พัทยาเป็นเมืองตากอากาศชายทะเลที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของภูมิภาคเอเชียในปัจจุบัน ด้วยการที่อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ พัทยาจึงเป็น Top Destination ของคนกรุงเทพฯหลายๆคนที่ต้องการมาพักผ่อนในวันหยุด เนื่องจากพัทยาเป็นเขตปกครองพิเศษ จึงทำให้เมืองพัทยานั้นมีความเจริญในด้านธุรกิจการค้า ท่องเที่ยว และยังคงมีการพัฒนาในด้านสาธารณูปโภคอย่างต่อเนื่อง เมืองพัทยานั้นสามารถแบ่งเขตอย่างเป็นทางการได้ 4 เขต ได้แก่ พัทยาเหนือ พัทยากลาง พัทยาใต้ และหาดจอมเทียน โดยบริเวณพัทยาเหนือนั้นค่อนข้างมีความเงียบสงบ นักท่องเที่ยวนิยมมาเดินเล่น พักผ่อน จึงทำให้บริเวณนี้มีโรงแรมหรู และโครงการคอนโดระดับไฮเอนท์ที่เน้นความเป็นส่วนตัวเกิดขึ้นมากมาย ส่วนตั้งแต่พัทยากลางไปจนถึงพัทยาใต้จะมีถนนคั่นกลางระหว่างชายหาด และเต็มไปด้วยสีสันของไลฟ์สไตล์ยามค่ำคืน ไม่ว่าจะเป็นสถานบันเทิง บาร์ ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก ห้างสรรพสินค้า ฯลฯ และบริเวณหาดจอมเทียนจะอยู่ห่างจากตัวเมืองพัทยาออกมา โดยมีเขาพระตำหนักคั่นอยู่ระหว่างพัทยาใต้กับหาดจอมเทียน เป็นอีกหนึ่งทำเลที่มีร้านอาหารชื่อดังและดีเวลลอปเปอร์หลายรายนิยมไปสร้างโครงการคอนโด

คิดจะซื้อ นึกถึงวงศ์อมาตย์และพระตำหนัก สองทำเลที่ดีที่สุดในพัทยา

แม้ว่าในช่วงปีที่ผ่านมาเราอาจจะรับรู้จากหลายๆกระแสว่าตลาดคอนโดมิเนียมในพัทยานั้นอยู่ในภาวะโอเวอร์ซัพพลาย เพราะว่ามีโครงการเปิดขายกันมากมาย โดยเฉพาะในช่วงระหว่างปีพ.ศ.2554 – 2556 ที่มีโครงการคอนโดมิเนียมเปิดขายมากกว่า 15,000 ยูนิตในแต่ละปี แต่มาลดความร้อนแรงเล็กน้อยเหลือประมาณ 12,000 ยูนิตในปีพ.ศ.2557 ซึ่งหลายโครงการยังคงขายไม่หมดจนกระทั่งปัจจุบัน จำนวนคอนโดมิเนียมที่เปิดขายในแต่ละปีแยกรายทำเลมีดังนี้

ในช่วงครึ่งแรกปีพ.ศ.2558 มีคอนโดมิเนียมเปิดขายประมาณ 5,280 ยูนิต และคาดว่าจะมีคอนโดมิเนียมเปิดขายในครึ่งหลังปีพ.ศ.2558 ในจำนวนที่ใกล้เคียงกับครึ่งแรกซึ่งจะทำให้จำนวนคอนโดมิเนียมที่เปิดขายในปีนี้อยู่ที่ประมาณ 10,000 – 12,000 ยูนิตใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา และในตลาดเมืองพัทยานั้นคอนโดมิเนียมที่สร้างเสร็จและจดทะเบียนอาคารชุดแล้วประมาณ 60,885 ยูนิตซึ่งสามารถแบ่งออกตามทำเลต่างๆ ได้ดังนี้

ที่มา: คุณสุรเชษฐ์ กองชีพ รองผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและพัฒนาบริษัท คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย

