จุดที่มีความโดดเด่นมากที่สุด ในเมืองนิวยอร์ค

เกริก บุณยโยธิน 21 September, 2017 at 11.35 am

ประกาศที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา


ไม่มีเส้นขอบฟ้าที่ไหนที่จะมีความโดดเด่นหรือสวยงามได้เท่ากับที่เมืองนิวยอร์ค ที่ชิคาโก้ อาจจะเป็นเมืองที่เป็นถิ่นกำเนืดของตึกระฟ้า และเมืองอื่นๆอย่างเช่น Seattle และ San Francisco ที่มีแลนด์มาร์คที่น่าจดจำเป็นของตัวเอง แต่ที่นิวยอร์คเป็นที่ที่มีตึกที่สำคัญของโลกอยู่หลายตึก – ตึก Empire State, ตึก Chrysler, ตึก Seagram – ที่สามารถพบได้ที่นี้ และยังเป็นเมืองที่มีตึกที่มีความสูงมากๆอยู่ในบริเวณเดียวกันอีกด้วย ความสวยงามและความสำคัญของตึกเหล่านี้ไม่สามารถลดน้อยลงได้

แต่ตึกที่เป็นแลนด์มาร์คของนิวยอร์คนั้นไม่ได้จำกัดอยู่ที่ความสูงของตึก: Grand Central Terminal และ the New York Public Library เป็นจุดสุดยอดของศิลปะ ความงามของ Beaux Arts ในขณะที่แลนด์มาร์คที่อยู่นอกเขตการเลือกตั้งอย่าง The Unisphere ใน Flushing Queens ได้แสดงนวัตกรรมทางสถาปัตยกรรมที่ไม่ได้จำกัดว่าจะมีแค่ใน Manhattan.

 

สำหรับโครงสร้างใหม่ๆในขณะเดียวกันอย่าง Santiago Calatrava’s Oculus ใน Lower Manhattan เป็นสถานที่ที่ไม่สามารถลบออกจากการเป็นองค์ประกอบของตัวเมืองได้ เนื่องจากพวกเขาได้ประสบความสำเร็จไปแล้วในเรื่องของสถานะตัวเอง

 

ต่อไปจะเป็นรายชื่อของตึกที่โดดเด่นที่สุดในนิวยอร์ค มันยากมากที่จะทำรายการแค่ 10 หรือ 15 จุดแลนด์มาร์ค: งั้นเอาแบบนี้ เราได้เลือกตึกจำนวน 35 ตึก ที่ใหญ่ที่สุดและมีความโดดเด่นทางสถาปัตยกรรมมากที่สุดของเมือง

 

1 Yankee Stadium

เหล่านักอนุรักษ์และแฟนฟุตบอลไม่ค่อยที่จะพอใจนักที่ Yankee Stadium เก่า, อัญมณีของปี 1923 ที่ถูกขนานนามว่า “บ้านที่ Ruth ได้สร้างขึ้นมา” จะถูกสับเปลี่ยนให้มีการใส่สนามบอลแบบใหม่เข้าไป แต่ตัวสเตเดี้ยมใหม่นี้ที่ได้ทำการเปิดใช้บริการในปี 2009 ก็มอบความเคารพให้กับสถานที่เก่าในขณะดียวกันก็มีการเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกใหม่ๆไม่ว่าจะเป็นเก้าอี้นั่งที่ใหญ่กว่าเดิม และทางเลือกด้านอาหารที่ดีกว่า และถ้าจะให้แฟร์สิ่งที่ทำให้ที่นี้โดดเด่นนั้นก็คือเหล่าทีมต่างๆที่มาเล่นทีนี้

 

พิพิธภัณฑ์ Solomon R. Guggenheim

หนึ่งในไม่กี่งานของ Frank Lloyd Wright ในนิวยอร์ค ที่ก็ยังเป็นหนึ่งในผลงานชิ้นเอกของตัวสถาปนิกเอง, ตึกคอนกรีตที่ได้แรงบรรดาลใจในการสร้างมาจากรูปร่างของก้นหอยเหมือนตึกหลายๆตึกของ Wright – ที่มีรูปแบบมาจากธรรมชาติและความเป็นออร์แกนิก ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เป็นที่รักอย่างกว้างขวางในช่วงพิธีเปิดปี 1959 แต่ก็กลายเป็นว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดและก็สามารถเดิมพันได้เลยว่าผู้ที่มาเยี่ยมชมส่วนมากนั้นต่างก็มาที่นี้เพราะตัวตึกนั้นเอง ไม่ใช่เพราะงานศิลปะที่อยู่ด้านในเลย

 

