เมื่อวานนี้ทาง Noble Development ได้ launch TVC Corporate แคมเปญล่าสุดออกมาครับ ซึ่งผมได้มีโอกาสเห็น version ตัวเต็มๆ  จากโฆษณาทางช่อง digital TV ช่องหนึ่ง ซึ่งเพียงแค่ห้าวินาทีแรกที่ผมเห็น ผมก็รู้สึกทันทีเลยครับว่าแบรนด์นี้มี DNA ของความเป็น Explorer หรือ “ผู้ค้นหา” อยู่เต็ม 100% ตั้งแต่เกิดจริงๆครับ…และยิ่งฉากจบพอมี SUPER ขึ้นมาเฉลยว่าเป็นแบรนด์ Noble Development ที่ตลอดเวลาที่ผ่านมา ก็มักจะสื่อสารบทบาทของแบรนด์ตัวเองในแนว “I’m different” อยู่ทุกครั้งไป ก็ยิ่งช่วยตอกย้ำให้ผมเชื่อว่า Noble Development จะยังคงรักษาคอนเซปท์ความเป็นตัวของตัวเองแบบนี้ ตลอดไปอีกนานเท่านานครับ ซึ่งผมว่ามีเพียงแค่ไม่กี่แบรนด์ในโลกนี้ครับที่เห็นความสำคัญของการคงไว้ซึ่ง DNA เผ่าพันธุ์ของตัวเอง ไม่ว่าเวลาหรือสถานการณ์จะเปลี่ยนไปแค่ไหนก็ตาม

ที่มาของงานโฆษณาชิ้นนี้ก็คงจะมาจากการฉลองครบรอบ 25 ปี ของ Noble ล่ะครับ โดย Noble เลือกที่จะนำ Brand Idea ของตัวเองออกมาสื่อสารแทนที่จะไปใช้ภาพความสำเร็จตั้งแต่อดีต – ปัจจุบันในแบบที่หลายๆแบรนด์มักเลือกที่จะทำกัน บทสรุปสั้นๆของ Brand Idea ก็ตามด้านล่างล่ะครับ

“โนเบิล แตกต่างตั้งแต่เกิด

วันนี้ 25 ปี โนเบิลยังคงเชื่อในความแตกต่าง
และมีมุมมองในการออกแบบที่อยู่อาศัย การใช้ชีวิตทุกๆ วันไม่เหมือนใคร

อย่ากลัวที่จะแตกต่าง ขอจงเชื่อในตัวตนของคุณ”

…จากประโยคแค่ 4 ประโยคข้างบนผมตีความหมายในเชิง Branding Platform ดังนี้ครับ Brand Meaning คือความแตกต่าง/ Brand Relevance คือเหนือความคาดหมายของผู้อยู่อาศัย และ Brand Differentiation คือการออกแบบที่ไม่เหมือนใคร…

การเล่าเรื่องของโฆษณาชิ้นนี้จะเป็นการฉายภาพให้เห็นถึง lifestyle การใช้ชีวิตของคนๆหนึ่ง ตั้งแต่เด็กยันอายุ 25 ปี (ผมเดาเอานะ เพราะว่าครบรอบ 25 ปี) ที่จะว่าไปแล้วแลดูน่าสงสารมากๆเลยครับ ตัวเอกของเรื่องถูกสร้างให้คนดูเห็นว่าเป็นคนที่แตกต่างจากคนอื่น ในรูปลักษณ์ภายนอกและการแสดงออกทางด้านความคิด (ได้รับ inspiration มากจากผลงานแนว Abstract และ Cubism ของ Pablo Ruiz Picasso จิตกรเอกของโลกแห่งศตวรรษที่ 20)

Credit ภาพจาก: http://www.chasinglobsters.com/blog/2014/11/11/a-pinch-from-picasso

