด์ PARK Origin หรือราวๆปีละ 10,000 ต้น โดยเบื้องต้นได้มอบต้นทองอุไรไปแล้ว 2,200 ต้นตามจำนวนยูนิตเปิดใหม่ของทั้งสามโครงการ

PARK Origin – A Perfect Living Platform เพราะมนุษย์ต้องอยู่ร่วมกันกับธรรมชาติ ท่ามกลางเทคโนโลยีที่จะช่วยยกระดับการใช้ชีวิตให้ดียิ่งขึ้น

วกกลับมาที่ตัวโครงการใหม่ภายใต้แบรนด์ PARK Origin กันบ้าง จากการที่ตัวโครงการนั้นมีความยิ่งใหญ่กว่าการเป็นคอนโดหรูใจกลางเมืองทั่วไป เพราะมีการผสมผสานประโยชน์การใช้สอยในแบบ Mixed Use เข้าไว้ด้วยกัน ดังนั้นการพัฒนาโมเดลการอยู่อาศัยที่เข้าใจความต้องการมนุษย์ในปัจจุบัน และมองเห็นความต้องการของมนุษย์ในอนาคต  จึงต้องมีการสร้าง A Perfect Living Platform ที่ยังคงที่สร้างสมดุลการอยู่อาศั ย ผสานธรรมชาติ เทคโนโลยี และสังคมคุณภาพเข้าไว้ด้วยกัน ผ่านการออกแบบที่ผสานสถาปัตยกรรมที่ทันสมัยกับธรรมชาติได้อย่างลงตัว ให้ผู้อยู่อาศัยได้กลับคืนสู่ “ธรรมชาติ”  ต้นกำเนิดแห่งมนุษย์ สัมผัสความสงบท่ามกลางพื้นที่สีเขียว และหลบหลีกซ่อนตัวจากความวุ่นวายจากเมือง จนออกมาเป็นโครงการที่มีจุดเด่นในเรื่องของ Vertical Garden และสวนขนาดใหญ่ รวมถึงการออกแบบ Landscape ขนาดใหญ่ เพื่ออนุรักษ์ พันธ์ไม้เดิมไว้บนผืนที่ดินใจกลางเมือง ทองหล่อ เพื่อสร้างแหล่งออกซิเจนใหม่สำหรับคนเมือง

อะไรคือ 3 แกนสำคัญที่จะเติมเต็ม “ชีวิตสมบูรณ์แบบ”ให้กับคอนโด PARK Origin

 

แกนที่ 1. Technology Transformation

PARK Origin ได้นำนวัตกรรมใหม่ๆ มาเป็นส่วนหนึ่งของที่อยู่อาศัย เพื่อตอบสนองการใช้ชีวิตของคนเมืองยุคใหม่ ไม่ว่าจะเป็น “Home Automation” ที่ให้คุณควบคุมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในบ้านผ่านปลายนิ้วสัมผัส, “Smart Mirror” เทคโนโลยีกระจกอัจฉริยะที่เชื่อมต่อกับโลก IoT (Internet Of Thing) สามารถแสดงผลได้หลากหลาย, “Facilities Intelligence” ให้คุณควบคุมการใช้งานพื้นที่ส่วนกลาง ผ่านแอปพลิเคชัน ได้อย่างมีประสิทธิภาพ “Cashless Society” เพื่อการทำธุรกรรมที่สะดวก ปลอดภัย ภายในพื้นที่ Mixed Use “ONE ORIGIN ‘’ โดยไม่จำเป็นต้องพกเงินสดอีกต่อไป