พิพิธภัณฑ์ศิลปะ The Metropolitan

Calvert Vaux สถาปนิกหลักของพิพิธภัณฑ์ได้ออกแบบตึกที่มีสไตล์แบบ High Victorian Gothic ให้กับพิพิธภัณฑ์ดังกล่าว แต่ประธานของที่นี้ยกย่องตึกนี้ว่าความผิดพลาดที่มีสไตล์ที่เชยและล้อมรอบไปด้วยโครงสร้างต่างๆ ที่จะมีการขยายตัวในอนาคต สถาปนิกอย่าง Richard Morris Hunt, Mckim Mead & White และ Roche – Dinkeloo ต่างก็ส่วนร่วมในการออกแบบโครงสร้างและช่วยให้ที่นี้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดของ

 

4 The Met Breuer

โครงสร้างคอนกรีตอันสง่างามแห่งนี้ได้เปิดให้บริการที่เปรียบสเมือนว่าเป็นบ้านหลังที่ 3 ของ Whirtney Museum ก่อนที่จะย้ายไปเป็นตึกล่าสุดที่เมือง Meatpacking มันถูกออกแบบโดยผู้ที่เกิดในฮังการีและถูกฝึกโดยสถาบันสถาปนิก Bauhaus, Marcel Breuer และวันนี้ก็ถูกยกย่องให้เป็นหนึ่งในตึกที่เป็นที่น่าสนใจที่สุดของ The upper east side แต่นั้นก็ไม่ใช่กรณีหลักเสมอไป: ในช่วงที่มีการเปิดตัวในปี 1966 โครงสร้างในสไตล์โมเดิร์นที่เป็นที่คุ้นเคยกับประวัติศาสตร์ทาวน์เฮ้าส์และอพาร์ตเม้นท์ได้ถูกนึกถึงในเรื่องความโหดร้ายและเศร้าหมอง

 

ศูนย์แสดงศิลปะ Lincoln Center

ผู้สร้าง Robert Moses-era, Lincoln Center เป็นตึกที่มีความน่าสังเกตมากกว่าตึกอื่นๆในเหล่าคอลเลคชั่นต่างๆของช่วงกลางทศวรรษ รวมไปถึงการออกแบบโดยนักออกแบบในตำนานอย่าง Eero Saarinen, Philip Johnson, Max Abramovitz, และ Hugh Hardy, ที่อยู่ภายใต้การดูแลของ Wallace ลานกว้างหลักของ Center และความโดดเด่นของลานน้ำพุที่กลายเป็นแลนด์มาร์คของเมืองนิวยอร์คได้อย่างลงตัว โครงการซ่อมแซมเพื่อที่จะพัฒนาให้กลายเป็นสถานที่เหนือชั้นขึ้นไปอีกและ Diller Scofidio + Renfro มีการปรับปรุงใหม่ในส่วนของพื้นที่รับรอง, สร้างสนามหญ้าและออกแบบโรงละครใหม่

 

6 Hearst Tower

แลนด์มาร์คพื้นฐานของตึกนี้ ที่สร้างขึ้นในปี 1928 โดยสถาปนิก Joseph Urban ที่ตั้งใจให้มีการสร้างตึกระฟ้าที่ตั้งอยู่ตรงนี้แต่ The Great Depression ได้ทำให้แผนการเหล่านี้หยุดชะงักไป แต่แล้วในช่วงต้นๆของปี 2000 ตึกกระจกสูง 46 ชั้นออกแบบโดย Norman Foster และมีการออกแบบด้วยรูปแบบที่แปลกตาได้แสดงตัวอย่างเป็นทางการในการเข้ามาอยู่ในกลุ่มตึกสกายไลน์ใน Midtown (มันเป็นตึกระฟ้าตึกแรกที่ถูกสร้างขึ้นหลังเหตุกาณ์ 9/11) ส่วนภายใน Lobby ก็มีการตกแต่งด้วยประติมากรรมบ่อน้ำพุที่สามารถพุ่งได้สูงมากเลยทีเดียว

 

7 The Plaza

ถึงแม้ว่าจะมีปัญหาในการเป็นเจ้าของและมีการโต้แย้งกันในเรื่องของคอนโด The Plaza ก็ยังคงเก็บรักษากลิ่นอายของความแตกต่างและความขามอยู่ ตึกในสไตล์ปราสาทแนว French Renaissance ที่ออกแบบโดย Henry Janeway Hardenbergh ได้เข้าไปโลดแล่นอยู่ในภาพยนตร์ต่างๆมากมายHome Alone 2: Lost in New York, The Way We Were, และ The Great Gatsby, ชื่อที่กล่าวมาเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้นและยังมีความสัมพันธ์อันยาวนานกับ Eloise The Palm Court ที่มีสไตล์บบ Neoclassic ด้วยผนังที่ทำจากหิน Caen และแนวรั้วจากหินอ่อน และห้องไม้โอ๊คสไตล์ German Renaissance Revival ก็เป็นหนึ่งในการตกแต่งที่แลนด์มาร์คของที่นี้เหมือนกัน

 