ซึ่งความแตกต่างนี้เองที่สร้างความกดดันในการเข้าสังคมอย่างมหาศาลของเด็กน้อยคนนี้ ที่แม้กระทั่งครูสอนศิลปะก็ยังมองว่าผลงานรูปนกในแบบ Cubism เน้นมันแปลกและไร้สาระสิ้นดี จนเมื่อโตขึ้นเด็กคนนี้ก็ตัดสินใจที่จะละทิ้งความเป็นตัวของตัวเอง เพียงแค่ต้องการที่จะร่วม”เป็นหนึ่ง” เดียวกับสังคมธรรมดาสามัญ แต่ในที่สุดหลังจากที่ได้พยายามแล้ว ก็ไม่อาจที่จะสลัดภาพความเป็นตัวของตัวเอง “I’m Different” ทิ้งไปได้ เด็กหนุ่มคนนี้ก็เลยเลือกที่จะไปให้สุด ไม่หยุดนิ่งที่จะออกไปหาโลกใบใหม่ที่ดีกว่า จนวันหนึ่งเค้าก็ค้นพบโลกใหม่ที่มีแต่คนที่ชื่นชมในผลงานแนว Cubism ของเค้า (นอกเรื่องนิดนึง….เมื่ออาทิตย์ที่แล้วภาพวาดของ Picasso ที่มีชื่อว่า Women of Algiers (Version O) ได้ถูกประมูลไปในราคาที่เป็นสถิติสูงเป็นอันดับ 3 ของโลกคือ 179.4 ล้าน USD นะครับ) 

Credit ภาพจาก: http://www.theguardian.com/news/datablog/2015/feb/10/the-10-most-expensive-paintings-ever-sold

เกร็ดเล็กน้อยเกี่ยวกับบทบาทของแบรนด์ในประเภท Explorer (ผู้ค้นหา)

แบรนด์โนเบิลฯ เป็นแบรนด์อสังหาแบรนด์เดียวเท่านั้นในตลาด ที่ใช้บทบาท “ผู้ค้นหา” ถึง 100% ไม่มีส่วนผสมของอะไรอื่นเลย ในบริบทของ “ผู้ค้นหา” นี้ไม่ได้หมายความว่าจะต้องเป็นภาพแบบ Ford Escape หรือ Land Rover ที่จะเน้นในมุมมองของนักผจญภัย หรือนักสำรวจ…ในทางกลับกันโนเบิลฯจะเล่นในบทบาทของคนรักอิสรภาพที่มุ่งมั่นที่จะค้นพบตัวเอง (Self Discovery) ไม่หยุดนิ่งที่จะออกไปหาอะไรใหม่ๆที่ดีกว่า เพื่อเสริมสร้างประสบการณ์ใหม่ๆมาปลอบประโลมชีวิตและจิตใจ เพราะ “ผู้ค้นหา” ในที่นี้มักจะทนไม่ได้ที่จะต้องถูกจำกัดอยู่ในกรอบของสังคมอันเคร่งครัด… ยิ่งสร้างกรอบ ยิ่งหลบหนี ยิ่งหลบหนี ก็จะยิ่งค้นพบ…คำว่า “Being” หรือ “ความมีตัวตนที่ชัดเจน” มักจะถูกนำมาใช้เป็น keyword หลักสำหรับ “ผู้ค้นหา” ครับ

ดังจะเห็นได้จากโฆษณาเหล่านี้ของโนเบิลฯครับ

Credit จาก https://www.youtube.com/channel/UCBw98QzvvbIz-3XVp8LlTnw

Noble Recole

Noble Cube

ผมเคยดูภาพยนตร์ของญี่ปุ่นที่มีชื่อว่า 20th Century Boy ครับ ซึ่งเนื้อเรื่องยาวเหยียดถึง 3 ภาค ในหนังกล่าวถึงชีวิตของกลุ่มเด็กนักเรียนประถมกลุ่มหนึ่งในยุค 1970s ที่ดันมีคนนึงในนั้นคิดการณ์ใหญ่ที่จะยึดครองโลก ตัวร้ายของเรื่องที่ทุกคนเรียกกันว่า “เพื่อน” นั้นผมคิดว่าก็มีบทบาทของความเป็น “ผู้ค้นหา” อยู่พอสมควรครับ แต่จะเป็นผู้ค้นหาในแบบที่มีความเป็นกบฏ (Rebel) อันเนื่องมาจากการถูกกีดกันทางสังคมมากจนเกินไป ซึ่งเพื่อนก็เลือกที่จะหาทางออกโดยการทำลายโลกปัจจุบัน และสร้างโลกใหม่ขึ้นมาเองครับ…ไปหาดูกันได้นะครับภาคละแค่ 2 ชั่วโมงครึ่งเอง ฮา…ไปละครับ ขอจงเชื่อในตัวตนของคุณ แล้วทุกอย่างก็จะดีเองครับ…