จากสัดส่วนของจำนวนคอนโดมิเนียมที่สร้างเสร็จแล้วข้างบนจะพบว่าทำเลจอมเทียนมีโครงการคอนโดมิเนียมอยู่มากที่สุด เพราะว่าโครงการคอนโดมิเนียมที่สร้างเสร็จในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาในจอมเทียนหลายโครงการมีจำนวนยูนิตมากกว่า 1,000 ยูนิต โดยนาจอมเทียนเป็นทำเลที่มีคอนโดมิเนียมน้อยที่สุด คอนโดมิเนียมที่สร้างเสร็จแล้วเหล่านี้ไม่ใช่ทุกโครงการจะขายหมดหรือว่ามีคนมาโอนกรรมสิทธิ์ตอนสร้างเสร็จแบบพร้อมเพรียงกัน

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงตั้งแต่ปีพ.ศ.2556 เป็นต้นมาที่ธนาคารพาณิชย์ต่างๆ พากันเพิ่มความเข้มงวดในการพิจารณาสินเชื่อที่อยู่อาศัยมากขึ้น และหลังจากที่ตลาดคอนโดมิเนียมในพัทยาได้รับผลกระทบจากการที่ค่าเงินรูเบิลรัสเซียลดค่าลงไปกว่า 30 – 40% ในช่วงปลายปีพ.ศ.2557 เพราะรัสเซียเป็นลูกค้ากลุ่มใหญ่ที่สุดของตลาดคอนโดมิเนียมในพัทยา ซึ่งเรื่องของค่าเงินรัสเซียที่อ่อนค่าลง เศรษฐกิจของประเทศไทยที่อยู่ในช่วงขาลงเช่นกัน ทำให้กลุ่มนักลงุทนหรือว่าคนที่ซื้อคอนโดมิเนียมในพัทยาเพื่อเก็งกำไรพากันทิ้งเงินดาวน์หรือไม่ยอมมาโอนกรรมสิทธิ์กันมากมายเป็นประวัติการณ์ ทำให้ผู้ประกอบการหลายรายต้องชะลอการเปิดขายโครงการใหม่ออกไปก่อน รวมทั้งออกโปรโมชั่นต่างๆ มาสร้างความน่าสนใจโดยเฉพาะกับโครงการที่สร้างเสร็จใหม่ๆ รอโอนกรรมสิทธิ์เพราะอาจจะมีคอนโดมิเนียมทีสร้างเสร็จในปีนี้มากกว่า 12,000 ยูนิตตามกำหนดการณ์ของผู้ประกอบการ แม้ว่าจะมีหลายโครงการที่ประกาศเลื่อนกำหนดแล้วเสร็จออกไปก่อนหน้านี้แล้ว และคาดว่าจำนวนที่สร้างเสร็จในปีนี้คงอยู่ที่ประมาณ 5,000 ยูนิตเท่านั้นส่วนโครงการที่เหลือก็เลื่อนออกไปก่อน

ในขณะเดียวกัน พบว่าทำเลวงศ์อมาตย์และพระตำหนัก เป็นสองทำเลที่มีสัดส่วนของคอนโดมิเนียมน้อยมาก อาจจะเป็นเพราะว่าทำเลวงศ์อมาตย์มีการพัฒนารูปแบบอื่นๆ เต็มพื้นที่อยู่ก่อนแล้วโดยเฉพาะพื้นที่ติดชายหาดที่ที่ดินส่วนใหญ่มีการพัฒนาเป็นโรงแรมหรูเกือบหมด ทำให้โครงการคอนโดมิเนียมที่ติดชายหาดในพื้นที่นี้ได้รับความสนใจค่อนข้างมาก ส่วนทำเลพระตำหนักนั้นเป็นอีกทำเลเดียวในพัทยาที่สามารถสัมผัสกับความเป็นภูเขาและชายทะเลได้พร้อมๆ กันในเวลาเดียวกัน เนื่องจากเขาพระตำหนักเป็นเนินเขาสูงที่กั้นระหว่างหาดพัทยากับหาดจอมเทียน จึงถูกยอมรับว่าเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดของพัทยา อีกทั้งบริเวณพระตำหนักยังมีชายหาดที่เงียบสงบอยู่อีกด้วยและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวแตกต่างจากชายหาดอื่นๆ ชายหาดแห่งนี้ก็คือ “หาดยินยอม” มีความยาวประมาณ 500 เมตร เป็นชายหาดที่ค่อนข้างเงียบสงบและมีน้ำทะเลที่ค่อนข้างใสกว่าชายหาดอื่นในพัทยา จนคุณแทบจะไม่เชื่อสายตาตัวเองเลยว่าที่นี่คือพัทยา