8 432 Park Avenue

ตึกสูงระฟ้าอย่าง Rafael Viñoly – ตึกที่พักอาศัยที่สูงที่สุดในเมืองในขณะนี้เป็นการออกแบบที่เรียบง่ายด้วยปนังคอนกรีตที่ปราศจากการตกแต่งสลับกับหน้าต่างสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ ตึกนี้เป็นที่ชื่นชอบของใครหลายคน, และถูกเกลียดจากหลายคน, แต่สิ่งหนึ่งที่ชัดเจนมากก็คือ: เกมส์ได้ถูกเปลี่ยนที่นี้กลายมาเป็นหนึ่งของอสังหาริมทรัพย์สุดหรูในนิวยอร์ค (เราสามารถมองเห็นข้อมูลที่ว่านักออกแบบของที่นี้ได้รับแรงบรรดาลใจมาจากถังขยะ ที่คาดว่ามีการก่อสร้างออกมาได้สง่างามมาก)

 

9 Radio City Music Hall

จอภาพขนาดใหญ่ของ Radio City ได้ทำการต้อนรับนักแสดงและแขกผู้เยี่ยมชมที่ชื่นชอบความสวยงามของโรงละครแบบสมัยเก่าในยุค 1932 และการตกแต่งภายในก็มีความสวยงามไม่แพ้ด้านนอก: ออกแบบโดย Donald Deskey ในทุกๆส่วนของโรงละครตั้งแต่บันไดหลักไปจนถึงห้องน้ำ จึงมีความสวยงามมากในแบบย้อนยุค

 

10 Lever House

ตึกสูงระฟ้าที่เป็นที่พูดถึงอย่างมากในปี 1952 ในนามของสำนักงานใหญ่ในอเมริกาของบริษัททำสบู่จากสหราชอาณาจักร Lever Brothers และได้เปลี่ยนแปลงไปพร้อมๆกับ Park Avenue บนเส้นทางสัญจรก่อนหน้านี้เป็นการครอบครองของตึกอพาร์ตเม้นท์แบบอิฐที่กำลังจะกลายเป็นเส้นทางหลักที่มีตึกออฟฟิศที่ทำจากกระจกแก้ว Lever House ได้รับการออกแบบโดย Skidmore, Owings & Merrill ในรูปแบบของตึกแก้วระฟ้าด้วยสนามและพื้นที่สาธารณะและเป็นตึกระฟ้าลำดับที่สองในนิวยอร์ค (หลังจากตึกUN)

 

11 30 Rockefeller Center

ตึก General Electric เมื่อก่อน (ซึ่งได้มีการเปลี่ยนชื่อจามเจ้าของใหม่ Comcast ในปี 2015) คือสมอหลักของ Rockefeller Center ใน Midtown. และต้องขอบคุณเสน่ห์ที่นับไม่ถ้วนของที่นี้ดาดฟ้าของ The Rock, สตูดิโอ NBC, ห้องสายรุ้งตึก The Art Deco กลายเป็นแลนด์มาร์คไปโดยปริยาย มันมีการเซ็ตไว้แล้วโดยช่างภาพที่โด่งดังของ NYC: Lunch Atop a Skyscraper ที่ถูกถ่ายไว้เมื่อปี 1932 ในขณะที่กำลังก่อสร้างตึก ที่ถูกถ่าย (หรืออาจจะเป็นแค่ฉาก) บนชั้นที่ 69 ของตึก

 

12 โบสถ์ St. Patrick’s

สถานที่ที่ถูกนับถือมากที่สุดในเรื่องของการมีสไตล์แบบ neo-Gothic ด้วยการตกแต่งที่มีความหรูหราเสาแหลม, หน้าต่างกระจกสี, – ทำให้มันมีความโดดเด่นท่ามกลางตึกระฟ้าต่างๆใน Midtown โปรเจคในการซ่อมแซมจำนวนมากที่เริ่มขึ้นในปี 2012 ได้คงความโดดเด่นของการตกแต่งโบสถ์นี้เอาไว้รวมไปถึงประตูที่ทำด้วยทองแดงทั้งหมดในชั้นใต้ดินและประติมากรรมส่วนมากที่มีในนี้

 

13 Seagram Building

ตึก Seagram เป็นตึกที่มีความโดดเด่นมากในแนวขอบฟ้าของเมืองนิวยอร์คและเป็นหนึ่งใสตึกที่น่าจดจำที่สุดของการสร้างของ Ludwig Mies van der Rohe บิดาของงานสถาปนิกสไตล์โมเดิร์นตึกกระจกทึบได้กำเนิดขึ้นในช่วงปี 1950 ในตอนที่ Phyllis Lambert ลูกสาวผู้มีจินตนาการของผู้ก่อตั้ง Seagram, Samuel Bronfman ได้มอบการออกแบบให้กับตึกและทางขึ้นเธอวางใจและได้รับการสนับสนุนจากิMies van der Rohe ในสไตล์การออกแบบแบบมินิมอลจากแก้วและทองแดง ตึก 38 ชั้น และสูงถึง 550 ฟุต ได้รับความทุ่มเทในการสร้างในปี 1959 และคาดว่าเป็นการสร้างแบบโครงสร้างในงานสถาปนิกสไตล์โมเดิร์นนี้

 