แกนที่ 2. One Sphere Complex

PARK Origin คือ ครั้งแรกของที่อยู่อาศัยรูปแบบใหม่ ที่มาพร้อมกับการสร้างอาณาจักร Mixed Use ไว้ภายในบริเวณที่อยู่อาศัย โดยมอบบริการอย่างครบวงจร บน 3 ทำเลศักยภาพใจกลางเมือง ที่เป็นที่ต้องการสูงสุดของกรุงเทพฯ ได้แก่ ONE PHAYATHAI, ONE THONGLOR และ ONE 24 (ภายใต้การบริหารงานโดยบริษัท ONE Origin) ซึ่งจะประกอบด้วย Community Mall, Premium Supermarket,  ร้านอาหารระดับ Premium จากทั่วมุมโลก, ร้านกาแฟชั้นนำ, Co-Living Space & Co-Working Space  ระดับ World Class ที่ปลุกพลังความคิดสร้างสรรค์, Kid’s Institution  สำหรับรองรับกลุ่มครอบครัว, เครือโรงแรมระดับโลก, อาคารสำนักงาน และ Serviced Apartment โดยคอนโด PARK Origin ที่อยู่ภายในอาณาจักร Mixed Use แต่ละแห่ง จะถูกออกแบบอย่างแตกต่างกัน เพื่อรองรับ Lifestyle การใช้ชีวิตที่หลากหลายของคนในย่านนั้น

 

โครงการ ONE 24 (บริเวณ PARK ORIGIN PHROM PHONG)

แนวคิด Mixed Use ONE24  มาจากจุดเด่นของทำเลที่หลากหลายด้วยเชื้อชาติ โดยเฉพาะชาวญี่ปุ่น การออกแบบอาคารจึงเป็นแบบ Super Premium แนว Japanese Style ซึ่งภายในโครงการ Mixed Use จะประกอบด้วย Premium Supermarket ที่มีสินค้าซึ่งเป็น Signature หรือสั่งตรงจากญี่ปุ่นวางจำหน่าย มีร้านกาแฟชั้นนำจากต่างประเทศ, ROOFTOP BAR & RESTAURANT  และพื้นที่ให้บริการสำหรับ Service Office, Co working Space, Kid’s Institution สถาบันการศึกษาสำหรับเด็ก ที่ครอบคลุมความต้องการของกลุ่มครอบครัวชาวญี่ปุ่น

 

ด้านหน้า Park Origin PHROM PHONG จะมี  Restaurant& Bar  : ODTOMATO ซึ่งเป็น Pub & Restaurant แบบ  Modern Dining ที่เป็นแหล่งรวบรวมอาหารจากนานาชาติ โดยแนวคิดเกิดจากการที่เจ้าของร้านได้เดินทางท่องเที่ยวไปทั่วทุกมุมโลก และได้ลิ้มลองรสชาติ และเมนูจากหลากหลายประเทศ ทั้งอังกฤษ ออสเตรเลีย และอีกมากมาย จึงเกิดเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างร้านอาหาร ODTOMATO แห่งนี้ เพื่อรวบรวมเมนูดังจากแต่ละประเทศมาไว้ในที่เดียวกัน  ซึ่งเมื่อได้มาเยือนที่นี่แล้ว จะเหมือนได้มีโอกาสลิ้มลองเมนูยอดนิยมจากทุกประเทศทั่วโลก

โครงการ ONE PHAYATHAI

Mixed Use ONE PHAYATHAI  มาจากแนวคิด “ONE STEP JOURNEY” ในการเป็นแหล่งรวม Lifestyle  ที่ตอบโจทย์ทุกการใช้ชีวิตภายในโครงการ เพียง 1 ก้าว จากส่วนคอนโดที่พักอาศัย ซึ่งภายในโครงการประกอบด้วย Premium  Retail  อาคารสำนักงานพร้อมพื้นที่ Service Office รวมถึงเครือโรงแรมระดับโลกที่จะเปิดให้บริการภายในโครงการ  นอกจากนี้ พื้นที่ด้านบนของอาคาร ยังมี ROOF TOP BAR & RESTAURANT เปิดให้บริการด้วย

โครงการ ONE THONGLOR ซึ่งเป็น LIFESTYLE  AREA  อยู่ด้านหน้าโครงการ PARK Origin Thonglor

NICHE STYLE COMMUNITY มาในแนวคิด MEETING POINT ที่แตกต่างจาก Community Mall ทั่วไป เป็นเสมือนอีกหนึ่งจุดนัดพบใหม่ใจกลางทองหล่อ  ซึ่งเป็นแหล่ง HI CLASS Lifestyle ที่นอกจากจะประกอบไปด้วย SUPER PREMIUM SHOP & RESTAURANT  แล้ว  จุดเด่นหลักอีกอย่างหนึ่งของ ONE THONGLOR ที่อยู่ใจกลาง ‘ทองหล่อ’ ในพื้นที่เดิมของ ARENA 10 นั้น คือ การใช้พื้นที่ส่วนกลางของ Community Mall เป็น Lifestyle Area  ที่สามารถรองรับการใช้ชีวิตได้อย่างมีระดับ