Credit ภาพหาดยินยอม: pattayapreview.com

จากสาเหตุดังกล่าวโครงการคอนโดมิเนียมในทำเลนี้จึงได้รับความสนใจมากเช่นกัน และมีราคาขายที่ค่อนข้างได้เปรียบกว่าบริเวณอื่นๆ โดยเฉพาะโครงการที่พัฒนาโดยผู้ประกอบการชาวไทยที่มีชื่อเสียงจะเป็นที่นิยมในหมู่คนไทยที่ต้องการซื้อเพื่อลงทุน และคาดหวังถึงบริการหลังการขายที่ดี เพราะทำเลพระตำหนักเป็นทำเลที่มีผู้ประกอบการต่างชาติค่อนข้างมาก โดยเฉพาะกลุ่มสแกนดิเนเวียนที่พัฒนาโครงการเพื่อคนสแกนดิเนเวียนด้วยกันซะเป็นส่วนใหญ่

ทั้งสองทำเลนี้เป็นทำเลที่มีคนสนใจมองหาคอนโดมิเนียมเพื่อเช่าอยู่ในระยะสั้นและยาวค่อนข้างมากดังนั้นโครงการคอนโดสร้างเสร็จพร้อมอยู่จึงค่อนข้างเหมาะที่จะซื้อเพื่อลงทุนปล่อยเช่า

Unixx South Pattaya

โครงการ Unixx South Pattaya (ยูนิกซ์ เซาท์ พัทยา) โดยบริษัท ไรมอน แลนด์ จำกัด มหาชน ตั้งอยู่บนพื้นที่ 7-0-16 ไร่ บนเขาพระตำหนัก ออกแบบภายใต้แนวคิด “Your Weekend Getaway” (ที่พักตากอากาศในวันหยุดของคุณ) ด้วยรูปแบบอาคารในสไตล์ Modern Tropical Resort คอนโดสูง 42 และ 48 ชั้น จำนวน 1,207 ยูนิตแห่งนี้ มีสิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลางมากมาย ชนิดที่สุดแล้วแต่ว่าคุณจะมีไลฟ์สไตล์ในวันหยุดแบบไหน ไม่ว่าจะเป็น พื้นที่ออกกำลังกายกลางแจ้งพร้อมอุปกรณ์ ลู่วิ่ง สนามพัตกอล์ฟ สนามเปตอง ลานโยคะ ลานมวยไทเก๊ก ศาลาพักผ่อนและนั่งสมาธิ สระว่ายน้ำพร้อมสไลเดอร์และหน้าผาจำลอง สระเด็ก สวนลอยฟ้า และสวนเขียวขจีบริเวณกว้างรายรอบโครงการ

กิจกรรมทั้งหมดนี้ พร้อมให้คุณได้เลือกจับต้องได้ในราคาที่สมเหตุสมผล เริ่มต้นเพียงแค่ 1.8 ล้านบาท คุณจะได้ดื่มด่ำกับทัศนียภาพทั้งอ่าวและทะเลทั่วเมืองพัทยา ยาวไปจนถึงหาดจอมเทียน จากห้องชุดสตูดิโอ หนึ่งห้องนอนและสองห้องนอน ใช้เวลาขับรถไม่นานจากกรุงเทพ ยูนิกซ์คือที่พักตากอากาศที่สมบูรณ์แบบในช่วงสุดสัปดาห์ หรือวันหยุดสำหรับชาวกรุงเทพที่กำลังมองหาการหยุดพักผ่อนในสไตล์ Tropical resort เพื่อหลีกหนีความวุ่นวายและความเร่งรีบจากชีวิตในเมือง