14 New York Public Library

แลนด์มาร์คหลักในแบรนด์ New York Public Library, ออกแบบโดย Carrère และ Hastings ที่ใช้เวลามากกว่าทศวรรษในการออกแบบและสร้าง เปิดตัวในปี 1911 รูปปั้นสิงโต 2ชิ้นที่ทำจากอิฐ ที่เป็นที่รู้จักในนามของ Patience and Fortitude, flank the Beaux Arts ที่เป็นโครงสร้างหลักไปพร้อมๆกับ Fifth Avenue; ภายใน Rose Reading Room อาจจะเป็นห้องที่มีคนชื่นชอบมากที่สุดในนิวยอร์ค (มันคือแลนด์มาร์คที่ใหม่ที่สุดของนิวยอร์ค) ด้วยความสูงของตัวห้องที่มากถึง 51 ฟุต ที่มีความสลับซับซ้อนของสถาปัตยกรรมและศิลปะบนผนัง

 

15 American Radiator Building

ตึกระฟ้าแลนมาร์คแห่งนี้ได้รับการออกแบบโดยสถาปนิก John Howells และ Raymond Hood ในปี 1924 ให้กับบริษัท American Radiator สถาปนิกได้รับแรงบันดาลใจมาจากสไตล์ Gothic และ Art Deco ด้วยการใช้อิฐสีดำเพื่อเป็นสัญลัษณ์ของถ่านหินเพิ่มเติมด้วยความอลังการของอิฐโทนสีทองเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของไฟ ในส่วนของทางเข้าก็ได้รับการตกแต่งด้วยหินอ่อนและกระจกทึบ ในปี 1998 มีการขายตึกดังกล่าวในราคา $150 ล้าน และได้ถูกเปลี่ยนแปลงในอีก 3 ปีต่อมา ให้กลายเป็นโรงแรมในชื่อ Bryant Park และยังคงเป็นอยู่ในปัจจุบัน

 

16 Chrysler Building

ถ้าตึก Empire State เป็นตึกระฟ้าที่มีชื่อเสียงมากที่สุดใน New York งั้นตึก Chrysler ก็อาจจะเป็นตึกสูงที่มีความน่ารักที่สุดในเมืองเช่นกัน สรุปได้คร่าวๆว่าที่นี่คือตึกที่สูงที่สุดในโลก (The ESB ได้แย่งมงกุฎไปแล้วในวันที่พวกเขาเปิดตัว), แต่สิ่งที่สวยงามของสถาปัตยกรรมสไตล์ Art Deco คือสิ่งที่ทำให้มันมีความแตกต่างออกไป การออกแบบของ William Van Alen ทำให้ตึก Chrysler เป็นที่รู้จักในเรื่องของความสง่างาม มงกุฎของระเบียงที่เผชิญหน้ากับแสงอาทิตย์ในแต่ละทิศ รูปปั้นนกอินทรีย์ที่ตั้งเฝ้าประตูอยู่บนชั้น 61 และรูปปั้นหมวกอัศวินบนชั้นที่ 31 ฉะนั้นต้องมอบความเคารพให้กับบริษัทต่างๆที่ช่วยกันสร้างตึกนี้ขึ้นมา

 

17 Grand Central Terminal

ตึกเก่าสไตล์ Beaux Arts อันสวยงามแห่งนี้เป็นที่ที่ซ่อนสมบัติไว้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นแกลลอรี่ ที่ใกล้กับ Oyster Bar; อพาร์ทเม้นต์ Campbell, บาร์ค็อกเทลที่ถูกซ่อนไว้ภายในสำนักงานเก่า อุโมงค์ลับ ที่สามารถเชื่อมต่อกับสถานีรถไฟไปยังโรงแรม Waldorf Astoria Hotel และเรื่องเล่าเกี่ยวกับ “M42” ซุ้มที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์อิเลคทรอนิกส์มากมาย แต่ส่วนมากจะไม่ค่อยมีใครู้ แต่ถึงแม้ว่าคุณจะไม่ทราบถึงความลับของที่นี่ คุณก็ไม่ได้พลาดอะไรอยู่แล้ว เทอร์มินอลหลักของที่นี่คงจะเรียกได้ว่าเป็นสถานีรถไฟที่น่ารักที่สุดในประเทศนี้ก็ว่าได้  (และสำหรับเมืองนี้เป็นที่แน่นอน)

 

18 United Nations Headquarters

โรงฆ่าสัตว์เก่าในสมัยก่อน พื้นที่หลายเอเคอร์ที่กลายเป็นที่ทำการหลักของ สหประชาชาติ ที่ซื้อมาจาก William Zeckendorf Sr. ในปี 1940 คอมเพล็กซ์ที่นี่ประกอบไปด้วยตึกหลักๆต่างๆหลายตึก ในจำนวนนั้นก็คือตึกสำนักเลขาธิการจำนวน 39 ชั้น และตึกศูนย์การประชุมแห่งชาติอังทรงเกียรติ ที่ถูกก่อตั้งขึ้นโดย Oscar Niemeyer และ LeCorbusier