 

และแกนที่ 3 สุดท้ายที่เราจะได้พบเห็นที่คอนโด PARK Origin คือ Nature Essence

การได้กลับคืนสู่ธรรมชาติในพื้นที่อยู่อาศัยที่ผสานสถาปัตยกรรมที่ทันสมัย กับธรรมชาติอย่างลงตัว ผ่านการ Co-Creation กันของทีมผู้พัฒนาหลักของโครงการ ที่ล้วนแต่เป็นบริษัทออกแบบชั้นนำที่ได้รับการยอมรับในระดับโลก ทั้ง TROP, DWP, ONG&ONG, IAW และ TANDEM Architect (2001) ที่จะผนึกกำลังกันในการสร้างโครงการที่มีส่วนผสมอย่างสมดุลกันระหว่างเทคโนโลยีและธรรมชาติ เพื่อรักษาธรรมชาติดั้งเดิมของพื้นที่ใว้ให้กับผู้อยู่อาศัย

ผ่านดีไซน์ที่ทันสมัย ด้วยอาคารรูปแบบใหม่ แนวคิด “Vertical Garden” ซึ่งเป็นสวนป่าคอนกรีต ให้เป็นแหล่งอ็อกซิเจนแห่งใหม่สำหรับคนเมือง ด้วยดีไซน์โดดเด่น แตกต่าง ด้วยรูปทรงอาคารที่คล้ายภูเขา มีพื้นที่สีเขียวเล่นระดับเป็นขั้นบันไดถึง 1,500 ขั้น ให้เรารู้สึกเหมือนกับว่ากำลังเดินอยู่บนไหล่เขา สามารถออกมารับวิว สูดกลิ่นธรรมชาติ สัมผัสความสดชื่นได้จากตัวห้อง  รวมถึง การออกแบบพื้นที่ Landscape ขนาดใหญ่ แปลงที่ดินใจกลาง ทองหล่อ เพื่ออนุรักษ์ พันธุ์ไม้ดั้งเดิมขนาดใหญ่ ใว้ให้กับผู้อยู่อาศัย

 

โครงการ PARK Origin Phayathai

สำหรับคอนโด PARK ORIGIN จะพัฒนาขึ้นใน 3 ทำเลใจกลางเมือง ได้แก่ 1.PARK Origin Phayathai 2.Park Origin Thonglor และ 3.Park Origin Phrom Phong โดยแต่ละทำเลก็จะมีแนวคิดของโครงการที่แตกต่างกันออกไปตามไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมายแต่ละแห่ง

เพราะบริบทของแต่ละทำเลมีความแตกต่างกัน ทางทีมงานผู้สร้าแบรนด์จึงได้กำหนดภาพของ Brand Persona ที่มีบุคคลิก ลักษณะทางจิตวิทยาแตกต่างกันไป เป็น 3 เผ่าพันธุ์ประกอบด้วย เผ่าพันธุ์ MOBILITOR เผ่าพันธุ์ LIFESTYLENISTA และเผ่าพันธุ์ TREND ADDICT

PARK Origin Phayathai จะได้ความเป็น Gateway ของการทำธุรกิจ ศักยภาพในการเติบโตมีอย่างต่อเนื่องทุกปีจากการพัฒนาโครงการใหม่ๆ และความสะดวกสบายในการเดินทางเนื่องจากเป็น Node สำคัญของเส้นทางรถไฟฟ้าหลายสายจากย่านใจกลางเมือง ไปสู่ทุกมุมของกรุงเทพฯ และสนามบินหลักทั้ง 2 แห่ง ดังนั้นกลุ่มเป้าหมาย ก็จะมี Attitude & Lifestyle ที่ถูกให้คำจำกัดความว่าเป็นกลุ่ม MOBILITOR กล่าวคือเป็นกลุ่มคนที่รักอิสระ ชอบความท้าทาย ชอบผจญภัย ไม่ชอบอยู่กับที่ ชอบกิจกรรมแนว extreme ใช้ชีวิตแนวเส้นรถไฟฟ้า ที่เชื่อมต่อหลายเส้นทางอย่างไร้ขีดจำกัด สนุกกับการเดินทางท่องเที่ยว ทั้งในและต่างประเทศ แต่ในบางมุม ก็ชอบที่จะใช้เวลาอยู่กับตัวเอง ปล่อยใจไปกับธรรมชาติรอบตัว

