เราสามารถเข้าใจประเทศ เข้าใจเมือง เข้าใจคนผ่านที่อยู่อาศัยที่เขาอยู่กันครับ เวลาที่ผมไปเที่ยวต่างประเทศจะชอบไปพักและสังเกตบ้านที่เค้าอยู่ ห้องที่เค้าอยู่กัน ไลฟ์สไตล์เป็นยังไง รู้สึกว่าได้เรียนรู้ชีวิตคนแบบลึกดีครับ ที่อยู่อาศัยจะสะท้อนสังคมออกมา จะรู้ได้ว่าเศรษฐกิจเมืองนั้นเป็นอย่างไร สภาพสังคมเป็นยังไง อยู่กันแบบครอบครัวใหญ่ หรือว่าอยู่กันแบบเดี่ยวๆ คนรวยคนจนต่างกันยังไง สนุกดีครับ ลองมาสัมผัสชีวิตและเปิดโลกกว้างผ่านการท่องเที่ยวแบบ Traveliving คือการท่องเที่ยวแบบอยู่อาศัยจริง ลองไปอยู่ยาวๆ สักหนึ่งสัปดาห์ขึ้นไปแล้วเราเห็นและเข้าใจบ้านเมืองอื่นๆ มากขึ้นครับ

เกาหลีใต้เป็นอีกประเทศหนึ่งที่น่าไปศึกษาดูว่าเค้าอยู่กันยังไง โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ๆ จะมีความหลากหลายของประเภทที่อยู่อาศัยครับ และประกอบกับการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของเมืองใหญ่มีผลยังไงต่อที่อยู่อาศัยของผู้คน เรามาดูกันครับ

รูปแบบที่อยู่อาศัยในประเทศเกาหลีใต้ มีแบบไหนบ้าง เขาเรียกชื่อต่างจากเมืองไทยอย่างไร

ที่อยู่อาศัยมีหลายแบบครับ ขอนำเสนออันที่โดดเด่นละกันครับ

1.บ้านดั้งเดิม

บ้านดั้งเดิมของเกาหลีสร้างจากไม้ มีการใช้ภูมิปัญญาชาวบ้านที่เรียกว่า Ondol อนโดล จุดไฟเผาไม้ให้ควันลอยอยู่ใต้พื้นบ้าน เพื่อทำให้พื้นบ้านอุ่นขึ้นมา ซึ่งปัจจุบันที่อยู่อาศัยในเกาหลีก็พัฒนาระบบพื้นอุ่นจาก Ondol ดั้งเดิมมาเป็นระบบพื้นอุ่นด้วยท่อน้ำร้อนครับ

ที่มาของภาพ https://s-media-cache-ak0.pinimg.com/736x/72/97/85/7297854b5effdaf739497b9271a2b965–korean-art-korean-style.jpg

Ondol ดั้งเดิม ต้องจุดเตาไฟเลยนะครับนั่น

ภาพจาก Wikipedia

สมัยใหม่แล้ว ใช้ท่อน้ำร้อนใต้พื้นเพื่อให้ความอบอุ่นแทน

ภาพจาก http://www.antiquealive.com/Blogs/Ondol_Korean_Home_Heating_System.html

ระบบพื้นอุ่นนี้ผมชอบมาก ตอนที่ไปพักเกาหลีช่วงฤดูหนาว อยู่ข้างนอกเป็นสิ่งที่ทรมานใจมาก ต้องรีบวิ่งเข้าห้องแล้วไปนอนขลุกที่พื้นแทนนอนเตียงเพราะพื้นอุ่นกว่าเตียงนั่นเองครับ ถ้าให้เลือกได้ก็อยากจะนอนฟูกติดกับพื้นมากกว่านอนบนเตียง

2. อพาร์ทเมนต์ หรือ อาพาถึ

อพาร์ทเมนต์ คนเกาหลีใช้คำว่า “อาพาถึ” (아파트 Apateu) แต่ถ้าในความหมายของคนไทยมันก็คือ “คอนโดมิเนียม” นี่แหละครับ จะเป็นที่อยู่อาศัยแนวสูงที่มีระดับหน่อย ดูดี ราคาแพงขึ้นมาหน่อย แต่ถ้าถามคนเกาหลีว่ามี “Condominium” ไหม เค้าก็บอกว่ามีเหมือนกัน แต่ในความหมายของคนเกาหลีนั้นคำว่าคอนโดมิเนียมจะเป็นอาพาถึที่อยู่ตามแหล่งท่องเที่ยว อยู่โลเคชั่นริมทะเล ชายหาด เป็นเหมือนคอนโดมิเนียมพักผ่อนตากอากาศมากกว่าครับ