ภาพบรรยากาศห้องแบบ 1 ห้องนอน

ภาพบรรยากาศห้องแบบ 2 ห้องนอน

ภาพวิวจริงจากโครงการ Unixx South Pattaya

หาดวงศ์อมาตย์ตลาดเช่ายังคงได้รับความนิยมสูง

ตลาดคอนโดมิเนียมในเมืองพัทยานั้นได้รับความนิยมเป็นอย่างมากทั้งในหมู่ชาวต่างชาติ และคนไทยที่นิยมซื้อเพื่อเป็น Holiday Home และปล่อยเช่า เนื่องจากตลาดเช่านั้นยังคงมีดีมานท์เข้ามาอย่างสม่ำเสมอจากนักท่องเที่ยวทั่วทุกมุมโลก

ชาวต่างชาตินิยมเลือกที่จะพักอาศัยในคอนโดมิเนียมแทนโรงแรม หรือรีสอร์ท รวมทั้งเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ เพราะมีค่าเช่าที่ต่ำกว่า ถ้าต้องพักอาศัยเป็นระยะเวลานานเป็นเดือนหรือมากกว่านั้น ซึ่งถ้าหากนักท่องเที่ยวรายไหนเลือกที่จะพักอยู่นานๆก็มักจะเลือกโครงการที่อยู่ไกลจากชายหาด แต่ว่ายังสามารถเดินไปได้ในระยะเวลาอันสั้น คอนโดที่นิยมพักกันก็มักจะอยู่ในย่านชุมชนพาณิชย์ที่ใกล้ร้านอาหาร ซุปเปอร์มาร์เก็ต ร้านสะดวกซื้อ ฯลฯ

นอกจากนี้ โครงการที่มีพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่และหลากหลาย เช่น สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ ที่คนมีอายุสักหน่อยอาจจะนั่งพักผ่อนริมสระว่ายน้ำ อาบแดด แล้วให้ลูกๆ เล่นน้ำในสระไป ก่อนที่เย็นๆ จะเดินไปนั่งริมทะเลอีกรอบหนึ่ง และเป็นโครงการที่มีพื้นที่ติดหาดในแบบไม่มีถนนคั่นกลาง ก็มักจะทำค่าเช่าได้สูงกว่าโครงการที่อยู่ทำเลอื่นๆ เนื่องจากข้อได้เปรียบในเรื่องของความสะดวกและความเป็นส่วนตัว โดยในแต่ละทำเลก็อาจจะมีกลุ่มผู้เช่าชาวต่างชาติแตกต่างกันตามแต่ลักษณะของโครงการและค่าเช่า …หาดวงศ์อมาตย์ดูจะเป็นคำตอบที่เหมาะสมที่สุด

Northpoint

โครงการ Northpoint (นอร์ธพอยท์) โดยบริษัท ไรมอน แลนด์ จำกัด มหาชน เป็นโครงการที่สร้างเสร็จเมื่อราวๆปี 2010 เคยกวาดรางวัล Thailand Property Awards มาถึง 2 สาขา ได้แก่ Thailand Property Awards 2008: Winner Best Condo Development Eastern Seaboard และ Thailand Property Awards 2010: Winner Best Condo Development Eastern Seaboard

โครงการตั้งอยู่บริเวณพัทยาเหนือช่วงหาดวงศ์อมาตย์ ภายใต้เนื้อที่ 12 ไร่ คอนโดตึกแฝดสูง 46 และ 54 ชั้น จำนวน 376 ยูนิต แห่งนี้ มีพื้นที่ส่วนกลางที่ใหญ่และหลากหลายมากมาย อาทิ สนามเทนนิส สวนขนาดใหญ่ สระบัว สไลเดอร์ สระเด็ก ส่วนอาบแดด สระว่ายน้ำ บาร์น้ำ และสนามเด็กเล่น ด้วยการที่เป็นคอนโดที่มีส่วนกลางใหญ่ที่สุดโครงการหนึ่งบริเวณชายหาดวงศ์อมาตย์ และเป็นคอนโดเกรดพรีเมียมที่อยู่ติดหาด จึงทำให้ราคาปล่อยเช่าของ Northpoint ณ ปัจจุบันอยู่ที่ราวๆ ตรม.ละ 700 – 800 บาทขึ้นอยู่กับสภาพห้อง