 

19 Empire State Building

ถึงแม้ว่าจะมีตึกที่สูงกว่าหรือมีนวัตกรรมที่เหนือกว่า แต่ตึกสไตล์ Art Deco อันสวยงามแห่งนี้อาจจะเป็นตึกที่เป็นที่รักที่สุดในนิวยอร์ก มันเคยเป็นตึกระฟ้าที่สูงที่สุดในโลกเมื่อตอนที่าสร้างเสร็จในปี 1931 (สูงกว่าตึก Chryster ที่าสร้างเสร็จในปี 1930) และก็เป็นเช่นนั้นมาเรื่อยๆจนกระทั่งตึก World Trade Center แซงหน้าไปในปี 1970 การเป็นตึกระฟ้าของที่นี่เป็นอะไรที่ไม่สามารถลบออกไปได้ แต่มันก็เป็นตึกที่มีความโดดเด่นทางวัฒนธรรมมากเช่นกัน ด้วยการที่เข้าไปอยู่ในภาพยนต์หลายต่อหลายเรื่อง รายการทีวีและอื่นๆที่ต่างกันไปตามลำดับอย่าง King Kong, Nora Ephron´s Sleepless in Seattle และ Doctor Who

 

20 520 W 28th St

จากบรรดาตึกสูงๆที่มีอยู่รอบๆบริเวณ The High Rise ที่เป็นผลมาจากกระแสการตื่นตัวในเรื่องอสังหาริมทรัพย์ อย่างที่นี่ออกแบบในภายหลังโดย Zaha Hadid- ที่มีคุณสมบัติครบถ้วนที่จะเป็นสถานที่ที่โดดเด่นที่สุด ไอเดียมากมายในการออกแบบของ Hadid เป็นอะไรที่ไม่เหมือนใครในบริเวณสวนสาธารณะที่รั้วสูงขึ้นเป็นอะไรที่ไม่เหมือนใครใน New York ในขณะนี้

 

21 Flatiron Building

ในช่วงที่กลายเป็นจุดสูงสุดของที่นี่ในปี 1902  Flatiron Building เป็นตึกหนึ่งที่มีโครงสร้างที่สูงที่สุดใน New ถึงแม้ว่ามันจะขาดลักษณะพิเศษ แต่รูปร่างสามเหลี่ยมของตึกนี้ช่วยให้ที่นี่ยังคงเป็นหนึ่งในตึกที่เป็นที่รู้จักในคนหมู่มาก ตึก Flatiron มีชื่อเดิมว่า George A. Fuller ผู้ก่อตั้งบริษัท The Fuller Company และผู้เป็นบิดาของตึกระฟ้าโครงสร้างที่มีความคล้ายเสาปูนที่มีฐานเป็นหินปูนแบบกรีก เคลือบด้วยดินเผา และที่สำคัญได้รับการออกแบบโดยสถาปนิกของ Chicago อย่าง Daniel Burnham.

 

22 Whitney Museum of American Art

การออกแบบของ Renzo Piano สำหรับตึก Whitney เป็นตึกใหม่ในบริเวณ High Line ไม่ได้เป็นที่ชื่นชอบมากนักในตอนเปิดตัวครั้งแรกในปี 2015 Justin Davidson จาก New York ได้ทำการเปรียบเทียบโครงสร้างกับ โปรเจคความผิดพลาดจากอิเกีย แต่นั้นก็ไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรต่อพื้นที่ที่มีความความเป็นวัฒนธรรมของเมือง และไม่เหมือนสถาบันอื่นๆเพราะที่นี่มีความเข้ากันกับสภาพแวดล้อม และมีความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในบริเวณนั้นด้วย และโครงสร้างของ The Piano ได้เปิดให้บริการตามจุดประสงค์ของที่นี่ ในขณะนี้ The Whitney รองรับผู้เยี่ยมชมได้มากกว่าที่เคย

 

23 The Cooper Union

ตึกที่เป็นรากฐานของ The Cooper แห่งนี้คือประวัติศาสตร์โดยไม่ต้องสงสัย การสร้างระหว่างปี 1853-1859 ภายใต้การออกแบบของกลุ่มการทำงานภายใต้ชื่อ Peter Cooper ด้วยตึกสไตล์อิตาเลี่ยนแห่งนี้เป็นตึกที่เก่าแก่ที่สุดเท่าที่มีอยุ่ในอเมริกาที่มีการใช้คานเหล็กในการขึ้นโครง Cooper ได้ทำการสร้างห้องสำหรับเพลาลิฟท์ก่อนที่จะทำการสร้าง ด้วยความเชื่อที่ว่าเทคโนโลยีจะเข้ามามีบทบาทในอีกไม่ช้า ส่วนที่เป็น The Great Hall ของตึกนั้น ได้ทำการรองรับนักพูดมากมายรวมไปถึง Mark Twain และประธานาธิบดี Lincoln, Grant, Cleveland, Taft, Theodore Roosevelt, Wilson, Clinton, และ Obama.