ภาพตัวอย่างอาพาถึในเมืองโซล เกาหลีใต้

ภาพจาก https://m.blog.naver.com/PostView.nhn?blogId=hyun68&logNo=20206485205

อาพาถึที่เกาหลีส่วนใหญ่มี 5 ชั้นขึ้นไป เป็น High rise อาพาถึจะแตกต่างจากคอนโดมิเนียมเมืองไทยที่ขนาดพื้นที่ใช้สอยครับ คอนโดมิเนียมบ้านเราจะมีขนาดห้องไม่เกิน 30 ตร.ม. แต่อาพาถึส่วนใหญ่จะมีขนาดใหญ่ มี 2-3 ห้องนอน เริ่มต้นที่ขนาดประมาณ 42 ตร.ม. – 82 ตร.ม. ครับ  หรือถ้าหรูหรามากๆ จะขยายขนาดไปจนถึง 148 ตร.ม. ครับ ยูนิตใหญ่ๆ แบบนี้จะคล้ายๆ กับที่สิงคโปร์ เพราะเค้าอยู่ห้องกันเป็นบ้านจริงๆ เป็น Real Home Condominium มีพ่อแม่ลูกกันครบ คนเกาหลีส่วนน้อยที่จะได้อยู่บ้านเดี่ยวติดพื้นในเมืองใหญ่ครับ เพราะราคาซื้อบ้านแพงกว่าอาพาถึมากมาย และด้วยอัตราความหนาแน่นของประชากรเค้ามีสูงด้วยทำให้ต้องบริหารจัดการให้ผู้คนขึ้นไปอยู่บ้านแนวสูงกันหมดครับ

ที่มาของภาพ http://blog.daum.net/ykvintg/5973531

สิ่งที่อาพาถึในเมืองใหญ่มีคือท่อแก๊สที่ตอบโจทย์ด้านการสร้างความอบอุ่นภายในบ้านและเพื่อทำอาหารครับ แต่สิ่งที่อาพาถึบ้านเค้าไม่ค่อยมี คือสระว่ายน้ำเหมือนคอนโดมิเนียมบ้านเรานะครับ ถ้าอาพาถึไหนมีสระว่ายน้ำในโครงการนี้ถือว่าหรูหราสุดๆ ครับ สาเหตุที่ไม่มีสระว่ายน้ำมากมายเพราะบ้านเมืองเค้าหนาวครับ โอกาสที่จะได้ว่ายน้ำมีไม่มาก ดังนั้นไม่ต้องแปลกใจถ้าเราเห็นคนเกาหลีมาเที่ยวเมืองไทยแล้วกรี๊ดกร๊าดกับสระว่ายน้ำที่คนไทยเรารู้สึกธรรมด๊าธรรมดาเพราะแค่คอนโดต่ำล้านบาทของเราก็มีสระว่ายน้ำครับ แต่ในสายตาคนเกาหลีสระว่ายน้ำถือเป็นของ Luxury มากครับ คอนโดมิเนียมในเมืองไทยที่ไหนมีสระว่ายน้ำนี้คนเกาหลีจะชอบมากๆ เลยครับ

ถ้าคนเกาหลีมาเจอสระว่ายน้ำสุดอลังการแบบนี้ที่กรุงเทพคงร้องว้าวแน่นอนครับ

3. ยอลลิปจูแทก (연립주택 หรือ Town House)

สำหรับยอลลิปจูแทกในความหมายของคนไทยเข้าใจก็คือ ห้องเช่า อพาร์ทเมนต์ หอพัก แมนชั่น อะไรประมาณนี้ครับ ยอลลิปจูแทกก็คือแบบเดียวกับอาพาถึเลยครับ Layout ภายในยูนิตก็เหมือนๆ กัน แต่ต่างกันที่ระดับความสูงของอาคารครับ ถ้าอาพาถึจะสื่อว่าเป็นคอนโดมิเนียม High-rise ส่วนยอลลิปจูแทกจะเป็นคอนโดมิเนียมตึกเตี้ยมากประมาณ 3-4 ชั้นครับ เป็นเหมือนคอนโดมิเนียมขนาดเล็ก