Zire Wongamat

โครงการ Zire Wongamat (ซายร์ วงศ์อมาตย์) โดยบริษัท ไรมอน แลนด์ จำกัด มหาชน คอนโดสุดหรูแห่งนี้เพิ่งสร้างเสร็จพร้อมอยู่เมื่อปีที่แล้ว ตั้งอยู่บนชายหาดวงศ์อมาตย์ ซายร์ วงศ์อมาตย์ ทำให้คุณได้มีโอกาสหลบหนีความกดดันวุ่นวายในกรุงเทพเพื่อมาพักผ่อนในสถานที่อันน่าจดจำ คอนโดสูงที่มีสไตล์การออกแบบอันเป็นเอกลักษณ์นี้ประกอบด้วย 2 อาคาร มีความสูง 37 และ 54 ชั้นตามลำดับ ด้วยความกว้างใหญ่ของพื้นที่โครงการถึง 5-3-70 ไร่ แต่มีจำนวนยูนิตเพียงแค่ 465 ยูนิต ตั้งแต่ห้องสตูดิโอ 1-2 ห้องนอน จนถึงห้อง duplex ที่ออกแบบให้แต่ละห้องสามารถมองเห็นทิวทัศน์อันสวยงามของอ่าวไทยได้อย่างไม่มีใครเทียบเท่า โดยที่ยังคงไว้ซึ่งส่วนกลางอันหลากหลายตามสไตล์ไรม่อน แลนด์ อาทิ สระว่ายน้ำไร้ขอบยาว 25 เมตร สระว่ายน้ำเด็ก มุมเด็กเล่น ลานอาบแดด ลานกีฬาเอนกประสงค์ สวนธรรมชาติ Beach Terrace ห้องออกกำลังกาย ห้องซาวน่า ฯลฯ

นอกจากนี้ เจ้าของร่วมและผู้พักอาศัยของซายร์ วงศ์อมาตย์ ยังได้รับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมอีกมากมายจาก Silver Lining by The Glass House (ดำเนินการโดยร้านอาหารและบาร์ The Glass House Beachfront Restaurant & Bar) ภายในคอนโดมิเนียม ซึ่งเป็นร้านอาหารจำนวน 200 ที่นั่งที่ให้บริการทั้งอาหารญี่ปุ่นและอาหารฝรั่ง พร้อมด้วยอาหารทะเลสดใหม่ และทัศนียภาพของชายหาดและทะเลที่สวยงาม…การออกแบบสุดพิเศษของ Silver Lining คือสิ่งที่ทำให้ทุกคนต้องร้องว้าว ก็คือทุกเช้าและเย็นพื้นที่โครงสร้างของร้านอาหารจะเคลื่อนที่ได้ ทำให้ผู้ที่รับประทานอาหารได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศที่แตกต่างกันทั้ง outdoor และ indoor นับเป็นห้องอาหารเคลื่อนที่ได้แห่งแรกของเอเชีย

ซื้อทั้งทีต้องได้ใจคนเช่า ถูกใจคนซื้อ
ทำเลพระตำหนักและวงศ์อมาตย์ เป็นทำเลที่มีคนสนใจหาคอนโดมิเนียมเพื่อเช่าทั้งในระยะสั้นและยาว และเป็นสองทำเลที่เหมาะสำหรับคนที่ต้องการลงทุนในระยะยาว กล่าวคือซื้อคอนโดมิเนียมเพื่อโอนและปล่อยเช่า รวมทั้งรอรับผลตอบแทนเป็น capital gain อีกต่อหนึ่งเมื่อขายคอนโดมิเนียมนั้นๆออกไป หลังผ่านไปสักระยะหนึ่งแล้ว

โดยคอนโดมิเนียมที่มีความเหมาะสมในการลงทุนนั้น ถ้าเป็นวงศ์อมาตย์ควรเป็นคอนโดมิเนียมที่เป็นอาคารสูงติดชายหาดเพราะโครงการคอนโดมิเนียมติดชายหาดนั้นในปัจจุบันมีอยู่ไม่กี่โครงการเท่านั้นเพราะมีข้อจำกัดหลายเรื่องทั้งจำนวนที่ดินติดชายหาดที่มีน้อยลง ราคาที่ดินก็สูงขึ้นทุกปี อีกทั้งข้อจำกัดต่างๆ ที่มีผลต่อการพัฒนาโครงการติดชายหาดทำให้โครงการคอนโดมิเนียมติดชายหาดมีโอกาสเกิดขึ้นใหม่น้อยลงไปทุกปี ส่วนทำเลพระตำหนักนั้นไม่สามารถสร้างโครงการคอนโดมิเนียมติดชายหาดได้ คอนโดมิเนียมที่ได้ความสนใจจากผู้เช่าที่เป็นชาวต่างชาติคือโครงการที่เป็นอาคารสูงที่สามารถมองเห็นวิวของชายหาดพัทยาหรือว่าจอมเทียนได้ และต้องมีสิ่งอำนวยความสะดวกเพียบพร้อมรวมทั้งเป็นโครงการที่เพิ่งจะสร้างเสร็จไม่นานนี้ เพราะว่ารูปแบบของโครงการและการตกแต่งต่างๆ จะได้มีความทันสมัยสอดคล้องกับความต้องการในปัจจุบัน