 

24 Spring Street Salt Shed

แผนกของ Sanitation’s Spring Street Salt Shed ที่มีการเปิดตัวในช่วงต้นปี 2016 ที่ได้นำเสนอผลงานที่น่าตื่นเต้นด้วยการใช้แบบฟอร์มและฟังก์ชั่นต่างๆ โดยการร่วมมือของ Dattner Architects และสถาปัตยกรรมของ WXY + การออกแบบผังเมืองโครงสร้างคอนกรีต (เห็นมั้ย มันสามารถนำมาใช้ในทางที่ไม่เลวเลย) มีลักษณะค้ลายกับเกล็ดเกลือ จุดประสงค์ของอาคารและข้ออ้างในการสร้างสรรค์บางอย่างที่มีเอกลักษณ์และสะดุดตา มากกว่าอะไรที่นิ่มนวลและน่าเบื่อ

 

25 56 Leonard St

แม้จะถูกเรียกว่าน่าสงสัยในงานพิมพ์ฉบับที่ 5 ของ The AIA Guide to New York Cityที่เผยแพร่ออกมาก่อนที่ตึกจะสร้างเสร็จ ตึกทรงกล่องที่สูงตระหง่านและกายมาเป็นส่วนหนึ่งของ New York’s skyline อย่างแท้จริง คอนโด 60 ชั้น ที่ออกแบบโดย Herzog&de Neuron ได้รับความโด่งดังจากปรากฎการณ์ที่คล้ายคลึงกับ Jenga และเป็นที่ต้องการสำหรับผู้ซื้อที่พร้อมที่จะจ่ายในราคาสูง สำหรับคอนโดในเครือเดียวกันนับตั้งแต่ได้มีการเปิดตัวสู่ตลาดในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2013

 

26 One World Trade Center

One WTC คือตึกที่ถูกเพิ่มเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของสกายไลน์ แต่เพราะขนาดของมัน (และที่เห็นได้อย่างชัดเจน คือในเรื่องของความสำคัญทางประวัติศาสตร์) ที่เป็นการเพิ่มจุดเด่นให้กับที่นี่ แม้ว่าจะมีการผ่านช่วงเวลาที่ถือว่าหินสุดๆในการสร้าง ทั้งในการเลือกเฟ้นนักออกแบบต่างๆให้กับตึกนี้ (ผู้ชนะคือ Skidmore, Owings & Merrill) และอีกมากมายที่เข้ามาเกี่ยวข้องกันในภายหลัง ตึกนี้ได้ต้อนรับผู้อยู่อาศัยรายแรกในปี 2014 นั่นคือ 13 ปี หลังจากเหตุการณ์โศกนาฎกรรม Twin Towers ด้วยความสูงที่ 1,776 ฟีต จึงทำให้ที่นี่กลายเป็นตึกที่สูงที่สุดในเมือง

 

27 The David N. Dinkins Manhattan Municipal Building

The AIA Guide to New York City ได้ให้ฉายากับตึกนี้ว่าสถาปัตยกรรมที่อ่อนโยนและเราเป็นใครที่จะไม่เห็นด้วย?” ตึก The Municipal (ที่ตอนนี้ตั้งชื่อตามผู้ก่อตั้งหลักอย่าง David Dinkins) เปิดตัวในปี 1914 และมีดครงสร้างที่สูงถึง 40 ชั้น กลายเป็นจุดที่น่าจดจำ รายละเอียดต่างๆของที่นี่ กระเบื้องจาก Gusatavino ตรงทางเข้าสาถนีรถไฟฟ้าใต้ดิน (จุดเปลี่ยนสายแห่งแรกี่ถูกสร้างขึ้นเพื่อเชื่อมกับตึก NYC) ความสง่างาม รูปทรงหายากของโดม รูปปั้นทองแดง Civic Fame ที่ได้แรงบันดาลใจจากผู้หญิงที่มีความอื้อฉาวมากที่สุดในตอนนี้ บนชั้นที่สูงที่สุด ที่ผลักดันให้ที่นี่เป็นอาณาเขตที่มีความโดดเด่น

 

28 Woolworth Building

ตึกระฟ้าที่มียอกที่ทำจากทองแดงของ Cass Gilbert ที่ครั้งหนึ่งได้รับการขนานนามว่าเป็นโบสถ์ใหญ่ในเชิงพาณิชย์ด้วยการออกแบบสไตล์ neo-Gothic และเจ้าของ ของมันเป็นกูรูด้านการขายปลีก F. W. Woolworth ความสง่างามของตึกที่กำลังจะมีการปรับเปลี่ยนครั้งใหญ่ บนชั้นบนสุดให้กลายเป็นคอนโดสไตล์ Luxury และขอบคุณอย่างยิ่ง เพราะมันจะไม่การไปรบกวน Lobby อันหรูหรา ที่เป็นส่วนหนึ่งของแผนกต้อนรับสาธารณะที่ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึงและเยี่ยมชมการตกแต่งภายในนี้ได้