ภาพตัวอย่างที่อยู่อาศัยแบบยอลลิปจูแทก

ที่มาของภาพ http://studyinkorea.or.kr/house2/385945

ภาพภายในยอลลิปจูแทก ก็ดูเหมือนอาพาถึครับ ต่างกันที่จำนวนชั้นเท่านั้นเอง

ที่มาของภาพ http://studyinkorea.or.kr/house2/385945

ภาพภายในยอลลิปจูแทก ก็ตกแต่งสวยงามดีครับ ภาพนี้คือห้องนั่งเล่นและห้องครัว

ที่มาของภาพ http://studyinkorea.or.kr/house2/385945

ภาพนี้คือห้องนอนที่มีห้องน้ำในตัว

ห้องน้ำครับ อ่างล้างหน้ากะทัดรัดดี มีหน้าต่างระบายอากาศด้วยครับ ห้องนี้คงเป็นห้องมุม

4. บ้านเดี่ยว

ที่เกาหลีก็มีบ้านเดี่ยวที่เรียกว่า dandok jutaek มี 1 หรือ 2 ชั้นและมีพื้นที่สำหรับจัดเป็นสวนในบ้านครับ ก็คล้ายๆ บ้านในบ้านเราครับ ยังไม่เคยไปเหมือนกัน เลยเขียนไม่ได้ ถ้าใครเคยไปบ้านเดี่ยวคนเกาหลีก็เล่าให้ฟังหน่อยครับ

5. ออฟฟิศเทล (Officetel)

Officetel เป็นรูปแบบอสังหาฯ ที่น่าสนใจมากครับ ที่ไทยยังไม่มีแบบนี้ แต่ถ้าพอจะใกล้เคียงคือ “อาคารชุดพาณิชยกรรม” ครับ Officetel คืออาพาถึที่ออกแบบ Layout มาเพื่อใช้เป็นสำนักงานใหญ่และใช้อยู่อาศัยพักผ่อนด้วยไปในตัว ผสมผสานความต้องการ 2 อย่างให้ลงตัว เป็นอสังหาฯ ที่ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในเกาหลีสร้างออกมาเพื่อตอบโจทย์แนวคิดการใช้พื้นที่คุ้มค่า ถ้าที่เมืองไทยที่ใกล้เคียงก็คงจะเป็น Home Office ครับ แต่ Officetel มัดจะเป็นตึกสูงครับ

หน้าตาตึกภายนอกของ Officetel ก็เหมือนกับอาพาถึนี่แหละครับ แต่ส่วนใหญ่จะตั้งอยู่ในทำเลที่เป็นจุดศูนย์กลางคมนาคม เช่น ใกล้สถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน Officetel มักจะมี shophouse หรือพื้นที่พาณิชยกรรมที่ชั้นล่างด้านหน้าของตึกด้วยครับ

6. Goshiwon (โคชิวอน)

จริงๆ แล้ว Goshiwon หรือ ห้องตู้เสื้อผ้า ห้องแบบนี้คนเมืองเค้าอาจจะไม่ค่อยอยากนำเสนอเท่าไหร่เพราะมันเป็นที่อยู่อาศัยระดับล่างราคาถูกสุดๆ แต่ผมเห็นว่าน่าสนใจดีเลยขอเขียนซะหน่อย เป็นห้องที่ฉีกกฎและแนวคิดในการอยู่อาศัยสุดๆ คือทำยังไงให้ทุกอย่างอยู่ในห้องเดียวกันหมด ผลลัพธ์เลยออกมาเป็นรูปนี้ครับ

