สิ่งที่คาดหวังว่าจะได้รับจากพื้นที่แนวแม่น้ำจูร่งในอนาคต

จากชื่อที่เรียกว่า ‘Sentosa Cove ในแถวชานเมือง’ คือสิ่งหนึ่ง

ถึงแม้ว่าพื้นที่แถวๆฝั่งตะวันออกของย่านจูร่งจะมีการได้รับการพัฒนาอย่างรวดเร็วในปีที่ผ่านมา ด้วยห้างสรพพสินค้า,ออฟฟิศ, โรงแรมและโรงพยาบาล แต่ก็เป็นเพียงแค่การเริ่มต้นเท่านั้น

Eugene Lim, ผู้บริหารของ ERA เชื่อว่าจะมีการพัฒนาเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นรถไฟความเร็วสูง KL-Singapore High Speed Rail Terminus สาย Jurong Region และ Cross Island MRT นอกจากนี้ การที่เป็นย่านธุรกิจอันดับที่ 2 ของสิงคโปร์ ที่นี่จึงจะกลายเป็นบ้านสำหรับโครงการธุรกิจที่มีคุณภาพสูงหลายโครงการ

Christine Li, ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยของ Cushman & Wakefield (C&W) ได้กล่าวเพิ่มเติมในขณะเดียวกันว่า ความสำเร็จในการกลายเป็นย่านธุรกิจอันดับที่ 2 ของย่านอ่าวจูร่ง จะเป็นการเปิดช่องทางให้กลุ่ม MNC และองค์กรท้องถิ่นต่างๆ ได้มีทางเลือกเพิ่มขึ้นในการใช้พื้นที่ดำเนินงาน นอกเหนือจากการใช้พื้นที่ในย่านธุรกิจที่แพงกว่า

คุณ Li ได้กล่าวว่า ย่านธุรกิจของสิงคโปร์ได้ถูกสร้างขึ้นอย่างเป็นธรรม ยกเว้น แถวมารีน่า เบย์ แต่ค่าครองชีพการพักอาศัยที่นั่น ก็แพงที่สุดเช่นกัน เมื่อเปรียบเทียบกับแถวอื่นๆในย่านธุรกิจ และพื้นที่แถวชานเมืองที่อยู่นอกเขตการปกครอง

“การให้พื้นที่สักแห่งที่มีขนาดใหญ่อย่างย่าน Bishan ที่จะมีการพัฒนาขึ้นในแถว Tengah ในทศวรรษต่อไปพร้อมๆกับการพัฒนาที่กำลังจะเกิดขึ้นในย่าน Jurong Innovation District, ใจกลางย่านจูร่ง จึงได้รับการคาดหวังว่าจะไม่ได้เป็นแค่จุดศูนย์กลางทางด้านเศรษฐกิจและการบริหารการทำงาน แต่ยังจะเป็นศูนย์กลางวัฒนธรรม, การพัฒนา, การศึกษา, สุขภาพและการพักผ่อนหย่อนใจด้วยการมอบสิทธิ์ให้แก่ผู้พักกอาศัยในการเข้าถึงความสะดวกต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นทางด้านการงาน, การศึกษาและการพักผ่อน ตั้งแต่ก้าวแรกจากประตูบ้าน” เธอกล่าวไว้

ในก้าวต่อไปคุณ Lim เชื่อว่า Jurong Lake District จะมีการพัฒนาจนกลายเป็นพื้นที่ปลายทางในการพักอาศัยของผู้คนได้มากกว่าปัจจุบัน ได้ภายใน 10-15 ปีข้างหน้าอย่างแน่นอน

“ต่อจากนี้ไป เราสามารถที่จะคาดหวังว่าในโอกาสด้านการจ้างแรงงานไปพร้อมๆกับงานที่จะมีมากขึ้นเรื่อยๆในปีต่อๆไป เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวจะมีความสำคัญมากขึ้น เราจึงสามารถที่จะคาดหวังได้ว่า ความต้องการในเรื่องที่พักอาศัยก็จะเพิ่มขึ้นด้วย และนี่จะเป็นตัวเพิ่มมูลค่าโดยรวมของ อสังหาริมทัพย์ในย่านจูร่งได้เป็นอย่างดี” เขากล่าว

แต่ในทางกลับกัน การสร้างอนาคตที่ดีสำหรับ Jurong Lake District นั้นคุณ Li จาก C&W ชี้ว่าความสำเร็จของเมืองที่ฉลาดก็คือความเป็นธรรมชาติ “พวกเราได้ทำการคำนวณไว้ว่าทางรัฐบาลจะสามารถเพิ่มเติมประสิทธิภาพทางด้านต่างๆ เช่น การคมนาคม, สมาร์ทแท็กซี่, ระบบการขนส่งที่ดีขึ้นเพื่อเป็นการเอื้ออำนวยให้กับคนที่ไม่ขับรถยนต์ส่วนตัว ตึกสำนักงานก็จะต้องก้าวต่อไปและปรับให้สภาพแวดล้อมเป็นไปในทิศทางที่คล้ายกับระบบ Campus ด้วยการให้ความช่วยเหลือในด้านต่างๆอย่างมีประสิทธิภาพ” เธอกล่าว

คุณ Li ได้กล่าวเพิ่มเติมอีกว่าความสำเร็จของสมาร์ทซิตี้จะสามารถดึงดูดบริษัทเทคโนโลยีที่ประสบความสำเร็จไปแล้วในระดับหนึ่ง และต้องการจะย้ายไปอยู่ในพื้นที่ ที่ถูกกว่าในการทำการวิจัยและพัฒนาต่อไปเรื่อยๆ

“เราสามารถมองเห็นหลายๆอย่าง เช่น ชุมชน Airbnb หรือสถาบันของ Facebook ที่เพิ่มขึ้นอย่างมากมาย สามารถเพิ่มความใกล้ชิดของชุมชนไปจนถึงระดับสถาบันอุดมศึกษา” เธอบันทึกไว้

นอกจากนั้น Li ได้มองเห็นโอกาสที่จะเพิ่มธรุกิจโรงแรมเข้าไป พร้อมกับศูนย์การประชุมที่สามารถรองรับนักท่องเที่ยวที่รอเปลี่ยนเครื่อง เมื่อเทอร์มินอลของ HSR มีพื้นที่ไม่เพียงพอ เธอกล่าวว่า Jurong Lake District ควรที่จะผสมผสานระหว่างแนวพื้นที่ และโลว์ไรส์คอนโดมิเนียม ที่มีองค์ประกอบต่างๆ และวิวแม่น้ำเป็นจุดขาย ทำให้เกิดราคาที่แพงขึ้นของ “Sentosa Cove ในแถวชานเมือง”

“ในระยะยาวนั้น ความหลากหลายของกิจกรรมทางธุรกิจและตัวเลือกด้านที่อยู่อาศัย จะสามารถหนุนความต้องการของตลาดที่อยู่อาศัยได้ดี” เธอกล่าว

ที่มา : http://sbr.com.sg/commercial-property/exclusive/what-expect-future-jurong-lake-district