 

29 Oculus

ใช่! มันแพงมาก : ใช่ มันเป็นห้างสรรพสินค้าที่ค่อนข้างจะถูกทิ้งร้างไปแล้ว แต่ Santiago Calatrava เป็นผู้ที่มอบมงกุฎให้กับ The World Trade Center Transportation Hub 1 ปี หลังจากเปิดใช้บริการ มีความโดดเด่นใน Lower Manhattan มันกลายเป็นสถานที่ที่ชาวนิวยอร์ก (และผู้ก่อการร้ายที่ได้รับอภัยโทษแล้ว) ใช้เป็นสถานที่พบปะสังสรรค์หรือติดต่องาน หรือเพื่อฆ่าเวลาในขณะที่รอเวลานัด และจากความผิดพลาดทั้งหมด มันจึงเป็นเรื่องยากที่จะไม่รู้สึกถึงความกลัว ในความคล้ายคลึงกับโบสถ์ สถายที่ที่เต็มไปด้วยแสงสว่าง

 

30 Trinity Church

ด้วยโลเคชั่นที่อยู่ใกล้กับสถานี  Wall Street, โบสถ์ Episcopal แห่งนี้มีการระบุเวลาย้อนหลังไปถึงช่วงสงครามกลางเมือง และรวมไปถึงป่าช้าที่ Alexander Hamilton ถูกฝังไว้ โครงสร้างแบบ The Gothic Revival โบสถ์แห่งที่ 3 ที่ถูกสร้างขึ้นมา ได้รับการออกแบบโดย Richard Upjohn และส่วนยอดแหลมสูงสุดของตึกอยู่ที่ 280 ฟุต จึงเป็นจุดที่มีความสูงมากที่สุดในเมืองก่อนที่จะทำการสร้างเสร็จในปี 1846 โบสถ์แห่งนี้มีความโดดเด่นของส่วนหน้าตึก ประตูทองแดงหรูหราและหน้าต่างที่ทำด้วยกระจกสี

 

31 Brooklyn Bridge

โอเค! นี่มันไม่ใช่ตึก แต่สะพาน Brooklyn เป็นสัญลักษณ์หนึ่ง ที่ผู้คนรู้จักมากที่สุดในนิวยอร์ค มากจนกระทั่งเราสามารถเขียนคำว่า East River ลงบนลายเสื้อ, โปสเตอร์ และของที่ระลึกอื่นๆ ระยะทางที่ยาวมากกว่า 1 ไมล์ กับโครงสร้างในรูปแบบการแขวนที่ได้รับการบูรณาการในตอนที่สร้างเสร็จในปี 1880 และด้วยความสวยงามของท่าเรือที่ทำขึ้นจากหิน มีซุ้มประตูที่สง่างามในสไตล์ Gothic

 

32 New York State Pavilion

ในช่วงที่มีการจัดงาน  World’s Fair ในปี 1964 ภายใต้ชื่อที่มีคนรู้จัก Flushing Meadows-Corona Park สถานที่ที่เคยเป็นบึงขนาดใหญ่ที่ถูกขนานนามว่า Queens และเป็นที่ทิ้งขยะขนาดใหญ่ที่ถูกเปลี่ยนแปลงภายหลังให้เป็นสวนสาธารณะเพื่อให้เป็นพื้นที่จัดแสดงงานต่างๆ ในปี 1939 สำหรับงานแสดงมหนกรรมในปี 1964 สถานที่แห่งนี้ได้ถูกดัดแปลงอีกครั้งให้เป็นสถานที่จัดแสดงนิทรรศการสถาปัตยกรรมและเทคโนโลยีของอเมริกันในช่วงกลางศตวรรษที่ 20 ที่ได้รับอิทธิพลจากสไตล์อนาคตของวัฒนธรรมรถยนต์, เครื่องบินเจ็ท, ยุคอวกาศ และยุคสมัยของการใช้อะตอม ในขณะที่หอแสดงสินค้าส่วนมากได้ถูกรื้อถอนไปแล้ว ส่วนหุ่นสแตนเลสที่มีความสูงเทียบเท่ากับตึก 12 ชั้น ภายใต้ชื่อ Unisphere ยังอยู่เช่นเดียวกับหอแสดงหลักของนิวยอร์ค (ที่ในขณะนี้ปิดทำการ แม้ว่าจะมีกลุ่มคนที่ต้องการที่จะให้มีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องดังกล่าว)

 

33 TWA Flight Center

The TWA Flight Center ได้รับการออกแบบโดย Eero Saarinen และสร้างเสร็จในปี 1962 หนึ่งปีหลังจากที่ Saarinen เสียชีวิต ตึกดังกล่าวได้ให้ความรู้สึกถึงประสิทธิภาพในระดับสูงของอาคารที่หมายถึงสัญลักษณ์ของนก ด้วยรูปลักษณ์ที่คล้ายกับการบินถลาของนก อาคารดังกล่าวถูกปิดลงในปี 2002 แต่จะเปิดใช้งานอีกครั้งหลังจากปรับปรุงใหม่และจะเปลี่ยนเป็นโรงแรมที่มีจำนวนมากถึง 505 ห้อง