ภาพจาก https://issahayag.files.wordpress.com/2015/08/n01.jpg

Goshiwon ห้องขนาดเล็กจิ๋วมากๆ คือเปิดประตูเข้าไปจะเจอปลายเตียง Single Bed ทันที (จริงๆ เล็กกว่า Single Bed อีกนะ) ไม่มีพื้นที่ให้ยืดเส้นยืดสาย มีโซนนั่งทำงานให้มาหนึ่งชุด ตู้เย็นเล็กๆ มีให้ และห้องน้ำและห้องอาบน้ำก็อยู่ข้างในเลยครับ ไม่แยกโซนเปียกแห้งนะครับ ที่น่าตกใจสำหรับคนไทยคือ ห้องน้ำอยู่ติดกับหัวเตียงนอนนี่แหละครับ ไม่มีระเบียง ไม่ต้องตากผ้าเพราะเค้าใช้เครื่องอบผ้ากันครับ ส่วนตู้เสื้อผ้าเหรอ ไม่จำเป็น มองเห็นราวแขวนผ้ายาวๆ ข้างบนเพดานเหนือเตียงนอนไหมครับ นั่นแหละครับตู้เสื้อผ้าของเรา นอนไปมองเสื้อผ้าหลากหลายไป เป็นอีกประสบการณ์ที่น่าลองนะครับ Goshiwon เเป็นเหมือนห้อง Studio แล้วเอาทุกอย่างหารสองหรือหารสามน่ะครับ

Goshiwon จะนิยมมากสำหรับคนที่มีรายได้น้อย กลุ่มนักเรียนนักศึกษาในเมืองใหญ่ๆ อย่าง Seoul ก็จะเช่าห้อง Goshiwon อยู่กันครับ เห็นแล้วก็อดสงสารไม่ได้ คุณภาพชีวิตเป็นแบบนี้เลยเหรอ แต่นี่ก็คือผลพวงจากการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจนั่นแหละครับ ที่ดินในเมืองใหญ่แพงขึ้นสูงมาก มีผลทำให้คุณภาพชีวิตของคนในเมืองลดลง เรื่องนี้เป็นตัวอย่างที่ประชาชนคนไทย รัฐ และเอกชนต้องดูเอาไว้ เพื่อช่วยกันพัฒนาร่วมกันให้เกิดสมดุลในเมืองครับ อย่าคิดแต่จะเพิ่มมูลค่าแต่ลืมมองคุณค่าที่ผู้อยู่อาศัยในเมืองจะได้รับครับ

ประเภทของห้องที่นิยมเช่า มีห้องแบบไหนบ้าง

ถ้าเราจะไปเช่าอาพาถึอยู่ที่เกาหลี เค้าเรียกห้องแต่ละแบบกันยังไงบ้าง เหมือนหรือต่างกับเมืองไทยยังไงบ้าง มาดูกันครับ

1. One Room Open Type

ถ้าบ้านเราจะเรียกว่า Studio ส่วนบ้านเค้าจะเรียกว่า One Room (Open Type) (원룸: 오픈형 วันรุมโอพึนฮยอง) เป็นห้องที่เอาไว้นอน นั่งเล่น ทำอาหาร ทุกกิจกรรมอยู่ในพื้นที่ห้องเดียวกัน มีห้องน้ำในตัว ห้องแบบนี้ในเกาหลีกำลังเป็นที่นิยมครับ น่าจะนิยมเพราะเหตุผลทางเศรษฐกิจและสังคมครับ เพราะราคาอาพาถึขนาดใหญ่ก็จะแพงมากขึ้น ประกอบกับคนโสดยังไม่มีครอบครัว หรือเป็นคนต่างจังหวัดเข้ามาทำงานในเมืองใหญ่ต้องการเช่าที่อยู่อาศัยแบบนี้มากกว่าครับ

ตัวอย่างของ One Room Open Type ในตึก ยอลลิปจูแทก

เปิดประตูเข้ามาเห็นฟังก์ชั่นทุกอย่างครบในภาพเดียว เตียงนอน โต๊ะทำงาน ตู้เก็บของ ครัว ห้องน้ำ

ห้องน้ำเล็กๆ ครับ กะทัดรัดมาก และไม่มีแบ่งกั้นโซนเปียกโซนแห้งด้วยนะครับ เชื่อมต่อกับระเบียงจิ๋วๆ มีเครื่องซักผ้าให้ โอ้โห Oppa และ Onni เมืองเค้าอยู่กันแบบนี้จริงๆ ครับ

ที่มาของภาพ www.zigbang.com

2. One Room Separate Type

บ้านเราเรียกว่า 1 Bedroom หนึ่งห้องนอน ที่เกาหลีเรียกว่า One Room Separate Type หรือ 원룸(분리형) วันรุมพุนลีฮยอง