ซื้อถูกโครงการมีสิทธิ์ได้ผลตอบแทนสูงถึง 12%
การเลือกซื้อคอนโดมิเนียมเพื่อการลงทุนในระยะยาวนั้นจึงควรคำนึงถึงเรื่องที่กล่าวไปในย่อหน้าที่แล้วด้วย คราวนี้มาดูกันที่อัตราผลตอบแทนจากการปล่อยเช่า คอนโดมิเนียมนั้นอาจจะแตกต่างกันไปในแต่ละโครงการเพราะว่ามีหลายๆ ปัจจัยที่มีผลต่อการตั้งราคาค่าเช่าทั้งต้นทุนค่าห้องที่ซื้อมาตั้งแต่ตอนแรก รวมทั้งตำแหน่งห้อง และเฟอร์นิเจอร์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกภายในห้องที่มีให้กับผู้เช่า รวมทั้งทำเลที่ตั้งโครงการก็มีผลต่อราคา และการปล่อยเช่าเช่นกัน เพราะว่าถ้าทำเลไหนมีโครงการคอนโดมิเนียมที่มีราคาถูกหลายโครงการก็อาจจะมีผลทำให้ค่าเช่าของโครงการที่มีราคาแพงนั้นไม่สามารถตั้งค่าเช่าแตกต่างจากโครงการราคาถูกในพื้นที่ได้

ในทำเลวงศ์อมาตย์ และพระตำหนักนั้นมีศักยภาพในการตั้งราคาค่าเช่าให้มีราคาสูงได้กว่าทำเลอื่นๆ เพราะว่ามีปัจจัยสนับสนุนหลายอย่างทั้งจำนวนของโครงการที่มีระดับราคาสูงใกล้เคียงกันโดยเฉพาะในกลุ่มของโครงการใหม่ๆ ที่เพิ่งสร้างเสร็จหรือใกล้จะแล้วเสร็จ หรือถ้าเป็นโครงการระดับพรีเมียมขึ้นไปก็จะมีความแตกต่างจากโครงการระดับต่ำกว่าอย่างเห็นได้ชัด เช่น เป็นโครงการติดชายหาด เป็นโครงการอาคารสูงสามารถเห็นวิวได้ในระยะไกล เป็นต้น อัตราผลตอบแทนของทำเลวงศ์อมาตย์จะอยู่ที่ประมาณ 5.5 – 8% โดยค่าเช่าห้องแบบ 1 ห้องนอนขนาดประมาณ 45 – 50 ตารางเมตรอยู่ที่ประมาณ 30,000 – 45,000 บาทต่อเดือน

ห้องแบบ 2 ห้องนอนขนาดประมาณ 65 – 75 ตารางเมตรมีค่าเช่าที่ประมาณ 45,000 – 65,000 บาทต่อเดือน อาจจะมีต่ำกว่านี้แต่ก็เป็นโครงการที่สร้างเสร็จมาหลายปีแล้วและเป็นอาคาร 7 – 8 ชั้นหลายๆ อาคารไม่สามารถเห็นวิวชายหาดได้