ตั้งอยู่บนสี่แยกพญาไท ถัดจากอาคารวรรสรณ์ เป็นคอนโดสูง 35 ชั้น 550 ยูนิต มีจุดเด่นคือพื้นที่สวนแบบ Vertical Garden ขนาด 1,800 ตรม. สูงต่อเนื่องจากชั้น 1-35 ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บนภูเขาใจกลางกรุงเทพฯ

สำหรับ PARK Origin Thonglor เป็นคอนโดที่มีความโดดเด่นที่สุดใจกลางย่านไลฟ์สไตล์ชั้นนำ ทองหล่อ 10 ซึ่งเป็น Top Living Destination ของกลุ่ม Celeb และ Young Millionaire ที่มีพลังในการใช้ชีวิตแบบสุดเหวี่ยง ในย่านสุดฮิปที่ไม่เคยหลับใหล ที่รวมทุกไลฟ์สไตล์ 24 ชั่วโมงไว้ในที่เดียว ไม่ว่าจะปาร์ตี้ ช้อป ชิม ชิลล์ หรือแม้แต่เสพงานอาร์ทผ่านสถาปัตยกรรมอันน่าหลงใหลของหลายอาคารในย่านนี้  ดังนั้นกลุ่มเป้าหมาย ก็จะมี Attitude & Lifestyle ที่ถูกให้คำจำกัดความว่าเป็นกลุ่ม LIFESTYLENISTA หรือคนรุ่นใหม่ที่ฉลาดเลือกในการใช้ชีวิตบนทำเลที่ “หล่อ” ที่สุด ชอบไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย ไม่ชอบความซ้ำซาก จำเจ สนุกกับการใช้ชีวิต ทั้งกลางวัน และกลางคืน เป็นคนชอบสังคม ชอบอยู่ใกล้แหล่งอาหาร การกิน สถานบันเทิง ชอบเสพงานศิลป์ ตามสตูดิโอ บาร์ฮิปๆ และแกลลอรี่ แต่ในบางมุม…ก็ชอบหลบหลีกความวุ่นวาย ซ่อนตัวภายใต้ร่มเงาแห่งธรรมชาติ

โครงการ PARK Origin Thonglor ตั้งอยู่บนถนนทองหล่อ 10 หรืออดีตคือโครงการ ARENA 10 เป็นจุดศูนย์กลางของย่านทองหล่ออย่างแท้จริง เนื่องจากอยู่ไม่ไกลจากแหล่งแฮงค์เอ้าท์ชั้นนำในระยะที่เดินไม่กี่นาที และเยื้องกับ EKKAMAI Mall ห้างสรรพสินค้าชั้นนำที่มีร้าน DONQUI แห่งแรกในประเทศไทยตั้งอยู่ ตัวโครงการมีความโดดเด่นเหนือใครด้วยการเรียงตัวกันในแบบลดหลั่นความสูงของอาคารแฝดทั้ง 3 อาคาร บนความสูง 39, 53 และ 54 ชั้น เชื่อมต่อกันระหว่างอาคารด้วยทางเดินลอยฟ้าบนพื้นที่ส่วนกลาง

และสุดท้ายกับโครงการที่ตั้งอยู่บนทำเลยอดนิยมของชาวญี่ปุ่นจนได้รับการขนานนามว่า Little Ginza เนื่องจากเป็นย่านที่รายล้อมไปด้วย Neighborhood Facilities ชั้นนำหลายประเภท โดยมีจุดศูนย์กลางคือ The EM District ที่เป็น World Class Shopping Destination ในสายตาของชาวต่างชาติ กับโครงการ PARK Origin Phrom Phong อยู่ภายในพื้นที่ โครงการ  Park 24 เดิม ที่ถูกอัพเกรดสเปคขึ้นมาอีกครั้ง เพื่อรองรับการมาของอาณาจักร Mixed Use “ONE 24” ที่อยู่ตรงข้ามกัน