 

34 Williamsburgh Savings Bank Building

ในปลายศตวรรษ โครงสร้างตึกหินปูนแถวๆ Brooklyn ตึกแห่งนี้เป็นตึกที่สูงที่สุดในเมือง ในขณะที่มันไม่ได้มีความแตกต่างอะไร (ที่พักอาศัยแถวดาวน์ทาวน์ Brooklyn ที่เพิ่มมากขึ้น ได้ทำการครอบครองตำแหน่งความโดดเด่นและแตกต่างไปแล้ว) แต่ก็ยังคงเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คที่ใหญ่ที่สุดในเมือง สิ่งที่สวยงามมากก็คือการตกแต่ง Lobby ที่สง่างามของตึกที่ใช้เป็นพื้นที่ในการจัดงานอีเว้นท์ต่างๆ  (The Brooklyn Flea ก็มาเล่นที่นี่บ่อยๆ) ความสูงของเพดาน และห้องเก็บเงินของธนาคาร บางครั้งก็มีการพูดเป็นเรื่องตลกเนื่องจากมันมีความคล้ายอวัยวะเพศชาย

 

35 Statue of Liberty National Monument

The Statue of Liberty คือรูปปั้นที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักมากที่สุดของนิวยอร์ค และเราจะต้องขอบคุณชาวฝรั่งเศสท่านหนึ่งสำหรับเรื่องนี้ Frédéric Auguste Bartholdi ที่ทำการออกแบบรูปปั้นเลดี้ที่สูงถึง 151 ฟีต ในขณะที่ Gustave Eiffel เป็นผู้สร้าง (ชาวอเมริกัน Richard Morris เป็นผู้สร้างฐาน) ได้มีการส่งมอบในวันที่ 28 เดือนตุลาคม ปี 1886 รูปปั้นทำจากทองแดง รูปปั้นดังกล่าวกลายเป็นที่รู้จักในเรื่องของการที่มีคราบสีฟ้าเขียวเกิดขึ้นหลังการสร้างเสร็จถึง 20ปี และในตอนนั้นมันก็ถูกทาสีทับไปหมดแล้ว หลังจากเหตุหารณ์ 9/11 รูปปั้นเลดี้ก็ถูกปิดไปจนถึงปี 2009 ในปีนั้นเองก็มีผู้เข้ามาเยี่ยมชมมากถึง 3.2 ล้านคน

 

ที่มา : https://ny.curbed.com/maps/new-york-architecture-empire-state-building-statue-of-liberty

เกริก บุณยโยธิน

เกริก บุณยโยธิน

ผู้ก่อตั้งเวปไซต์แบ่งปันความรู้ด้านการตลาด และการสร้างแบรนด์ในวงการอสังหาฯ พร็อพฮอลิค ดอทคอม..หลังจากที่ใช้เวลามากกว่า 10 ปี ในการวนเวียน เข้าๆออกๆ ในสายงานด้านการตลาด และวางแผนกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ ของบริษัทอสังหาฯ และเอเยนซีโฆษณาชั้นนำหลายแห่ง (โดยที่ไม่รู้ว่าทำไมต้องจับสลากเจอลูกค้าสายอสังหาฯทุกที)...จนถูกครอบงำโดยจิตใต้สำนึก ให้ถีบตัวเองออกจากกรอบการทำงานแบบเดิมๆ เพื่อออกมาจุดประกายความคิดที่ถูกต้อง และนำเสนอมุมมองใหม่ๆ ให้กับกลุ่มคนที่สนใจในธุรกิจอสังหาฯ

เว็บไซต์

ศุภาลัย พรีเมียร์ สามเสน-ราชวัตร

โซลเลซ พหลฯ-ประดิพัทธ์

นิว เวิร์ส กรุงเทพกรีฑา

ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมาต้องบอกว่าย่านกรุงเทพกรีฑาตัดใหม...

28 February, 2024

นิว ซี-สแควร์ สวนหลวง สเตชั่น

ซึ่งวันนี้เราจะพาคุณผู้อ่านมาพบกับโครงการคอนโดพร้อมอ...

30 January, 2024

ริธึ่ม เจริญนคร ไอคอนิค

วันนี้จะมาเล่าเรื่องเกี่ยวกับคอนโดมิเนียมสุดฮอตชื่อโ...

29 January, 2024

วิสซ์ดอม คราฟท์ สามย่าน

Whizdom Craftz Samyan คือโครงการที่มอบ 5 องค์ประกอบพ...

4 December, 2023

สอบถามโครงการ

ได้รับข้อมูลเรียบร้อยแล้ว
ขอบคุณอย่างยิ่งที่สนใจครับ
จะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับไปนะครับ

ขออภัย
ไม่สามารถส่งข้อมูลได้
กรุณาลองใหม่อีกครั้ง