ส่วนอัตราผลตอบแทนในทำเลพระตำหนักอยู่ที่ประมาณ 8 – 12% เพราะบางโครงการเปิดขายในราคาที่ต่ำกว่า 75,000 บาทต่อตารางเมตรแต่ได้รับความนิยมค่อนข้างสูงมีชาวต่างชาติให้ความสนใจเช่าเป็นจำนวนมากทำให้สามารถเก็บค่าเช่าได้สูง ค่าเช่าโดยทั่วไปสำหรับคอนโดมิเนียมแบบ 1 ห้องนอนขนาดประมาณ 45 – 55 ตารางเมตรในทำเลพระตำหนักอยู่ที่ประมาณ 15,000 – 35,000 บาทต่อเดือน และห้องแบบ 2 ห้องนอนขนาดประมาณ 60 – 75 ตารางเมตรค่าเช่าอยู่ที่ประมาณ 35,000 – 45,000 บาทต่อเดือน แตกต่างกันไปตามแต่ปัจจัยต่างๆ ที่ระบุไปก่อนหน้านี้

ขอขอบคุณข้อมูลจากคุณสุรเชษฐ์ กองชีพ รองผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและพัฒนาบริษัท คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย

จากข้อมูลดังกล่าว จึงไม่แปลกใจว่าทำไมสองทำเลนี้ จึงเป็นทำเลยอดนิยมของคนที่ต้องการหาซื้อคอนโดมิเนียมเพื่อลงทุนในระยะยาว ที่สามารถเก็บกินผลประโยชน์จากค่าเช่า อีกทั้งยังได้อีกต่อจากการขายคอนโดมิเนียมออกไปเมื่อถึงวันที่อยากขายในอนาคต ปัจจุบันแม้ตลาดคอนโดมิเนียมในพัทยาอาจจะซบเซาลงไปบ้างจากหลายๆ ปัจจัยที่กล่าวไปแล้ว แต่ก็เป็นโอกาสที่เหมาะสมสำหรับคนที่ต้องการหาซื้อคอนโดมิเนียมเพื่อลงทุนในระยะยาวโดยการปล่อยเช่าเช่นกัน เพราะว่ามีคอนโดมิเนียมหลายโครงการที่ยังคงขายในราคาต้นทุนเดิม ราคาไม่ได้ปรับขึ้นไปมากเท่าไหร่แม้จะก่อสร้างเสร็จแล้วก็ตาม เนื่องจากต้องการผู้ซื้อที่พร้อมโอนกรรมสิทธิ์ทันที

สำหรับผู้ที่สนใจโครงการพร้อมอยู่ในสองทำเลดังกล่าว นับเป็นโอกาสอันดีที่บริษัท ไรมอน แลนด์ ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับคุณภาพของประเทศไทย กำลังเปิดตัวโปรโมชั่นสุดยิ่งใหญ่ประจำปี SPACE MATTERS SALE ตั้งแต่วันที่ 8-18 ตุลาคม นี้ กับ 3 โครงการสุดฮอตของไรมอน แลนด์ ในพัทยาอย่าง ยูนิกซ์ เซาท์ พัทยา, ซายร์ วงศ์อมาตย์, และนอร์ธพอยท์ ในราคาที่ไม่สามารถหาได้ที่ไหนอีกแล้ว โดยโครงการ ยูนิกซ์ เซาท์ พัทยา ที่คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จภายในปีนี้ได้ส่วนลดสูงสุดถึง 14% โครงการ ซายร์ วงศ์อมาตย์ได้ส่วนลดสูงสุด 8% และโครงการ Northpoint 3 ห้องนอนวิวสวนได้ส่วนลดสูงสุดถึง 17%

นอกจากนี้ยังนับเป็นครั้งแรกที่บริษัท ไรมอน แลนด์ ร่วมเป็นพันธมิตรกับ 3 ธนาคาร ทั้งธนาคารกรุงเทพ ธนาคารยูโอบี และธนาคารกรุงศรี โดยแต่ละธนาคารมาพร้อมกับของขวัญพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นการแบ่งชำระค่าทำสัญญาด้วยบัตรเครดิต 0% นาน 6 เดือน สูงสุดถึง 10% หรือ cash back รับเงินคืนสูงสุดถึง 10,000 บาท ทุกท่านสามารถพบกับสิทธิพิเศษจากธนาคารเหล่านี้ได้ตั้งแต่วันที่ 8-18 ตุลาคม ที่สำนักงานขายของไรมอน แลนด์ ในทุกโครงการ หรือลงทะเบียนได้ที่ www.raimonland.com/spacematters