โครงการ PARK Origin Phrom Phong จับกลุ่มเป้าหมายที่มี Attitude & Lifestyle ที่ถูกมองว่าเป็นกลุ่ม TREND ADDICT ผู้นำเทรนด์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต เป็นคนมีรสนิยม ชอบแบรนด์เนม ช้อปตามห้างสรรพสินค้าระดับเวิล์ดคลาส พิถีพิถันในการเลือกสิ่งที่สะท้อนความเป็นตัวเอง หลงใหลในสีสันวัฒนธรรมที่หลากหลาย ชอบลิ้มลองอาหารหลากหลายสไตล์ จากทั่วทุกมุมโลก ปลดล็อคพลังความคิดสร้างสรรค์ ตามคาเฟ่ ดีไซน์เก๋ แต่ในบางมุม…ก็ถอดสีสันของตัวเอง เพื่อกลับคืนสู่ธรรมชาติ

 

Unlock Your Style @ Park Origin

สำหรับผู้ที่สนใจโครงการ PARK Origin ทั้ง 3 ทำเล สามารถเข้าไปติดตามข้อมูลเพิ่มเติมในแบบเป็นทางการ พร้อมรับชมหนังสั้นที่ถ่ายทอดเรื่องราวและแนวคิดในการเปลี่ยนบทบาทจากนักอสังหาฯผู้ทำลายทรัพยากรธรรมชาติ มาสู่ความเป็น Mother of Goodness  ได้ที่ https://bit.ly/2nCWGx7

โดยโครงการพร้อมเปิดให้ลงทะเบียนได้ในงาน My Life My Origin ที่สยาม พารากอน วันที่ 8-9 กย.นี้

เกริก บุณยโยธิน

เกริก บุณยโยธิน

ผู้ก่อตั้งเวปไซต์แบ่งปันความรู้ด้านการตลาด และการสร้างแบรนด์ในวงการอสังหาฯ พร็อพฮอลิค ดอทคอม..หลังจากที่ใช้เวลามากกว่า 10 ปี ในการวนเวียน เข้าๆออกๆ ในสายงานด้านการตลาด และวางแผนกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ ของบริษัทอสังหาฯ และเอเยนซีโฆษณาชั้นนำหลายแห่ง (โดยที่ไม่รู้ว่าทำไมต้องจับสลากเจอลูกค้าสายอสังหาฯทุกที)...จนถูกครอบงำโดยจิตใต้สำนึก ให้ถีบตัวเองออกจากกรอบการทำงานแบบเดิมๆ เพื่อออกมาจุดประกายความคิดที่ถูกต้อง และนำเสนอมุมมองใหม่ๆ ให้กับกลุ่มคนที่สนใจในธุรกิจอสังหาฯ

เว็บไซต์

โซลเลซ พหลฯ-ประดิพัทธ์

นิว เวิร์ส กรุงเทพกรีฑา

นิว ซี-สแควร์ สวนหลวง สเตชั่น

ซึ่งวันนี้เราจะพาคุณผู้อ่านมาพบกับโครงการคอนโดพร้อมอ...

30 January, 2024

ริธึ่ม เจริญนคร ไอคอนิค

วันนี้จะมาเล่าเรื่องเกี่ยวกับคอนโดมิเนียมสุดฮอตชื่อโ...

29 January, 2024

วิสซ์ดอม คราฟท์ สามย่าน

Whizdom Craftz Samyan คือโครงการที่มอบ 5 องค์ประกอบพ...

4 December, 2023

นาวว์ เมกา

หากจะพูดถึง NOWW MEGA (นาวว์ เมกา) ในพื้นที่ของ Maga...

14 November, 2023

สอบถามโครงการ

ได้รับข้อมูลเรียบร้อยแล้ว
ขอบคุณอย่างยิ่งที่สนใจครับ
จะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับไปนะครับ

ขออภัย
ไม่สามารถส่งข้อมูลได้
กรุณาลองใหม่อีกครั้ง