ตัวอย่างภาพห้องวันรูทบุนลีฮยอง จริง มีหลาย Layout ครับ แต่ภาพนี้เป็นห้องแนวลึกแล้วมีกั้นห้องนอน

มีโซนนั่งเล่นเล็กๆ มีผนังและประตูกั้นห้องนอนในสุด

3. One Room Duplex Type

ถ้าบ้านเราก็จะเรียกว่าห้อง Loft มีเพดานสูง แต่ที่เกาหลีจะเรียกว่า One Room Duplex Type (원룸(복층형 หรืออ่านว่า วันรุมบุ๊กชึงฮยอง) ที่เกาหลีมีห้องแนวนี้ค่อนข้างเยอะครับ เป็นที่นิยมมากทีเดียว เพราะสามารถทำพื้นที่เล็กๆ ให้เกิดประโยชน์ใช้สอยได้เพิ่มขึ้นอีก และจะดูโปร่งน่าอยู่กว่าห้อง One Room Open Type หรือแบบ Studio ธรรมดา คาดว่าเทรนด์การอยู่อาศัยแนวนี้จะค่อยๆ เริ่มเป็นที่นิยมของคนไทยรุ่นใหม่ครับ พัฒนาการวิธีการอยู่อาศัยแนวสูงบ้านเราก็คงตามๆ เกาหลีไปเรื่อยๆ แหละครับ เพราะบ้านเค้ามีความเข้มข้นในการอยู่อาศัยแนวสูงมากกว่าบ้านเราเยอะ บ้านเราจะพัฒนาที่อยู่แนวราบกันมากกว่า เพิ่งประมาณ 10 ปีที่ผ่านนี้เองที่คอนโดมิเนียมและการอยู่อาศัยแนวสูงเป็นที่นิยมของคนมากขึ้น (ด้วยสาเหตุเพราะเรื่องเงินๆ ทองๆ)

เปิดประตูห้องเข้ามาจะต้องได้เดินผ่านครัวและห้องน้ำก่อน หลังจากนั้นถึงจะเข้ามาในห้องนั่งเล่นแบบนี้ ชีวิตส่วนใหญ่ก็จะอยู่ที่ห้องนั่งเล่นเพดานสูงตรงนี้ครับ และจะมีบันไดเล็กๆ เชื่อมต่อไปถึงห้องนอนเตี้ยๆ ชั้นบน

พื้นที่ชั้นบน เพดานจะเตี้ยกว่าการอยู่อาศัยชั้นล่าง ต้องก้มๆ เดิน พื้นที่ตรงนี้หลักๆ เอาไว้นอนเฉยๆ ที่เกาหลีไม่ค่อยนิยมใช้เตียง แต่ใช้ฟูกนอนกับพื้นเลย ดังนั้นการนอนบนห้องที่เพดานต่ำๆ แบบนี้ไม่ค่อยมีปัญหาเท่าไหร่ และพื้นที่ข้างล่างห้องนอนนี้ จริงๆ แล้วก็คือครัว ทางเดินเข้าห้อง และห้องน้ำครับ เป็นการจัดพื้นที่ใช้สอยให้เกิดประโยชน์สูงสุด

ห้องน้ำครับ เนื่องจากพื้นที่มีมากขึ้นหน่อย เลยทำห้องน้ำแบบแยกโซนเปียกโซนแห้งได้

พัฒนาการในการอยู่อาศัยของคนเกาหลี จากบ้านดั้งเดิม เปลี่ยนเป็นมาอยู่อาพาถึแนวสูงมามากกว่า 30 ปีแล้ว ต่อไปจะพัฒนาไปเป็นอย่างไรเราต้องติดตามและนำจุดดีจุดด้อยมาประยุกต์ใช้กับที่อยู่อาศัยเมืองไทยครับ คราวหน้าจะพาไปรีวิวเจาะลึกภายในห้องอาพาถึที่เกาหลีใต้ว่าจะมีรายละเอียดยังไงบ้าง ครัวเค้าเป็นยังไง ที่นอนเป็นยังไง ตู้เสื้อผ้า ห้องน้ำ กระจกหน้าต่างเค้าเป็นยังไง เพื่อจะได้เปรียบเทียบกับคอนโดมิเนียมบ้านเราว่ายังพัฒนาไปได้อีกแค่ไหน รอติดตามที่ www.propholic.com ครับ